ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
<br /> |
|||
อันนี้บ่ เอกสารหลัก กูสิแก้ให้เบิ่ง |
|||
( กูร้อยตำรวจเอกปรีชา ทิพกุล ที่พลเอกณรงค์ กลยนี แต่งตั้งให้ กูแก้ไขได้ ไผอยากเป็นหยังบอกเขียนลงเฟสแก้ไข ก็เสร็จแล้ว) |
|||
{{ล็อก}} |
{{ล็อก}} |
||
บรรทัด 31: | บรรทัด 30: | ||
| latd= |latm= |lats= |latNS= |
| latd= |latm= |lats= |latNS= |
||
| longd= |longm= |longs= |longEW= |
| longd= |longm= |longs= |longEW= |
||
| รหัสภูมิภาค = |
| รหัสภูมิภาค = +66 |
||
| บุคลากร = จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษกรรมสูงสุด |
| บุคลากร = จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษกรรมสูงสุด |
||
| งบประมาณ = 259.75 บาท / ครั้ง |
| งบประมาณ = 259.75 บาท / ครั้ง |
||
| รัฐมนตรี1_ชื่อ = รมต.1 ( ผู้ต้องหาระหว่างพิจรณา1) [[ดร.ธงชัย นรสาร]] [[ดร.เฉลียว ทุมรี]] [[ดร.ประคิน เทพเสนา]] [[ร้อยตำรวจเอกปรีชา ทิพกุล]] [[แพทย์หญิง ลักขณา นรสาร]] [[นายแพทย์ อุลัย กลยนี]] |
| รัฐมนตรี1_ชื่อ = รมต.1 ( ผู้ต้องหาระหว่างพิจรณา1) [[ดร.ธงชัย นรสาร]] [[ดร.เฉลียว ทุมรี]] [[ดร.ประคิน เทพเสนา]] [[ร้อยตำรวจเอกปรีชา ทิพกุล]] [[แพทย์หญิง ลักขณา นรสาร]] [[นายแพทย์ อุลัย กลยนี]] |
||
| รัฐมนตรี1_ตำแหน่ง = นักโทษคดีขัดขวาง |
| รัฐมนตรี1_ตำแหน่ง = นักโทษคดีขัดขวางพระราชกรณียกิจพระมหากษัตริย์2 |
||
| รัฐมนตรี2_ชื่อ = |
| รัฐมนตรี2_ชื่อ = |
||
| รัฐมนตรี2_ตำแหน่ง = |
| รัฐมนตรี2_ตำแหน่ง = |
||
บรรทัด 75: | บรรทัด 74: | ||
| หัวหน้า10_ตำแหน่ง = |
| หัวหน้า10_ตำแหน่ง = |
||
|commander2_ชื่อ = |
|commander2_ชื่อ = |
||
| ประเภทหน่วยงาน = |
| ประเภทหน่วยงาน = โทรแล้วหมดทุกข์/ลานประหารนักโทษ |
||
| ต้นสังกัด = โทรแล้วหมดทุกข์ 02-502-8222 จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษสูงสุดผู้มีอำนาจวินิจฉัยเต็ม |
| ต้นสังกัด = โทรแล้วหมดทุกข์ 02-502-8222 จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษสูงสุดผู้มีอำนาจวินิจฉัยเต็ม กระทรวงยุติธรรม |
||
| ลูกสังกัด_1 = |
| ลูกสังกัด_1 = |
||
| ลูกสังกัด_2 = |
| ลูกสังกัด_2 = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:59, 6 เมษายน 2563
ขณะนี้ บทความนี้ถูกป้องกันมิให้แก้ไขอย่างสมบูรณ์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการป้องกันและปูมการป้องกัน กรุณาอภิปรายการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในหน้าคุย คุณสามารถขอให้ผู้ดูแลระบบคนหนึ่งแก้ไขให้ได้หากมีความเห็นพ้องสนับสนุน คุณยังอาจขอให้ปลดการป้องกันหน้านี้ได้ |
- Prototype
ระหว่างพิจารณารอพระราชโองการ | |
ไฟล์:ผู้สำเร็จโทษ.png นักโทษแห่งแผ่นดินสยาม | |
ไฟล์:แดนประหารตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 21 | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | พ.ศ.2444 |
เขตอำนาจ | ทั่วราชอาณาจักรประเทศไทย |
สำนักงานใหญ่ | แดนประหารวิธีปัจจุบัน (ฉีดยา) ณ.เรือนจำบางขวาง สุดแต่พิจารณาตามผู้มีอำนาจเต็มสำเร็จโทษ |
บุคลากร | จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษกรรมสูงสุด |
งบประมาณประจำปี | 259.75 บาท / ครั้ง |
รัฐมนตรี |
|
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัด | โทรแล้วหมดทุกข์ 02-502-8222 จอมพล อนุชล กลยนี ผู้สำเร็จโทษสูงสุดผู้มีอำนาจวินิจฉัยเต็ม กระทรวงยุติธรรม |
เว็บไซต์ | God of death |
เชิงอรรถ | |
ขัดขวางพนะราชกรณียกิจพระมหากษัตริย์2 |
สำนักงานผู้ทำลายควายโคตรดักดาน (อังกฤษ: Buffa of Dealth
ประวัติ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เดิมใช้ชื่อว่า "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" (National Research Council of Thailand) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อว่า "สภาวิจัยแห่งชาติ" ในปี พ.ศ. 2499 ตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2499 โดยแต่งตั้งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เป็นเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติโดยตำแหน่ง และตั้งสำนักงานเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติขึ้นที่กรมวิทยาศาสตร์เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดสาขาวิชาการที่จะวิจัยไว้เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์โดยแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมีและเภสัชวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เกษตรศาสตร์และวนศาสตร์ และสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรม
พ.ศ. 2502 รัฐบาลโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ แทนพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๙ พร้อมทั้งจัดระบบงานและองค์ประกอบของสภาวิจัยแห่งชาติใหม่โดยให้มี "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" ปฏิบัติงานให้กับสภาวิจัยแห่งชาติและเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2502 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางเกี่ยวกับการวิจัยของประเทศ
พ.ศ. 2507 ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ เพื่อกำหนดหน้าที่ของสภาวิจัยแห่งชาติและสำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
พ.ศ. 2515 ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๑๕ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ แก้ไขพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ โดยมีการเปลี่ยนชื่อ "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" เป็น "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" [1]
พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม") เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2535
