ข้ามไปเนื้อหา

เดอะแมนดาลอเรียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดอะแมนดาลอเรียน
ประเภทบันเทิงคดีแนวอวกาศ
สร้างโดยจอน แฟฟโรว์
เค้าโครงจากสตาร์ วอร์ส
โดย จอร์จ ลูคัส
แสดงนำ
ผู้ประพันธ์เพลง
ประเทศแหล่งกำเนิดสหรัฐ
ภาษาต้นฉบับอังกฤษ
จำนวนฤดูกาล3
จำนวนตอน24
การผลิต
ผู้อำนวยการผลิต
ผู้อำนวยการสร้างJohn Bartnicki
สถานที่ถ่ายทำลอสแอนเจลิส
ผู้กำกับภาพ
ผู้ลำดับภาพ
  • Jeff Seibenick
  • Andrew S. Eisen
  • Dana E. Glauberman
  • Adam Gerstel
  • Dylan Firshein
  • Rachel Goodlett Katz
  • J. Erik Jessen
ความยาวตอน30–52 นาที
บริษัทผู้ผลิต
ออกอากาศ
เครือข่ายดิสนีย์+
ออกอากาศ12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 (2019-11-12) –
ปัจจุบัน
การแสดงที่เกี่ยวข้อง

เดอะแมนดาลอเรียน (อังกฤษ: The Mandalorian) เป็นละครชุดทางเว็บไซต์แนวบันเทิงคดีอวกาศจากสหรัฐอเมริกา ฉายบนดิสนีย์พลัส สร้างโดยจอน แฟฟโรว์ เป็นภาพยนตร์ชุดแบบคนแสดงเรื่องแรกของเรื่องแต่งชุดสตาร์ วอร์ส เริ่มต้นเรื่องราวในเวลาตามท้องเรื่องที่ 5 ปีหลังเหตุการณ์ในสตาร์ วอร์ส 3 ชัยชนะของเจได (ค.ศ. 1983) นำแสดงโดยเปโดร ปัสกัล รับบทตัวละครเดอะแมนดาลอเรียน นักล่าเงินรางวัลผู้โดดเดี่ยว ที่ได้รับการว่าจ้างให้พาตัว "เด็กทารก" เด็กน้อยเผ่าพันธ​ุ์เดียวกับปรมาจารย์โยดา ไปส่งให้กับฝ่ายจักรวรรดิ แต่ในภายหลังเกิดความเป็นห่วงเด็กน้อย จึงบุกเข้าไปชิงตัวเด็กออกมาจากฝ่ายจักรวรรดิ และหลบหนีข้ามกาแลคซี่เพื่อค้นหาผู้ที่สามารถดูแลเด็กคนนี้ได้

จอร์จ ลูคัส ผู้สร้างสตาร์ วอร์ส ได้วางแผนที่จะสร้างภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์แบบคนแสดงที่ดำเนินเรื่องในจักรวาลสตาร์ วอร์สตั้งแต่ ค.ศ. 2009 แต่โครงการดังกล่าวถูกประเมินว่ามีค่าใช้จ่ายสูงเกินไปจนไม่สามารถดำเนินการได้ หลังจากที่ลูคัสขายบริษัทลูคัสฟิล์มให้กับบริษัทดิสนีย์เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 ก็มีการดำเนินการเพื่อเตรียมสร้างภาพยนตร์ชุดเรื่องใหม่ในจักรวาลสตาร์ วอร์สเพื่อเตรียมออกฉายให้กับบริการดิสนีย์พลัสทันที แฟฟโรว์ตอบตกลงเข้าร่วมโครงการสร้างภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 โดยรับหน้าที่เป็นผู้เขียนบทและโชว์รันเนอร์ นอกจากนี้ยังรับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารร่วมกันกับเดฟ ฟิโลนี, แคทลีน เคนเนดี, และ คอลิน วิลสัน ชื่อเรื่องได้รับการเปิดเผยเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 พร้อมกับการเปิดกล้องถ่ายทำที่แมนฮัตตันบีชสตูดิโอในแคลิฟอร์เนีย บริษัทวิชวลเอฟเฟกต์ไอแอลเอ็มได้พัฒนาเทคโนโลยีสเตจคราฟท์เพื่อใช้ในการถ่ายทำ โดยสร้างเป็นฉากหลังเสมือน มีผนังจอภาพ 360 องศา เพื่อใช้สร้างสิ่งแวดล้อมของฉาก เทคนิกนี้ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์อีกหลายเรื่องในเวลาต่อมา

