ไฟนอลแฟนตาซี XV
ไฟนอลแฟนตาซี XV | |
---|---|
โลโก้ของ FFXV ออกแบบโดยโยชิตากะ อามาโนะ | |
ผู้พัฒนา | สแควร์เอนิกซ์ หน่วยธุรกิจย่อยที่ 2 ลูมินัส โปรดักชัน |
ผู้จัดจำหน่าย | สแควร์เอนิกซ์ |
กำกับ | ฮาจิเมะ ทาบาตะ[1][2] |
อำนวยการผลิต | ชินจิ ฮะชิโมะโตะ[2] |
ออกแบบ | ทากิซาวะ มาซาชิ เท็ตสึยะ โนมูระ มาซาโนริ ซาโต เค็นอิจิโร ยูจิ ประเสริฐ ประเสริฐวิทยาการ |
เขียนบท | ซะโอะริ อิตะมุโระ คะซุชิเงะ โนะจิมะ |
แต่งเพลง | โยโกะ ชิโมมูระ |
ชุด | ไฟนอลแฟนตาซี แฟบูลา โนวา คริสตัลลิส |
เอนจิน | ลูมินัส สตูดิโอ |
เครื่องเล่น | เพลย์สเตชัน 4 เอกซ์บอกซ์ วัน ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ สตาเดีย |
วางจำหน่าย |
|
แนว | เกมเล่นตามบทบาท |
รูปแบบ | ผู้เล่นเดี่ยว |
ไฟนอลแฟนตาซี XV เป็นเกมสมมติบทบาทที่พัฒนาและจัดจำหน่ายโดยบริษัทสแควร์เอนิกซ์ สำหรับเครื่องเล่นเกม เพลย์สเตชัน 4 , เอกซ์บอกซ์ วัน, ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ และ สตาเดีย เปิดตัวเป็นครั้งแรกโดยใช้ชื่อ ไฟนอลแฟนตาซี เวอร์ซัส XIII ที่งาน E3 2006 พร้อมกับไฟนอลแฟนตาซี XIII และ ไฟนอลแฟนตาซี อากิโตะ XIII ในชุดเกม แฟบูลา โนวา คริสตัลลิส: ไฟนอล แฟนตาซี XIII ต่อมาในงานเดียวกันเมื่อปี ค.ศ. 2013 ได้มีการเปลี่ยนชื่อพร้อมเผยตัวอย่างใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในยุคที่แปดของเครื่องเล่นเกมในการพัฒนา และด้วยระยะเวลาพัฒนาถึง 10 ปีทำให้เกมไฟนอลแฟนตาซีภาคนี้กลายเป็นวีดีโอเกมคอนโซลที่ใช้เวลาเตรียมการและพัฒนายาวนานเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ โดยมียอดขายถึง 5 ล้านชุด (เฉพาะแบบดิจิทัลนอกญี่ปุ่น) ในวันแรกที่วางจำหน่าย[4]
ไฟนอลแฟนตาซี XV มีเนื้อเรื่องกล่าวถึงราชอาณาจักรลูซิส ดินแดนครอบครองคริสตัลสุดท้ายที่เป็นขุมพลังอำนาจของโลก โดยตัวเอก "น็อคทิส ลูซิส เคลัม" รัชทายาทต้องร่วมกับพระบิดาในการปกป้องแผ่นดินจากการรุกรานของจักรวรรดินีฟล์ไฮม์ (เยอรมัน: Niflheim) ที่ต้องการคริสตัลดังกล่าว ในโลกของไฟนอลแฟนตาซีภาคนี้ เป็นโลกที่คล้ายคลึงกับโลกของจริงในยุคปัจจุบัน ทั้ง รถยนต์, ทางหลวง, สถาปัตยกรรมตึกรางบ้านช่อง ซึ่งทีมงานได้กล่าวว่า หลายๆสถานในเกมนั้นได้จำลองมาจากสถานที่ที่มีอยู่จริง อาทิ กรุงอินซอมเนียจำลองมาจากโตเกียว, นครอัลติสเซียจำลองมาจากเวนิส
ระบบการต่อสู้ของเกมมีชื่อว่า "แอคทีฟ ครอส แบทเทิล" มีลักษณะคล้ายคลึงกับเกมชุดคิงดอมฮาตส์ และไฟนอลแฟนตาซี ไทป์-0 การโหลดเข้าฉากต่อสู้จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่มีการตัดเช่นเดียวกับ ไฟนอลแฟนตาซี XII โดยในฉากจะมีตัวละครบังคับได้หนึ่งคน ส่วนอีกสามคนจะคอยสนับสนุน มีคำสั่งพื้นฐาน ได้แก่ โจมตี วาร์ป เวท ไอเทม ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวไปมาในฉากได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังสามารถช่วงชิงยุทธภัณฑ์ของศัตรูเพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย ส่วนเวทมนตร์นั้นเป็นแบบใช้แล้วหมดไปเหมือนไฟนอลแฟนตาซี VIII แต่ยังมีค่า MP ซึ่งใช้สำหรับท่าพิเศษต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถให้ผู้เล่นปรับโหมดความยากในฉากต่อสู้ได้ ระหว่างโหมดธรรมดา กับโหมดง่าย ซึ่งผู้เล่นสามารถปรับค่าความยากเมื่อใดก็ได้
เนื้อเรื่อง
[แก้]การดำเนินเรื่อง
[แก้]ไฟนอลแฟนตาซี XV[5] มีเรื่องราวเกิดขึ้นในโลกที่ชื่อว่า อีออสซึ่งคล้ายคลึงกับโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยดินแดนต่างๆ อาทิ ลูซิส, เทเนไบร์, นีฟล์ไฮม์, อัคคอร์โด เป็นต้น ซึ่งดินแดนเหล่านี้ยกเว้นนีฟล์ไฮม์เคยครอบครองคริสตัลอันเป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่ แต่เมื่อมหาสงครามอุบัติ คริสตัลเหล่านี้ก็สาบสูญ เว้นก็แต่คริสตัลแห่งราชอาณาจักรลูซิสเท่านั้นที่ยังทรงอานุภาพแห่งเวทมนตร์ เมื่อเริ่มการดำเนินเรื่อง ประเทศทั้งมวลในอีออสยกเว้นลูซิสตกอยู่ในอำนาจของจักรวรรดินีฟล์ไฮม์อันมีกองทัพทหารกลนับล้าน มีเพียงธิดาเทพแห่งราชวงศ์เฟลอเรเท่านั้นที่จะสามารถต่อรับมือกับ "ภัยพิบัติแห่งดวงดาว" อันเป็นปรากฏการณ์ที่อาจชักนำโลกเข้าสู่ความมืดนิจนิรันดร์
ในห้วงเวลาที่ราชอาณาจักรลูซิส ประเทศศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังพิเศษจากคริสตัล กำลังจะลงนามในสนธิสัญญาการสงบศึกเพื่อยุติสงครามที่ยาวนานกับจักรวรรดินีฟล์ไฮม์นั้น เจ้าชายน็อคทิส รัชทายาทแห่งลูซิสจำต้องเข้าพิธีสมรสกับท่านหญิงลูน่าเฟรยา ธิดาเทพจากแคว้นเทเนไบร์ ดินแดนในอาณัติของจักรวรรดิตามข้อตกลงในสนธิสัญญาดังกล่าว ถึงกระนั้น กษัตริย์แห่งลูซิสก็ไม่ไว้วางใจที่จะจัดงานแต่งขึ้นที่กรุงอินซอมเนีย จึงได้ออกอุบายหมายให้เจ้าชายน็อคทิสและท่านหญิงลูน่าเฟร์ยา ไปทำพิธีสมรสในนครอัลทิสเซีย เมืองหลวงของประเทศอัคคอร์โดแทน และได้สั่งให้เจ้าชายน็อคทิสออกเดินทางไปก่อนวันลงนามในสนธิสัญญา
อย่างไรก็ตาม ในวันลงนามสนธิสัญญา ณ กรุงอินซอมเนีย นีฟล์ไฮม์กลับสามารถปลดบาเรียเวทย์ที่ปกป้องกรุงอินซอมเนียมาช้านานลงได้ จักรวรรดินีฟล์ไฮม์ได้ยกกองทัพเข้าโจมตีและยึดอินซอมเนียอย่างรวดเร็ว น็อคทิสและพวกที่กำลังรอขึ้นเรือไปยังอัลทิสเซีย ตามคำสั่งของพระบิดา รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินข่าวว่าพระบิดาสวรรคตไปแล้ว เขาและพวกพ้องต้องหนีไปตั้งหลักก่อนเพื่อรอวันที่จะกอบกู้ประเทศของตน ในขณะที่จักรพรรดินีฟล์ไฮม์ก็มีบัญชาให้ตามล่าและสังหารน็อคทิสเสีย