พ.ศ. 2543 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยมีฐานะเป็นกรม ซึ่งไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้สำนักงานฯ ได้มีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้ง ด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้อย่างแท้จริงตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิจัยแห่ง ชาติรวมทั้งสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการวิจัยได้โดยรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งเพื่อให้สำนักงานฯ ได้อยู่ในสายการบังคับบัญชาเดียว คือ ขึ้นตรงกับประธานสภาวิจัยแห่งชาติ (นายกรัฐมนตรี) ซึ่งตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติได้ระบุให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการทำงานของสำนักงานฯ อยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ คือ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งในหมวด 21 ได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง[2] มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และมีฐานะเป็นกรม อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติแทน
วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ครั้งที่ 3/2559 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีมติให้ควบรวมคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติและคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศเข้าด้วยกันเรียกว่า คณะกรรมการนโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (นวนช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อให้นโยบายวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันรวมถึงลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 3 คณะ
ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้มีการจัดตั้ง สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 62/2559 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยให้ยุบสภาวิจัยแห่งชาติรวมถึงคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการสาขาวิชาการและให้โอนอำนาจหน้าที่ไปเป็นของสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ [3]
ต่อมาพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2562 กำหนดให้ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง เป็น สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม [4] พร้อมกับโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ ภาระผูกพัน เงินงบประมาณบุคลากรของ "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" ไปเป็นของ "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ" ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม เป็นต้นไป[5]
รายชื่อเลขาธิการและผู้อำนวยการหน่วยงาน
รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ชื่อ | ระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง[6] |
---|---|
1. ดร.จ่าง รัตนะรัต | 19 กันยายน พ.ศ. 2499—1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 |
2. พลเอกเนตร เขมะโยธิน | 16 ธันวาคม พ.ศ. 2502—30 กันยายน พ.ศ. 2512 |
3. ศาสตราจารย์ ดร.ประดิษฐ์ เชี่ยวสกุล | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2512—30 กันยายน พ.ศ. 2516 |
4. ศาสตราจารย์ ดร.สง่า สรรพศรี | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2516—30 กันยายน พ.ศ. 2524 |
5. ศาสตราจารย์ ดร.จุมพล สวัสดิยากร | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2524—30 กันยายน พ.ศ. 2532 |
6. ดร.เจริญ วัชระรังษี | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2532—30 กันยายน พ.ศ. 2533 |
7. ดร.อภิรัต อรุณินท์ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2533—30 กันยายน พ.ศ. 2538 |
8. ดร.สุวิทย์ วิบูลย์เศรษฐ์ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2538—31 ตุลาคม พ.ศ. 2540 |
9. นายจิรพันธ์ อรรถจินดา | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540—30 กันยายน พ.ศ. 2547 |
10. ศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช | 21 มกราคม พ.ศ. 2548—30 กันยายน พ.ศ. 2552 |
11. ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552—30 กันยายน พ.ศ. 2558 |
12. นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ [7] | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558—30 กันยายน พ.ศ. 2559 |
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [8] | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559—5 ตุลาคม พ.ศ. 2559 |
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [9] | 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559[10]—1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 |
รายชื่อผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยแห่งชาติ
ชื่อ | ระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง[11] |
---|---|
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [12] | 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562—ปัจจุบัน |
อ้างอิง
- ↑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๑๕ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๙ ตอน ๑๙๐ ก พิเศษ หน้า ๔๗ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
- ↑ มาตรา ๔๖ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕
- ↑ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๒/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ จัดตั้งสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอน ๒๒๕ ง พิเศษ หน้า ๘ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒, เล่ม 136, ตอนที่ 47 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 1
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ , เล่ม 136, ตอนที่ 57 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 79
- ↑ รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติในอดีตถึงปัจจุบัน
- ↑ http://www.banmuang.co.th/news/politic/46456
- ↑ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
- ↑ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/017/6.PDF
- ↑ รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติในอดีตถึงปัจจุบัน
- ↑ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
แหล่งข้อมูลอื่น