ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Vivokkk77 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Vivokkk77 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 50: บรรทัด 50:
โบรุสซีอา (Borussia) เป็นคำในภาษาละตินหมายถึง[[ปรัสเซีย]] อดีตอาณาจักรที่เป็นผู้นำรวบรวมแว่นแคว้นเยอรมนีให้เป็นปึกแผ่นจนเป็นมหาอำนาจของโลก
โบรุสซีอา (Borussia) เป็นคำในภาษาละตินหมายถึง[[ปรัสเซีย]] อดีตอาณาจักรที่เป็นผู้นำรวบรวมแว่นแคว้นเยอรมนีให้เป็นปึกแผ่นจนเป็นมหาอำนาจของโลก


== ประวัติ ==
== ประวัติของสโมสร ==
=== ช่วงยุคแรก ===
=== ช่วงยุคแรก ===
สโมสร ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 1909 โดยกลุ่มเยาวชนที่ไม่พอใจที่ทางโบสต์คาธอลิคสนับสนุนแต่เด็กๆที่นับถือศาสนาเดียวกัน พวกเค้าเล่นฟุตบอลด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่สนใจสายตาของนักบวชที่มองมา นักบวชดีวาลด์เคยกั้นประตูคลับ Zum Widshutz เมื่อพวกเค้าพยายามใช้มันเป็นที่ประชุมทีม
สโมสร ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 1909 โดยกลุ่มเยาวชนที่ไม่พอใจที่ทางโบสต์คาธอลิคสนับสนุนแต่เด็กๆที่นับถือศาสนาเดียวกัน พวกเค้าเล่นฟุตบอลด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่สนใจสายตาของนักบวชที่มองมา นักบวชดีวาลด์เคยกั้นประตูคลับ Zum Widshutz เมื่อพวกเค้าพยายามใช้มันเป็นที่ประชุมทีม

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:37, 20 มิถุนายน 2563

โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์
ชื่อเต็มBallspiel-Verein Borussia 1909 e. V. Dortmund
ฉายาDie Schwarzgelben (ดำเหลือง)
Der BVB (The BVB)
เสือเหลือง, ผึ้งน้อย (ในภาษาไทย)
ก่อตั้ง19 ธันวาคม ค.ศ. 1909
สนามซิกนาลอีดูนาพาร์ค
ความจุ81,360[1]
ประธานเยอรมนี เรอินฮาร์ด ราอูบอลล์
ผู้จัดการลูว์เซียง ฟาฟวร์
ลีกบุนเดิสลีกา
2018–19อันดับที่ 2
เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน

โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ (เยอรมัน: Borussia Dortmund; ชื่อจัดตั้ง Ballspielverein Borussia 09 e.V. Dortmund) ย่อว่า เบเฟาเบ (BVB) หรือ ดอร์ทมุนท์ (Dortmund) เป็นสโมสรฟุตบอลจากเมืองดอร์ทมุนท์ รัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน ประเทศเยอรมนี ปัจจุบันเล่นอยู่ในบุนเดิสลีกา ลีกสูงสุดของประเทศ

โบรุสซีอา (Borussia) เป็นคำในภาษาละตินหมายถึงปรัสเซีย อดีตอาณาจักรที่เป็นผู้นำรวบรวมแว่นแคว้นเยอรมนีให้เป็นปึกแผ่นจนเป็นมหาอำนาจของโลก

ประวัติของสโมสร

ช่วงยุคแรก

สโมสร ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 1909 โดยกลุ่มเยาวชนที่ไม่พอใจที่ทางโบสต์คาธอลิคสนับสนุนแต่เด็กๆที่นับถือศาสนาเดียวกัน พวกเค้าเล่นฟุตบอลด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่สนใจสายตาของนักบวชที่มองมา นักบวชดีวาลด์เคยกั้นประตูคลับ Zum Widshutz เมื่อพวกเค้าพยายามใช้มันเป็นที่ประชุมทีม ผู้ก่อตั้งสโมสรประกอบไปด้วย ฟรานซ์ และพอล บรัวน์,เฮนรี เคลฟ,ฮานส์ เดเบสต์,พอล ดีเซียนด์เซียเล่,ฟรานซ์,จูเลียส และวิลเฮิล์ม จาโคบี,ฮานส์ คาห์น,กุสตาฟ มูลเลอร์,ฟรานซ์ ริซซี่,ฟริทซ์ สชัวล์เต้,ฮานส์ เซียโบลด์,ออกัสต์ โตนเนสแม่นน์,เฮนริช และโรเบิร์ต อูเกอร์,ฟริทซ์ เวเบอร์,และฟรานซ์ เวนด์ท โดยชื่อโบรุสซีอา มาจากภาษาละตินว่า Prussia แต่เนื่องจากอยู่ใกล้โรงเบียร์โบรุสซีอา ในดอร์ทมุนท์ เลยตั้งชื่อทีมว่า โบรุสซีอา เดิมใส่เสื้อสีน้ำเงิน-ขาว คาดแดง กางเกงสีดำ ต่อมา ค.ศ.1913 พวดเค้าก็เปลี่ยนมาใช้สี เหลือง-ดำ จนถึงปัจจุบัน กว่าสิบปีที่พวกเค้าโลดแล่นอยู่ในลีกระดับท้องถิ่น จนกระทั่ง ค.ศ.1929 พวกเค้ามีปัญหาการเงินจนแทบล้มละลายเมื่อได้ว่าจ้างนักเตะอาชีพมาลงเล่น แต่ไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าจ้าง โชคดีที่ได้ผู้สนับสนุนมาช่วยทีมได้ทันเวลา ค.ศ.1930 เป็นช่วงที่ทีมเติบโตขึ้น เมื่อมีการปรับโครงสร้างการแข่งขันฟุตบอลให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ต่อมาประธานของดอร์ทมุนท์ถูกสับเปลี่ยน เนื่องจากการไม่ยอมเข้าร่วมกับกลุ่มนาซี แถมสมาชิกสองคนในสโมสรก็ทำใบปลิวต้อต้านนาซีอีกต่างหาก สโมสรประสบความสำเร็จมากในเขต เจาลิกา เวสต์มาเลน แต่ต้องรอจนกระทั่งสงครามโลกผ่านพ้นไป ในช่วงนี้ทีมมีค่แข่งจากเมืองติดกันคือ ทีมชาล์เก้ 04 เนื่องจากเมืองดอร์ทมุนท์เข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามโลก ทำให้หน่วยงานต่างๆถูกยุบ รวมถึงสโมสรฟุตบอลด้วย ได้มีความพยายามที่จะรวมสองสโมสรเข้าด้วยกันคือ เวิร์กสปอร์ตชีเมนส์ชาฟท์ และ เฟรเออร์ สปอร์ตเวเรน 98 ในชื่อ สปอร์ตชีเมนส์ชาฟท์ โบรุสซีอา วอน 1898 แต่ตอนที่ลงแข่งครั้งแรกในลีกระดับชาติกลับใช้ชื่อ บอลล์สเปียล เวเรน โบรุสซีอา (BVB) โดยพวกเค้าแพ้ต่อ วีเออาร์ มานน์ไฮม 2-3

ยุคบุนเดิสลีกา

ในช่วง ค.ศ.1946-1963 ทีมได้ลงเล่นในรายการ โอเบอร์ลีกา เวสต์ ปี ค.ศ.1949 พวกเค้าเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศที่สตุ๊ดการ์ต เจอกับ ทีมวีเอฟอาร์ มานน์ไฮม ปรากฏว่าพวกเขาแพ้ไป 2-3 ทีมได้ลงเล่นฟุตบอลลีกของเยอรมันครั้งแรกในปี ค.ศ.1956 หลังจากที่ลีกเพิ่งก่อตั้งใน ค.ศ.1950 หลังการเข้าร่วมฟุตบอลลีกได้ 1 ปี พวกเขาชนะฮัมบวร์ค เอสวี คว้าอันดับที่2 ในฟุตบอลเยอรมัน ฟุตบอล แชมป์เปี้ยนชิพ ในปี ค.ศ.1963 พวกเขาได้ตำนานอัลเฟรดทั้ง 3ได้แก่ อัลเฟรด ไพรบ์เลอร์,อัลเฟรด เคลบาสซ่า และอัลเฟรด นีเพียโคล ช่วยให้คว้าแชมป์ เยอรมัน ฟุตบอล แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนระบบการแข่งขันเป็นบุนเดิสลีกา ในปีค.ศ.1962 ดอร์ทมุนท์มีส่วนร่วมในการโหวตเพื่อสร้างฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศเยอรมัน ในชื่อ บุนเดิสลีกา โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์เป็น 1 ใน 16 ทีมที่ได้ร่วมแข่งขันหลังจากผ่านการคัดเลือกจากการแข่งขัน ปรี บุนเดิสลีกา เนชั่นแนล แชมป์เปี้ยนชิพ โดยประตูแรกที่ทีมทำได้ในลีก เกิดขึ้นจาก เฟรดเฮห์ม โคเนียท์สก้า ที่ทำได้ในนัดแรกที่พวกเค้าพบกับแวร์เดอร์ เบรเมน ค.ศ.1965 พวกเค้าคว้าแชมป์ DFB Pokal ได้สำเร็จ ปีถัดมาก็ได้แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์สคัพ โดยเอาชนะลิเวอร์พูลได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 ปีเดียวกันนี้พวกเค้าพลาดแชมป์ฟุตบอลลีก เมื่อพลาดท่าแพ้ 4 นัดจาก 5 นัด ทำได้คะแนนน้อยกว่า 1860 มิวนิก แค่ 3 แต้ม โดยมีจอมถล่มประตูอย่าง โคเนียท์สก้า ที่เพิ่งย้ายไปจากดอร์ทมุนท์นั่นเอง

คว้าความสำเร็จในเยอรมันและยุโรป

ค.ศ.1970 พวกเค้าประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้ทีมตกชั้นในปี ค.ศ.1972 หลังจากนั้น ค.ศ.1974 ทีมเปิดใช้สนาม เว็สท์ฟาเลินสเตเดี้ยน ในแถบเว็สท์ฟาเลิน ทีมก็กลับขึ้นชั้นมาเล่นในบุนเดิสลีกาอีกครั้งใน ค.ศ.1976 ดอร์ทมุนท์มีปัญหาด้านการเงินอีกครั้งใน ค.ศ.1980 จนต้องแข่งเพลย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้นในปี 1986 โดยพบกับฟอร์ทูน่า โคโลญน์ และเป็นดอร์ทมุนที่เอาชนะมาได้ ฤดูกาลต่อมาพวกเค้าจบด้วยอันดับที่ 16 พวกเคาไม่ประสบความสำเร็จเลย จนกระทั่งปี ค.ศ.1989 พวกเค้าได้แชมป์ DFB Pokal เมื่อเอาชนะแวร์เดอร์ เบรเมน ได้ในนัดชิงชนะเลิศ โดยเป็นถ้วยแชมป์ครั้งแรกของผู้จัดการทีมอย่าง ฮอร์สต์ คอปเปล ปี 1 ค.ศ.1989 พวกเค้าก็ได้แชมป์ DFL ซูเปอร์คัพ โดยการชนะบาร์เยิร์น มิวนิก 4-3 หลังจบฤดูกาลบุนเดิสลีกาใน ค.ศ.1991 พวกเค้าได้อันดับที่ 10 ฮอร์สต์ คอปเปล ลาออกและได้ ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลต์ มาคุมทีมแทน ปี ค.ศ.1992 พวกเค้าได้ที่ 2 หลังพลาดท้าย่ายต่อสตุ๊ดการ์ตในนัดสุดท้าย และฤดูกาลถัดมาได้อันดับ 4 โดยพวกเค้าได้เข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ แต่ก็แพ้ต่อยูเวนตุสไป 1-6 แม้จะได้แค่รองแชมป์ แต่พวกเค้าก็ได้เงินรางวัลมากพอที่จะซื้อนักเตะชื่อดังมาร่วมทีม

ครองจ้าวยุโรปของสโมสร

ภายใต้การนำของนักเตะยอดเยี่ยมยุโรปอย่าง มาเทียส แซมเมอร์ พวกเค้าได้แชมป์บุนเดิสลีกาในปี ค.ศ.1995 และ 1996 และแชมป์ DFL ซูเปอร์คัพ ใน ปี ค.ศ.1995 และ 1996 เช่นกัน และปี ค.ศ.1997 พวกเค้าก็ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ครั้งแรกหลังเอาชนะยูเวนตุสได้ 3-1 ได้ที่สนามโอลิมปิค สเตเดี้ยน ในมิวนิก หลังจากนั้นปีเดียวกันพพวกเค้าก็คว้าแชมป์ อินเตอร์คอนติเนลทอล คัพ โดยชนะ ครูไซโร่ 2-0 เป็นทีมที่ 2 จากเยอรมันที่ได้แชมป์รายการนี้ หลังจากบาร์เยิร์น มิวนิกทำได้ ในปี ค.ศ.1976 ปี ค.ศ.1998 ดอร์ทมุนท์ทีมแชมป์เก่าในรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ พบกับเรอัลมาดริด แต่ทีมประสบปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บหลายคน ทำให้ทีมตกรอบแค่รอบนี้ เดือนตุลาคม ค.ศ.2000 โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ได้ทำการขายหุ้นสโมสรแก่บุคคลทั่วไปเป็นทีมแรกของเยอรมัน ต่อมาปี ค.ศ.2002 ดอร์ทมุนท์กลับมาคว้าแชมป์บุนเดิสลีกา ได้อีกครั้ง โดยมี มาเทียส แซมเมอร์ เป็นผู้จัดการทีมประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ทั้งตอนที่เป็นนักเตะและผู้จัดการทีม ฤดูกาลเดียวกันนี้พวกเค้าได้รองแชมป์ยูฟ่าคัพ โดยแพ้นัดชิงต่อ เฟเยนูร์ด อย่างน่าเสียดาย

ประสบปัญหาด้านการเงินแต่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ดอร์ทมุนเริ่มประสบปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การขายสนามเว็สท์ฟาเลิน สเตเดี้ยน เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้เงินกู้ ต้นตอของปัญหาเกิดจากการที่พวกเค้าตกรอบคัดเลือกการแข่งขัน ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก โดยแพ้ คลับ บลู๊ก ในปี ค.ศ.2003 โดยมีทางบาร์เยิร์น มิวนิก ที่ให้ยืมเงินมูลค่า 2 ล้านยูโร เพื่อแก้ปัญหานี้ อย่างไรก็ตามปี ค.ศ.2005 พวกเค้าก็เจอปัญหาด้านการเงินอีกครั้ง จนหุ้นสโมสรตกลงกว่า 80% โดยสโมสรแก้ปัญหาด้วยการจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะเพียง 20% ของสัญญา และเพื่อลดหนี้สินลง ทางสโมสรได้เปลี่ยนชื่อสนามเป็น ซิกแนล อิดูน่า พาร์ค ตามชื่อบริษัทประกันภัยท้องถิ่นที่เข้ามาสนับสนุนทางการเงินให้สโมสร โดยจะใช้ชื่อนี้จนถึงปี ค.ศ.2021 ฤดูกาล 2005-2006 ดอร์ทมุนท์กลับมามีกำไรอีกครั้ง หลังขาย ดาวิด โอดองเคอร์ ให้กับ เรอัล เบติส และขาย โทมัส โรซิคกี้ ให้กับอาร์เซนอล โดยฤดูกาลนั้นพวกเค้าได้อันดับ 7 พลาดการไปแข่งยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 2006-2007 ทีมเกือบตกชั้นเมื่ออยู่เหนือโซนตกชั้นแค่ 1 คะแนน วันที่ 13 มีนาคม 2007 ทีมได้แต่งตั้ง โทมัส ดอลล์ เป็นผู้จัดการทีม ฤดูกาล 2007-2008 พวกเค้าได้อันดับ 13 และเข้าชิง DFB Pokal แต่แพ้ บาร์เยิร์น มิวนิก 1-2 อย่างไรก็ตามทีมได้สิทธิไปเล่นยูฟ่า คัพ เนื่องจากบาร์เยิร์น มิวนิก ไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก วันที่ 19 พฤษภาคม 2008 โทมัส ดอลล์ ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมและถูกแทนที่ด้วย เจอเก้น คล๊อปป์

ยุค 2010S

ฤดูกาล 2009-2010 คล๊อปป์พัฒนาดอร์ทมุนจนทีมคว้าอันดับ 5 ได้ ได้สิทธิไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2010-2011 ดอร์ทมุนท์คว้าแชมป์บุนเดสลีกกา เมื่อมีแต้มนำทีมอันดับ 2 อย่าง ไอเออร์ ลิเวอร์คูเซ่น 8 แต้ม และเหลือการแข่งขันแค่ 2 นัด พร้อมได้สิทธิเข้าแข่งรายการ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก อัตโนมัติ หนึ่งปีต่อมา พวกเค้าป้องกันแชมป์บุนเดิสลีกาได้สำเร็จ และสร้างสถิติทำได้ 81 แต้ม มากที่สุดตั้งแต่มีลีกบุนเดิสลีกา ก่อนที่บาร์เยิร์น มิวนิก จะทำลายสถิติที่ 91 แต้มในฤฟดูกาลต่อมา ในฤดูกาล 2011-2012 พวก เค้าได้ 2 แชมป์ด้วยกันคือ บุนเดิสลีกาและ DFB Pokal ซึ่งมีแค่ 4 สโมสรเท่านั้นที่ทำได้คือ บาร์เยิร์น มิวนิก,โคโลญน์,แวร์เดอร์ เบรเมน และดอร์ทมุน นอกจากนี้ทีมยังได้รับรางวัล Sportler des Jahres อีกด้วย ฤดูกาล 2012-2013 พวกเค้าจบด้วยอันดับ 2 ของตารางและได้เข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก กับ บาร์เยิร์น มิวนิก ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รอบชิงชนะเลิศเป็นทีมจากเยอรมันทั้ง 2 ทีม โดยพวกเค้าแพ้ไป 1-2 เริ่มฤดูกาล 2013-2014 พวกเค้าเริ่มฤดูกาลด้วยการชนะ DFL ซูเปอร์คัพ และในลีกพวกเค้าก็ชนะ 5 นัดรวด อย่างไรก็ตามด้วยขนาดทีมที่ไม่ใหญ่พอ เมื่อนักเตะตัวหลักเริ่มได้รับบาดเจ็บ และมาสามารทดแทนด้วยตัวสำรองได้ ทำให้พวกเค้าแพ้เรอัลมาดริดในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 พร้อมเข้าชิง DFB Pokal แต่ก็แพ้ต่อบาร์เยิร์น มิวนิก 0-2 ฤดูกาล 2014-2015 พวกเค้าเริ่มต้นได้สวยงาม ด้วยการชนะบาร์เยิร์น มิวนิก ในรายการ DFL ซูเปอร์คัพ 2-0 แต่ปรากฏว่าพวกเค้ากลับทำผลงานในลีกได้ไม่ดีนัก โดยมีคะแนนขึ้นๆลงๆอยู่ระหว่างโซนล่างของตาราง วันที่ 15 เมษายน 2015 เจอเก้น คล๊อปป์ ประกาศลาออกจากทีมหลังจบฤดูกาล และโธมัส ทูเคิ้ล มาแทนที่ พวกเค้าจบฤดูกาลด้วยอันดับ 8 และผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอล ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาล 2015-2016 ฤดูกาล 2015-2016 ดอร์ทมุนท์จบฤดูกาลด้วยการชนะ 24 ครั้ง ได้อันดับที่ 2 ของลีก โดยถือว่าเป็นอันดับ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดตลาดการ ในยูโรป้า ลีก พวกเค้าต้องตกรอบเมื่อพบกับลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของเจอเก้น คล๊อปป์ อดีตโค้ชของเค้าเอง และพวกเค้ายังได้เข้าชิง DFB Pokal เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน แต่ก็แพ้ต่อ บาร์เยิร์น มิวนิก ในการดวลจุดโทษตัดสิน วันที่ 11 เมษายน 2017 ระหว่างที่พวกเค้าเตรียมตัวแข่งฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก กับ เอเอส โมนาโก ที่โมนาโก เกิดเหตุระเบิดใกล้ๆกับรถบัสของนักเตะที่ซิกแนล อิดูน่า พาร์ค ส่งผลให้กองหลังของทีม 1 คน คือมาร์ค บาร์ทราร์และได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล สุดท้ายพวกเค้าก็พ่าย ทั้ง 2 เกมตกรอบยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกในที่สุด วันที่ 26 เมษายน 2017 พวกเค้าเข้าชิง DFB Pokal เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ใน 6 ฤดูกาลหลังสุด แต่ก็แพ้ต่อ บาร์เยิร์น มิวนิก วันที่ 27 พฤษภาคม 2017 ดอร์ทมุนชนะการแข่งขัน DFB Pokal โดยการชนะ แฟรงค์เฟิร์ต จากจุดโทษของ โอบาเมยอง

ชุดและสปอนเซอร์ที่ใช้

ผู้เล่นของโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ฉลองหลังจากการคว้าแชมป์ บุนเดิสลีกาในปี 2011

ชุดแข่ง

สปอนเซอร์บนเสื้อ

  • 1974–1976: เมืองดอร์ทมุนท์
  • 1976–1978: Samson (ยาสูบ)
  • 1978–1980: Prestolith (สีและกำจัดสารเคลือบเงา)
  • 1980–1983: UHU (กาว)
  • 1983–1986: Artic (ไอศกรีม)
  • 1986–1997: Die Continentale (การประกันสุขภาพ)
  • 1997–1999: s.Oliver (เครื่องแต่งกาย)
  • 1999–2005: E.ON (พลังงาน)
  • 2006–ปัจจุบัน: Evonik (สารเคมีพลังงานและอสังหาริมทรัพย์)

ผู้เล่น

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2019 [3][4]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK สวิตเซอร์แลนด์ โรมัน เบือร์คี
2 DF ฝรั่งเศส Dan-Axel Zagadou
5 DF โมร็อกโก อัชร็อฟ ฮะกีมี (ยืมตัวมาจากเรอัลมาดริด)
6 MF เดนมาร์ก ทอมัส ดิเลนีย์
7 MF อังกฤษ เจดอน แซนโช
8 MF เยอรมนี Mahmoud Dahoud
9 FW สเปน ปาโก อัลกาเซร์ (ยืมตัวมาจากบาร์เซโลนา)
10 MF เยอรมนี มารีโอ เกิทเซอ
11 FW เยอรมนี มาร์โค ร็อยส์ (กัปตัน)
13 DF โปรตุเกส ราฟาแอล กึไรรู
14 DF เยอรมนี Nico Schulz
15 DF เยอรมนี มัทซ์ ฮุมเมิลส์
16 DF สวิตเซอร์แลนด์ มานูเอ็ล อาคันจี
18 DF อาร์เจนตินา เลโอนาร์โด บาเลร์ดิ
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
19 MF เยอรมนี ยูลีอาน บรันท์
22 DF สเปน Mateu Morey
23 MF เบลเยียม ตอร์กาน อาซาร์
25 GK เยอรมนี Luca Unbehaun
26 DF โปแลนด์ วูกัช ปิชต์แชก
27 FW เยอรมนี Marius Wolf
28 MF เบลเยียม อักแซล วิตแซล
29 DF เยอรมนี มาร์เซ็ล ชเม็ลท์เซอร์
31 MF เยอรมนี Patrick Osterhage
33 MF เยอรมนี ยูลีอาน ไวเกิล
34 FW เดนมาร์ก Jacob Bruun Larsen
35 GK สวิตเซอร์แลนด์ มาร์วิน ฮิทซ์
37 MF เยอรมนี Tobias Raschl
40 GK เยอรมนี Eric Oelschlägel

สตาฟโค้ชปัจจุบัน

ตำแหน่ง ชื่อ
ผู้จัดการทีม เยอรมนี ปีเตอร์ สโตเกอร์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม เยอรมนี จอร์จ เฮนดริก
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน เนเธอร์แลนด์ เฮนรี่ คลาสเซ่น
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู เยอรมนี โวล์ฟกัง เดอ เบียร์
ผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนส อังกฤษ โอลิเวอร์ บาร์ตเลตต์
ผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนส เยอรมนี ฟรอริอัน วังค์เลอร์
นักกายภาพบำบัด เยอรมนี เปเตอร์ คันหต์
นักกายภาพบำบัด เยอรมนี ทอร์เบิน โวเอสเต
นักกายภาพบำบัด เยอรมนี ไมเคิล เวนเซิล
นักกายภาพบำบัด เยอรมนี โทมัส เซตซ์แมนน์
แพทย์ประจำสโมสร เยอรมนี ด็อกเตอร์ มาร์คัส บราอัน
หัวหน้าผู้สรรหานักเตะ เยอรมนี สเวน มิสลินแทต
หัวหน้านักกีฬา เยอรมนี ไมเคิล ซอร์ก
หัวหน้าของการพัฒนาเด็กและเยาวชน เยอรมนี ลาร์ส ริกเคน
ผู้เข้าร่วมประชุมแฟน เยอรมนี ซิกฟริเอด เฮลด์

เกียรติประวัติ

เยอรมนี ระดับประเทศ

ยุโรป ระดับทวีปยุโรป

โลก ระดับโลก

อ้างอิง

  1. 16 กรกฎาคม 2558. "Dortmunds Stadionkapazität erhöht sich" (ภาษาเยอรมัน). Kicker.
  2. "PUMA announces partnership with Borussia Dortmund (BVB)". Puma AG. 26 October 2011. สืบค้นเมื่อ 28 November 2011.
  3. "First Team". bvb.de. สืบค้นเมื่อ 27 July 2019.
  4. "Borussia Dortmund - Kader" (ภาษาGerman). bundesliga.com. สืบค้นเมื่อ 27 July 2019.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น