ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บาร์เซโลนา"
Earthpanot (คุย | ส่วนร่วม) |
Earthpanot (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 153: | บรรทัด 153: | ||
ในปี ค.ศ. 1992 บาร์เซโลนาได้เป็นเจ้าภาพจัด[[โอลิมปิกฤดูร้อน 1992|โอลิมปิกฤดูร้อน]] เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเมืองที่ผ่านมาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งผลักดันให้กลายเป็นเจ้าภาพจัดงานที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพ โรงงานอุตสาหกรรมริมทะเลถูกทำลายลง และได้มีการสร้างทะเลขึ้นเป็นระยะทางรวม 2 ไมล์ อีกทั้งยังมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์อีก 17% มีการจัดการของเสียที่เพิ่มมากขึ้นอีก 27% และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและทะเลอีก 78% ระหว่าง ค.ศ. 1990 จนถึง ค.ศ. 2004 มียอดจองโรงแรมภายในเมืองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในปี ค.ศ. 2012 บาร์เซโลนาเป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่ยอดนิยมอันดับที่ 12 ของโลก และอันดับที่ 5 ของทวีปยุโรป |
ในปี ค.ศ. 1992 บาร์เซโลนาได้เป็นเจ้าภาพจัด[[โอลิมปิกฤดูร้อน 1992|โอลิมปิกฤดูร้อน]] เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเมืองที่ผ่านมาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งผลักดันให้กลายเป็นเจ้าภาพจัดงานที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพ โรงงานอุตสาหกรรมริมทะเลถูกทำลายลง และได้มีการสร้างทะเลขึ้นเป็นระยะทางรวม 2 ไมล์ อีกทั้งยังมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์อีก 17% มีการจัดการของเสียที่เพิ่มมากขึ้นอีก 27% และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและทะเลอีก 78% ระหว่าง ค.ศ. 1990 จนถึง ค.ศ. 2004 มียอดจองโรงแรมภายในเมืองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในปี ค.ศ. 2012 บาร์เซโลนาเป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่ยอดนิยมอันดับที่ 12 ของโลก และอันดับที่ 5 ของทวีปยุโรป |
||
ฃฃ<ref>"[http://www.britannica.com/EBchecked/topic/53030/Barcelona Barcelona (Spain)]". Encyclopædia Britannica. {{webarchive |url=https://web.archive.org/web/20131013185559/http://www.britannica.com/EBchecked/topic/53030/Barcelona |date=13 October 2013 }}</ref><ref>{{cite news |url=http://www.businessinsider.com/how-the-olympic-games-changed-barcelona-forever-2012-7?IR=T |title=How The Olympic Games Changed Barcelona Forever |work=[[Business Insider]] |first=Adam |last=Taylor |date=26 July 2012 |accessdate=19 August 2017}}</ref><ref>{{cite news |url=https://www.independent.co.uk/sport/olympics/after-the-party-what-happens-when-the-olympics-leave-town-901629.html |title=After The Party: What happens when the Olympics leave town |date=18 August 2008 |first=Simon |last=Usborne |work=[[The Independent]] |accessdate=19 August 2017}}</ref><ref>{{cite web |url=http://olympicstudies.uab.es/pdf/wp084_eng.pdf |title=The economic impact of the Barcelona Olympic Games |author=Ferran Brunet i Cid |publisher=[[Universitat Autònoma de Barcelona]] |year=2002 |accessdate=19 August 2017 |deadurl=yes |archiveurl=https://www.webcitation.org/5iRr55PoO?url=http://olympicstudies.uab.es/pdf/wp084_eng.pdf |archivedate=22 July 2009 }}</ref><ref>{{cite web |url=https://stillmed.olympic.org/Documents/Reference_documents_Factsheets/Legacy.pdf |title=Legacies of the Games |date=December 2013 |publisher=[[International Olympic Committee]] |accessdate=19 August 2017}}</ref> |
ฃฃ<ref>"[http://www.britannica.com/EBchecked/topic/53030/Barcelona Barcelona (Spain)]". Encyclopædia Britannica. {{webarchive |url=https://web.archive.org/web/20131013185559/http://www.britannica.com/EBchecked/topic/53030/Barcelona |date=13 October 2013 }}</ref><ref>{{cite news |url=http://www.businessinsider.com/how-the-olympic-games-changed-barcelona-forever-2012-7?IR=T |title=How The Olympic Games Changed Barcelona Forever |work=[[Business Insider]] |first=Adam |last=Taylor |date=26 July 2012 |accessdate=19 August 2017}}</ref><ref>{{cite news |url=https://www.independent.co.uk/sport/olympics/after-the-party-what-happens-when-the-olympics-leave-town-901629.html |title=After The Party: What happens when the Olympics leave town |date=18 August 2008 |first=Simon |last=Usborne |work=[[The Independent]] |accessdate=19 August 2017}}</ref><ref>{{cite web |url=http://olympicstudies.uab.es/pdf/wp084_eng.pdf |title=The economic impact of the Barcelona Olympic Games |author=Ferran Brunet i Cid |publisher=[[Universitat Autònoma de Barcelona]] |year=2002 |accessdate=19 August 2017 |deadurl=yes |archiveurl=https://www.webcitation.org/5iRr55PoO?url=http://olympicstudies.uab.es/pdf/wp084_eng.pdf |archivedate=22 July 2009 }}</ref><ref>{{cite web |url=https://stillmed.olympic.org/Documents/Reference_documents_Factsheets/Legacy.pdf |title=Legacies of the Games |date=December 2013 |publisher=[[International Olympic Committee]] |accessdate=19 August 2017}}</ref> |
||
===ยุคปัจจุบัน=== |
|||
หลังจากฟรังโกเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1975 ซึ่งมีแรงกดดันในการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มมากขึ้นของบาร์เซโลนา ในการออกจากระบบที่ฟรังโกสร้างขึ้นมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี<ref name="Mock2011">{{cite book|author=Steven Mock|title=Symbols of Defeat in the Construction of National Identity|url=https://books.google.com/books?id=Xb-9J4KoT6EC&pg=PA274|date=29 December 2011|publisher=Cambridge University Press|isbn=978-1-139-50352-5|page=274}}</ref> การประท้วงโดยกลุ่มม็อบขนาดใหญ่ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1977 ซึ่งมีผู้คนนับล้านบนถนนในเมืองบาร์เซโลนาในการเรียกร้องเอกราชของกาตาลันคืนกลับมา<ref name="Friend2012">{{cite book|author=Julius W. Friend|title=Stateless Nations: Western European Regional Nationalisms and the Old Nations|url=https://books.google.com/books?id=-SF4-ip95MoC&pg=PA97|date=19 June 2012|publisher=Palgrave Macmillan|isbn=978-0-230-36179-9|page=97}}</ref> |
|||
การพัฒนาของบาร์เซโลนาทำให้ได้รับโอกาสจาก 2 งานใหญ่ในปี ค.ศ. 1986 ทั้งการเข้าร่วม[[สหภาพยุโรป]]ของสเปน และได้รับคัดเลือกให้จัดงาน[[โอลิมปิกฤดูร้อน 1992]]<ref name="ParkinSharma1999">{{cite book|author1=James Parkin|author2=D. Sharma|title=Infrastructure Planning|url=https://books.google.com/books?id=UGmju1KrbegC&pg=PA173|date=1 January 1999|publisher=Thomas Telford|isbn=978-0-7277-2747-3|page=173}}</ref><ref name="AbebeBolton2013">{{cite book|author1=Ngiste Abebe|author2=Mary Trina Bolton|author3=Maggie Pavelka|author4=Morgan Pierstorff|title=Bidding for Development: How the Olympic Bid Process Can Accelerate Transportation Development|url=https://books.google.com/books?id=Y-4VAgAAQBAJ&pg=PA3|date=19 November 2013|publisher=Springer|isbn=978-1-4614-8912-2|page=3}}</ref> การพัฒนาผังเมืองถูกจัดสรรอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มขึ้นของประชากรและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทำให้ประชากรลดลงอย่างเล็กน้อย (ร้อยละ 16.6) ซึ่งในช่วงสองทศวรรษปลายศตวรรษที่ 20 มีครอบครัวย้ายออกไปยังชานเมืองมากขึ้น แต่แนวโน้มได้กลับแปรผันอีกครั้งในปี ค.ศ. 2001 หลังจากการอพยพของชาว[[ลาตินอเมริกา]] และ[[ประเทศโมร็อกโก|โมร็อกโก]]<ref>The proportion of the population born outside of Spain rose from 3.9% in 2001 to 13.9% in 2006. {{cite web|url=http://www.bcn.es/estadistica/catala/dades/inf/guies/bcn.pdf |title=Archived copy |accessdate=26 June 2010 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20120220062823/http://www.bcn.es/estadistica/catala/dades/inf/guies/bcn.pdf |archivedate=20 February 2012 |df= }}</ref> |
