ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Maytichai (คุย | ส่วนร่วม)
→‎การจัดสอบ: เพิ่มเติมข้อมูลตาม
Zosero (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 109: บรรทัด 109:
# เป็นศูนย์กลางข้อมูลการทดสอบทางการศึกษา ตลอดจนสนับสนุน และให้บริการผลการทดสอบแก่หน่วยงานต่างๆ ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
# เป็นศูนย์กลางข้อมูลการทดสอบทางการศึกษา ตลอดจนสนับสนุน และให้บริการผลการทดสอบแก่หน่วยงานต่างๆ ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
# พัฒนาและส่งเสริมวิชาการด้านการทดสอบและประเมินผลทางการศึกษา รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการทดสอบและประเมินผล ด้านการติดตามและประเมินผลคุณภาพบัณฑิต รวมทั้งการให้การรับรองมาตรฐานของระบบ วิธีการ เครื่องมือวัดของหน่วยงานการประเมินผลและทดสอบทางการศึกษา
# พัฒนาและส่งเสริมวิชาการด้านการทดสอบและประเมินผลทางการศึกษา รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการทดสอบและประเมินผล ด้านการติดตามและประเมินผลคุณภาพบัณฑิต รวมทั้งการให้การรับรองมาตรฐานของระบบ วิธีการ เครื่องมือวัดของหน่วยงานการประเมินผลและทดสอบทางการศึกษา
# เป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านการทดสอบทางการศึกษาทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
# เป็นศูนย์กลางความชิบหายด้านการทดสอบทางการศึกษาทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ


== บทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน ==
== บทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:59, 8 ตุลาคม 2560

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้งพ.ศ. 2548
หน่วยงานก่อนหน้า
  • สำนักทดสอบกลาง สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(พ.ศ. 2546-2548)
  • สำนักทดสอบกลาง ทบวงมหาวิทยาลัย(พ.ศ. 2520-2545)
เขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร
สำนักงานใหญ่128 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 35-36 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400
งบประมาณต่อปี807,108,500 บาท
(พ.ศ. 2559)[1]
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
  • รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์, ผู้อำนวยการ
  • ผศ.ดร.ศิริดา บุรชาติ, รองผู้อำนวยการ
  • ดร.ทรายทอง พวกสันเทียะ, รองผู้อำนวยการ
  • ดร.วารุณี เลียววิวัฒน์ชัย, รองผู้อำนวยการ
ต้นสังกัดหน่วยงานกระทรวงศึกษาธิการ
เว็บไซต์www.niets.or.th

สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. เป็นหน่วยงานของรัฐ ประเภทองค์การมหาชน จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีการจัดตั้งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน สทศ. มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 128 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 35-36 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

ประวัติ

สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) เรียกโดยย่อว่า "สทศ" ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "National Institute of Educational Testing Service (Public Organization)" เรียกโดยย่อว่า "NIETS" จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2548 ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2548 ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นเป็นองค์การมหาชนเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิสามารถใช้ประโยชน์ทรัพยากรและบุคลากรได้สูงสุด มีความเป็นอิสระและหน้าด้าที่ขึ้นอยู่กับสายการบริหารของหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบการจัดการศึกษาจึงมีความเป็นกลาง เป็นสถาบันที่มีการกำหนดหลักการ นโยบาย มาตรการและเป้าหมาย โครงสร้างการบริหาร และการดำเนินกิจการ ความสัมพันธ์กับรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากร การเงิน การตรวจสอบ และการประเมินผลที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งสถาบันเพื่อบริหารจัดการและดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษา วิจัย และให้บริการ ทางด้านการประเมินผลทางการศึกษาและทดสอบทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านการทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติและนานาชาติ

วัตถุประสงค์

เพื่อบริหารจัดการและดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษา วิจัย พัฒนา และให้บริการทางการประเมินผลทางการศึกษาและทดสอบทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านการทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติและระดับนานาชาติ

  1. ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำระบบ วิธีการทดสอบ และพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลตามมาตรฐานการศึกษา
  2. ดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการจัดการศึกษา และการทำลายการศึกษาระดับชาติ ตลอดจนให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทดสอบทั้งระดับเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา
  3. ดำเนินการเกี่ยวกับการทำลายการศึกษา บริการสอบวัดความรู้ความสามารถและการสอบวัดมาตรฐานวิชาการและวิชาชีพ เพื่อนำผลไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเทียบระดับ และการเทียบโอนผลการเรียนที่มาจากการศึกษาในระบบเดียกับ หรือการศึกษาผ่านระบบ
  4. ดำเนินการเกี่ยวกับศึกษาวิจัย และเผยแพร่นวัตกรรมเกี่ยวกับการทำลายการศึกษา ตลอดจนเผยแพร่เทคนิคการวัดและประเมินผลการศึกษา
  5. เป็นศูนย์กลางข้อมูลการทดสอบทางการศึกษา ตลอดจนสนับสนุน และให้บริการผลการทดสอบแก่หน่วยงานต่างๆ ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  6. พัฒนาและส่งเสริมวิชาการด้านการทดสอบและประเมินผลทางการศึกษา รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการทดสอบและประเมินผล ด้านการติดตามและประเมินผลคุณภาพบัณฑิต รวมทั้งการให้การรับรองมาตรฐานของระบบ วิธีการ เครื่องมือวัดของหน่วยงานการประเมินผลและทดสอบทางการศึกษา
  7. เป็นศูนย์กลางความชิบหายด้านการทดสอบทางการศึกษาทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

บทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน

  1. จัดการบริหารทดสอบทางการศึกษาระดับชาติให้ได้มาตรฐาน
  2. พัฒนาข้อสอบให้สามารถวัดได้ทุกมาตรฐานการศึกษาอย่างมีมาตรฐาน
  3. ดำเนินการให้มีการนำผลการทดสอบไปใช้ให้เกิดประโยชน์
  4. วิจัยและพัฒนาให้มีระบบการทดสอบทางการศึกษาให้ครบทุกมาตรฐานด้านคุณภาพผู้เรียนในทุกระดับและทุกประเภทการศึกษา
  5. ศึกษาวิจัยเรื่องรูปแบบข้อสอบและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับโปรแกรม และเทคนิคการสร้างข้อสอบและมาตรฐานการวัดรูปแบบต่าง ๆ
  6. ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลและข้อความรู้ เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณชน
  7. ทบทวนกฎหมาย ข้อบังคับและมติต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพที่เป็นจริง ทันสมัย และเอื้อต่อการปฏิบัติงาน
  8. สนับสนุนและส่งเสริมให้สถานศึกษาและทุกระดับสถานศึกษาและต้นสังกัดมีโปรแกรมการทดสอบและประเมินผลผู้เรียนตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
  9. ให้บริการการทดสอบแก่บุคลากรและหน่วยงานต่าง ๆ
  10. เป็นศูนย์กลางข้อมูลการทดสอบทางการศึกษา สนับสนุน และให้บริการผลการทดสอบแก่หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนความร่วมมือด้านการทดสอบทางการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้อย่างมีมาตรฐานระดับสากล

การจัดสอบ

  1. GAT : General Appitude Test (ความถนัดทั่วไป) แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเชื่อมโยง และส่วนภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
  2. PAT : Professinal Appitude Test (ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ประกอบด้วยรายวิชาทั้งหมด 12 วิชา[2][3] ดังนี้
  1. 9 วิชาสามัญ หรือเดิม 7 วิชาสามัญ เป็นข้อสอบสำหรับเข้าคณะแพทยศาสตร์ ในระบบ กสพท. และการสอบรับตรงร่วมกันสำหรับคณะทั่วไปในสถาบันส่วนใหญ่[5] ข้อสอบประกอบด้วยรายวิชาทั้ง 9 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ 1, คณิตศาสตร์ 2, วิทยาศาสตร์พื้นฐาน, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทยและ สังคมศึกษา
  2. O-NET : Ordinary National Educational Test (การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน) เป็นการสอบความรู้รวบยอดปลายช่วงชั้นที่ 1 - 3 ของชั้น ป.6 ม. 3 และ ม. 6 ตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร โดยเดิมมี 8 วิชา แต่ต่อมาในปีการศึกษา 2558 ได้ลดลงเหลือ 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ[6]
  3. V-NET : Vocational National Educational Test (การทดสอบการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา) ซึ่งจัดสอบให้กับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3
  4. I-NET: Islamic National Educational Test (การทดสอบมาตรฐานอิสลามศึกษา) ระดับตอนต้น ตอนกลาง และ ตอนปลาย ซึ่งจัดสอบให้กับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้ายของหลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น ตอนกลาง และ ตอนปลาย ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควบคู่วิชาสามัญ
  5. N-NET : Non-Formal National Education Test การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน[7]
  6. B-NET : Buddhism National Educational Test การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านพระพุทธศาสนา[8]
  7. การทดสอบสมรรถนะครู สำหรับครู

