มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Case Western Reserve University)
มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ
คติพจน์Thinking Beyond the Possible
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
สถาปนาพ.ศ. 2510


มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ (Western Reserve University) ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2369[1]


สถาบันเทคโนโลยีเคส (Case Institute of Technology) ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2423
ทุนทรัพย์1.703 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2554) [2]
ประธานBarbara R. Snyder
อาจารย์3,055 (เต็มเวลา)[3]
ปริญญาตรี4,386 [3]
บัณฑิตศึกษา5,640 (รวมโทและเอก) [3]
ที่ตั้ง, ,
วิทยาเขตเขตเมืองคลีฟแลนด์  รัฐโอไฮโอ, 155 เอเคอร์ (0.63 ตารางกิโลเมตร)[2]
นอกเขตเมืองคลีฟแลนด์ (Hunting Valley)  รัฐโอไฮโอ , 389 เอเคอร์ (1.57 ตารางกิโลเมตร) [2]
รางวัลโนเบล15 [4]
สีน้ำเงิน ขาว เทา [5]
                 
ฉายาSpartans[6]
เว็บไซต์www.case.edu

มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ (อังกฤษ: Case Western Reserve University หรือ CASE หรือ CWRU หรือ CASE WESTERN) เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่เน้นทางด้านการวิจัย ตั้งอยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 จากการรวมกันของสองสถาบันการศึกษาอันได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีเคส (Case Institute of Technology) ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2423 โดยนาย ลีโอนาร์ท เคส จูเนียร์ (Leonard Case Jr) กับ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ (Western Reserve University) ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2369 มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีนักศึกษาประมาณ 10,000 [3] คน แบ่งเป็น นักศึกษาปริญญาบัณฑิต 4,386 คน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 5,640 คน และอาจารย์ประจำ 3,055 [3] คน และเจ้าหน้าที่ 3,402 [3] คน สำหรับปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของมหาวิทยาลัยประจำปีคือ 968 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [3] ได้รับเงินบริจาคประจำปีคือ 138.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3] ซึ่งติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินบริจาคมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา[7][8]

มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นทางด้านการวิจัยเป็นอย่างมาก โดยตามรายงานประจำปี พศ. 2554 - 2555 นั้นระบุว่า มหาวิทยาลัยมีโครงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนอยู่ 1,693 [3] โครงการ และมีเงินสนับสนุนการวิจัยอยู่ 387.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [3] มีสิทธิบัตรใหม่ในปี พ.ศ. 2555 อยู่ 189 รายการ [3] มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในด้าน แพทยศาสตร์[9][10], พยาบาลศาสตร์[11], นิติศาสตร์[12] และ วิศวกรรมศาสตร์[13][14] โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์[15][16] ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เกิดขึ้นใหม่และถือได้ว่า มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟเป็นผู้บุกเบิกและมีชื่อเสียงในการจัดการเรียนการสอนสาขาวิชานี้มานานกว่าสี่สิบปีแล้ว[17] ในปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยได้มุ่งความสนใจไปที่การวิจัยด้านพลังงานทดแทนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานลมและ สมาร์ทกริด [18] โดยจัดตั้ง สถาบันวิจัยพลังงานเกรทเล็ค (Great Lakes Energy Institute) [19] เพื่อทำงานวิจัยด้านพลังงานลมโดยเฉพาะ ในแต่ละปีจะมีนักเรียนไทยมาเรียนต่อที่นี่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ ได้รับการจัดอันดับโดยหน่วยงานของรัฐบาลไทยว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีนักเรียนไทยมาศึกษาต่อมากที่สุด [20]

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟเคยถูกใช้เป็นสถานที่ทดลองพิสูจน์การมีตัวตนของอีเทอร์ (luminiferous aether หรือ ether) หรือที่เรียกว่าการทดลองของไมเคิลสัน-มอร์เลย์ (Michelson-Morley interferometer experiment) ในปี พ.ศ. 2430 โดย อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสัน (Albert Abraham Michelson) จากสถาบันเทคโนโลยีเคสและ เอ็ดเวิร์ด ดับบิว มอร์ลีย์ (Edward W. Morley) จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ ซึ่งการทดลองนี้สนับสนุนความคิดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในการสร้างสัจพจน์ข้อที่สองของทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ จากผลงานนี้ทำให้อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสันได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2450 โดยถือเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล[21]