|||
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ได้เกิด[[เหตุโจมตีในกาตาลุญญา พ.ศ. 2560|เหตุรถตู้พุ่งชนผู้สัญจรบนทางเท้าในย่านท่องเที่ยวลารัมบลา]] ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คนและบาดเจ็บอย่างน้อย 100 คน และยังมีการก่อเหตุในช่วงเวลาเดียวกันในกาตาลุญญา [[มาเรียโน ราฆอย]] นายกรัฐมนตรีสเปน ได้เรียกเหตุการณ์ในบาร์เซโลนาว่าเป็น[[การก่อการร้าย]][[ญิฮาด]] โดยสำนักข่าวอะมักกล่าวโดยอ้อมว่าผู้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้คือ[[กลุ่มรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์]]<ref>{{cite web|url=https://www.reuters.com/article/us-spain-barcelona-victims-idUSKCN1AX24P|title=At least 13 dead in van crash in Barcelona city center: media|date=17 August 2017|publisher=|via=Reuters}}</ref><ref>{{cite web|last1=Ward|first1=Victoria|title=Barcelona scene|url=https://www.telegraph.co.uk/news/2017/08/17/van-ploughs-crowd-barcelona1/|website=telegraph.co.uk|publisher=The Telegraph|accessdate=17 August 2017}}</ref><ref>{{cite web|url=https://www.bbc.com/news/world-europe-40975552|title=Barcelona and Cambrils: 'Bigger' attacks were prepared|date=18 August 2017|publisher=|via=www.bbc.com}}</ref> |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:42, 14 เมษายน 2562
บาร์เซโลนา | |
---|---|
เมือง | |
ศูนย์กลางเขตเศรษฐกิจ, ซากราดาฟามีเลีย, กัมนอว์, ปราสาทสามมังกร, ปาลาอูนาซีโอนัล, โรงแรมดับเบิลยู บาร์เซโลนา และ ชายหาด | |
สมญา: | |
ที่ตั้งของบาร์เซโลนาในประเทศสเปน | |
พิกัด: 41°23′N 2°11′E / 41.383°N 2.183°E | |
ประเทศ | สเปน |
แคว้น | กาตาลุญญา |
จังหวัด | บาร์เซโลนา |
คอร์มากา | บาร์เซโลนา |
อำเภอ | |
การปกครอง | |
• ประเภท | สภาเมือง |
• องค์กร | Ajuntament de Barcelona |
• นายกเทศมนตรี | Xavier Trias (CiU) |
พื้นที่ | |
• ตัวเมือง | 101.9 ตร.กม. (39.3 ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 803 ตร.กม. (310 ตร.ไมล์) |
ความสูง (AMSL) | 12 เมตร (39 ฟุต) |
ประชากร (2011) | |
• ตัวเมือง | 1,620,943 คน |
• อันดับ | 2nd |
• ความหนาแน่น | 15,991 คน/ตร.กม. (41,420 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 4,604,000 คน |
• รวมปริมณฑล | 5,375,774 คน |
เดมะนิม | Barcelonan, Barcelonian barceloní, -ina (ca) barcelonés, -esa (es) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) |
รหัสไปรษณีย์ | 080xx |
เลขโทรศัพท์ขึ้นต้น | +34 93 |
ภาษาทางการ | กาตาลา และ สเปน |
Patron Saint(s) | Eulalia of Barcelona |
Main festitivity | La Mercè |
เว็บไซต์ | www |
บาร์เซโลนา (สเปน: Barcelona) หรือ บาร์ซาโลนา (กาตาลา: Barcelona)[1] เป็นเมืองหลักของแคว้นกาตาลุญญา และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองทั้งในด้านขนาดและประชากรของประเทศสเปน มีประชากรในตัวเมือง 1,620,943 คน[2] แต่ถ้านับปริมณฑลโดยรอบอาจมากกว่า 4 ล้านคน ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของคาบสมุทรไอบีเรีย ใช้ภาษาทางการ 2 ภาษา คือ ภาษากาตาลาและภาษาสเปน
บาร์เซโลนาเป็นเมืองท่าสำคัญ และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นอาณานิคมของโรมันมาก่อน เคยถูกยึดครองโดยชาติต่าง ๆ หลายครั้ง รวมทั้งฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2183 บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวยามราตรีที่รื่นเริงสนุกสนาน บาร์เซโลนามีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สำคัญมากมาย อาคารแบบนวศิลป์ที่ดูแปลกประหลาดออกแบบโดยสถาปนิกชาวสเปนชื่ออันตอนี เกาดี นับเป็นจุดดึงดูดด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญเมื่อปี พ.ศ. 2535 บาร์เซโลนาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 22 และเมื่อ พ.ศ. 2431 เคยเป็นที่จัดงานแสดงสินค้าโลก (World's Fair)