เดอะแมนดาลอเรียนตอนแรกออกฉายพร้อมกับการเปิดตัวของบริการดิสนีย์พลัสเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ซีซั่นแรกซึ่งมีทั้งหมด 8 ตอนได้รับคำวิจารณ์ในทางบวก ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลไพรม์ไทม์เอ็มมี่ครั้งที่ 72 และได้รับ 7 รางวัลในงานประกาศรางวัลไพรม์ไทม์ครีเอทีฟอาร์ตส์เอ็มมี่ครั้งที่ 72 ซีซั่นที่ 2 ออกฉายครั้งแรกเมื่อ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2020 และซีซั่นที่ 3 กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการถ่ายทำ เมื่อธันวาคม ค.ศ. 2020 มีประกาศว่าจะมีซีรีส์ภาคแยกอีก 3 เรื่อง ได้แก่ เดอะบุ๊กออฟโบบา เฟทท์, เรนเจอร์สออฟเดอะนิวรีพับลิก และ อาโซกา

เนื้อเรื่อง

[แก้]

เดอะ แมนดาลอเรียน - มนุษย์ดาวมฤตยู เกิดขึ้น "หลังการล่มสลายของจักรวรรดิ และก่อนการเกิดขึ้นของปฐมภาคี" และตามติดเรื่องราวของ "นักล่าค่าหัวที่ผจญภัยอยู่ด้านนอกของกาแล็กซีอันไกลโพ้นจากเงื้อมมือของพวกจักรวรรดิที่ยังหลงเหลืออยู่ ในยุคของสาธารณรัฐใหม่" เรื่องราวเริ่มต้นที่ ดิน จาริน ชายหนุ่มนักล่าเงินรางวัลชาวแมนดาลอเรียน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าค่าหัวฝีมือระดับพระกาฬ ที่เดินทางรับภารกิจตามล่าตัวผู้ถูกประกาศจับไปทั่วจักรวาล อยู่ ๆ ก็ได้รับภารกิจที่ทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับพวกจักรวรรดิ และนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ชีวิตนักล่าค่าหัวของเขา โดยเขาได้รับการว่าจ้างให้ไปพาตัว เด็กน้อยเผ่าพันธุ์เดียวกับปรมาจารย์เจได โยดา ​แต่ทว่า ด้วยสายสัมพันธ์แห่งโชคชะตา แมนดาลอเรี่ยนผู้นี้จึงพาเด็กน้อยไปกับเขาด้วย การผจญภัยครั้งใหม่ของทั้งสองจึงเริ่มขึ้นจากตรงนี้