น็อคทิสสามารถเดินทางไปยังอัลทิเชียได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันจะเริ่มพิธีสมรสกองทัพจักรวรรดิได้บุกโจมตีอัลทิเซียเพื่อหวังปลิดชีพเจ้าชายน็อคทิส แต่เพราะน็อคทิสทราบดีว่าจักวรรดิไม่ได้มาดี เขาจึงได้วางแผนกับนายกมนตรีของเมืองอัลทิเซียเพื่อวางแนวป้องกันไว้ แต่โชคร้าย ลีเวียธาน สัตว์ในตำนานของอัลทิเชียกลับอาละวาดขึ้นท่ามกลางสงคราม ท่านหญิงลูน่าเฟรยา จำไม่มีทางเลือกและต้องสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้ององค์ชายน็อคทิส และแล้วในที่สุดลูน่าเฟรยาก็ทำคำสั่งเสียสุดท้ายของกษัตริย์แห่งลูซิสได้สำเร็จ นั่นคือส่งแหวนแห่งลูซิไอให้ถึงมือน็อคทิส น็อคทิสเสียใจมากที่เสียท่านหญิงลูน่าเฟรยาไป แถมอีคนิสยังต้องมาตาบอดจากเหตุบุกโจมตีอัลทิเซียอีกด้วย
กลุ่มน็อคทิสเดินทางด้วยรถไฟไปแบบไร้จุดหมาย แต่ระหว่างทางขบวนรถถูกกองทัพจักรวรรดิโจมตีและพรอมพ์โตตกขบวนรถหายสาบสูญไป เจ้าชายน็อคทิสจึงตัดสินใจเดินทางไปยังจักรวรรดินีฟล์ไฮม์ตามลำพังเพื่อชำระแค้นกับกษัตริย์อีโดลาส ผู้นำสูงสุดแห่งจักรวรรดิ แต่เมื่อมาถึงสภาพทั้งเมืองกลับมืดสนิท เจ้าชายน็อคทิสจึงเดินทางเข้าไปตามลำพังและได้พบเจอกับพรอมพ์โตอีกครั้ง ความทรงจำของพรอมพ์โตกลับคืนมาว่าตนเป็นหนึ่งในรุ่นทดลองของหุ่นรบมากิเทคที่มีจิตสำนึกคิดด้วยตนเอง ตนเลยตัดสินใจหลบหนีออกมาก่อนมาพบว่าตัวเองหมดสติอยู่แถวชานเมืองรอบ ๆ อินซอมเนีย กลุ่มน็อคทิสเดินทางต่อจนพบร่างของกษัตริย์อีโดลาสที่เปลี่ยนสภาพเป็นปีศาจเต็มตัว เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกำจัดทิ้ง ก่อนได้พบกับคริสตัลแห่งลูซิส น็อคทิสพยายามนำคริสตัลกลับไปอินซอมเนีย แต่โชคร้ายเมื่อสัมผัสคริสตัลกลับดูดกลืนร่างน็อคทิสเข้าไปต่อหน้าต่อตาทุกคน
ภายในนั้นน็อคทิสได้พบกับ เทพในตำนานบาฮามุท เขาได้เล่าสาเหตุที่แท้จริงของภัยพิบัติแห่งดวงดาวและได้บอกว่าน็อคทิสคือกษัตริย์ที่ถูกเลือก วิธีเดียวที่จะแก้ภัยพิบัติแห่งดวงดาวและคืนแสงสว่างให้อีออสได้คือน็อคทิสต้องสละชีวิตเพื่อจัดการกับต้นตอของปัญหาคือ อาร์ดีน อิซูเนีย ที่ถูกปีศาจกลืนกิน แต่เขาสามารถคงสติและควบคุมพลังปีศาจทั้งหมดไว้ได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการชักจูงให้ดวงดาวเข้าสู่ความมืดมิด และเพื่อเป็นการเตรียมตัวบาฮามุทจึงบังคับให้น็อคทิสเข้าสู่สภาวะจำศีลเพื่อสะสมพลังเข้าสู่แหวนแห่งลูซิไอ
10 ปีต่อมา เจ้าชายน็อคทิสฟื้นสติคืนและพบว่าตนอยู่บนเกาะใกล้ ๆ กับอินซอมเนีย ในสภาวะที่ภัยพิบัติแห่งดวงดาวได้กลืนกินแสงสว่างจนหมดสิ้น โลกถูกชักจูงเข้าสู่ความมืดนิจนิรันดร์และเต็มไปด้วยปีศาจร้าย น็อคทิสเดินทางกลับไปรวมตัวกับกลุ่มน็อคทิสและตัดสินใจเดินหน้าเข้าสู่อินซอมเนียเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งลูซิสองค์ต่อไป ที่นั่นเขาได้พบกับ อาร์ดีน อิซูเนีย ที่ตอนนี้เขาได้เผยตัวตนที่แท้จริงเป็น อาร์ดีน ลูซิส เคลัม องค์ชายคนแรกแห่งราชวงค์ลูซิส เคลัม และเป็นผู้รักษาให้อีออสรอดพ้นจากภัยพิบัติแห่งดวงดาวด้วยการดูดกลืนภัยพิบัตินั้นเข้าร่างตัวเอง แต่เพราะเช่นนั้นเขาจึงถูกคริสตัลปฏิเสธ และองค์ชาย ซอมนัส ลูซิส เคลัม ได้เนรเทศเขาออกจากดินแดนลูซิส ด้วยความแค้นทั้งหมดอาร์ดีนจึงเข้าร่วมจักรวรรดิและเริ่มนำเอาพลังปีศาจที่เขาได้รับจากการดูดกลืนภัยพิบัติมาพัฒนาเป็นหุ่นรบมากิเทคเพื่อล้างแค้น