บาร์เซโลนาเป็นเมืองชั้นนำที่มีนักท่องเที่ยว, เศรษฐกิจ, งานแสดงสินค้า และวัฒนธรรมที่ดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลก โดยมีชื่อเสียงทั้งด้านการค้า, การศึกษา, สื่อความบันเทิง, แฟชัน, วิทยาศาสตร์ และศิลปะ จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของโลก[3][4] ซึ่งเป็นศูนย์การทางการค้าและวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในคาบสมุทรไอบีเรีย และเป็นอันดับที่ 24 ของโลก (ตามหลังซือริช, ก่อนแฟรงก์เฟิร์ต)[5] ในปี พ.ศ. 2551 บาร์เซโลนาเคยติด 10 อันดับที่เศรษฐกิจดีที่สุดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในสหภาพยุโรป และเป็นอันดับที่ 35 ของโลก ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศมากถึง 177 พันล้านยูโร ในปี พ.ศ. 2555 บาร์เซโลนามีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 170 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นเมืองที่มีอัตราการจ้างงานมากที่สุดในประเทศสเปน ณ เวลานั้น[6]
ในปี พ.ศ. 2552 บาร์เซโลนาได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 3 เมืองที่ประสบความสำเร็จด้านชื่อเสียงของเมือง[7] ในปีเดียวกัน บาร์เซโลนาได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 4 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจและเป็นเมืองที่เติบโตรวดเร็วที่สุดถึง 17% ต่อปี[8] และเมืองได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องใน 3 ปีถัดมา ต่อมาในปี พ.ศ.2554 บาร์เซโลนาเป็นเมืองชั้นนำที่มีการประยุกต์ใช้แนวคิดสมาร์ตซิตี ในทวีปยุโรป[9] บาร์เซโลนาเป็นศูนย์รวมการขนส่งสาธารณะ ด้วยท่าเรือบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือขนส่งและท่าเรือสำหรับผู้โดยสารที่มีการใช้งานมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป[10] ท่าอากาศยานบาร์เซโลนาเอลปรัต ที่รองรับผู้โดยสาร 50 ล้านคนต่อปี[11], ทางหลวงพิเศษ และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเชื่อมต่อจากประเทศฝรั่งเศส และประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป[12]
ชื่อ
ชื่อเมือง "บาร์เซโลนา" มาจากคำว่า "บาร์เคโน" (Barkeno) ภาษาพื้นเมืองไอบีเรียนโบราณ ซึ่งพิสูจน์มาจากเหรียญโบราณ โดยด้านขวาของเหรียญเขียนว่า [13] ซึ่งเป็นอักษรไอบีเรีย Βαρκινών และ Barkinṓn ในภาษากรีกโบราณ[14][15] และ Barcino[16], Barcilonum[17] และ Barcenona.[18][19][20] ในภาษาละติน
บางแหล่งข้อมูลที่เก่ากว่าได้สันนิษฐานว่าเมืองมีชื่อตาม ฮามิลคาร์ บาร์คา ผู้ว่าการเมืองคาร์เธจ ซึ่งคาดว่าได้ก่อตั้งเมืองขึ้นในยุคศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช[21] แต่ไม่มีหลักฐานว่าเชื้อสายชาวบาร์เซโลนาจะมาจากคาร์เธจ และไม่มีหลักฐานว่าชื่อ "Barcino" มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับครอบครัวบาร์ซิดของฮามิลคาร์[22] โดยระหว่างสมัยกลาง เมืองนี้ได้รู้จักกันในชื่อ Barchinona, Barçalona, Barchelonaa และ Barchenona
ทางสากล ชื่อของบาร์เซโลนาถูกย่อว่า "บาร์ซา" (Barça) นั้นเป็นการย่อแบบผิดหลัก อย่างไรก็ดี ชื่อนี้มาจากสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ที่ใช้ชื่อย่อนี้ โดยชื่อย่อที่นิยมกันในท้องถิ่นคือ "บาร์นา" (Barna)
การย่อชื่อเมืองที่เห็นได้ทั่วไปคือ "BCN" ซึ่งมาจากรหัสท่าอากาศยาน IATA ของท่าอากาศยานบาร์เซโลนาเอลปรัต
ประวัติ
ยุคก่อนประวัติศาสตร์
หลักฐานของจุดกำเนิดการตั้งถิ่นฐานของบาร์เซโลนายังไม่ชัดเจนในปัจจุบัน แต่มีการค้นพบซากปรักหักพัง เช่น สุสานและอาคารยุคโบราณ ที่สามารถบ่งบอกอายุว่าเกิดขึ้นในยุค 5,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช[23] การค้นพบเมืองบาร์เซโลนามี 2 หลักฐานที่แตกต่างกัน หลักฐานแรกคือการเป็นเมืองที่เป็นตำนานของเฮอร์คิวลีส และอีกหลักฐานคือมีประวัติศาสตร์กับ ฮามิลคาร์ บาร์คา ผู้ว่าการเมืองคาร์เธจ ที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นที่มาของชื่อเมือง "บาร์ซิโน" (Barcino) ในช่วง 3 ศตวรรษก่อนคริสต์ศักราช[24] แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าหลักฐานหรือประวัติศาสตร์ไหนเป็นเรื่องจริง
ยุคโรมัน