ตัวละคร

[แก้]
แมนดาลอเรี่ยน / แมนโด / ดิน จาริน
รับบทโดย เปโดร ปัสกัล
ตัวละครหลักของเรื่อง ชายหนุ่มชาวแมนดาลอเรียน ผู้ประกอบอาชีพนักล่าเงินรางวัล ซึ่งเป็นยอดฝีมือและค่าตัวแพงเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการ ในช่วงแรกผู้คนจะเรียกเขาว่า แมนโด และได้ทราบภายหลังว่าชื่อจริงของเขาคือ ดิน จาริน นอกจากนี้ ในตอนที่ 1 หลังจากเขานำตัวผู้ถูกประกาศจับมาส่งให้ กรีฟ แล้ว เขาก็ได้รับภารกิจใหม่ในการตามหาเด็กทารก ผู้มีเชื้อสายเดียวกับปรมาจารย์โยดา หรือชื่อจริงคือ โกรกู ที่แรกนั้นเขากะว่าจะนำตัวโกรกูไปส่งให้พวกจักรวรรดิ แต่อยู่ ๆ ก็เกิดความสงสารและช่วยเด็กน้อยออกมา ตั้งแต่นั้น แมนดาลอเรี่ยนผู้นี้ ก็ดูแล โกรกู เสมือนลูกชายแท้ ๆ วันเวลาที่ผ่านไป ยิ่งทำให้เขาได้สัมผัสในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่ามีในตนเองมาก่อน นั่นคือ ความอ่อนโยน
ในอดีต ดิน จาริน เป็นเด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อแม่ จากสงครามกลางเมืองแมนดาลอร์ และถูกรับเลี้ยงโดยชาวแมนดาลอเรียน กลุ่ม เดธวอทช์ ซึ่งเคร่งครัดในกฎดั้งเดิมกว่ากลุ่มอื่น ๆ กฎเหล็กที่ว่าคือ ห้ามถอดหมวกต่อหน้าผู้อื่น หากถอดแล้วจะไม่สามารถกลับไปใส่ได้อีก จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าจริงของเขา จนกระทั่งเขาได้รับบาดเจ็บในตอนจบซีซั่น 1 หุ่น IG-11 ได้ถอดหมวกเขาเพื่อช่วยชีวิตก่อนเขาจะถูกไฟคลอก และดินก็ได้ถอดหมวกอีกครั้ง เพื่อจะได้มองหน้าโกรกู เป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย ก่อนที่ลุคจะพาตัวโกรกูไปฝึกวิชาเจได
ในภาค คัมภีร์แห่ง โบบา เฟตต์ ดิน ถูกช่างตีเกราะขับไล่ออกจากลัทธิ เนื่องจากเขาทำผิดกฎโดยถอดหมวก การจะล้างบาปได้นั้น จำเป็นต้องอาบน้ำแห่งชีวิต ณ เหมืองบนดาวแมนดาลอร์ ดินจึงดั้นด้นเดินทางไปยังดาวแมนดาลอร์ เพื่ออาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ในซีซั่นที่ 3
ดิน ถนัดการใช้อาวุธแทบทุกชนิด จากการที่เขารับการฝึกอย่างชาวแมนดาลอเรียนตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่อาวุธปืน อาวุธระยะประชิด และเจ็ทแพ็ค ในต้นเรื่องเขาใส่ชุดเกราะโลหะธรรมดา แต่หลังจากได้ค่าตอบแทนเป็น แร่เบสการ์ บริสุทธิ์ ดินก็เปลี่ยนไปใส่ชุดเกราะเบสการ์สีเงินตั้งแต่นั้นมา อาวุธประจำตัวของเขาคือ ปืนพก บลาสเตอร์พิสทอล ปืนยาว บลาสเตอร์ลองไรเฟิล ต่อมาเขาได้รับ หอกเบสการ์ และ ดาร์คเซเบอร์ มาในช่วงซีซั่นที่ 2 ก่อนที่ในภาค คัมภีร์แห่งโบบา เฟตต์ เขาจะนำหอกไปหลอมเพื่อทำชุดเกราะ เป็นของขวัญให้โกรกู
ปาสกาล เปรียบเทียบตัวละครของเขาว่าเหมือนคลินท์ อีสต์วู้ด คือเป็นคนเก่งฉกาจในเรื่องการต่อสู้ และมีมาตรฐานทางศีลธรรมที่น่าสงสัย ชื่อจริงของตัวละครนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยจนถึงตอนที่ 8 แต่ปาสคาลหลุดปากเปิดเผยชื่อออกไปตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 2019
เด็กทารก (The Child) / โกรกู
"เด็กทารก" ที่ผู้ชมรู้จักในชื่อ "เบบี้โยดา" โดยเป็นทารกสายพันธุ์เดียวกันกับตัวละครโยดา ซึ่งในตอนที่ 13 ได้เผยชื่อจริงของเขาคือ "โกรกู" เขาเป็นผู้มีสัมผัสในพลัง แม้จะดูเหมือนเป็นเด็กเล็ก และพูดเป็นประโยคไม่ได้ แต่เขามีอายุถึง 50 ปี และโกรกูก็ยังสามารถใช้พลังได้ในระดับหนึ่ง แม้จะได้รับการฝึกน้อยมาก