บัดนี้ความแค้นของว่าที่กษัตริย์ทั้งสองจึงเริ่มขึ้น อาร์ดีน เข้าต่อสู้กับ น็อคทิส จนวาระสุดท้าย น็อคทิสได้สถาปนาตัวเองให้เป็นกษัตริย์ลูซิสลำดับที่ 14 และสละชีพตามเป้าประสงค์ที่บาฮามุทได้กล่าวไว้ เพื่อเข้าเผชิญหน้ากับวิญญาณของอาร์ดีนอีกครั้งในคริสตัล เขาทุ่มพลังสุดตัวเพื่อทำลายอาร์ดีนจนย่อยยับ เมื่อทุกอย่างจบลงวิญญาณน็อคทิสจึงสลายเป็นผุยผงตามไปพร้อมกับแหวนแห่งลูซิไอที่สลายเป็นผุยผงลงพร้อมกัน
และแล้วอีออสก็ได้แสงสว่างกลับคืน ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ น็อคทิสสามารถชำระล้างภัยพิบัติแห่งดวงดาวได้สำเร็จ อีกด้านน็อคทิสได้กลับไปใช้ชีวิตร่วมกับลูน่าเฟรยาอย่างมีความสุขนิจนิรันดร์ เป็นเทพสององค์ที่คอยปกปักษ์รักษาอีออสไว้ชั่วกาลนาน
เนื้อหาดาวน์โหลดเพิ่มเติม
[แก้]ในเนื้อหาเพิ่มเติมห้าชุด อันได้แก่ เอพิโซดกลาดิโอลัส เอพิโซดพรอมพ์โต เอพิโซดอีกนิส คอมราดส์ และเอพิโซดอาร์ดีน ได้เล่าถึงเนื้อหาและปมที่ขาดหายไปจากเนื้อเรื่องหลัก ดังนี้
เอพิโซดกลาดิโอลัส เล่าถึงเหตุการณ์ที่กลาดิโอลัสได้ปลีกตัวออกจากกลุ่มไประยะหนึ่ง เพื่อเข้าฝึกฝนกับกิลกาเมชและเรวัสอันเป็นที่มาของแผลเป็นบนหน้าอก เอพิโซดพรอมพ์โต เล่าถึงเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากเหตุที่ขบวนรถไฟถูกกองทัพจักรวรรดิโจมตีจนพลัดตกรถไฟลงไป และตัวเขาถูกกองทัพจักรวรรดินำตัวกลับนีฟล์ไฮม์เพื่อพัฒนาเป็นหุ่นรบต่อไป แต่ท่ามกลางสติที่เลือนลางเขาได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่หลบหนีออกจากจักรวรรดิโดยความช่วยเหลือของอาราเนีย ก่อนเดินทางสู่กราเลียต่อไป เอพิโซดอิกนีส เล่าถึงอีกด้านหนึ่งของเหตุโจมตีอัลทิเชียและตัวเขาได้เข้าไปพบกับร่างของเจ้าชายน็อคทิสและท่านหญิงลูน่าเฟรยาที่หมดสติ แต่ยังไม่ทันจะช่วยเหลืออาร์ดีนบุกมาเพื่อจะปลิดชีพทั้งสอง อีกนิสจึงใช้แหวนแห่งลูซิไอเข้าต่อสู้กับอาร์ดีนเพื่อปกป้องทั้งคู่ โดยราคาคือเขาต้องสูญเสียการมองเห็นไปชั่วนิรันดร์ และไม่สามารถเห็นอนาคตได้อีกต่อไป แต่ในอีกตอนจบหนึ่ง อีกนิส เลือกที่จะไม่สวมใส่แหวนแห่งลูซิไอและยอมแพ้ต่ออาร์ดีน อาร์ดีนจึงเล่าวิธีที่จะแก้ภัยพิบัติแห่งดวงดาวโดยไม่ต้องสละชีวิตของน็อคทิสตามโชคชะตาที่เขาได้รับ
คอมราดส์ เป็นเนื้อหาแยกที่เปิดให้เล่นแบบออนไลน์ โดยเล่าถึงเหตุการณ์ระหว่าง 10 ปีที่น็อคทิสจำศีลอยู่ กลุ่มที่เหลือรอดจากจักรวรรดินีฟล์ไฮม์ได้ก่อตั้งกองกำลังคอมราดส์ขึ้น เพื่อปกป้องดินแดนแห่งลูซิสจากเงื้อมมือของปิศาจ ในเนื้อหานี้ผู้เล่นจะยังได้รับบทเป็นหน่วยเกลฟ กองอารักษาส่วนตัวของกษัตริย์รีจิสจากภาพยนตร์ ไฟนอล แฟนตาซี 15: สงครามแห่งราชันย์ ที่ต้องรวมพลังกับผู้เล่นอื่นต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนกลับคืนมาเหมือนกับช่วงต้นของภาพยนตร์ด้วย