คณะที่เปิดสอน[แก้]

University Hospitals of Cleveland (UH) เป็นโรงพยาบาลประจำของคณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
Peter B. Lewis Building ที่ตั้งของคณะบริหารธุรกิจ (Weatherhead School of Management) ออกแบบโดยแฟรงก์ เกห์รี
Adelbert Hall ตึกเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยก่อตั้งครั้งแรกในปี ค.ศ. 1882 ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานอธิการบดี

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟมีคณะและวิทยาลัยทั้งหมด 9 วิทยาลัยดังนี้[22]

  • วิทยาลัยศิลปะและวิทยาศาสตร์ (College of Arts and Sciences) [23]
    • มานุษยวิทยา
    • ประวัติศาสตร์ศิลป์และศิลปะ
    • ศิลปศึกษา (Art Education)
    • ดาราศาสตร์
    • ชีววิทยา
    • เคมี
    • Classics
    • Cognitive Science
    • นิเทศศาสตร์ (Communication Sciences)
    • ภาษาอังกฤษ
    • ธรณีวิทยา (Geological Sciences)
    • ประวัติศาสตร์
    • คณิตศาสตร์
    • ภาษาสมัยใหม่และวรรคดี (Modern Languages and Literatures)
    • ดนตรี
    • ปรัชญา
    • ฟิสิกส์
    • รัฐศาสตร์
    • จิตวิทยา
    • ศาสนาศึกษา (Religious Studies)
    • สังคมศาสตร์
    • สถิติศาสตร์
    • Dance
    • ศิลปะการแสดง (Theater Arts)
  • ทันตแพทยศาสตร์ (School of Dental Medicine)
  • วิศวกรรมศาสตร์ (Case School of Engineering) [24]
    • ภาควิชาวิศวกรรมชีวเวช (Department of Biomedical Engineering) [25]
    • ภาควิชาวิศวกรรมเคมี (Department of Chemical Engineering) [26]
    • ภาควิชาวิศวกรรมโยธา (Department of Civil Engineering) [27]
    • ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Department of Electrical Engineering and Computer Science) [28]
    • ภาควิชาวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์แมคโครโมเลกุล (Department of Macromolecular Science and Engineering) [30]
    • ภาควิชาวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์วัสดุ (Department of Materials Science and Engineering) [31]
    • ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมการบินและอวกาศยาน (Department of Mechanical and Aerospace Engineering) [32]
    • ภาควิชาวิศวกรรมฟิสิกส์ (Engineering Physics) [33]
    • ศูนย์วิจัยและสถาบันย่อย
      • Case Center for Surface Engineering
      • Center for Cardiovascular Biomaterials
      • Center for Layered Polymeric Systems
      • Center for Mechanical Characterization of Materials
      • Center foe Modeling Integrated Metabolic Systems
      • Cleveland Functional Electrical Stimulation Center
      • Electronics Design Center
      • Great Lakes Energy Institute
      • Institute for Advanced Materials
      • Neural Engineering Center
      • Swagelok Center for Surface Analysis of Materials
      • Technology and Health institute at Case
      • The Institute for Management and Engineering
      • think[box]
      • Yeager Center for Electrochemical Sciences
  • วิทยาลัยกฎหมาย (Case Western Reserve University Franklin Thomas Backus School of Law)
  • วิทยาลัยบริหารธุรกิจ (Weatherhead School of Management)
  • วิทยาลัยแพทยศาสตร์ (School of Medicine) ซึ่งแบ่งออกเป็น
  • วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์ (Frances Payne Bolton School of Nursing)
  • วิทยาลัยสังคมศาสตร์ (Mandel School of Applied Social Sciences)
  • บัณฑิตวิทยาลัย (School of Graduate Studies)

หมายเหตุ: นอกจากคณะและวิทยาลัยดังที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีศูนย์วิจัยและสถาบันย่อยในแต่ละคณะอีก

บริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัย[แก้]

สถาบันการดนตรีแห่งคลีฟแลนด์ เป็นสถาบันทางด้านดนตรีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บริเวณ University Circle
พิพิธภัณฑ์ศิลปคลีฟแลนด์ บริเวณด้านหน้าติดกับสระน้ำและสวนสาธารณะ
หอเซฟเวอร์เรินซ์ เป็นโรงแสดงหลักของวงคลีฟแลนด์ออเคสตร้า