เดิมทีโกรกูเป็นเด็ก ยังลิ่ง ที่ถูกเลี้ยงดูและรับการฝึกที่วิหารเจได แต่ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์คำสั่งที่ 66 วิหารเจไดถูก ดาร์ธ เวเดอร์ นำกองทหารบุกถล่ม เหล่าอาจารย์เจไดต่างต่อสู้เพื่อพาลูกศิษย์หนีไปยังที่ปลอดภัย แต่ก็มีอาจารย์เจไดหลายคนเสียชีวิตเช่นกัน โกรกูได้ถูกพาตัวหลบหนีไปซ่อนยังดาวที่ห่างไกล จนกระทั่งพวกจักรวรรดิตามมาพบ และจ้าง ดิน จาริน ไปนำตัวมาส่ง แต่ดินกลับไปพาตัวโกรกูหลบหนี หลังได้ค่าตอบแทน และนับแต่วันนั้น โกรกู ก็อยู่ในความดูแลของดินมาตลอด จนเกิดสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่เปรียบเสมือนพ่อลูก
ตั้งแต่ซีซั่นที่ 2 เป็นต้นมา โกรกูแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของเขา ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านพลัง สติปัญญาที่หลักแหลม รวมถึงการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน แม้จะฝึกวิชาอยู่กับลุคอยู่เป็นเวลา 2 ปี แต่โกรกูก็ยังคงคิดถึงพ่อบุญธรรมของเขา ลุคเห็นดังนั้นจึงยอมให้โกรกูตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิต ระหว่างการเป็น เจได กับการกลับไปหาคนที่เขารัก ซึ่งโกรกูเลือกอย่างที่สอง แม้ว่าลุคจะรู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่ได้รั้งเด็กน้อยไว้แต่อย่างใด
ในตอนที่ 20 เผยว่า ระหว่างเหตุการณ์ คำสั่งที่ 66 โกรกู ได้ถูกช่วยไว้โดยอาจารย์เจได เคลเลอแรน เบค โดยเขาได้ต่อสู้ฝ่ากองทหารออกมาจากวิหาร พร้อมกับพา โกรกู ที่อยู่ในยานแคปซูล หนีการตามล่าของกองทัพโคลนออกจาก คอร์รัสซัง ได้อย่างหวุดหวิด
ในตอนที่สุดท้ายของซีซั่นที่ 3 โกรกู ได้ถูกรับเลี้ยงโดย ดิน ในฐานะลูกบุญธรรมอย่างเป็นทางการ และได้รับชื่อใหม่ว่า ดิน-โกรกู ต่อมา ช่างตีเกราะก็ได้แนะนำให้เขาออกเดินทางติดตาม ดิน ไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ เพื่อรับการทดสอบต่าง ๆ ในฐานะผู้สืบทอดวิถีแห่งแมนดาลอร์
ตัวละครนี้สร้างขึ้นโดยใช้หุ่นเชิดผสมกับกลไก และเสริมขั้นสุดท้ายด้วยเทคนิคแอนิเมชั่น
กรีฟ คาร์กา
รับบทโดย คาร์ล เวเธอร์
หัวหน้าค่ายนักล่าเงินรางวัล ชื่นชม แมนโด หรือ ดิน ในฐานะยอดฝีมือของกลุ่ม และมักจะเก็บงานยากที่ค่าจ้างงามไว้ให้เขาเสมอ ในตอนแรกเขามีปัญหาขัดแย้งกับดิน เนื่องจากดินพาตัวโกรกู ที่ถูกจับไปกลับมา แต่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ภายหลังที่พวกของดินได้กำจัดอิทธิพลของฝ่ายจักรวรรดิได้แล้ว กรีฟก็ได้กลายเป็นตุลาการสูงสุดของ เนอร์วาโร
ในตอนท้ายซีซั่นที่ 3 คาร์กา ได้มอบบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่ง ในเขตทิวทัศน์สวยงาม ให้กับดินและลูกชาย เพื่อเป็นรางวัลตอบแทน
ผู้ว่าจ้าง
รับบทโดย เวอร์เนอร์ แฮร์โซก
ชายผู้น่าเกรงขาม เป็นคนของฝ่ายจักรวรรดิที่ยังหลงเหลือ และมีแผนจะสานต่องานของจักรวรรดิให้สำเร็จ โดยเขาได้จ้างแมนโดให้ไปพาตัวโกรกูมา พร้อมมีค่าตอบแทนให้เป็น แท่งแร่เหล็กเบสการ์บริสุทธิ์จำนวนมาก
ด็อกเตอร์เพอร์ชิง
รับบทโดย โอมิด แอบตาฮี
นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นคนของฝ่ายจักรวรรดิที่ยังเหลืออยู่ เขารับหน้าที่ในการสกัด DNA ของโกรกูมาเพื่อทำการทดลอง
ควิลล์
ให้เสียงโดย นิก โนลเต
ชาวไร่ความชื้นเผ่าพันธุ์อักนอฟ ผู้คอยช่วยเหลือแมนโด โดยฝึกการขี่และควบคุมสัตว์ นอกจากนี้เขายังเป็นคนช่วยพาโกรกูหนี จนถูกทหารจักรวรรดิโจมตีจนเสียชีวิต
IG-11 (ไอจีอีเลเวน)
ให้เสียงโดย ไทกา ไวทีที