เอพิโซดอาร์ดีน เป็นเนื้อหาส่วนสุดท้ายของเกมไฟนอลแฟนตาซี XV เล่าถึงเรื่องของอาร์ดีน อิซูเนีย สมัยยังเป็น อาร์ดีน ลูซิส เคลัม องค์ชายอีกองค์หนึ่งของราชวงค์ลูซิสที่ 1 ที่เดินหน้าต่อโชคชะตาด้วยการดูดกลืนภัยพิบัติแห่งดวงดาวเข้าสู่ร่างกายอันเป็นเหตุให้คริสตัลปฏิเสธตัวเขา ด้วยความแค้นทั้งหมดอาร์ดีนจึงเผลอปลดปล่อยพันธะบางส่วนของภัยพิบัติแห่งดวงดาวออกมาและเริ่มทำให้โลกกลับสู่ความมืดมิดอีกครั้ง แต่แล้วท่านหญิงเอรา ต้นตระกูลเฟลอเรอดีตคนรักของอาร์ดีน ได้ใช้พลังทั้งหมดผนึกอาร์ดีนไว้ เพื่อกันไม่ให้อาร์ดีนสามารถปลดพันธะแห่งภัยพิบัติได้ทั้งหมด เวลาล่วงเลยมานานแสนนานจนกระทั่ง 30 ปีก่อนเริ่มเนื้อหาของไฟนอลแฟนตาซี XV อาร์ดีนฟื้นสติคืนได้อีกครั้งด้วยการช่วยเหลือของเวอร์ซาทีล อาร์ดีนตอบตกลงเข้าร่วมจักรวรรดิเพื่อเริ่มล้างแค้นต่อองค์ชายซอมนัส ก่อนถูกขัดขวางโดยบาฮามุทและบอกเขาว่าชีวิตของเขาต้องเป็นนิจนิรันดร์ตราบจนกว่า กษัตริย์ที่แท้จริง จะตื่นขึ้นและทำลายทุกสิ่งเพื่อกู้สถานการณ์ อาร์ดีนจึงตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าเขาต้อง "ฆ่า" กษัตริย์ที่แท้จริง ก่อนที่ตนจะถูก "ฆ่า" ด้วยน้ำมือของกษัตริย์ที่แท้จริง
ตัวละครหลัก
[แก้]ชื่อ | วันเกิด | อายุ/ส่วนสูง | ให้เสียงญี่ปุ่นโดย | รายละเอียด |
---|---|---|---|---|
น็อคทิส ลูซิส เคลัม (Noctis Lucis Caelum) |
30 สิงหาคม | 20 ปี 176 ซม. |
ทัตสึฮิซะ ซูซูกิ | รัชทายาทแห่งราชอาณาจักรลูซิส เขามักจะแสดงท่าทีเอื่อยเฉื่อยชา จึงทำให้คนรอบข้างหลายๆคนไม่มีความมั่นใจในตัวเขา แต่ภายในแล้วน็อคทิสมีความกล้าและอ่อนโยนใส่ใจคนรอบข้างเสมอ |
กลาดิโอลัส อามิซิเทีย (Gladiolus Amicitia) |
2 เมษายน | 23 ปี 198 ซม. |
เค็นตะ มิยาเกะ | บุตรชายคนโตของตระกูลอามิทีเซีย ซึ่งเป็นตระกูลราชองค์รักษ์แห่งราชวงศ์ลูซิสมาอย่างยาวนาน เป็นเสมือนพี่ชายของน็อคทิส |
อีคนิส สตูเปโอ สคีเอ็นเทีย (Ignis Stupeo Scientia) |
7 กุมภาพันธ์ | 22 ปี 183 ซม. |
มาโมรุ มิยาโนะ | เป็นเพื่อนที่ทำหน้าที่เสมือนพี่เลี้ยงของลูซิสตั้งแต่เด็ก ถูกวางตัวโดยกษัตริย์เรจิสให้เป็นมือขวาของน็อคทิสในอนาคต |
พรอมพ์โต อาร์เจนทัม (Prompto Argentum) " |
25 ตุลาคม | 20 ปี 173 ซม. |
เท็ตสึยะ คากิฮาระ | เคยอยู่โรงเรียนประถมที่เดียวกับน็อคทิส เนื่องจากเคยได้ช่วยเหลือสุนัขของลูน่าไว้ และตัวเจ้าชายน็อคทิสไม่มีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เจ้าหญิงลูน่าเฟร์ย่าจึงเขียนจดหมายฝากฝังเจ้าชายน็อคทิสไว้กับพรอมพ์โต ทั้งสองเริ่มเป็นเพื่อนกันตอนขึ้นมัธยม |
ดินแดน