ในจักรวรรดิโรมัน ช่วง 15 ปีก่อนคริสต์ศักราช ได้ตั้งเมืองให้เป็น "แคสทรา" (ค่ายทหารโรมัน) มีศูนย์กลางอยู่ที่ "มอนส์ตาเบร์" เนินเขาเล็ก ๆ ใกล้กับศาลาว่าการเมือง ภายใต้จักรวรรดิโรมัน เมืองนี้ได้เป็นอาณานิคมของตระกูล "ฟาเวนทีอา" (Faventia)[25] หรือชื่อเต็ม โคโลเนีย ฟาเวนทีอา ออกุสตา เปีย บาร์ซิโน[26] หรือ โคโลเนีย จูลีอา ออกุสตา ฟาเวนทีอา พาเทร์นา บาร์ซิโน ปอมโปนีอุส เมลา[27] นักภูมิศาสตร์ยุคโรมัน ได้กล่าวถึงบาร์เซโลนาว่าเป็นเมืองเล็ก ๆ ข้างเคียง "ตาร์ราโก" (หรือ ตาร์ราโกนา ในปัจจุบัน) แต่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นเมืองใหญ่ที่เติบโตและสวยงาม รวมถึงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในปัจจุบัน[28] บาร์เซโลนาผลิตเหรียญขึ้นมาใช้เอง จากการอยู่รอดในช่วงยุคของจักรพรรดิกัลบา
ร่องรอยจากยุคโรมันได้ปรากฎให้เห็นในชั้นใต้ดินของปลาซาเดลเรย์ ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองบาร์เซโลนา แสดงให้เห็นถึงรูปแบบตารางยุคโรมันที่ปรากฎในปัจจุบัน รวมไปถึงสถาปัตยกรรมกอทิก ในพิพิธภัณฑ์ ส่วนชิ้นส่วนของสถาปัตยกรรมโรมันสามารถเห็นได้จากกำแพงของมหาวิหาร "ลาเซอู" ที่คาดว่าถูกค้นพบในปี ค.ศ. 343[29]
ยุคกลาง
เมืองได้ถูกยึดโดยชาววิซิกอท ในต้นศตวรรษที่ 5 เป็นเมืองหลวงของฮิสเปเนีย อยู่หลายปี ก่อนที่จะตกเป็นเมืองขึ้นของอาหรับ ในต้นศตวรรษที่ 8 ก่อนที่จะถูกตีโดยชาร์เลอมาญ บุตรของจักรพรรดิหลุยส์ผู้ศรัทธา ในปี ค.ศ. 801 ก่อตั้งเป็นภูมิภาคชายแดนฮิสปาเนียชายแดนที่ถูกควบคุมโดยเคานต์แห่งบาร์เซโลนา
เคานต์แห่งบาร์เซโลนา มีความเป็นอิสระในการบริหารบ้านเมืองในดินแดงของตนเองรวมถึงแคว้นกาตาลุญญา แม้ว่าในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 985 จะถูกโจมตีโดยทหารของชาวอัลมันซอร์[30] ทำให้ประชาชนในเมืองถูกฆ่าและเป็นทาส[31] ต่อมาในปี ค.ศ. 1137 ราชอาณาจักรอารากอน และ เคานต์แห่งบาร์เซโลนา ได้ควบรวมราชวงศ์ ซึ่งกันและกัน[32][33] ด้วยการแต่งงานระหว่างราโมน บารังเกที่ 4 เคานต์แห่งบาร์เซโลนา กับ เปโตรนิยาแห่งอารากอน จนอาณาจักรตกเป็นของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 2 แห่งอารากอน บุตรชายของทั้งสองซึ่งขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1162 ดินแดนแห่งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "ราชบัลลังก์อารากอน" ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จำนวนมาก ตั้งแต่ทิศตะวันตกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กับดินแดนห่างไกลเนเปิลส์และซิซิลี และยังขยายดินแดนไปถึงดัชชีเอเธนส์ ในศตวรรษที่ 13 การควบรวมระหว่างราชบัลลังก์อารากอน และ ราชบัลลังก์กัสติยา ทำให้บาร์เซโลนามีความสำคัญลดลง อีกทั้งธนาคารบาร์เซโลนา ธนาคารรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งขึ้นโดยแมยิสเตร็ดของเมืองในยุคนี้ เมื่อปี ค.ศ. 1401[34]
ภายใต้การปกครองของสเปน
การสมรสระหว่างพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน กับ สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา ในปี ค.ศ. 1469 ทำให้เชื่อมสัมพันธ์ทั้งสองราชวงศ์เข้าด้วยกัน จนทำให้ มาดริด กลายเป็นเมืองหลวงและเมืองศูนย์กลางการปกครองในช่วงการล่าอาณานิคมของอเมริกา และลดความสำคัญของการเงินลงจากการค้าขายผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บาร์เซโลนาจึงเป็นศูนย์กลางของดินแดนกาตาลัน ในยุคนั้นมีสงครามแรปเพอส์ (ค.ศ. 1640–1652) กับพระเจ้าเฟลิเปที่ 4 แห่งสเปน และกาฬโรคครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1650–1654 ทำให้ประชากรของเมืองลดลงถึงครึ่งหนึ่ง[35]
ในศตวรรษที่ 18 ป้อมปราการได้ถูกสร้างขึ้นที่ภูเขามอนต์จูอิก สำหรับการสอดส่องไปยังทะเล ต่อมาในปี ค.ศ. 1794 ป้อมปราการได้ถูกใช้โดยปิแยร์ เมอแช็ง นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ในการสำรวจและสังเกตการณ์ไปยังดันเคิร์ก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการวัดโดยใช้หน่วยเมตร[36] แท่งวัดแบบเมตรผลิตจากแพลตินัม ถูกเสนอต่อสภานิติบัญญัติฝรั่งเศสในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1799 บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบอย่างมากในสงครามคาบสมุทร แต่หลังจากสงครามสิ้นสุดลง เมืองพัฒนาอุตสาหกรรมไปในทางที่ดีขึ้น อิลเดฟอนส์ เซร์ดา นักผังเมือง ได้ออกแบบอิซัมเปลขนาดใหญ่สำหรับเมืองในยุค 1850 ซึ่งเป็นยุคที่กำแพงเมืองเก่าจากยุคกลางได้เริ่มถูกทำลายลง
