ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท"
ล เพิ่มหมวดหมู่:บุคคลในปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ดด้วยฮอทแคต |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox military person |
{{Infobox military person |
||
|name= คาร์ล รู |
|name= คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท |
||
|image= [[ไฟล์:Bundesarchiv Bild 183-S37772, Gerd v. Rundstedt.jpg|250px]] |
|image= [[ไฟล์:Bundesarchiv Bild 183-S37772, Gerd v. Rundstedt.jpg|250px]] |
||
|คำอธิบาย= คาร์ล รู |
|คำอธิบาย= คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท |
||
|birth_date= [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]] |
|birth_date= [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]] |
||
|death_date= [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]] |
|death_date= [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]] |
||
บรรทัด 8: | บรรทัด 8: | ||
|death_place=[[ฮันโนเฟอร์]] [[รัฐนีเดอร์ซัคเซิน]] [[เยอรมนีตะวันตก]] |
|death_place=[[ฮันโนเฟอร์]] [[รัฐนีเดอร์ซัคเซิน]] [[เยอรมนีตะวันตก]] |
||
|nickname= "อัศวินดำ" |
|nickname= "อัศวินดำ" |
||
|branch=[[กองทัพบก ( |
|branch=[[กองทัพบก (แวร์มัคท์)|กองบัพบก]] |
||
|serviceyears= ค.ศ. 1892 - 1945 |
|serviceyears= ค.ศ. 1892 - 1945 |
||
|rank=[[จอมพล]] |
|rank=[[จอมพล]] |
||
|allegiance={{flag|German Empire}} <br/>{{flag|Weimar Republic}}<br/>{{flag|Nazi Germany}} |
|allegiance={{flag|German Empire}} <br/>{{flag|Weimar Republic}}<br/>{{flag|Nazi Germany}} |
||
|branch=[[กองทัพบกเยอรมัน ( |
|branch=[[กองทัพบกเยอรมัน (แวร์มัคท์)|กองทัพบก]] |
||
|battles= [[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]<br>[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] |
|battles= [[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]<br>[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] |
||
|awards=[[กางเขนเหล็กกางเขนอัศวิน]]<br /> |
|awards=[[กางเขนเหล็กกางเขนอัศวิน]]<br /> |
||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
}} |
}} |
||
'''คาร์ล รู |
'''คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท''' ({{lang-de|Karl Rudolf Gerd von Rundstedt}}; [[12 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1875]] - [[24 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1953]]) เป็น[[จอมพล]]แห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ผู้ได้รับสมญานามว่า '''อัศวินดำ''' (Black Knight) |
||
== สงครามโลกครั้งที่สอง == |
== สงครามโลกครั้งที่สอง == |
||
⚫ | |||
⚫ | แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม [[ค.ศ. 1940]] และมีส่วนในการวางแผน[[ปฏิบัติการสิงโตทะเล]] เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของ[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|เนเธอร์แลนด์]] [[ประเทศเบลเยียม|เบลเยียม]] และ[[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]] |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
=== ปฏิบัติการบาร์บารอสซา === |
=== ปฏิบัติการบาร์บารอสซา === |
||
บรรทัด 30: | บรรทัด 29: | ||
{{ดูเพิ่มที่|ปฏิบัติการบาร์บารอสซา|แนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}} |
{{ดูเพิ่มที่|ปฏิบัติการบาร์บารอสซา|แนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}} |
||
ระหว่างปฏิบัติการบาร์บารอสซา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน [[ค.ศ. 1941]] เขาได้รับมอบอำนาจบัญชาการกองทัพกลุ่มใต้ ซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารราบ 52 หน่วย และกองพล |
