เจ้าชายรัชทายาทซาโด
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
เจ้าชายรัชทายาทซาโด | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งโชซ็อน | |||||||||
ระหว่าง | 11 มีนาคม ค.ศ. 1749 – 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1762 | ||||||||
ก่อนหน้า | เจ้าชายรัชทายาทอี กึม | ||||||||
ถัดไป | พระราชนัดดารัชทายาท อี ซัน | ||||||||
พระมหากษัตริย์ | พระเจ้าย็องโจแห่งโชซ็อน | ||||||||
มกุฎราชกุมารแห่งโชซ็อน | |||||||||
ระหว่าง | 11 มีนาคม ค.ศ. 1749 – 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1762 | ||||||||
ก่อนหน้า | เจ้าชายรัชทายาทฮโยจัง | ||||||||
ถัดไป | เจ้าชายรัชทายาทมุนฮโย | ||||||||
พระราชสมภพ | 21 มกราคม ค.ศ. 1735 ฮันซ็อง อาณาจักรโชซ็อน | ||||||||
สวรรคต | 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1762 ฮันซ็อง อาณาจักรโชซ็อน | (27 ปี)||||||||
คู่อภิเษก | พระนางฮเยกย็อง พระสนมซุกบิน ตระกูลอิม พระสนมคยองบิน ตระกูลปาร์ค พระสนมยางเจ | ||||||||
| |||||||||
ราชวงศ์ | โชซ็อน | ||||||||
พระบิดา | พระเจ้าย็องโจแห่งโชซ็อน | ||||||||
พระมารดา | พระสนมย็องบิน ตระกูลอี | ||||||||
ลายพระอภิไธย |
เจ้าชายรัชทายาทซาโด | |
ฮันกึล | |
---|---|
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Jangjo |
เอ็มอาร์ | Changjo |
ชื่อเกิด | |
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Yi Seon |
เอ็มอาร์ | Yi Sŏn |
ชื่อมรณกรรม | |
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Sado Seja |
เอ็มอาร์ | Sado Seja |
เจ้าชายรัชทายาทชังฮ็อน (เกาหลี: 장헌세자; ฮันจา: 莊獻世子; อาร์อาร์: Jangheonseja; เอ็มอาร์: Changhǒnseja) หรือ เจ้าชายรัชทายาทซาโด (เกาหลี: 사도세자; ฮันจา: 思悼世子; อาร์อาร์: Sadoseja; เอ็มอาร์: Sadoseja ค.ศ. 1735 - ค.ศ. 1762) เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองของพระเจ้าย็องโจกับพระสนมย็องบิน ตระกูลอี แห่งจอนอึย ในรัชสมัยพระเจ้าโคจงมีเฉลิมพระยศเจ้าชายซาโดให้มีฐานะเป็นกษัตริย์ พระนามว่า พระเจ้าชังโจ (장조, 莊祖) และต่อมาได้รับสถาปนาเป็น จักรพรรดิอึย (의황제, 懿皇帝)