สงครามกลางเมืองสเปนและยุคฟรังโก
ระหว่างสงครามกลางเมืองสเปน เมืองและกาตาโลเนียเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเอง องค์กรและรัฐวิสาหกิจถูกรวมกันโดย เซเอเนเต และ อูเฆเต เมื่ออำนาจของรัฐบาลสาธารณรัฐลดลง และเมืองหลายเมืองถูกควบคุมภายใต้กลุ่มอนาธิปไตย โดยกลุ่มอนาธิปไตยได้สูญเสียความควบคุมจากฝ่ายคอมมิวนิสต์และทหารของรัฐบาล มีการต่อสู้กันกลางเมือง ต่อมาหลังจากเมืองล่มสลายในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1939 ได้มีการอพยพประชาชนไปยังชายแดนฝรั่งเศส ความต้านทางของบาร์เซโลนาต่อการรัฐประหาร ฟรันซิสโก ฟรังโก มีผลกระทบยาวนานหลังจากความพ่ายแพ้ของรัฐบาลสาธารณรัฐ ความเป็นเอกภาพของแคว้นกาตาลุญญา ได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น[39] การใช้ภาษากาตาลาในที่สาธารณะเป็นสิ่งต้องห้าม บาร์เซโลนากลายเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของสเปน มีความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมและเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้เมืองจะถูกทำลายระหว่างสงครามกลางเมืองสเปน แต่มีการอพยพจากประชาชนที่ยากจนจำนวนมากจากส่วนอื่นของสเปน จากทั้งแคว้นอันดาลูซิอา, มูร์เซีย และแคว้นกาลิเซีย ทำให้แปรสภาพกลับมาเป็นเมืองใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
ปลายศตวรรษที่ 20
ในปี ค.ศ. 1992 บาร์เซโลนาได้เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูร้อน เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเมืองที่ผ่านมาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งผลักดันให้กลายเป็นเจ้าภาพจัดงานที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพ โรงงานอุตสาหกรรมริมทะเลถูกทำลายลง และได้มีการสร้างทะเลขึ้นเป็นระยะทางรวม 2 ไมล์ อีกทั้งยังมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์อีก 17% มีการจัดการของเสียที่เพิ่มมากขึ้นอีก 27% และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและทะเลอีก 78% ระหว่าง ค.ศ. 1990 จนถึง ค.ศ. 2004 มียอดจองโรงแรมภายในเมืองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในปี ค.ศ. 2012 บาร์เซโลนาเป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่ยอดนิยมอันดับที่ 12 ของโลก และอันดับที่ 5 ของทวีปยุโรป ฃฃ[40][41][42][43][44]
ยุคปัจจุบัน
หลังจากฟรังโกเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1975 ซึ่งมีแรงกดดันในการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มมากขึ้นของบาร์เซโลนา ในการออกจากระบบที่ฟรังโกสร้างขึ้นมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี[45] การประท้วงโดยกลุ่มม็อบขนาดใหญ่ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1977 ซึ่งมีผู้คนนับล้านบนถนนในเมืองบาร์เซโลนาในการเรียกร้องเอกราชของกาตาลันคืนกลับมา[46]
การพัฒนาของบาร์เซโลนาทำให้ได้รับโอกาสจาก 2 งานใหญ่ในปี ค.ศ. 1986 ทั้งการเข้าร่วมสหภาพยุโรปของสเปน และได้รับคัดเลือกให้จัดงานโอลิมปิกฤดูร้อน 1992[47][48] การพัฒนาผังเมืองถูกจัดสรรอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มขึ้นของประชากรและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทำให้ประชากรลดลงอย่างเล็กน้อย (ร้อยละ 16.6) ซึ่งในช่วงสองทศวรรษปลายศตวรรษที่ 20 มีครอบครัวย้ายออกไปยังชานเมืองมากขึ้น แต่แนวโน้มได้กลับแปรผันอีกครั้งในปี ค.ศ. 2001 หลังจากการอพยพของชาวลาตินอเมริกา และโมร็อกโก[49]
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ได้เกิดเหตุรถตู้พุ่งชนผู้สัญจรบนทางเท้าในย่านท่องเที่ยวลารัมบลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คนและบาดเจ็บอย่างน้อย 100 คน และยังมีการก่อเหตุในช่วงเวลาเดียวกันในกาตาลุญญา มาเรียโน ราฆอย นายกรัฐมนตรีสเปน ได้เรียกเหตุการณ์ในบาร์เซโลนาว่าเป็นการก่อการร้ายญิฮาด โดยสำนักข่าวอะมักกล่าวโดยอ้อมว่าผู้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้คือกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์[50][51][52]
อ้างอิง
- ↑ จากกาตาลา: Barcelona ˌbarsəˈlonə บารฺซะโลนะ
- ↑ INE (1 January 2012). "Population of Barcelona". Instituto Nacional de Estadistica. สืบค้นเมื่อ 3 June 2013.
- ↑ "The World According to GaWC 2010". Globalization and World Cities Study Group and Network, Loughborough University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 October 2013. สืบค้นเมื่อ 13 May 2014.
- ↑ "Inventory of World Cities". Globalization and World Cities (GaWC) Study Group and Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 October 2013. สืบค้นเมื่อ 1 December 2007.
- ↑ "2012 Global Cities Index". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2013. สืบค้นเมื่อ 30 March 2014.
- ↑ Emilia Istrate; Carey Anne Nadeau (30 November 2012). "Brookings analysis of data from Oxford Economics, Moody's Analytics, and the U.S. Census Bureau". Brookings Global MetroMonitor. Brookings Institution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 June 2013. สืบค้นเมื่อ 14 January 2014.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ "Paris, London and Barcelona are Europe's top city brands". Citymayors.com. 28 August 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2013. สืบค้นเมื่อ 30 March 2014.
- ↑ "Best European business cities". City Mayors. 28 October 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 July 2013. สืบค้นเมื่อ 15 September 2011.
- ↑ "Barcelona 5.0 or Barcelona smart city". tvbrussel. 4 December 2014.
- ↑ "Port of Barcelona traffic statistics Accumulated data December 2013" (PDF). Statistics Service. p. 6. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 14 June 2014. สืบค้นเมื่อ 14 June 2014.
- ↑ "AENA December 2018 Report" (PDF). 14 January 2019.
- ↑ "First commercial trips" (ภาษาสเปน). Europapress.es. 10 December 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 April 2014. สืบค้นเมื่อ 30 March 2014.
- ↑ Emerita: Revista de Lingüística y Filología clasica 11 (1943), p.468
- ↑ Ptolemy, ii. 6. § 8
- ↑ Gudmund Schütte (1917). Ptolemy's Maps of Northern Europe: A Reconstruction of the Prototypes. H. Hagerup. p. 45.
- ↑ Smith, Sir William (1854). Dictionary of Greek and Roman Geography: Abacaenum-Hytanis. Boston, Massachusetts: Little, Brown and Company. p. 378.
- ↑ Rufus Festus Avienus Ora Maritima « et Barcilonum amoena sedes ditium. » v514 เก็บถาวร 12 สิงหาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Gustav Parthey (1848). Itinerarium Antonini Avgvsti et Hierosolymitanvm: ex libris manvscriptis. F. Nicolai. p. 188.
- ↑ Petrus Wesseling; Hierocles (The Grammarian) (1735). Vetera Romanorum itineraria, /: sive Antonini Augusti Itinerarium. apud J. Wetstenium & G. Smith. p. 390.
- ↑ Joel Cook (1910). The Mediterranean and Its Borderlands. p. 334.
- ↑ "Online Etymology Dictionary". Etymonline.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 2014. สืบค้นเมื่อ 14 June 2010.
- ↑ P.F. Collier & Son Corporation (1957). Collier's Encyclopedia. Collier. p. 48.
- ↑ Servei d'Arqueologia of Institut de Cultura de Barcelona. "Caserna de Sant Pau del Camp". CartaArqueologica (ภาษาSpanish). Ajuntament de Barcelona. p. Description and Historical Notes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 March 2016. สืบค้นเมื่อ 2 May 2016.
{{cite web}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ Oros. vii. 143; Miñano, Diccion. vol. i. p. 391; Auson. Epist. xxiv. 68, 69, Punica Barcino.
- ↑ Plin. iii. 3. s. 4
- ↑ Inscr. ap. Gruter, p. 426, nos. 5, 6.
- ↑ ii. 6
- ↑ Avien. Ora Maritima. 520: "Et Barcilonum amoena sedes ditium."
- ↑ "Roman walls, Barcelona". Bluffton.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 July 2013. สืบค้นเมื่อ 5 May 2009.