ระหว่างปฏิบัติการบาร์บารอสซา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน [[ค.ศ. 1941]] เขาได้รับมอบอำนาจบัญชาการกองทัพกลุ่มใต้ ซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารราบ 52 หน่วย และกองพลพันท์เซอร์ 5 หน่วย บุกเข้าไปใน[[สหภาพโซเวียต]] เมื่อถึงเดือนกันยายน กองทัพกลุ่มใต้สามารถยึด[[เคียฟ]] ในปฏิบัติการโอบล้อมสองครั้ง ทำให้สตาลินจำเป็นต้องละทิ้งเมืองไว้ กองทัพเยอรมันอ้างว่าตนสามารถจับเชลยศึกชาวโซเวียตได้กว่า 665,000 นาย หลังจากนั้น จึงเป็นผู้บัญชาการการโจมตีคาร์คอฟและรอสตอฟในเวลาต่อมา เขามีความเห็นคัดค้านการเดินหน้ารุกรานสหภาพโซเวียตต่อไปในฤดูหนาวและแนะนำให้ฮิตเลอร์สั่งหยุดการโจมตีไว้ก่อน แต่ข้อเสนอของเขาไม่ได้รับความเห็นชอบ |
||
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 เขาเกิดอาการ[[กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด]] แต่เขาปฏิเสธที่จะได้รับการรักษาพยาบาล และยืนยันที่จะบัญชาการรบต่อไป หลังจากตีได้รอสตอฟ เมื่อวันที่ [[21 พฤศจิกายน]] แล้ว แต่กองทัพเยอรมันถูกตีโต้กลับมา เขาจึงสั่งการให้กองทัพบางส่วนล่าถอย ฮิตเลอร์โกรธมาก จึงสั่งให้นายพล[[วัลเทอร์ |
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 เขาเกิดอาการ[[กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด]] แต่เขาปฏิเสธที่จะได้รับการรักษาพยาบาล และยืนยันที่จะบัญชาการรบต่อไป หลังจากตีได้รอสตอฟ เมื่อวันที่ [[21 พฤศจิกายน]] แล้ว แต่กองทัพเยอรมันถูกตีโต้กลับมา เขาจึงสั่งการให้กองทัพบางส่วนล่าถอย ฮิตเลอร์โกรธมาก จึงสั่งให้นายพล[[วัลเทอร์ ฟ็อน ไรเชอเนา]] บัญชาการรบแทน |
||
=== แนวรบด้านตะวันตก === |
=== แนวรบด้านตะวันตก === |
||
บรรทัด 38: | บรรทัด 37: | ||
{{ดูเพิ่มที่|แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}} |
{{ดูเพิ่มที่|แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)}} |
||
ฮิตเลอร์เรียกตัว |
ฮิตเลอร์เรียกตัวแกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1942]] แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ [[ค.ศ. 1943]] ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย จนเมื่อ[[แอร์วีน ร็อมเมิล]] ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง |
||
ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้าน |
ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟ็อน รุนท์ชเต็ทถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขต[[นอร์ม็องดี]] ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง |
||
หลังจาก[[การรุกราน |
หลังจาก[[การรุกรานนอร์ม็องดี|การยกพลขึ้นบกในนอร์ม็องดี]] เมื่อเดือนมิถุนายน [[ค.ศ. 1944]] เขาได้กระตุ้นให้ฮิตเลอร์เจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อเขาถูกปฏิเสธ ว่ากันว่า เขาได้ระเบิดออกมาว่า "''สงบศึกซะ ไอ้โง่''" ฮิตเลอร์ได้ปลดเขาออก และแทนที่โดยจอมพล [[กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ]] |
||
กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1944 เขาได้รับตำแหน่งในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เขาได้รวบรวมกองกำลังเพื่อต่อกรกับ[[ปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดน]]อย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ เขาถูกปลดออกจากกองบัญชาการอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1945]] เนื่องจากเขาบอกกับเคย์เทลว่า ฮิตเลอร์ควรจะเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดีกว่าสู้รบในสงครามอันสิ้นหวังนี้ |
กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1944 เขาได้รับตำแหน่งในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เขาได้รวบรวมกองกำลังเพื่อต่อกรกับ[[ปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดน]]อย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ เขาถูกปลดออกจากกองบัญชาการอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม [[ค.ศ. 1945]] เนื่องจากเขาบอกกับเคย์เทลว่า ฮิตเลอร์ควรจะเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดีกว่าสู้รบในสงครามอันสิ้นหวังนี้ |
||
== หลังสงคราม == |
== หลังสงคราม == |
||
⚫ | ในวันที่ [[1 พฤษภาคม]] [[ค.ศ. 1945]] เขาถูกกองพลทหารราบที่ 36 แห่งสหรัฐอเมริกาจับกุม ระหว่างการถูกควบคุมตัว เขาประสบกับภาวะหัวใจขาดเลือดอีกครั้งหนึ่ง และได้ถูกนำตัวไปพิจารณาคดีที่เกาะอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษแจ้งข้อกล่าวหาเขาในฐานะอาชญากรสงคราม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสุขภาพอันย่ำแย่ของเขา เขาจึงถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการพิจารณาคดีใน [[ค.ศ. 1948]] และอาศัยอยู่ใน[[ฮันโนเฟอร์]] จนกระทั่งเสียชีวิต |
||
⚫ | ในวันที่ [[1 พฤษภาคม]] [[ค.ศ. 1945]] เขาถูก |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{คอมมอนส์|Gerd von Rundstedt}} |
{{คอมมอนส์|Gerd von Rundstedt|แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท}} |
||
* Bungay, Stephen. ''The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain''. London: Aurum Press 2000. ISBN 1-85410-721-6(hardcover), ISBN 1-85410-801-8(paperback 2002). |
* Bungay, Stephen. ''The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain''. London: Aurum Press 2000. ISBN 1-85410-721-6(hardcover), ISBN 1-85410-801-8(paperback 2002). |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:20, 24 สิงหาคม 2561
คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท | |
---|---|
ชื่อเล่น | "อัศวินดำ" |
เกิด | 12 ธันวาคม ค.ศ. 1875 อัสเชอร์เลเบน จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 ฮันโนเฟอร์ รัฐนีเดอร์ซัคเซิน เยอรมนีตะวันตก |
รับใช้ | เยอรมนี เยอรมนี ไรช์เยอรมัน |
แผนก/ | กองทัพบก |
ประจำการ | ค.ศ. 1892 - 1945 |
ชั้นยศ | จอมพล |
การยุทธ์ | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง |
บำเหน็จ | กางเขนเหล็กกางเขนอัศวิน กางเขนเหล็ก |
คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท (เยอรมัน: Karl Rudolf Gerd von Rundstedt; 12 ธันวาคม ค.ศ. 1875 - 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953) เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ได้รับสมญานามว่า อัศวินดำ (Black Knight)
สงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น เขาถูกเรียกตัวกลับมารับราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำกองทัพกลุ่มใต้ระหว่างการรุกรานโปแลนด์ และในระหว่างการรบในฝรั่งเศส เขาได้บัญชาการกองพลพันท์เซอร์ 7 หน่วย กองพลยานยนต์ทหารราบ 3 หน่วย และกองพลทหารราบ 35 หน่วย
แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 และมีส่วนในการวางแผนปฏิบัติการสิงโตทะเล เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส
ปฏิบัติการบาร์บารอสซา
ระหว่างปฏิบัติการบาร์บารอสซา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1941 เขาได้รับมอบอำนาจบัญชาการกองทัพกลุ่มใต้ ซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารราบ 52 หน่วย และกองพลพันท์เซอร์ 5 หน่วย บุกเข้าไปในสหภาพโซเวียต เมื่อถึงเดือนกันยายน กองทัพกลุ่มใต้สามารถยึดเคียฟ ในปฏิบัติการโอบล้อมสองครั้ง ทำให้สตาลินจำเป็นต้องละทิ้งเมืองไว้ กองทัพเยอรมันอ้างว่าตนสามารถจับเชลยศึกชาวโซเวียตได้กว่า 665,000 นาย หลังจากนั้น จึงเป็นผู้บัญชาการการโจมตีคาร์คอฟและรอสตอฟในเวลาต่อมา เขามีความเห็นคัดค้านการเดินหน้ารุกรานสหภาพโซเวียตต่อไปในฤดูหนาวและแนะนำให้ฮิตเลอร์สั่งหยุดการโจมตีไว้ก่อน แต่ข้อเสนอของเขาไม่ได้รับความเห็นชอบ