เนื่องจากเจ้าชายรัชทายาทฮโยจางสวรรคตไปใน พ.ศ. 2271 ราชวงศ์โชซ็อนอยู่ในภาวะไร้ผู้สืบทอด บรรดาสนมของพระเจ้าย็องโจก็ยังไม่มีพระโอรสเลย ดังนั้น เมื่อเจ้าชายชังฮ็อนพระราชสมภพใน พ.ศ. 2278 ที่พระราชวังชางเกียงกุง จึงได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซจา (รัชทายาท) ทันที เจ้าชายชังฮ็อนทรงเรียนรู้ได้เร็ว ทรงย้ายไปที่พระตำหนักทงกุง (ตำหนักตะวันออก) อันเป็นที่อยู่เดิมของพระนางซ็อนอึย มเหสีของพระเจ้าคย็องจง เนื่องจากเจ้าชายชังฮ็อนเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในขณะนั้นของพระเจ้าย็องโจ พระเจ้าย็องโจจึงทรงเข้มงวดกับการศึกษาของเจ้าชายชังฮ็อนอย่างมาก ใน พ.ศ. 2287 เจ้าชายชังฮ็อนอภิเษกกับพระนางฮเยกย็อง จากตระกูลฮง ธิดาของฮงพงฮัน
ปกติพระเจ้าย็องโจและพระสนมย็องบินจะไปหาเจ้าชายชังฮ็อนบ่อย ๆ แต่นางในที่รับใช้เจ้าชายอยู่ที่พระตำหนักทงกุงนั้นเป็นคนรับใช้เก่าของพระนางซ็อนอึยและพระเจ้าคย็องจง จึงตั้งแง่รังเกียจพระเจ้าย็องโจเพราะทรงยึดบัลลังก์มาจากพระเจ้าคย็องจง พระเจ้าย็องโจจึงเลิกเสด็จไปหาเจ้าชายชังฮ็อน ความสัมพันธ์พ่อลูกจึงเหินห่าง เจ้าชายชังฮ็อนจึงขาดการใส่ใจ มีเพียงเจ้าหญิงฮวาพยองที่เป็นพระเชษฐภคินีเท่านั้น ที่ยังพูดคุยกับพระองค์อยู่
จนใน พ.ศ. 2291 เจ้าหญิงฮวาพยองสิ้นพระชนม์ เจ้าชายชังฮ็อนเสียพระทัยมาก ทรงเริ่มแสดงอาการผิดปกติทางจิต ประกอบกับประชวรบ่อย ในพ.ศ. 2295 ประชวรเป็นโรคหัด เจ้าชายชังฮ็อนมีพระโอรสพระองค์แรกใน พ.ศ. 2293 คือ เจ้าชายรัชทายาทอึยโซ แต่มีพระชนม์ชีพอยู่สองปีก็สิ้นพระชนม์ในพ.ศ. 2295 พระโอรสประสูติอีกองค์ ได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซซุน (พระราชนัดดารัชทายาท) ทันที (ภายหลังครองราชย์เป็นพระเจ้าช็องโจ) ในพ.ศ. 2300 พระนางอินว็อนพระอัยยิกาเลี้ยงและพระนางช็องซ็องพระมารดาเลี้ยงเสด็จสวรรคต เจ้าชายชังฮ็อนมีอาการทางพระสติหนักขึ้น[1] ทรงสังหารขันทีซังกุงต่าง ๆ คนรับใช้ตลอดจนหมอหลวง ทำให้ทรงเป็นที่หวาดกลัวไปทั่ววัง และยังทรงคบค้ากับนางทรงที่ชานเมืองฮันยาง[2] พระเจ้าย็องโจก็ทรงทราบเรื่องพระอาการของพระโอรสดีแต่ทรงไม่กล้าทำอะไรเพราะเป็นพระโอรส ในพ.ศ. 2304 ทรงทุบตีหม่อมคนหนึ่งจนเสียชีวิต และทรงตามรังควานพระขนิษฐภคินีคือเจ้าหญิงฮวาวาน[3]
ในพ.ศ. 2305 ขุนนางฝ่ายโนนนถายฎีกาให้พระเจ้าย็องโจลงพระอาญาพระโอรส เจ้าชายชังฮ็อนจึงจับเอาญาติของขุนนางเหล่านั้นมาทรมานจนเสียชีวิต และขู่จะสังหารบุตรชายของอัครเสนาบดีชินมัน คือ เจ้าชายยองซอง ทรงถึงขนาดจะปีนกำแพงวังไปสังหารเจ้าชายยองซอง พระมารดาสนมย็องบินทนไม่ไหว ทูลขอให้พระเจ้าย็องโจทรงพระอาญาเจ้าชายชังฮ็อน พระเจ้าย็องโจจึงมีพระราชโองการปลดเจ้าชายชังฮ็อนและพระนางฮเยกย็อง และบังคับให้เจ้าชายชังฮ็อนเข้าไปอยู่ในกล่องข้าว หลังจากอยู่ในกล่องเจ็ดวันก็สวรรคต