- ↑ The Usatges of Barcelona: The Fundamental Law of Catalonia, ed. Donald J. Kagay, (University of Pennsylvania Press, 1994), 7.
- ↑ Roger Collins, Caliphs and Kings, 796–1031, (Blackwell Publishing, 2012), 191.
- ↑ T.N. Bisson (1986). "II. The age of the Early Count-Kings (1137–1213) (The Principate of Ramon Berenguer IV 1137–1162)". ใน Clarendon Press – Oxford (บ.ก.). The medieval Crown of Aragon. A short story. p. 31. ISBN 978-0-19-820236-3.
- ↑ Cateura Benàsser, Pau. Els impostos indirectes en el regne de Mallorca (PDF). ISBN 978-84-96019-28-7. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 3 October 2008. สืบค้นเมื่อ 24 April 2008.
{{cite book}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|dead-url=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) El Tall dels Temps, 14. (Palma de) Mallorca: El Tall, 1996. - ↑ The Bankers magazine, volume 11, page 595, J. Smith Homans Jr., New York 1857.
- ↑ Chapter 15: A History of Spain and Portugal, Stanley G. Payne [ลิงก์เสีย]
- ↑ Adler, Ken (2002). The Measure of All Things: The Seven-Year Odyssey that Transformed the World. Abacus. ISBN 978-0-349-11507-8.
- ↑ MHCB, City Council of Barcelona, Institute of Culture, SECC (2006). Juan Negrín 1892-1956. Barcelona, capital de la República. Barcelona. ISBN 84-96411-13-3.
{{cite book}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Jordi Canal (2015). Historia mínima de Cataluña. Madrid: Turner Publicaciones S.L. ISBN 978-84-16142-08-8.
- ↑ Decree of 5 April 1938.
- ↑ "Barcelona (Spain)". Encyclopædia Britannica. เก็บถาวร 13 ตุลาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Taylor, Adam (26 July 2012). "How The Olympic Games Changed Barcelona Forever". Business Insider. สืบค้นเมื่อ 19 August 2017.
- ↑ Usborne, Simon (18 August 2008). "After The Party: What happens when the Olympics leave town". The Independent. สืบค้นเมื่อ 19 August 2017.
- ↑ Ferran Brunet i Cid (2002). "The economic impact of the Barcelona Olympic Games" (PDF). Universitat Autònoma de Barcelona. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 22 July 2009. สืบค้นเมื่อ 19 August 2017.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ "Legacies of the Games" (PDF). International Olympic Committee. December 2013. สืบค้นเมื่อ 19 August 2017.
- ↑ Steven Mock (29 December 2011). Symbols of Defeat in the Construction of National Identity. Cambridge University Press. p. 274. ISBN 978-1-139-50352-5.
- ↑ Julius W. Friend (19 June 2012). Stateless Nations: Western European Regional Nationalisms and the Old Nations. Palgrave Macmillan. p. 97. ISBN 978-0-230-36179-9.
- ↑ James Parkin; D. Sharma (1 January 1999). Infrastructure Planning. Thomas Telford. p. 173. ISBN 978-0-7277-2747-3.
- ↑ Ngiste Abebe; Mary Trina Bolton; Maggie Pavelka; Morgan Pierstorff (19 November 2013). Bidding for Development: How the Olympic Bid Process Can Accelerate Transportation Development. Springer. p. 3. ISBN 978-1-4614-8912-2.
- ↑ The proportion of the population born outside of Spain rose from 3.9% in 2001 to 13.9% in 2006. "Archived copy" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 February 2012. สืบค้นเมื่อ 26 June 2010.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help)CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) - ↑ "At least 13 dead in van crash in Barcelona city center: media". 17 August 2017 – โดยทาง Reuters.
- ↑ Ward, Victoria. "Barcelona scene". telegraph.co.uk. The Telegraph. สืบค้นเมื่อ 17 August 2017.
- ↑ "Barcelona and Cambrils: 'Bigger' attacks were prepared". 18 August 2017 – โดยทาง www.bbc.com.
- บรรณานุกรม
- "Barcelona". Gran Enciclopèdia Catalana. Barcelona: Ed. Enciclopèdia Catalana S.A. (อังกฤษ)
- Busquets, Joan. Barcelona: The Urban Evolution of a Compact City (Harvard UP, 2006) 468 pp. (อังกฤษ)
- McDonogh, G. W. (2011). "Review Essay: Barcelona: Forms, Images, and Conflicts: Joan Busquets (2005)". Journal of Urban History. 37 (1): 117–123. doi:10.1177/0096144210384250.
{{cite journal}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=
ถูกละเว้น (help) (อังกฤษ) - Marshall, Tim, ed. Transforming Barcelona (Routledge, 2004), 267 pp. (อังกฤษ)
- Ramon Resina, Joan. Barcelona's Vocation of Modernity: Rise and Decline of an Urban Image (Stanford UP, 2008). 272 pp. (อังกฤษ)