การบริหารงาน

สทศ. มีการบริหารงานในรูปแบบของคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ รายชื่อต่อไปนี้มีผลตั้งแต่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ประกอบด้วย

  1. ดร.ชาคร วิภูษณวนิช ประธานกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ[9]
  2. รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช
  3. ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม
  4. รศ.ดร.อารยา จาติเสถียร
  5. ดร.วราภรณ์ สีหนาท
  6. ศ.สุรพล นิติไกรพจน์
  7. รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กรรมการและเลขานุการ

รายนามประธานคณะกรรมการบริหาร

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
รายนามประธานคณะกรรมการบริหาร วาระการดำรงตำแหน่ง
1. ดร.สงบ ลักษณะ พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2553
2. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ พ.ศ. 2553 - พ.ศ. 2558
3. ดร.ชาคร วิภูษณวนิช พ.ศ. 2558 - ปัจจุบัน

รายนามผู้อำนวยการ

ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีดังนี้

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง
1. รองศาสตราจารย์ ประทีป จันทร์คง 3 กันยายน พ.ศ. 2548 - 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 (รักษาการ)
2. ศาสตราจารย์ ดร.อุทุมพร จามรมาน 3 กันยายน พ.ศ. 2549 - 30 กันยายน พ.ศ. 2553
1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 (รักษาการ)
3. รองศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 (วาระแรก)
1 ธันวาคม พ.ศ. 2557 - ปัจจุบัน (วาระที่สอง)[10]

ข้อวิพากษ์วิจารณ์

ข้อสอบโอเน็ต

สทศ.ได้รับการวิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับการออกข้อสอบผิดทุกปี รวมไปถึงการทำข้อสอบกำกวมในบทวิเคราะห์ หรือออกข้อสอบที่คำตอบถูกมากกว่า 1 ข้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชั้น ม.6 ที่ต้องใช้เป็นคะแนน 30% หรือคิดเป็น 9,000 คะแนนจากคะแนนรวมทั้งหมด 30,000 คะแนน ที่ทำให้นักเรียนบางส่วนไม่พอใจ และเกือบทุกปีข้อสอบโอเน็ตมักถูกนำเสนอแบบรายข้อผ่านทางรายการ เรื่องเช้านี้[11][12][13] นอกจากนี้ยังมีกรณีข้อสอบโอเน็ตวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาปีการศึกษา 2553 ที่ตั้งคำถามเชิงคำถามเปิดเกี่ยวกับ นก นพวรรณ เลิศชีวกานต์ จนภายหลังมีคนไปโพสต์คำถามนี้ในเฟสบุ๊คของ นก นพวรรณ ปรากฏว่าเจ้าตัวตอบไม่ตรงเฉลยกับ สทศ. ทั้งหมด[14] กรณีตรวจข้อสอบผิดชุดในปีการศึกษา 2556 (โอเน็ตมีข้อสอบ 2 ชุดต่อหนึ่งวิชา) จนทำให้ต้องแจกคะแนนฟรีให้กับคนที่สอบอีกชุด แต่อีกกลุ่มกลับไม่ได้คะแนนฟรี[15]

ในข้อสอบโอเน็ตปีการศึกษา 2558 ได้มีการเฉลยข้อสอบรายวิชาสังคมศึกษาผิด 1 ข้อ จนทำให้ผู้มีสิทธิ์สอบ 423,519 คน มีผู้ที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้น จำนวน 135,514 คน ได้คะแนนลดลง 131,292 คน และคะแนนคงเดิม 156,713 คน[16] แต่ถึงอย่างไรก็ดีมีนักวิการบางส่วนรวมถึงครูกวดวิชาชื่อดัง ได้ออกมาวิจารณ์ สทศ.เพิ่มเติม ว่ายังมีข้อสอบผิดอีกหลายข้อ เช่น อ.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ จากภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ออกมาตำหนิข้อสอบโอเน็ตสังคมศึกษา ม.6 ผ่านเฟซบุ๊กว่ามีความกำกวมและขาดมาตรฐาน[17] รวมถึง อ.ปิง เจริญศิริวัฒน์ ครูกวดวิชาภาษาไทยและสังคมศึกษาจากสถาบันกวดวิชาดาว้องก์ ที่ได้ออกมาโพสต์วิจารณ์ข้อสอบโอเน็ตสังคมศึกษาผ่านเฟสบุ๊คไลฟ์ความยาวกว่า 1 ชั่วโมง โดยได้นำเอกสารของกระทรวงเข้ามาประกอบในข้อที่ อ.ปิง อ้างว่า สทศ.เฉลยผิดอีกด้วย โดย อ.ปิงได้กล่าวว่าข้อที่ผิดทั้งหมด 5 ข้อคิดเป็นคะแนนถึง 90 คะแนน[18][19] แอนดรูว์ บิ๊กส์ ครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดังที่ได้ทำการตรวจคำตอบโอเน็ตวิชาภาษาอังกฤษ ม.3 แล้วพบว่าข้อสอบพาร์ทวิเคราะห์และพาร์ทบทสนทนา (Conversation) มีข้อที่คำตอบถูกมากกว่า 1 และมีข้อที่ สทศ.เฉลยผิด รวมทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของทั้งหมด[20]

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
  2. Gat Pat คณะไหน ต้องสอบวิชาอะไรบ้าง?, .tlcthai.com .สืบค้นเมื่อ 08/06/2559
  3. คณะไหนต้องสอบอะไร ข้อมูล GAT PAT, regsappha.moe.go.th .สืบค้นเมื่อ 08/06/2559
  4. เอาใจติ่งกิมจิ!! ทปอ.สอบ PAT เกาหลีเพิ่ม พร้อมเปิดข้อสอบ-เฉลย GAT/PAT หลังแอดมิสชั่นส์เสร็จ, มติชนออนไลน์ .สืบค้นเมื่อ 01/09/2560
  5. Gat Pat คณะไหน ต้องสอบวิชาอะไรบ้าง?, tlcthai.com .สืบค้นเมื่อ 08/06/2559
  6. นักเรียนเฮ กระทรวงศึกษาฯ ปรับลดวิชาสอบโอเน็ต เหลือ 5 วิชา, ผู้จัดการออนไลน์ .วันที่ 27 มิถุนายน 2558
  7. N-NET คืออะไร (มีด้วยเหรอ??), archive.wunjun.com .สืบค้นเมื่อ 08/06/2559
  8. B-NET, niets.or.th .สืบค้นเมื่อ 08/06/2559
  9. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/284/2.PDF
  10. สัมพันธ์ นั่งผอ.สทศ.อีกสมัย ,dailynews.co.th
  11. เมื่อ "ลุงสรยุทธ" ช่อง 3 ทำข้อสอบ O-NET 54, ยูทูป .วันที่ 20 ก.พ. 2012
  12. ความอนาถของ ข้อสอบ O net 1 avi, ยูทูป . 24 ก.พ. 2010
  13. O-net 56 ถามแบบนี้คุณจะตอบยังไง??, ยูทูป .วันที่ 10 ก.พ. 2013
  14. เมื่อนก นพวรรณมาตอบข้อสอบ ONET ด้วยตัวเอง (ข้อเทนนิส ), Unigang .สืบค้นเมื่อ 10/06/2559
  15. สทศ.ให้คะแนน O-Net วิทย์ฟรี 24 คะแนน โบ้ยความผิดคอมพ์, ผู้จัดการ .วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556
  16. ข้อสอบโอเน็ตผิดไม่กระทบแอดมิชชัน, ครูวันดี .วันที่ 3 มิถุนายน 2559
  17. อ.ธรรมศาสตร์ เผย สทศ.เฉลยข้อสอบ O-NET ผิด ชี้คำถามขาดมาตรฐาน, กระปุก .สืบค้นเมื่อ 10/06/2559
  18. ติวเตอร์ชื่อดังตรวจข้อสอบสังคมโอเน็ตม. 6 เผยมีเฉลยผิด-ตั้งคำถามกำกวม ชี้อาจส่งผลให้นักเรียนไม่ได้รับความยุติธรรม 90 คะแนน, โพสต์ทูเดย์ .วันที่ 6 มิถุนายน 2559
  19. อ.ปิงแฉ! ข้อสอบโอเน็ตม.6 ผิดเพิ่ม 5 ข้อ-กำกวมเพียบ, nationtv .สืบค้นเมื่อ 10/06/2559
  20. แอนดรูว์ บิ๊กส์ เปิดเฉลยข้อสอบ O-net อังกฤษ ม.3 พบผิดร้อยละ 8 ถือว่าเยอะมาก, กระปุก .สืบค้นเมื่อ 10/06/2559

แหล่งข้อมูลอื่น