ภายหลังพระเจ้าย็องโจทรงรู้สึกเสียพระทัยที่ทรงลงพระอาญากับพระโอรส จึงแต่งตั้งเจ้าชายชังฮ็อนขึ้นใหม่เป็นเจ้าชายรัชทายาทซาโด พระโอรสของเจ้าชายซาโดคือพระเจ้าช็องโจ ทรงพยายามอย่างมากที่จะล้างมลทินให้พระราชบิดา ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เจ้าายรัชทายาทซาโดประชวรจริงหรือเป็นการใส่ร้ายของขุนนางฝ่ายโนนน แต่บันทึกของพระนางฮเยคยองกล่าวว่าเจ้าชายซาโดทรงมีอาการทางพระสติจริง ๆ
ในช่วงสมัยพระเจ้าช็องโจ พระองค์ได้ย้ายพระบรมศพของพระราชบิดาไปยังป้อมฮวาซ็อง
พระราชวงศ์
[แก้]- พระราชบิดา: พระเจ้าย็องโจแห่งโชซ็อน (영조 ,英祖大王 ,1694-1776)
- พระราชมารดา: พระสนมย็องบิน ตระกูลอี (영빈 이씨 ,暎嬪 李氏 ,1696-1764)
- พระชายา: พระนางฮเยกย็อง ตระกูลฮง แห่งพยองซาน (혜경세자빈 홍씨 ,惠敬世子嬪 洪氏 ,1735-1815) ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็นพระนางฮอนคยอง ตระกูลฮง (헌경황후 홍씨 ,獻敬王后 洪氏)
- หม่อม
- หม่อมยางเจ ตระกูลอิม (양제 임씨 ,良娣 林氏) ภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นพระสนมซุกบิน ตระกูลอิม (숙빈 임씨 ,肅嬪 林氏)
- หม่อมซูชิก ตระกูลปาร์ค (수칙 박씨 ,守則 朴氏 ,?-1761)ภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นพระสนมควีอิน ตระกูลปาร์ค (귀인 박씨 ,貴人 朴氏) และพระสนมคยองบิน ตระกูลปาร์ค (경빈 박씨 ,景嬪 朴氏)
- หม่อมยางเจ (양제 ,良娣)
- พระโอรส
- รัชทายาทอึยโซ, อีจอง (의소세손 정 ,懿昭世孫 琔 ,1750-752) พระโอรสองค์แรกของพระชายาฮเยคยอง ตระกูลฮง แห่งพยองซาน
- พระเจ้าช็องโจแห่งโชซ็อน (이산세손 ,李祘世孫 ,1752-1800) พระโอรสองค์ที่สองของพระชายาฮเยคยอง ตระกูลฮง แห่งพยองซาน
- เจ้าชายอึนออน, อีอิน (은언군 인 ,恩彦君 䄄 ,1754-1801) พระโอรสองค์แรกของพระสนมซุกบิน ตระกูลอิม พระอัยกา (ปู่) ของพระเจ้าช็อลจง
- เจ้าชายอึนซิน, อีจิน (은신군 진 ,恩信君 禛 ,1755-1771) พระโอรสองค์ที่สองของพระสนมซุกบิน ตระกูลอิม พระปัยกา (ปู่ทวด) บุญธรรมของพระเจ้าโคจง
- เจ้าชายอึนจ็อน, อีชัน (은전군 찬 ,恩全君 禶 ,1759-1778) พระโอรสองค์เดียวของพระสนมคยองบิน ตระกูลปาร์ค
- พระธิดา
- เจ้าหญิงชองยอน (청연군주 ,淸衍郡主 ,1754-1821) พระธิดาองค์แรกของพระชายาฮเยคยอง ตระกูลฮง แห่งพยองซาน
- เจ้าหญิงชองซอน (청선군주 ,淸璿郡主 ,1756-1802) พระธิดาองค์ที่สองของพระชายาฮเยคยอง ตระกูลฮง แห่งพยองซาน
- เจ้าหญิงชองกึน (청근현주 ,淸瑾縣主 ,1758-1792) พระธิดาองค์เดียวของพระสนมคยองบิน ตระกูลปาร์ค
พงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของเจ้าชายรัชทายาทซาโด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|