พื้นที่โดยรอบมีประมาณ 8 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของตัวเมืองคลีฟแลนด์ โดยที่บริเวณมหาวิทยาลัยนั้นเป็นบริเวณที่เรียกว่า University Circle กินพื้นที่ประมาณ 550 เอเคอร์ (2.2 ตารางกิโลเมตร) โดยใน University Circle นี้เป็นบริเวณที่เป็นศูนยกลางของวัฒนธรรมของเมืองคลีฟแลนด์ อันประกอบด้วย สถาบันการศึกษาทั้งทางด้านวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง พิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ และศิลปะ โรงอุปรากร ห้องสมุด โดยมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ เองก็มีหลักสูตรหลายหลักสูตรที่ไปใช้ประโยชน์และแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างกันอย่างเหนี่ยวแน่น สถาบันและสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเหล่านี้ประกอบด้วย


  • พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาคลีฟแลนด์ (Cleveland Museum of Natural History)
  • พิพิธภัณฑ์แห่งสมาคมประวัติศาสตร์เวสเทิร์นรีเสิร์ฟ (Western Reserve Historical Society) เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองคลีฟแลนด์
  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะคลีฟแลนด์ (Cleveland Museum of Art)
  • สถาบันศิลปะคลีฟแลนด์ (Cleveland Institute of Art)
  • ศูนย์การฟังและการพูดคลีฟแลนด์ (Cleveland Hearing & Speech Center)
  • โรงอุปรากรคลีฟแลนด์ (Cleveland Play House)
  • ชุมชนชาวอิตาลี (Little Italy)
  • หอเซฟเวอร์เรินซ์ (Severance Hall) เป็นที่จัดแสดงของวงคลีฟแลนด์ออเคสตร้า (Cleveland Orchestra)
  • สวนพฤกษชาติคลีฟแลนด์ (Cleveland Botanical Garden)
  • สถาบันการดนตรีคลีฟแลนด์และโรงเรียนการดนตรีคลีฟแลนด์ (Cleveland Institute of Music and the Cleveland Music School Settlement)
  • Cleveland Cinematheque โรงภาพยนตร์ของมหาวิทยาลัย
  • ศูนย์การแพทย์เคส (Case Medical Center)
  • ศูนย์การแพทย์ทหารผ่านศึก (Louis Stokes Veteran's Administration Medical Center)
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของสมาคมเวสเทิร์นรีเสิร์ฟและพิพิธภัณฑ์รถและเครื่องบินคลอฟรอด์ (Western Reserve Historical Society and Crawford Auto-Aviation Museum)
  • พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งคลีฟแลนด์ (Children's Museum of Cleveland)
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การแพทย์ดิสทริซ (Dittrick Museum of Medical History)
  • สุสาน เล็ค วิว (Lake View Cemetery) เป็นสุสานที่เก็บร่างของ เจมส์ การ์ฟีลด์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 20 ของสหรัฐอเมริกา และ จอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์ นักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกาเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์ และผู้ก่อตั้งก่อตั้งมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์
  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยคลีฟแลนด์ (Museum of Contemporary Art Cleveland) (อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง)
  • คลีฟแลนด์คลินิก (Cleveland Clinic) เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองคลีฟแลนด์ และจัดเป็นหน่วยงานที่ไม่ใช่งานของรัฐที่ใหญ่ที่สูงสุดในเมือง โดยมีลูกจ้างเป็นจำนวนถึง 37,000 คน[34] และได้รับการจัดอันดันโดย ยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต [35] ให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านหทัยวิทยา (Cardiology), การผ่าตัดหัวใจ (Heart Surgery), วักกวิทยา (Nephrology) และ วิทยาทางเดินอาหาร (gastroenterology)

การจัดอันดับมหาวิทยาลัย[แก้]