หุ่นยนต์นักล่าเงินรางวัล IG ซีรีส์ ที่มีพิษสงร้ายกาจ เดิมที่เขาถูกว่าจ้างมาให้จับตัวโกรกูเช่นกัน แต่ไอจีกลับพยายามสังหารโกรกู ทำให้แมนโดต้องยิงใส่ไอจี และเก็บกู้ซากกลับมาซ่อมแซม หลังจากนั้น ควิลล์ก็ได้ซ่อมไอจีให้กลายเป็นหุ่นพยาบาล ที่มีหน้าที่ปกป้องคนแทนการล่าสังหาร
ไอจีมีอาวุธประจำตัวเป็นปืน บลาสเตอร์ 2 กระบอก และยังมีระเบิดเวลาอยู่ในตัว กรณีภารกิจล้มเหลว ไอจีจะกดระเบิดทำลายตัวเองทันที ท้ายซั่นแรก ไอจีได้สละตัวเอง ระเบิดกองทัพสตอร์มทรูเปอร์ เพื่อเปิดทางให้พวกแมนโดหลบหนีไปได้
ในซีซั่นที่ 3 เผยว่า ซากของไอจีถูกนำมาทำรูปปั้นให้เป็นเกียรติ แก่วีรกรรมที่เขาทำไว้
ในตอนที่ 7 กลุ่มช่างยนต์ชาว แอนเซลแลน ได้ดัดแปลงไอจี ให้กลายเป็นหุ่นบังคับด้วยมือไว้ให้โกรกูใช้งาน จนกระทั่งตอนท้ายซีซั่น 3 ดินพบอะไหล่หุ่นรุ่นไอจี ระหว่างที่เขาไปเจรจาเรื่องงาน กับ คาร์สัน ดีวา ที่ร้านอาหาร จึงได้ขออะไหล่นั้นเป็นค่าตอบแทนการทำงาน และนำมันมาซ่อมแซมไอจีตัวนี้ จนมันกลับมาทำงานได้อีกครั้ง ก่อนส่งมอบให้ กรีฟ เพื่อทำงานเป็นผู้รักษากฎหมายท้องถิ่นของ เนอร์วาโร
คาร่า ดูน
รับบทโดย จีนา คาราโน
อดีตทหารช็อกทรูปเปอร์ ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้าง เป็นเพื่อนร่วมวงการของแมนโด
มอฟฟ์ กีเดียน
รับบทโดย เจียนคาร์โล เอสปาซิโต
อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายความมั่นคงจักรวรรดิ วางแผนจะใช้ DNA ของโกรกู สร้างกองทัพผู้ใช้พลัง เพื่อทวงคืนอำนาจของจักรวรรดิ กีเดียนถือครอง ดาร์คเซเบอร์ อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะแพ้การต่อสู้กับ ดิน จาริน และถูกจับตัวไว้ได้
ในตอนที่ 7 กีเดียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับกองทหารในชุดเกราะเบสการ์ ซึ่งสร้างความลำบากแก่พวกโบ คาทาน ในการรับมือเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ในตอนที่ 8 ดินยังพบกับห้องวิจัยลับที่ทำการโคลนนิ่ง กีเดี้ยน จำนวนมาก ซึ่งสร้างด้วยการผสม DNA ของโกรกู ให้มีความสามารถในการใช้พลัง แต่ก็ถูกดิน กดระเบิดทำลายในที่สุด
ช่างตีเกราะ (The Armorer)
รับบทโดย เอมีลี สวอลโลว์
นายช่างหญิงชาวแมนดาลอเรียน ผู้เชี่ยวชาญการทำชุดเกราะ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ จากโลหะเบสการ์ เธอเปรียบเสมือนผู้นำกลุ่ม ที่เพียบพร้อมด้วยคุณวุฒิ และเธอยังยึดมั่นในกฎดั้งเดิมของแมนดาลอร์เช่นกัน สมาชิกกลุ่มเดดวอทช์ทุกคนต่างให้ความเคารพยกย่องเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้จับอาวุธ และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานตีเหล็ก แต่เธอก็มีทักษะการต่อสู้ที่เก่งกาจไม่เป็นรองใครอีกด้วย
พาซ วิสล่า
รับบทโดย เทท เฟลตเชอร์ , ให้เสียงโดย จอน แฟฟโรว์
ชายหนุ่มนักรบแมนดาลอเรียนร่างใหญ่ ผู้มีอาวุธคู่ใจเป็นปืนกล เป็นหนึ่งในกลุ่มชาวแมนดาลอเรียนที่ ดิน จาริน สังกัดอยู่ และยังเป็นทายาทตระกูล วิสล่า อันเก่าแก่ด้วย ช่วงแรก ๆ เขาได้สบประมาท ดิน ว่ามีฝีมือด้อยกว่าเขา และยังไม่คู่ควรกับ ดาร์คเซเบอร์ ซึ่งเป็นอาวุธของต้นตระกูลวิสล่า (เจ้าของเดิมผู้สร้างดาร์คเซเบอร์คือ ทาร์ วิสล่า ชาวแมนดาลอร์คนแรกที่เป็นเจได) จนกระทั่งดินชนะการประลองตัวต่อตัวกับเขา พาซจึงยอมถอยแต่โดยดี ต่อมาในซีซั่นที่ 3 ดิน ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเขาจากการตกเป็นเหยื่อของสัตว์ร้าย พาซ จึงยอมรับในตัว ดิน ในที่สุด
