ก้านกล้วย
ก้านกล้วย | |
---|---|
ใบปิดประชาสัมพันธ์ | |
กำกับ | คมภิญญ์ เข็มกำเนิด |
เขียนบท | อัมราพร แผ่นดินทอง จรูญ ปรปักษ์ประลัย |
สร้างจาก | เจ้าพระยาปราบหงสาวดี โดย อริยา จินตพานิชการ |
อำนวยการสร้าง | อัจฉรา กิจกัญจนาสน์ |
นักแสดงนำ | อัญญาฤทธิ์ พิทักษ์ติกุล ภูริ หิรัญพฤกษ์ จุรี โอศิริ รอง เค้ามูลคดี เทพ โพธิ์งาม ชาญณรงค์ ขันทีท้าว |
ตัดต่อ | พรสวรรค์ ศรีบุญวงษ์ |
ดนตรีประกอบ | ชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์ |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล |
วันฉาย | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 |
ความยาว | 104 นาที |
ประเทศ | ไทย |
ภาษา | ไทย |
ทุนสร้าง | 150 ล้านบาท |
ทำเงิน | 93.63 ล้านบาท[1] |
ต่อจากนี้ | ก้านกล้วย 2 |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
ก้านกล้วย เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันแนวผจญภัยของไทยในปี พ.ศ. 2549 เรื่องราวเกี่ยวกับสยามในสมัยอยุธยา เล่าเรื่องราวของช้างไทยที่พเนจรไปจากแม่ของตนและได้รับตำแหน่งเป็นช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สร้างจากนิยายเรื่อง เจ้าพระยาปราบหงสาวดี โดย อริยา จินตพานิชการ ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาสร้าง 3 ปี เข้าฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ในปี พ.ศ. 2551 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในชื่อ The Blue Elephant ในวันที่ 2 กันยายน และเข้าฉายในอินเดียในชื่อ Jumbo ในวันที่ 25 ธันวาคม
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยคมภิญญ์ เข็มกำเนิด ซึ่งเคยไปศึกษาการทำแอนิเมชันที่สหรัฐและเคยทำภาพเคลื่อนไหวร่วมกับดิสนีย์และบลูสกาย สตูดิโอส์ ในภาพยนตร์แอนิเมชันอย่างทาร์ซาน, ไอซ์ เอจ และแอตแลนติส[2] ผลิตโดยกันตนา แอนิเมชัน เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติเรื่องแรกของไทย และเป็นภาพยนตร์ของไทยลำดับต้น ๆ ต่อจากสุดสาคร ภาพยนตร์แอนิเมชันแนวเซล โดยปยุต เงากระจ่าง ในปี พ.ศ. 2522 ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ก้านกล้วย 2 [เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกช้างแฝดของก้านกล้วย และการโจมตีอีกครั้งของหงสาวดี ทำให้ตัวละครต้องเลือกทางระหว่ายอยู่ร่วมกับครอบครัวหรือรบกับพม่า] ซีรีส์แอนิเมชันทางโทรทัศน์เรื่อง ก้านกล้วยผจญภัยผลิตโดย กัญจนาแอนิเมชันสตูดิโอ ออกอากาศทาง BBTV ช่อง 7
เนื้อเรื่อง[แก้]
ประเทศไทยสมัยอยุธยา หลังการเสียกรุงฯครั้งที่ 1 ในป่าแห่งหนึ่ง ลูกช้างเพศผู้ชื่อ ก้านกล้วย เป็นลูกชายของพลายภูผาและพังแสงดา ซึ่งภูผานั้นเป็นช้างศึกเลื่องชื่อ ผู้ล่วงลับไปแต่สงครามคราวเสียกรุงฯ ส่งผลให้ก้านกล้วยต้องการออกตามพบพ่อของเขา
คืนหนึ่ง ก้านกล้วยแอบหนีออกจากป่าเพื่อตามหาพ่อ ระหว่างทาง ก้านกล้วยถูกตามล่าโดยทหารพม่า แต่รอดมาได้เพราะการช่วยเหลือของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก้านกล้วยเดินทางต่อเพียงลำพัง มาพบกับช้างสาววัยเดียวกับเขา ชื่อ ชบาแก้ว ทั้งสองผูกมิตรภาพและตกหลุมรักกัน ก้านกล้วยขอกลับป่าไปหาแม่ แต่ไม่พบ ชบาแก้วจึงชักชวนให้ก้านกล้วยมาพักอยู่กับเธอ ที่หมู่บ้านหินขาว ณ ที่นั่น ก้านกล้วยพบมะหูด ชายชราผู้เป็นหัวหน้าควาญช้าง มะหูดรับก้านกล้วยมาอยู่กับตน ต่อมา ก้านกล้วยพบและผูกมิตรกับ จิ๊ดริด นกพิราบสื่อสารของกรุงศรีอยุธยา
ไม่กี่วันต่อมา เหล่าทหารพม่ายกพวกมารุกรานหมู่บ้านหินขาว ก้านกล้วยได้ช่วยมะหูดและชบาแก้วไว้จากอันตราย หลังจากนั้น จิ๊ดริดแนะนำแก่ก้านกล้วยว่า ก้านกล้วยควรเป็นช้างศึก โดยบอกว่า ผู้ที่จะพบภูผาที่เป็นช้างศึกอันดับต้นได้นั้น ต้องเป็นช้างศึกด้วยกัน ก้านกล้วยเข้ารับการฝึกทหารโดยมะหูด จนเติบใหญ่กลายเป็นช้างพลายที่มีพละกำลังมาก ต่อมา ก้านกล้วยสามารถเอาชนะเหล่าทหารพม่าที่มารุกรานอย่างราบคาบ มะหูดเห็นดังนั้นจึงพาก้านกล้วยไปเข้ารับเป็นช้างศึด