อันดับมหาวิทยาลัย
ระดับชาติ
ARWU (2555) 53 [36]
Forbes (2555) 165 [37]
U.S. News & World Report (2554) 37[38]
Washington Monthly (2555) 7[39]
ระดับนานาชาติ
ARWU (2555) 99 [36]
Times (2555 - 2556) 104 [40]
QS World (2555) 164 [41]
อันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก
2011 2010 2009 2008 2007 2006 2005 2004 2003
Times Higher World University Rankings 65 119 90 85 60 109 88
QS World University Rankings 127 119 90 85 60 60
Academic Ranking of World Universities 97 87 83 78 70 69 65 51
Ranking Web of World Universities [42] 359 284 233
Higher Education Evaluation & Accreditation of Taiwan[43] 88 82 67 79
อันดับมหาวิทยาลัยโลกที่จัดโดย QS World University Rankings จำแนกตามสาขาวิชา [44]
2011 [45] 2010 2009 2008 2007 2006 2005
ภาพรวม 145 127 119 90 85 60 60
ศิลปกรรมศาสตร์ และ มนุษยศาสตร์ (Arts & Humanities) - - 298 294 307 - -
วิทยาศาสตร์ (Natural Sciences) - - 250 252 192 - -
วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Engineering & IT) 264 262 175 149 144 - -
สังคมศาสตร์ (Social Sciences) - 351-400 275 239 265 - -
วิทยาศาสตร์ชีวภาพและการแพทย์ (Life Sciences) 224 166 135 76 61 - -

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเฉพาะภายในสหรัฐอเมริกา[แก้]

  • การจัดอันดับของ US News และของ World Report National Rankingsในรอบ 5 ปี
ระดับปริญาญาบัณฑิต 2011 2010 2009 2008 2007
ภาพรวม 41 41
ความคุ้มค่า (Best Value) 35 28
วิศวกรรมชีวเวช (Biomedical Engineering) 9 9
การบริหารจัดการ (Management) 31
วิศวกรรมศาสตร์ 45 45
แพทยศาสตร์ 2011 2010 2009 2008 2007
ภาพรวม 20
การวิจัย 22
Primary care 55
AIDS 16
เวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) 12 15
Internal medicine 27
กุมารเวช (Pediatrics) 14 16
วิศวกรรมศาสตร์ 2011 2010 2009 2008 2007
ภาพรวม 45 45 41
วิศวกรรมชีวเวช (Biomedical Engineering) 11 12
วิศวกรรมการบินและอวกาศยาน (Aerospace Engineering) 33 30
วิศวกรรมและวิทยาศาสตร์วัสดุ (Materials Science) 35 25
วิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering) 35 36
วิศวกรรมไฟฟ้าและการสือสาร (Electrical Engineering and Comunication) 46
วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) 54
วิศวกรรมเคมี (Chemical Engineering) 41
วิศวกรรมโยธา (Civil Science) 53
พยาบาลศาสตร์ National Rank
ภาพรวม 15
การพยาบาลผู้สูงอายุ (Gerontological Nursing) 4
วิสัญญีพยาบาล (Nurse Anesthesia) 11
การพยาบาลเวชปฏิบัติเด็ก (Pediatric Nurse Practitioner) 13
การพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว (Family Nurse Practitioner) 16
การพยาบาลผดุงครรภ์ (Nurse Midwifery) 21

การเดินทาง[แก้]

การเดินทางหลักที่จะเข้าถึงมหาวิทยาลัยได้หลายทาง โดยทางที่สะดวกและสามารถเดินทางมามหาวิทยาลัยได้ด้วยตัวเองมีดังต่อไปนี้

  • ทางรถประจำทาง
  • Circle Link ทางรถประจำทางภายในบริเวณ University Circle [52]

ผลงานวิจัย[แก้]