ในตอนที่ 7 ระหว่างการบุกโจมตีของกองทัพกีเดี้ยน พาซ ได้อาสาต้านกองกำลังส่วนหนึ่งไว้ จนกระทั่งปะทะกับพวกรอยัลการ์ด ทหารชุดแดงที่มีความสามารถร้ายกาจ แม้พาซจะต้านไว้ได้ช่วงแรก แต่ปืนกลของเขาก็เกิดร้อนขึ้นจนใช้การไม่ได้ จึงต้องต่อสู้ระยะประชิด แต่ด้วยจำนวนที่มากกว่า พาซจึงถูกพวกรอยัลการ์ด รุมสังหารในที่สุด
คอบบ์ แวนท์
รับบทโดย ทิโมธี โอลิแฟนท์
อดีตทาส ผู้กลายเป็นฮีโร่ปืนไวของเมือง ฟรีทาวน์ เขาได้เกราะของโบบา เฟตต์ มาจากการซื้อขายกับจาว่า และคอยปกป้องเมืองตั้งแต่นั้นมา ต่อมา ดิน จาริน ได้เห็นชุดเกราะนั้น จึงพยายามขอแกมบังคับ เขาได้ให้ข้อเสนอในการร่วมมือกับแมนโดในการปกป้องชาวเมือง จากมังกรเครทท์ และได้มอบชุดเกราะให้ดิน จาริน เป็นการตอบแทน จากวีรกรรมครั้งนั้น ทำให้คอบบ์ กลายเป็นนายอำเภอ ผู้นำของเมืองฟรีทาวน์ไปในที่สุด
ในภาค คัมภีร์แห่งโบบา เฟตต์ คอบบ์ ได้เผชิญหน้ากับ แคด เบน นักล่าค่าหัวที่มาตามล่า โบบา ถึงเมืองฟรีทาวน์ จนเกิดการดวลปืนกัน ผลคือ คอบบ์ เป็นฝ่ายแพ้ โดยถูกยิงเข้าหนึ่งนัด และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครทราบว่าเขารอดหรือไม่
โบบา เฟตต์
ดูเพิ่มเติมที่ โบบา เฟทท์
รับบทโดย เทมูรา มอร์ริสัน
อดีตนักล่าเงินรางวัล บุตรของ แจงโก้ เฟตต์ เขาเคยร่วมมือกับฝ่ายจักรวรรดิ ในการจับกุมพวกลุค สกายวอล์คเกอร์ และก็ถูกฮาน โซโล กระแทกตกไปในหลุมหนอนซาร์แลค แต่โบบาก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เขาเดินทางระหกระเหินอยู่หลายปี จนกระทั่งมาพบว่า ชุดเกราะของเขา อยู่กับดิน จาริน โบบาได้ยื่นข้อเสนอแกมบังคับกับแมนโดว่า หากคืนชุดเกราะให้เขา เขาจะช่วยดินพาตัว โกรกู กลับมาให้ ท้ายซีซั่น 2 โบบาได้ทำตามสัญญาและขับยาน ฟลายสเปรย์ บินจากไป ก่อนจะพบว่าเขากลับมายังทาทูอีน และยึดอำนาจผู้คุมเมือง มอสเอสปา มาจากบิบ ฟอร์ทูน่า ตั้งแต่นั้นจนถึงภาค คัมภีร์แห่งโบบา เฟตต์ เขาได้กลายเป็นผู้นำของเมืองในฐานะ ไดเมียว แห่ง มอสเอสปา โดยมี เฟนเนค แชน เป็นผู้ช่วยส่วนตัว
โบคาทาน ครีซ
รับบทโดย เคที แซคคอฟ
บุตรสาวของตระกูลครีซ ผู้นำชนแผ่าแมนดาลอเรียนมาตั้งแต่อดีต เธอกับพรรคพวกผ่อนปรนจากกฎดั้งเดิม โดยถอดหมวกได้อย่างอิสระ โบคาทานมีฝีมือการต่อสู้ในระดับเยี่ยมยุทธ์ และทักษะค่อนข้างเหนือกว่าดิน จาริน นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ครอบครอง ดาร์คเซเบอร์ มาก่อนที่ มอฟฟ์ กีเดียน จะชิงมันไป ทว่าเมื่อดินเอาชนะกีเดียน และชิง ดาร์คเซเบอร์ กลับมามอบคืนให้ เธอกลับปฏิเสธที่จะรับ โดยกล่าวว่า ดาบเล่มนี้ต้องได้มาด้วยการดวลเพื่อแย่งชิงเท่านั้น
ในซีซั่นที่ 3 โบคาทาน ได้อาศัยอย่างโดดเดี่ยวบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ในระบบดาวแมนดาลอร์ โดยที่พรรคพวกของเธอต่างแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตนเอง แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้กลับมาโลดโผนอีกครั้ง หลังการมาเยือนของ ดิน จาริน และในตอนที่ 18 โบคาทาน ได้ช่วยดินจากการจมน้ำในเหมืองแมนดาลอร์ ทำให้เธอถูกนับว่าได้ชำระบาปจาก น้ำแห่งชีวิต ไปโดยปริยาย และสามารถกลับไปรวมกับกลุ่มของ ช่างตีเกราะ ได้ในเวลาต่อมา ในตอนที่ 20 เธอได้เป็นคนนำกำลังเข้าช่วยลูกชายของ พาซ กลับมาได้อย่างปลอดภัย เธอจึงได้รับการยกย่องจากวีรกรรมในครั้งนี้
ในตอนท้ายของซีซั่นที่ 3 โบได้ช่วยเหลือดินที่ถูกเอเลี่ยนลึกลับจับตัวไป ขณะนั้นดาร์คเซเบอร์ถูกแย่งไปจากดิน และเธอก็นำมันกลับมาได้ หลังจากกลับมารวมกลุ่มกับชาวแมนดาลอเรี่ยนที่เหลือ ดินก็ได้ประกาศว่าเธอสามารถชิงดาร์คเซเบอร์มาจากศัตรูที่เล่นงานเขาได้ ดาร์คเซเบอร์และตำแหน่งผู้นำ จึงควรเป็นของเธออย่างชอบธรรม โบ คานทาน จึงคืนสู่ตำแหน่งผู้นำเผ่าแมนดาลอเรี่ยนอย่างภาคภูมิ และได้รับแต่งตั้งจากช่างตีเกราะ ให้เป็นฑูตสันถวะไมตรี ตัวแทนชาวแมนดาลอร์ ในการติดต่อกับเผ่าพันธุ์อื่นทั่วกาแล็คซี่
อาโซก้า ทาโน่
ดูเพิ่มเติมที่ อาโซกา ทาโน
รับบทโดย โรซาริโอ ดอว์สัน
อดีตอัศวินเจได และ อดีตพาดาวันของ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ที่ถอนตัวออกมาเพราะความขัดแย้งกับนิกาย ในเรื่อง เธอกำลังต่อสู้กับกลุ่มจักรวรรดิ ที่ยึดครองเมือง คาโลดัน นำโดย มอร์แกน เอลสเบ็ธ ในปีที่ 9 หลังยุทธการยาวิน กระทั่งมอร์แกนจ้างดิน ให้มาจัดการกับเธอ แต่ดินไม่ได้ต้องการจะต่อสู้ หากแต่ต้องการส่งตัวโกรกูคืนให้กับเจได แต่อาโซก้าได้แนะนำให้พาไปพบ ลุค สกายวอล์คเกอร์ แทน จากนั้นเธอกับ ดิน ก็ร่วมมือกันต่อสู้กับกลุ่มของ มอร์แกน และกอบกู้เมือง คาโลดัน ได้สำเร็จ โดยก่อนจากกัน เธอมอบ หอกเบสการ์ ให้กับ ดิน ไปด้วย
ลุค สกายวอล์คเกอร์
ดูเพิ่มเติมที่ ลุค สกายวอล์คเกอร์
รับบทโดย มาร์ก แฮมิลล์
อัศวินเจไดยอดฝีมือ บุตรแห่ง อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ และเป็นวีรบุรุษผู้จบสงครามกาแลคติค เขาได้บุคขึ้นมาบนยานของ มอฟฟ์ กีเดียน และกำจัดกองทัพดรอยด์สังหาร เดธทรูเปอร์ ทั้งหมด เพื่อช่วยโกรกูและพาตัวไปฝึกวิชาเจได ณ วิหารเจไดแห่งใหม่ที่เขาก่อตั้งขึ้น และให้การฝึกสอนโกรกู ร่วมกับ อาโซก้า
เพลี มอตโต
รับบทโดย เอมี เซดาริส
ช่างยนต์ผู้เป็นเจ้าของอู่ซ่อมยานบนทาทูอีน เป็นร้านประจำที่ดินมักจะแวะมาซ่อมแซมยานอยู่เสมอ
คอสก้า รีฟส์
รับบทโดย เมอร์เซดีส วาร์นาโด
นักรบหญิงชาวแมนดาลอเรียน ในกลุ่มของ โบคาทาน มีทักษะการต่อสู้ที่เก่งกาจ และสามารถจัดการศัตรูได้อย่างรวดเร็ว
แอ็กซ์ วูลฟ์
รับบทโดย ไซมอน แคสเซียนิเดส
ทหารหนุ่มแมนดาลอเรียน หนึ่งในผู้ช่วยคนสนิทของ โบคาทาน แข็งแรงกำยำ และมีทักษะการต่อสู้สูงไม่แพ้คนอื่น ๆ ในช่วงซีซั่นที่ 3 เขาได้แยกตัวจากโบ ไปพร้อมกับกองกำลัง กลายเป็นทหารรับจ้าง กระทั่งโบกลับมาทวงตำแหน่งผู้นำคืน จึงเกิดการดวลกัน และโบเป็นฝ่ายชนะ รวมถึงยังได้ ดาร์คเซเบอร์ ที่ดินมอบให้เธอ ด้วยเหตุที่เอาชนะศัตรูที่จัดการดินได้ เขาจึงยอมรับโบเป็นผู้นำกลุ่มอีกครั้ง
เฟนเนค แชน
รับบทโดย หมิงน่า เหวิน
มือสังหารรับจ้างที่ขึ้นชื่อว่ายิงไม่เคยพลาดเป้า เธอได้ปะทะกับดินอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะพลาดท่าถูกชายที่หลอกใช้ดิน ยิงเข้าที่กลางลำตัว แต่ก็ได้โบบา เฟตต์ ช่วยชีวิตเธอได้ทัน โดยพาตัวไปผ่าตัดใส่อวัยวะจักรกล หลังจากนั้นเธอก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยมือขวาของ โบบา เฟตต์
เคลเลอแรน เบค
รับบทโดย อาห์เมด เบสท์
อาจารย์เจไดมากฝีมือ ผู้มีฉายาว่า Sabered Arm ซึ่งมีที่มาจากฝีมือเพลงกระบี่แสงที่เก่งกาจของเขา ที่สูงชนิดหาตัวจับยาก เบค เป็นคนที่พา โกรกู หนีจากวิหารเจได ที่ขณะนั้นถูก เวเดอร์ พร้อมกับกองทัพโคลนบุกถล่ม แม้ว่าเขาจะเสียเปรียบด้านจำนวนคน แต่ด้วยวิชากระบี่แสงคู่ของเขา ทำให้สามารถตีฝ่าวงล้อมทหารโคลนออกมาได้ กระทั่งใช้ยานสปีดเดอร์ เดินทางมาถึงท่ายาน ก่อนเขาและโกรกู จะหลบหนีออกจาก คอร์รัสซัง ได้ในที่สุด
อนึ่ง อาห์เมด เบสท์ เคยแสดงในภาพยนตร์ สตาร์วอร์ส มาก่อน ในภาค 1 ภัยซ่อนเร้น ในบทของ จาร์จาร์ บิงส์