เมื่อทราบข่าวว่า กรุงหงสาวดีกำลังจะยกทัพใหญ่มาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงออกโองการเกณฑ์ทหารและช้างไปรับศึก ก้านกล้วยได้รับคัดเลือกเป็นช้างศึก รวมถึงเป็นช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวร กระนั้น ก้านกล้วยพบแสงดาอีกครั้ง ก้านกล้วยพาแสงดาเข้าหอเทพกุญชร หวังว่าจะพบภูผา แต่กลับพบเพียงช้างเฒ่าเชือกหนึ่งชื่อ สิงขร ซึ่งเล่าความว่า เมื่อคราวหงสาวดียกทัพมาประชิดกำแพงเมือง ตนเกือบจะถูก งวงแดง ช้างศึกนำทัพหงสาวดีฆ่า แต่ภูผาสละชีวิตช่วยตนไว้ ก้านกล้วยและแสงดาต่างรู้สึกเสียใจเมื่อรู้ว่าภูผาเสียชีวิตแล้ว แต่สิงขรกล่าวให้กำลังใจก้านกล้วยให้ออกรบ เพื่อจะเป็นวีรชนทรงเกียรติเช่นบิดา ก้านกล้วยจึงตัดสินใจกลับสู่พระนครเพื่อถวายอารักขาสมเด็จพระนเรศวร
สมเด็จพระนเรศวรทรงช้างก้านกล้วยออกทำศึกกับหงสาวดี ขณะที่ก้านกล้วยฝ่ากองทัพหงสาวดีมามากจนถึงช่วงกลางของทัพ และถูกล้อมโดยข้าศึกจำนวนมาก สมเด็จพระนเรศวรทรงเชิญพระมหาอุปราชา แม่ทัพใหญ่หงสาวดี ที่ทรงช้างงวงแดง ให้เข้ากระทำยุทธหัตถี ก้านกล้วยได้สู้กับงววแดง งวงแดง
งานพากย์[แก้]
ภาพยนตร์ | พ.ศ. 2549 |
---|---|
ตัวละคร | ให้เสียงพากย์ไทย |
ก้านกล้วย | อัญญาฤทธิ์ พิทักษ์ติกุล (วัยเด็ก) ภูริ หิรัญพฤกษ์ (วัยหนุ่ม) |
ชบาแก้ว | นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ (วัยเด็ก) วรัทยา นิลคูหา (วัยสาว) |
จิ๊ดริด | พงษ์สุข หิรัญพฤกษ์ |
แสงดา | นันทนา บุญ-หลง |
พังนวล | จุรี โอศิริ |
คุณตามะหูด | สุเทพ โพธิ์งาม |
สิงขร | รอง เค้ามูลคดี |
ตาแดง | เอกชัย พงศ์สมัย |
นายกองพม่า | ชาญณรงค์ ขันทีท้าว |
หัวหมู่พม่า | วสันต์ พัดทอง |
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช | บุญชลิด โชคดีภูษิต (วัยเด็ก) สุเมธ องอาจ (วัยหนุ่ม) |
พระมหาอุปราชา | สราวุธ เจริญลาภ (วัยเด็ก) กลศ อัทธเสรี (วัยหนุ่ม) |
มะโรง | ฤทธิเดช ฤทธิชุ |
มะโหนก | เจริญพร อ่อนละม้าย |
เสริม | วิยะดา จิตมะหิมา |
บักอึด | พุทธิพันธ์ พรเลิศ |
ทหารพม่า | ธงชัย คะใจ |
องอาจ เจียมเจริญพรกุล | |
ธีระวัฒน์ ทองจิตติ |
การเปิดตัวและรางวัล[แก้]
การเปิดตัวของภาพยนตร์
ก้านกล้วย ได้รับการเปิดตัวในรูปแบบดีวีดีที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 โดยใช้ชื่อในเวอร์ชันอเมริกันคือ The Blue Elephant
บริษัทเพอร์เซ็ปต์พิคเจอร์คอมพานีของอินเดีย ได้ซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์และเปิดตัวในเวอร์ชันภาษาฮินดีโดยใช้ชื่อ Jumbo ซึ่งนักแสดงอินเดียชื่อ อักษัย กุมาร เป็นผู้ให้เสียงพากย์ตัวเอกของเรื่องที่ใช้ชื่อในเวอร์ชันนี้ว่า จัมโบ้[3]
รางวัล
- ภาพยนตร์เรื่องก้านกล้วย ได้รับรางวัล Best Feature Film จากการประกวดแอนิเมชัน AniMadrid 2006 ที่ประเทศสเปน
- ภาพยนตร์เกียรติยศแห่งปี, ภาพยนตร์ยอดนิยมแห่งปี ที่ทำรายได้สูงสุด, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี (ตุ๊กตาทอง) ครั้งที่ 28 ประจำปี พ.ศ. 2549
อ้างอิง[แก้]
- ↑ [boxofficemojo\khankluay boxofficemojo\khankluay].
{{cite web}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help); ตรวจสอบค่า|url=
(help) - ↑ "คมภิญญ์ เข็มกำเนิด ผู้นำหนัง "ก้านกล้วย"". Positioning Magazine. 10 กุมภาพันธ์ 2548. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Akshay Kumar's Jumbo is actually a Thai film", ScreenIndia; retrieved 2008-12-13
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2021-06-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ เก็บถาวร 2006-06-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ข่าวจาก modernine เก็บถาวร 2006-06-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องก้านกล้วย (ขับร้องโดย แอ๊ด คาราบาว) เก็บถาวร 2010-03-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ไทย)
- ก้านกล้วย (2006) ที่สยามโซน