อนุเสาวรีรำลึกถึงการทดลอง การทดลองของไมเคิลสัน-มอร์เลย์ สร้างขึ้นในโอกาส 100 ปีชาตะกาลของ อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสัน
รถอัตโนมัต DEXTER ของทีมเคส ในการแข่งขัน DARPA Grand Challenge (2007)
  • การช็อคกระตุ้นการเต้นของหัวใจ (Heart defibrillation) กับมนุษย์ถูกใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2490 โดย Claude Beck อาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์
  • มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟเคยถูกใช้เป็นสถานที่ทดลองพิสูจน์การมีตัวตนของอีเทอร์ หรือที่เรียกว่าการทดลองของไมเคิลสัน-มอร์เลย์ (Michelson-Morley interferometer experiment) ในปี พ.ศ. 2430 โดย อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสัน (Albert Abraham Michelson) จากสถาบันเทคโนโลยีเคสและ เอ็ดเวิร์ด ดับบิว มอร์ลีย์ (Edward W. Morley) จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ ซึ่งการทดลองนี้สนับสนุนความคิดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในการสร้างสัจพจน์ข้อสองของทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ (สมมติฐานข้อที่สอง:ความไม่แปรเปลี่ยนของ ) ว่าแสงมีความเร็วคงที่เสมอไม่ว่าต้นกำเนิดแสงจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไรก็ตาม จากผลงานนี้ทำให้อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสันได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2450 โดยถือเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล[21]
  • การหาน้ำหนักอะตอมของออกซิเจนได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2438 โดย ศ.มอร์ลีย์ ซึ่งการค้นพบนี้ได้เป็นแม่แบบให้แก่การคำนวณหาน้ำหนักอะตอมของธาตุอื่นๆ
  • การฉายรังสีเอกซ์ลงบนตัวมนุษย์ทั้งตัวครั้งแรกโดย Prof. Dayton C. Miller โดยใช้ร่างของเขาเองเมื่อ พ.ศ. 2439
  • การตรวจจับนิวตริโนได้เป็นครั้งแรกและการพัฒนาเครื่องตรวจจับโดย Prof. Frederick Reines เมื่อปี พ.ศ. 2508 ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้เลือก Prof. Frederick Reines เป็นหัวหน้าภาควิชาประจำภาคฟิสิกส์และ Prof. Frederick Reines ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์จากผลงานนี้ในปีพ.ศ. 2538
  • สร้างโครโมโซมเทียมขึ้นมาเป็นครั้งแรกโดยการค้นพบนี้จะทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับพันธุกรรม ของมนุษย์และหนทางใหม่ๆที่จะรักษาผู้ป่วยโดยวิธียีนบำบัด (gene therapy) โดย Prof. Huntington F. Willard จาก the School of Medicine and University Hospitals of Clevelandโดยความร่วมมือกับ Athersys, Inc.,ในปี พ.ศ. 2540
  • ในปี พ.ศ. 2550 มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟได้เข้าร่วมการแข่งขัน DARPA Grand Challenge (2007) ซึ่งเป็นการแข่งขันรถที่วิ่งได้เองโดยอัตโนมัตโดยส่งหุ่นยนต์ชื่อ DEXTER เข้าร่วมการแข่งขันโดยทีมจากมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟสามารถเข้ารอบ 36 ทีมสุดท้ายได้[53]
  • โรเจอร์ ควินน์ (Roger Quinn) พัฒนาหุ่นยนต์ Whegs เลียนแบบแมลงสาบและแมลงที่มีความสามารถในการไต่สภาพพื้นผิวชัน (Case Biorobotics Lab) [54][55][56][57][58][59]

บุคคลที่มีชื่อเสียง[แก้]

โดนัลด์ คนูธ นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ และผู้ชนะรางวัลทัวริงและคิดค้นระบบสร้างเอกสาร TeX
เครก นิวมาร์ก ผู้ก่อตั้ง เครกส์ลิสต์
T. Keith Glennan อธิการบดีมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ และเป็นผู้อำนวยการคนแรกขององค์การนาซา

รางวัลโนเบล [4][แก้]

Ferid Murad รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ร่วม พ.ศ. 2541
อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสัน ชาวอเมริกันคนแรกที่รับรางวัลโนเบลในสาขาฟิสิกส์ เมือปี ค.ศ. 1907
ชาวอเมริกันผู้ได้รับรางวัลโนเบล 6 คน ประจำปี ค.ศ. 2003 ร่วมถ่ายรูปกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช Paul C. Lauterbur และ Peter Agre เป็นคนที่หนึ่งและสองจากขวาตามลำดับ

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟมีจำนวนนักวิจัย
(ทั้งได้รับรางวัลก่อนเป็นนักวิจัยที่นี้หรือรับรางวัลหลังจากนั้น) และศิษย์เก่า รวม 16 ท่านดังนี้[66]
ศิษย์เก่า


นักวิจัย

  • Peter Agre รางวัลโนเบลสาขาเคมี ร่วม ปี ค.ศ. 2003 สำหรับการค้นพบช่องทางเข้าออกของน้ำของเซลล์ (aquaporins)


นักวิจัยก่อนที่ได้รับรางวัล

  • Corneille Heymans รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ค.ศ. 1938 สำหรับงานวิจัยในเรื่อง carotid sinus reflex
  • George H. Hitchings รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ร่วม ค.ศ. 1988 สำหรับการวิจัยที่นำไปสู่การพัฒนาของยาที่ใช้รักษาโรคลูคีเมีย (leukemia) , การไม่ยอมรับอวัยวะหลังเปลี่ยนถ่ายอัวยวะ (organ transplant rejection) , โรคเกาต์, ไวรัสเริม และ การติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียและการติดเชื้อในปอดในผู้ป่วยโรคเอดส์
  • John James Richard Macleod รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ร่วม ค.ศ. 1923 สำหรับการค้นพบอินซูลิน
  • อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสัน รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ค.ศ. 1907 ถือเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล สำหรับการพิสูจน์ได้ว่า อีเทอร์ ไม่มีจริง[21]
  • George A. Olah รางวัลโนเบลสาขาเคมี ค.ศ. 1994 สำหรับความทุ่มเทในการศึกษา carbocation chemistry
  • Frederick Reines รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ร่วม ค.ศ. 1995 สำหรับการตรวจจับ นิวตริโน ได้เป็นครั้งแรก
  • Frederick C. Robbins รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ร่วม ค.ศ. 1954 สำหรับการวิจัยด้านไวรัสโปลิโอซึ่งนำไปสู่การสร้างวัคซีนโปลิโอ และเป็นอดีตประธานของ (the Institute of Medicine of the National Academy of Sciences)
  • Earl Wilbur Sutherland Jr. รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ค.ศ. 1971 สำหรับงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถือความสำคัญและเอกลักษณ์ของ Cyclic adenosine monophosphate (cAMP) ของเซลล์ในกระบวนการเมตาบอลิซึม

อ้างอิง[แก้]

