ข่าวในพระราชสำนัก
ข่าวในพระราชสำนัก เป็นช่วงเวลาที่สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินทุกช่องในประเทศไทย ซึ่งกระจายเสียงและแพร่ภาพจากเสาอากาศบนบก จะนำเสนอการรายงานข่าวพระราชกรณียกิจหรือพระกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยมีการกำหนดร่วมกับสำนักพระราชวัง ไว้ที่เวลาประมาณ 13:00 น. และอีกครั้ง 20:00 น. ของทุกวัน ริเริ่มขึ้นในราวต้นพุทธทศวรรษที่ 2500 ตามดำริของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น[ต้องการอ้างอิง] และทั้งนี้ตั้งแต่ราว พ.ศ. 2543 เริ่มมีการต่อด้วยข่าวภารกิจของผู้แทนพระองค์ เช่น กรมราชเลขานุการในพระองค์ (ชื่อเดิม: สำนักราชเลขาธิการ) หน่วยราชการในพระองค์ นางสนองพระโอษฐ์ หัวหน้าหน่วยงานในพระบรมราชูปถัมภ์ และองคมนตรี เป็นต้น
ตามประกาศคณะการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 วางกรอบของข่าวในพระราชสำนักเอาไว้ว่าต้องจัดให้ออกอากาศข่าวในพระราชสำนักทุกวัน ระหว่างเวลา 19.00-20.30 น. ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นให้ออกอากาศระหว่างเวลา 18.00-22.00 ได้ ทั้งนี้ตามที่กรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวังกำหนด หรือตามหลักเกณฑ์อื่น[1]
ลำดับการเสนอ
[แก้]ลำดับการเสนอข่าว
[แก้]ข่าวในพระราชสำนักจะเสนอตามลำดับฐานันดรศักดิ์ในแต่ละพระองค์ ซึ่งกรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวัง จัดลำดับไว้ ดังนี้[2]
- พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
- สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
- สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
- ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล
- ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน
- ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน
- ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม
ลําดับการเสนอข่าวพิเศษ
[แก้]ข่าวในพระราชสำนักในโอกาสพิเศษ
[แก้]ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พ.ศ. 2549 ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 มีพระประมุขและผู้แทนพระประมุขเดินทางมายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และแต่ละพระองค์มีหมายกำหนดการทั้งส่วนพระองค์และกำหนดการอย่างเป็นทางการ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จึงจัดช่วงข่าวในพระราชสำนักพิเศษ โดยสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในเครือข่ายจะถ่ายทอด รายการข่าวในพระราชสำนักจากศูนย์รายงานกลาง โดยมีผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนักจากทุกช่อง สลับหมุนเวียนอ่านข่าวในแต่ละวัน ซึ่งการนำเสนอข่าวของพระประมุขและผู้แทนพระประมุข จะเสนอหลังจากพระบรมวงศานุวงศ์ไทย โดยออกอากาศระหว่างวันที่ 8 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2549
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้จัดทำข่าวในพระราชสำนักเป็นกรณีพิเศษ โดยหมอบหมายให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องดึงสัญญาณจากสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เอ็นบีที NBT (สทท.) กรมประชาสัมพันธ์ ได้เป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดสดและการรายงานข่าว โดยออกอากาศระหว่างวันที่ 2 - 6 พฤษภาคม และวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562[3]
การออกอากาศก่อนและหลังเวลา 20.00 น.
[แก้]ในกรณีถ่ายทอดสดรายการสำคัญ ทางสถานีจะขอเลื่อนเวลาออกอากาศข่าวในพระราชสำนัก ให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้เป็นรายครั้ง เช่น ในวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551 สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในนาม โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ได้ดำเนินการถ่ายทอดสดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 29 จาก กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่เวลา 19.00 น. และตามกำหนดการของทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ทางสถานีฯ จึงเลื่อนการออกอากาศข่าวในพระราชสำนักเป็นเวลา 18.30 น. เป็นต้น[ต้องการอ้างอิง]
หรือในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการถ่ายทอดสด พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยพระราชพิธีดังกล่าวนั้นเสร็จสิ้นลงในเวลาราว 00.00 น. ทำให้ในวันดังกล่าวข่าวในพระราชสำนักต้องถูกเลื่อนไปในเวลาดังกล่าว ภายหลังการถ่ายทอดสดสิ้นสุดลงแล้ว
ต่อมาเมื่อ กสทช.ออกใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ เพื่อแพร่ภาพโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557 แล้วนั้น ยังคงมีเพียงบางช่องโทรทัศน์ รวมถึงช่องโทรทัศน์ดาวเทียมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับข่าวและการเมือง ซึ่งมีความพร้อมในการบันทึก รายการข่าวในพระราชสำนัก จากสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบแอนะล็อกเดิม ซึ่งนำเสนอในเวลา 20.00 น.ของทุกวัน มาออกอากาศซ้ำทางช่องของตน โดยส่วนมากจะกำหนดไว้ที่เวลา 20.00 - 21.00 น. ของทุกวัน ส่วนบางช่องจะออกอากาศข่าวในพระราชสำนักพร้อมกันกับสถานีโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกเดิมในเวลา 21.00 น.
สถานีวิทยุกระจายเสียงที่นำเสนอข่าวในพระราชสำนัก
[แก้]นอกจากนี้ ยังมีการเสนอข่าวในพระราชสำนัก ทางสถานีวิทยุกระจายเสียง อีก 7 สถานี 7 เครือข่าย ด้วย ดังนี้
- สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ นำเสนอใน วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:00 - 20:30 น.
- สถานีวิทยุ อสมท นำเสนอข่าวใน วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:00 - 20:05 น.
- สถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพบก และ สถานีวิทยุกองบัญชาการกองทัพไทย นำเสนอข่าวใน วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:00 - 20:15 น.[ต้องการอ้างอิง][4]
- สถานีวิทยุกระจายเสียงเสียงจากทหารเรือ นำเสนอข่าวใน วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:00 - 20:05 น.
- สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต นำเสนอข่าวใน วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 13:00 - 13:10 น.
- สถานีวิทยุกระจายเสียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเสนอข่าวใน วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:00 - 20:15 น.
- สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอข่าวใน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 19.30 - 19.45 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 19.45 - 20.00 น.
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/E/027/22.PDF ราชกิจจานุเบกษา 27 กุมภาพันธ์ 2556
- ↑ พระปรมาภิไธย, พระนามาภิไธย และพระนาม เก็บถาวร 2007-12-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์[http://www.ohmpps.go.th เก็บถาวร 2009-03-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สำนักราชเลขาธิการ
- ↑ ข่าวในพระราชสำนัก พระราชพิธีบรมราชาภิเษภ พุทธศักราช 2562, เฟซบุ๊กเพจ ยามเฝ้าจอ เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
- ↑ กระจายเสียงทางสถานีวิทยุในการกำกับถึง 127 สถานีทั่วประเทศ โดยรับสัญญาณการถ่ายทอดคลื่นความถี่สัญญาณเสียง จากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ข่าวในพระราชสำนัก จากเว็บไซต์สำนักพระราชวัง เก็บถาวร 2020-11-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน