เจ้าเพชรราช รัตนวงศา
สมเด็จเจ้ามหาอุปราช เพชรราช รัตนวงศา | |
---|---|
พระมหาอุปราชลาว | |
ดำรงพระยศ ครั้งที่ 1 | ไม่ปรากฏ – 12 ตุลาคม ค.ศ. 1945 |
ก่อนหน้า | เจ้ามหาอุปราชบุญคง |
ถัดไป | พระองค์เอง |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ |
ดำรงพระยศ ครั้งที่ 2 | 16 เมษายน ค.ศ. 1957 – 14 ตุลาคม ค.ศ. 1959 |
ก่อนหน้า | พระองค์เอง |
ถัดไป | ยกเลิกพระอิสริยยศ |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ |
ประมุขแห่งรัฐลาว | |
ดำรงตำแหน่ง 12 ตุลาคม ค.ศ. 1945 – 24 เมษายน ค.ศ. 1946 | |
นายกรัฐมนตรี | พระยาคำม้าว วิไล |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ (ในฐานะกษัตริย์) |
ถัดไป | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ (ในฐานะกษัตริย์) |
นายกรัฐมนตรีลาว คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 21 สิงหาคม ค.ศ. 1941 – 10 ตุลาคม ค.ศ. 1945 | |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | พระยาคำม้าว วิไล |
ประสูติ | 19 มกราคม ค.ศ. 1890 วังหน้า หลวงพระบาง อาณาจักรหลวงพระบาง อินโดจีนของฝรั่งเศส |
ทิวงคต | 14 ตุลาคม ค.ศ. 1959 วังเชียงแก้ว หลวงพระบาง พระราชอาณาจักรลาว | (69 ปี)
พระชายา | เจ้าหญิงคำแว่น |
หม่อม | ศรี อภิณพร ยงใจยุทธ |
พระราชบุตร | เจ้าหญิงคำผิว เพชรราช เจ้าหญิงคำจันทร์ เพชรราช เจ้าสุริยราช เพชรราช เจ้าหญิงอรุณา เพชรราช เจ้าอุ่นแก้ว เพชรราช |
ราชวงศ์ | ล้านช้างร่มขาว |
ราชสกุล | รัตนวงศา |
พระราชบิดา | เจ้ามหาอุปราชบุญคง |
พระราชมารดา | เจ้าหญิงทองศรี |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
อาชีพ | ข้าราชการ นักการเมือง |
พรรคการเมือง | ลาวอิสระ (ค.ศ. 1945–1946) |
สมเด็จเจ้ามหาอุปราชเพชรราช รัตนวงศา (ลาว: ເພັດຊະລາດ ລັດຕະນະວົງສາ; 19 มกราคม พ.ศ. 2443 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2502) วีรบุรุษของชาวลาว ผู้ทรงจัดตั้งรัฐบาลลาวอิสระเพื่อปลดแอกจากการปกครองของฝรั่งเศส และรวมแผ่นดินลาวทั้งหมดให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงเป็นพระมหาอุปราชพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์ของประเทศลาวในสมัยประเทศลาวยังเป็นพระราชอาณาจักรลาว และทรงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของลาวในช่วง พ.ศ. 2485 - 2488 ทรงได้รับการนับถือจากชาวลาวเป็นอย่างมากตราบจนถึงทุกวันนี้
ประวัติ
[แก้]เจ้าเพชรราช ประสูติ ณ ตำหนักวังหน้า นครหลวงพระบาง เมื่อวันอาทิตย์ เดือนยี่ แรม 9 ค่ำ ปีฉลู จุลศักราช 1251 เวลา 11.55 น. ตรงกับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2433 (ค.ศ.1890) เป็นโอรสองค์ที่ 3 ของเจ้ามหาอุปราชบุญคง ซึ่งสืบตระกูลมาจากเจ้ามหาอุปราชอุ่นแก้วซึ่งเป็นต้นตระกูลเดิม เมื่ออายุได้ 7 ปีกว่าจึงเริ่มเรียนหนังสือลาวและหนังสือสยามและภาษาฝรั่งเศส พร้อมๆกับการติดสอยตามพระบิดาไปตรวจงานหัวเมืองเสมอ ปี พ.ศ. 2442 ผนวชเป็นสามเณรที่วัดธาตุหลวงเรียนภาษาบาลี ปี พ.ศ. 2447 ได้เสด็จไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ที่โรงเรียนโกโลนิยาล (Colonial) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่รัฐบาลฝรั่งเศสตั้งขึ้นเพื่ออบรมผู้ที่จะไปเป็นข้าราชการปกครองในประเทศหัวเมืองขึ้น ต่อมาเข้าโรงเรียนมัธยมมงเตเยอ แผนกวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ ในระหว่างปิดเทอมได้ข้ามไปพักในอังกฤษ อาศัยอยู่กับมิสเตอร์เลนน อาจารย์สอนดาราศาสตร์จึงทำให้เกิดสนใจในดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ตั้งแต่นั้นมา ต่อมาได้แต่งหลักคำนวณปฏิทินลาวไว้ด้วย พระองค์ศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมเซนต์หลุยส์ถึงปี 2453 เสด็จกลับมาผนวชเป็นพระภิกษุที่วัดหนองสระแก้วตามประเพณี เมื่อลาผนวชแล้ว เข้ารับราชการเป็นผู้ร่างหนังสืออยู่กองคลัง หลวงพระบาง
พระองค์อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงคำแว่น พระพี่นางเธอของเจ้าศรีสว่างวงศ์ ซึ่งตกพุ่มหม้ายและมีอายุมากกว่าหลายปี ทั้งนี้ว่ากันว่าเป็นการประสานรอยร้าวระหว่างราชวงศ์หลวงพระบางสายเจ้ามันธาตุราชกับสายเจ้าอุ่นแก้ว (ตระกูลวังหน้ากับตระกูลวังหลัง) มีพระโอรสและพระธิดา 3 องค์ คือ เจ้าหญิงคำผิว (เสียชีวิต) เจ้าหญิงคำจันทร์ (สามีเป็นชาวฝรั่งเศส) และเจ้าชายสุริยะราช
ขณะรับตำแหน่งผู้ตรวจราชการหัวเมืองลาวที่นครเวียงจันทน์ ได้อนุชายา ชื่อนางศรี (ชาวเวียงจันทน์) บุตรธิดา 2 คน ได้แก่ เจ้าหญิงอรุณา (เจ้านา) เพชรราช และเจ้าชายอุ่นแก้ว (เจ้าแก้ว) เพชรราช [1] (ภายหลังเมื่อสิ้นเจ้าเพชรราชแล้ว ทั้งสองท่านนี้ได้ตามหม่อมอภิณพร รัตนวงศามาอยู่ในเมืองไทย เจ้านาเรียนพยาบาล และเจ้าแก้วรับราชการทหาร)[2]
พ.ศ. 2489 เมื่อต้องทรงลี้ภัยทางการเมืองเข้ามาอยูในประเทศไทย พร้อมรัฐบาลลาวอิสระและประชาชนเมืองลาวผู้รักอิสรภาพหลายพันคนเป็นเวลานานถึง 11 ปี ขณะพำนักลี้ภัยในประเทศไทย มีคุณอภิณพร ยงใจยุทธเป็นแม่บ้าน ต่อมาได้สมรสกับคุณอภิณพรเปลี่ยนเป็นหม่อมอภิณพร รัตนวงศา (นามสกุล “รัตนวงศา” ทรงตั้งขึ้นเองเมื่ออยู่ในเมืองไทย สืบเนื่องจากพระมหาอุปราชอุ่นแก้วพระปัยกา) หม่อมอภิณพรฯ เป็นกำลังสำคัญของการปฏิบัติการกู้ชาติ ผู้ทำหน้าที่แม่บ้านปกครองดูแลผู้คนจำนวนมาก เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานกับรัฐบาลไทย บริหารการจัดการเงินจัดหาค่าใช้จ่าย เป็นเลขานุการส่วนพระองค์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนพระองค์เจ้าเพชรราช เจรจาการเมืองและเรื่องส่วนพระองค์ ทั้งในและนอกราชอาณาจักรไทย ไปพนมเปญ ไปย่างกุ้ง เพื่อทำความเข้าใจร่วมระหว่างลาวเขมรญวนและพม่าที่ต่างมุ่งล้างอิทธิพลชาวผิวขาวด้วยกัน
พ.ศ. 2490 รัฐบาลฝรั่งเศสยินยอมให้ประเทศลาวในนามพระราชอาณาจักรลาวเป็นเอกราชในเครือสหพันธ์ฝรั่งเศส เจ้าเพชรราชทรงไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าเอกราชนั้นไม่สมบูรณ์ จึงทรงวางมือทางการเมืองไม่เข้ากับฝ่ายใด เพราะเจ้าสุวรรณภูมา พระอนุชาองค์ที่ 1 เข้ากับฝรั่งเศส, เจ้าสุภานุวงศ์ พระอนุชาองค์ที่ 2 เข้ากับเวียดนามเหนือ, รัฐบาลไทยโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี รับรองรัฐบาลลาวตามนโยบายการเมืองที่จำเป็น
ขณะที่ประทับในเมืองไทยนับแต่วางมือจากการเมือง และหายจากโรคกระเพาะอาหารที่ต้องรับการผ่าตัด จึงหันหน้าเข้าป่าล่าเนื้อกับบรรดาเจ้านายไทยและข้าราชการไทยผู้ที่ชอบกีฬาล่าเนื้อเหมือนกัน [3] จนเป็นที่รักชอบกัน
พ.ศ. 2499 เสด็จเจ้าสุวรรณภูมาได้ทูลเชิญเจ้าเพชรราชกลับเพื่อแก้ปัญหายุ่งยากในประเทศ และได้เสด็จกลับในวันที่ 22 มีนาคม 2500 โดยทางรถไฟจากกรุงเทพถึงหนองคาย มีประชาชนลาวไปต้อนรับอย่างล้นหลาม เมื่อเสด็จกลับสู่ราชอาณาจักรลาวอีกครั้ง เป็นความปลี้มปิติและความหวังใหม่ที่ชาติลาวจะได้สงบร่มเย็น เจริญรุ่งเรืองไร้การครอบครองของชาติอื่น ท่านกลายเป็นเทพเจ้าของคนลาว แต่ก็เป็นชนวนให้เกิดความไม่พอใจ รวมทั้งอุปสรรคขวากหนามต่างๆ ที่ทำให้พระองค์ตระหนักถึงความล้มเหลว ในการรวมตัวกันสร้างชาติใหม่ และทรงทราบถึงอันตรายบางประการ
ประมาณเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2502 ทรงมีลายพระหัตถ์ถึงพระสหายนักนิยมไพรในกรุงเทพฯ [4] บรรยายถึงความผิดหวังและล้มเหลว รับสั่งว่าถึงคราวที่ต้องเสด็จนิราศจากแผ่นดินเกิด เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในเมืองไทยอีกครั้ง ประมาณว่าจะเสด็จในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2502 แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดคาดฝันได้อุบัติขึ้น เช้าวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2502 พระสหายในกรุงเทพฯ ได้รับแจ้งจากเจ้าคำปาน เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรลาวประจำประเทศไทย ณ กรุงเทพมหานคร ว่า เจ้าเพชรราชสิ้นพระชนม์แล้วเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2502 ณ วังเชียงแก้ว สาเหตุเส้นโลหิตในพระสมองแตก
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]พระราชอาณาจักรลาว
[แก้]- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ล้านช้างร่มขาว ชั้นประถมาภรณ์ (ປະຖະມາພອນ ปะถะมาพอน)
ประเทศไทย
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- หนังสือเจ้าเพชรราช เรียบเรียงโดยมหาสิลา วีระวงส์
- บทความเรื่อง "เจ้าเพชรราช มหาอุปราชแห่งเวียงจันทน์ " เรียบเรียงโดยนายสรศัลย์ แพ่งสภา และนายอติศัย แพ่งสภา และโดยความร่วมมือของสมาชิกนิยมไพรไทยจากประสบการณ์จริง รวมทั้งนายอติศัยฯ ที่ได้ช่วยเหลืองานด้านการเกษตรขององค์การ USOM ในประเทศลาว พักอาศัยอยู่ที่วังเวียงจันทน์ จนวันสุดท้าย 15 ตุลาคม 2502
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ชีวิตผู่ข้า (อัตชีวประวัติของข้าพเจ้า) โดย มหาสิลา วีระวงส์
- สถานการณ์ในอินโดจีน หลังสงครามมหาเอเชียบูรพา เก็บถาวร 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากหนังสือ 60 ปีในความทรงจำ พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา]
- Ivarsson, Søren and Christopher E. Goscha. (2007, Feb.). Prince Phetsarath (1890–1959): Nationalism and Royalty in the Making of Modern Laos. Journal of Southeast Asian Studies, 38(1), 55–81.
ก่อนหน้า | เจ้าเพชรราช รัตนวงศา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
— | นายกรัฐมนตรีลาว (พ.ศ. 2483 – 10 ตุลาคม พ.ศ. 2488) |
พระยาคำม้าว วิไล |