  1. "Visiting Case: Case Western Reserve". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 12, 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-05-31.
  2. 2.0 2.1 2.2 ": Case Western Reserve University at a glance". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 30, 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-04-06.
  3. 3.00 3.01 3.02 3.03 3.04 3.05 3.06 3.07 3.08 3.09 3.10 2011 - 2012 Annual Report[ลิงก์เสีย]
  4. 4.0 4.1 "Corporate Relations Nobel Laureates from Case Western". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 13, 2010. สืบค้นเมื่อ 2013-04-18.
  5. "Marketing&Communications: Case Western Reserve University". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 18, 2008. สืบค้นเมื่อ 2011-07-06.
  6. "Case Western Reserve University Varsity Sports". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 15, 2006. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  7. "U.S. and Canadian Institutions Listed by Fiscal Year 2012 Endowment Market Value and Percentage Change in Endowment Market Value from FY 2011 to FY 2012" (PDF). National Association of College and University Business Officers (NACUBO). 2013-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ February 16, 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-02-01. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  8. "2011 NACUBO-Commonfund Study of Endowments Results" (PDF). National Association of College and University Business Officers (NACUBO). 2012-01-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ October 29, 2013. สืบค้นเมื่อ 2012-01-31.
  9. "US News and World Report: Research Rannking (Medical School)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 5, 2012. สืบค้นเมื่อ 2009-08-18.
  10. US News and World Report: Research Rannking (Medical School) CWRU[ลิงก์เสีย]
  11. US News and World Report: Best Nursing Graduate Schools (CWRU)[ลิงก์เสีย]
  12. US News and World Report: Best LAW Schools (CWRU)[ลิงก์เสีย]
  13. US News and World Report: Best Engineering Graduate Schools
  14. US News and World Report: Best Engineering Graduate Schools (CWRU)[ลิงก์เสีย]
  15. "US News and World Report: Best Colleges - Specialty Rankings (Biomedical Engineeering)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 16, 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-08-18.
  16. University Rankings
  17. "Department of Biomedical Engineering: Case Western Reserve University". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-05-30.
  18. รายงานประจำปี 2010 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์[ลิงก์เสีย]
  19. Creating Energy Solutions: From Generation to Storage & Efficiency
  20. "สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา: สถานศึกษาที่นักเรียนทุนฯ มาศึกษามากที่สุด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 3, 2008. สืบค้นเมื่อ 2009-08-18.
  21. 21.0 21.1 21.2 21.3 รายชื่อผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ค.ศ. 1907
  22. [1][ลิงก์เสีย]
  23. วิทยาลัยศิลปะและวิทยาศาสตร์[ลิงก์เสีย]
  24. "The General Bulletin 2009-2011 (วิศวกรรมศาสตร์)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  25. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมชีวเวช)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  26. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมเคมี)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  27. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมโยธา)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  28. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  29. Control System Engineering Course at CWRU info[ลิงก์เสีย]
  30. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์แมคโครโมเลกุล)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  31. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์วัสดุ)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  32. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมการบินและอวกาศยาน)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  33. "The General Bulletin 2009-2011 (ภาควิชาวิศวกรรมฟิสิกส์)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-07-20.
  34. "ข้อมูลการพัฒนาในรัฐโอไฮโอ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ December 31, 2008. สืบค้นเมื่อ 2011-09-29.
  35. http://health.usnews.com/best-hospitals/rankings/heart-and-heart-surgery
  36. 36.0 36.1 "Academic Ranking of World Universities: National". Institute of Higher Education, Shanghai Jiao Tong University. 2012 เก็บถาวร พฤษภาคม 11, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เข้าถึงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
  37. "America's Best Colleges". Forbes. 2012. , เข้าถึงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
  38. "National Universities Rankings". U.S. News & World Report. September 13, 2011 เก็บถาวร สิงหาคม 4, 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เข้าถึงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
  39. "The Washington Monthly National University Rankings". The Washington Monthly. 2012 เก็บถาวร สิงหาคม 30, 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เข้าถึงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
  40. "World University Rankings 2012-2013". The Times Higher Education. 2012 - 2013. เข้าถึงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
  41. "QS World University Rankings". QS Quacquarelli Symonds Limited. 2012., เข้าถึงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
  42. http://www.webometrics.info/index.html เก็บถาวร กันยายน 13, 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน"
  43. http://ranking.heeact.edu.tw/en-us/2010/homepage/
  44. Case Western Reserve University World University Ranking
  45. World University Ranking 2011
  46. [US News #20 in 2010: http://grad-schools.usnews.rankingsandreviews.com/best-graduate-schools/top-medical-schools/research-rankings เก็บถาวร มิถุนายน 5, 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน]
  47. [Case's 2009 Engineering US New's ranking - http://grad-schools.usnews.rankingsandreviews.com/best-graduate-schools/top-engineering-schools/rankings เก็บถาวร 2011-01-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน]
  48. "- Case's 2007 Nursing US New's ranking". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-14. สืบค้นเมื่อ 2011-07-07.
  49. ตารางการเดินรถไฟและรถประจำทางของ Greater Cleveland Regional Transit Authority (RTA)[ลิงก์เสีย]
  50. : RTA HealthLine
  51. : แผนที่ของระบบทางเดินรถไฟฟ้าของเมืองคลีฟแลนด์
  52. [2]
  53. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 10, 2015. สืบค้นเมื่อ 2011-06-09.
  54. : Case Biorobotics Lab
  55. http://biorobots.cwru.edu/2004_1020-QuinnBio.pdf : Roger Quinn CV
  56. http://engineering.case.edu/emae/index.php?q=Faculty/Roger_Quinn เก็บถาวร มีนาคม 4, 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน : Roger Quinn 's page at Case
  57. http://www.greatlakesgeek.com/podaudio/bios/roger-quinn.htm : Interviews with Roger Quinn
  58. http://biorobots.cwru.edu/projects/whegs/:Whegs™ Series Robots
  59. http://biorobots.cwru.edu/publications/clawar01mobility.pdf: Insect Designs for Improved Robot Mobility
  60. ":Mihajlo D. Mesarovic's page". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 10, 2012. สืบค้นเมื่อ 2011-07-01.
  61. Mihajlo D. Mesarovic at Mathematics Genealogy Project
  62. ดับบิว บล็อกเก็ตส์ ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด[ลิงก์เสีย]
  63. : Roger W. Brockett at Mathematics Genealogy Project
  64. ชีวประวัติ T. Keith Glennan [ลิงก์เสีย]
  65. ชีวประวัติ T. Keith Glennan
  66. Case Western Reserve: Nobel Laureates

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]