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 เขาเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่เขาปฏิเสธที่จะได้รับการรักษาพยาบาล และยืนยันที่จะบัญชาการรบต่อไป หลังจากตีได้รอสตอฟ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน แล้ว แต่กองทัพเยอรมันถูกตีโต้กลับมา เขาจึงสั่งการให้กองทัพบางส่วนล่าถอย ฮิตเลอร์โกรธมาก จึงสั่งให้นายพลวัลเทอร์ ฟ็อน ไรเชอเนา บัญชาการรบแทน
แนวรบด้านตะวันตก
ฮิตเลอร์เรียกตัวแกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1943 ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย จนเมื่อแอร์วีน ร็อมเมิล ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง
ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟ็อน รุนท์ชเต็ทถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขตนอร์ม็องดี ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง
หลังจากการยกพลขึ้นบกในนอร์ม็องดี เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 เขาได้กระตุ้นให้ฮิตเลอร์เจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อเขาถูกปฏิเสธ ว่ากันว่า เขาได้ระเบิดออกมาว่า "สงบศึกซะ ไอ้โง่" ฮิตเลอร์ได้ปลดเขาออก และแทนที่โดยจอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ
กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1944 เขาได้รับตำแหน่งในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เขาได้รวบรวมกองกำลังเพื่อต่อกรกับปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดนอย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ เขาถูกปลดออกจากกองบัญชาการอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1945 เนื่องจากเขาบอกกับเคย์เทลว่า ฮิตเลอร์ควรจะเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดีกว่าสู้รบในสงครามอันสิ้นหวังนี้
หลังสงคราม
ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 เขาถูกกองพลทหารราบที่ 36 แห่งสหรัฐอเมริกาจับกุม ระหว่างการถูกควบคุมตัว เขาประสบกับภาวะหัวใจขาดเลือดอีกครั้งหนึ่ง และได้ถูกนำตัวไปพิจารณาคดีที่เกาะอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษแจ้งข้อกล่าวหาเขาในฐานะอาชญากรสงคราม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสุขภาพอันย่ำแย่ของเขา เขาจึงถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการพิจารณาคดีใน ค.ศ. 1948 และอาศัยอยู่ในฮันโนเฟอร์ จนกระทั่งเสียชีวิต
อ้างอิง
- Bungay, Stephen. The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain. London: Aurum Press 2000. ISBN 1-85410-721-6(hardcover), ISBN 1-85410-801-8(paperback 2002).
- Günther Blumentritt, Von Rundstedt: The Man and the Soldier, London: Odhams Press, 1952
- B. H. Liddell Hart, The German Generals Talk, New York: William and Morrow, 1948, chap. 7
- Charles Messenger, The Last Prussian: A Biography of Field Marshal Gerd von Rundstedt, 1875-1953, London: Brassey's, 1991 ISBN 0-08-036707-0
- Schaulen, Fritjof (2005). Eichenlaubträger 1940 - 1945 Zeitgeschichte in Farbe III Radusch - Zwernemann (in German). Selent, Germany: Pour le Mérite. ISBN 3-932381-22-X.
- Ziemke, Earl, "Gerd Von Rundstedt" in Hitler's Generals, ed. Correlli Barnet, New York: Grove Weidenfeld, 1989