[แก้]- นีฟไฮม์ เป็นจักรวรรดิบนทวีปประจิม มีเมืองหลวงคือ กราลีอา เป็นนครที่ใหญ่เป็นอับดับสองในโลกอีออส อาณาเขตดั้งเดิมของนีฟไฮม์นั้นตั้งอยู่ในเขตหนาวเหน็บมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
- เทเนไบร์ เป็นอดีตอาณาจักรบนทวีปประจิม เนื่องจากมีพรมแดนติดกับจักรวรรดินีฟไฮม์จึงเป็นดินแดนแรกที่นีฟล์ไฮม์รุกราน
- ลูซิส เป็นราชอาณาจักรบนทวีปลูเซียน มีเมืองหลวงคือ อินซอมเนีย เป็นนครที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีออส ก่อนจะถูกนีฟล์ไฮม์รุกราน ลูซิสเคยปกครองทวีปลูเซียนทั้งหมด
- อัคคอร์โด เป็นประเทศหมู่เกาะ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางใต้ของทวีปลูเซียน และอยู่ทางตะวันออกของทวีปประจิม มีเมืองหลวงคือ อัลทิสเซีย เป็นนครที่ใหญ่เป็นอับดับสามในโลกอีออส อัคคอร์โดเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ แต่จักรวรรดิให้อำนาจอัคคอร์โดในการปกครองตนเอง
การพัฒนา
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การตอบรับและคำวิจารณ์
[แก้]ในช่วงแรกหลังว่าจำหน่าย ไฟนอลแฟนตาซี XV ได้รับคำวิจารณ์ออกมาในทางบวก คะแนนส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 80-90% โดยนักวิจารณ์ส่วนใหญ่นั้นชื่นชมระบบการเล่น การออกแบบเกมในส่วนของโอเพนเวิลด์ และบุคลิกของตัวละครหลัก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่เดาทางได้ค่อนข้างง่าย, การเดินเรื่องจบค่อนข้างเร็วและตอบคำถามไม่ครบ และตัวละครบางส่วนที่ยังขาดมิติอยู่บ้าง[6] ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2016 ผู้กำกับทะบะตะ ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางทีมงานได้กำหนดแผนงานอัปเดตตัวเกมไว้ระยะสั้น-กลาง-ยาว โดยทีมงานน้อมรับนำส่วนข้อตำหนิไปปรับปรุงตัวเกมให้มีเนื้อเรื่องให้ดีขึ้นและมีอิสระในการเล่นมากยิ่งขึ้น[7]
อย่างไรก็ตาม เมื่อวางจำหน่ายไปซักระยะกลับมีการอัปเดตเพิ่มเติมเนื้อหาเข้ามาจำนวนมาก เนื้อเรื่องบางส่วนถูกนำวางจำหน่ายเป็นส่วนเสริม ทำให้มีการวิจารณ์ในเชิงไม่พอใจอย่างกว้างขวางว่าบริษัทวางจำหน่ายเกมนี้ทั้งที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ 100% นอกจากนี้ มีการวางจำหน่าย FFXV: Royal Edition ซึ่งฉบับที่รวมเนื้อเรื่องและเนื้อหาส่วนเสริมทั้งหมดวางจำหน่ายในเดือนมกราคม 2018 ด้วยราคาต่ำกว่าตอนวางจำหน่ายครั้งแรกเสียอีก ผู้ซื้อเกมในช่วงแรกๆต้องจ่ายแพงกว่าแต่กลับไม่ได้รับเกมที่มีเนื้อหาที่สมบูรณ์ และต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกยิบย่อยเพื่อให้ได้เนื้อหาสมบูรณ์