การสร้าง

[แก้]

ภูมิหลัง

[แก้]

จอร์จ ลูคัส ผู้สร้างสตาร์ วอร์ส ได้เริ่มดำเนินงานสร้างภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์สตาร์ วอร์สแบบคนแสดงมาตั้งแต่ ค.ศ. 2009 ในชื่อ อันเดอร์เวิลด์ นับจนถึง ค.ศ. 2012 มีบทภาพยนตร์ถูกเขียนขึ้นมาแล้วสำหรับภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้มากกว่า 50 ฉบับ แต่ทั้งหมดถูกประเมินว่ามีค่าใช้จ่ายสูงเกินไปจนไม่สามารถถ่ายทำได้[1] เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2013 ประธานบริษัทเอบีซี พอล ลี ได้กล่าวว่าสถานีโทรทัศน์เอบีซีจะเริ่มพิจารณาการสร้างภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์สตาร์ วอร์สแบบคนแสดงร่วมกับลูคัสฟิล์มหลังจากจอร์จ ลูคัสขายบริษัทดังกล่าวให้กับเดอะวอลท์ดิสนีย์คอมพานีซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเอบีซีเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012[2] ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 บ็อบ ไอเกอร์ ซึ่งเป็นซีอีโอของดิสนีย์จึงประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัทดิสนีย์และลูคัสฟิล์มกำลังสร้างภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์สตาร์ วอร์สแบบคนแสดงเพื่อออกฉายทางบริการสตรีมมิ่งดิสนีย์พลัส[3]

อ้างอิง

[แก้]
  1. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Underworld
  2. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ LeeJan2013
  3. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ IgerNov2017

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]