เพื่อเป็นการแก้คำสบประมาทของฉากจบในเกมหลัก ทีมงานจึงเพิ่มเนื้อเรื่องทางเลือกเข้าไปใน Episode Ignis ซึ่งเป็นการปูทางไปฉากจบที่มีความสุขกว่า เนื้อเรื่องทางเลือกนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการฉีกออกมาจากเกมหลักอย่างไม่สมเหตุสมผลจนเกินไป มีหลายประเด็นที่ขัดแย้งกับหลักการในเกมหลักและหาคำตอบไม่ได้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ทีมงานได้ตัดสินใจประกาศแผนพัฒนา DLC เพิ่มอีก 4 ตัว คือ Episode 1: Ardyn - "The Conflict of the Sage", Episode Side Story: Aranea - "The Beginning of the End", Episode 2: Lunafreya - "The Choice of Freedom" และ Episode 3: Noctis - "The Final Strike" เพื่อพัฒนาเนื้อเรื่องจนจบสมบูรณ์ โดยมี Episode 3 ที่ถูกระบุว่า เป็นเนื้อเรื่องตอนจบใหม่ ของเกม แต่แล้วในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ฮาจิเมะ ทาบาตะ ได้ลาออกจาก Luminous Production ทีมงานจึงตัดสินใจยกเลิกทำ DLC ที่เหลือทั้งหมด ยกเว้น Episode 1[8] แล้วเอาเนื้อเรื่องที่วางแผนไว้ทั้งหมดไปทำเป็นฉบับนิยายในชื่อ Final Fantasy XV: The Dawn of the Future แทน[9]
การตอบรับ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
สื่อที่เกี่ยวข้อง
[แก้]บราเธอร์ฮูด: ไฟนอลแฟนตาซี XV
[แก้]มีการสร้างอนิเมะเพื่อปูเนื้อเรื่องก่อนเข้าสู่เกม โดยเป็นอะนิะเมะตอนสั้น 5 ตอน ใช้ชื่อว่า Brotherhood: Final Fantasy XV กำกับโดยโซอิชิ มะซุอิ ผลิตโดยสตูดิโอ A-1 Pictures ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ทางยูทูบ ซึ่งเป็นวันเดียวกับการประกาศวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการ
ไฟนอล แฟนตาซี 15: สงครามแห่งราชันย์
[แก้]ไฟนอล แฟนตาซี 15: สงครามแห่งราชันย์ (อังกฤษ: Kingsglaive: Final Fantasy XV) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน กล่าวถึงเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของเกมโดยเล่าถึงองค์กษัตริย์รีจิส ลูซิส เคลัม บิดาของน็อคทิส พร้อมกับกองกำลังอารักขาส่วนพระองค์ที่มีชื่อว่า "คิงส์เกลฟ" โดยฌอน บีน พากย์เสียงเป็นกษัตริย์รีจิส
ภาพยนตร์ดังกล่าวเข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาแบบจำกัดโรงภาพยนตร์ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 สำหรับประเทศไทย โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง ได้จัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในรูปแบบการฉายรอบพิเศษร่วมกับ เอ็ม พิคเจอร์ ที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เพียงรอบเดียวเท่านั้น
FINAL FANTASY XV -The Dawn Of The Future-
[แก้]เป็นนิยายที่กล่าวถึงภูมิหลังของอาร์ดิน และเป็นเนื้อเรื่องทางเลือกสำหรับผู้ไม่ต้องการฉากจบสะเทือนใจ นิยายนี้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2562 ถือเป็นการปิดโครงการไฟนอลแฟนตาซี 15 โดยสมบูรณ์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 今週のスクープ ファイナルファンタジーXV. Weekly Famitsu (ภาษาญี่ปุ่น). Enterbrain (1281): 11ff. June 20, 2013.
- ↑ 2.0 2.1 "体験版『FF15』エピソード・ダスカ2.00でカトブレパスと戦える? ストーリーについて重大発表も". Dengeki Online. June 4, 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-06. สืบค้นเมื่อ June 6, 2015.
- ↑ Jokeboy (January 16, 2018). "Final Fantasy XV PC วางจำหน่าย 6 มีนาคม". Gamingdose.
- ↑ Final Fantasy XV สร้างยอดขาย 5 ล้านชุดในวันเดียว เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์เกม Final Fantasy December 2, 2016
- ↑ S, Wattana (2016-08-16). "FINAL FANTASY XV ประกาศวันวางจำหน่ายใหม่ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 พร้อมกันทั่วโลก". iPhone-Droid.
- ↑ https://www.blognone.com/node/87667 เรื่อง : Final Fantasy XV วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ คะแนนรีวิวส่วนใหญ่ไปในทางบวก
- ↑ เกม Final Fantasy XV เตรียมอัปเดตครั้งใหญ่ตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆ Beartai. 8 พฤศจิกายน 2559
- ↑ ลาก่อน DLC ทั้ง 3 ของ Final Fantasy XV ถูกยกเลิกหลังทาบาตะลาออกจากทีม 8 พฤศจิกายน 2561
- ↑ Final Fantasy XV DLC จะกลับมาในรูปแบบของ “นิยาย” 24 กุมภาพันธ์ 2562
- ↑ "Final Fantasy XV for PlayStation 4". Metacritic. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ "Final Fantasy XV for Xbox One". Metacritic. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ Carter, Chris (November 28, 2016). "Review: Final Fantasy XV". Destructoid. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-11. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ L Patterson, Mollie (December 6, 2016). "Final Fantasy XV review". Electronic Gaming Monthly. สืบค้นเมื่อ December 6, 2016.
- ↑ Romano, Sal (December 13, 2016). "Famitsu Review Scores: Issue 1463". Gematsu. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-14. สืบค้นเมื่อ December 14, 2016.
- ↑ Reiner, Andrew (November 28, 2016). "Final Fantasy XV - Cruising To Success". Game Informer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-28. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ Leack, Jonathan (December 2, 2016). "Final Fantasy XV Review". Game Revolution. สืบค้นเมื่อ December 2, 2016.
- ↑ Brown, Peter (November 28, 2016). "Final Fantasy XV Review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ Roberts, David (November 28, 2016). "Final Fantasy XV Review". GamesRadar. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ Ingenito, Vince (November 28, 2016). "Final Fantasy XV Review". IGN. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ Kollar, Philip (November 28, 2016). "Final Fantasy XV Review". Polygon. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ McKeand, Kirk (December 5, 2016). "Final Fantasy XV review - did it Noct our socks off?". Digital Spy. สืบค้นเมื่อ December 5, 2016.
- ↑ Beck, Adam (December 1, 2016). "Review: Final Fantasy XV". Hardcore Gamer. สืบค้นเมื่อ December 1, 2016.
- ↑ Honea, Keri (December 1, 2016). "Final Fantasy XV Review – East Meets West (PS4)". PlayStation LifeStyle. สืบค้นเมื่อ December 1, 2016.
- ↑ Peckham, Matt (November 28, 2016). "Review: 'Final Fantasy XV' Is a Glorious Return to Relevance". Time. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
- ↑ Bailey, Kat (November 28, 2016). "Final Fantasy XV PlayStation 4 Review: End of the Road". US Gamer. สืบค้นเมื่อ November 28, 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์ทางการ (ญี่ปุ่น)
- เว็บไซต์ทางการ (อังกฤษ)
- Official forums