ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราฮีม สเตอร์ลิง"
ล ย้อนการแก้ไขที่ 6087852 สร้างโดย 110.77.236.111 (พูดคุย) Why remove? |
|||
บรรทัด 54: | บรรทัด 54: | ||
สเตอร์ลิงเป็นนักเตะเยาวชนของควีนส์พาร์กเรนเจอร์เป็นเวลาเจ็ดปีก่อนที่จะย้ายไปยังลิเวอร์พูล |
สเตอร์ลิงเป็นนักเตะเยาวชนของควีนส์พาร์กเรนเจอร์เป็นเวลาเจ็ดปีก่อนที่จะย้ายไปยังลิเวอร์พูล |
||
=== ลิเวอร์พูล === |
|||
through ลูกยิงท |
|||
==== ฤดูกาล 2011-12 ==== |
|||
[[ไฟล์:Raheem Sterling 2011.jpg|thumb|left|150px|สเตอร์ลิงลงซ้อมให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2011]] |
|||
วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทีมชุดใหญ่ครั้งแรก โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่เปิดสนาม[[แอนฟีลด์]]เจอกับ [[สโมสรฟุตบอลวีแกนแอธเลติก|วีแกนแอธเลติก]] ซึ่งลงสนามในวัย 17 ปี กับอีก 107 วัน ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 2 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่แพ้ให้กับ [[สโมสรฟุตบอลฟูลัม|ฟูลัม]] 0-1<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/17821974 "Liverpool 0-1 Fulham"] BBC Sport. 1 May 2012. Retrieved 10 June 2012.</ref> ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 3 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่ถล่ม [[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]] 4-1<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/17904221 "Liverpool 4-1 Chelsea"] BBC Sport. 8 May 2012. Retrieved 10 June 2012.</ref> |
|||
==== ฤดูกาล 2012-13 ==== |
|||
[[ไฟล์:Raheem Sterling August 2012 vs FC Gomel.jpg|thumb|right|150px|สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับ [[เอฟซี โกเมล|โกเมล]] ในปี 2012]] |
|||
ในเดือนสิงหาคม 2012 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามในเกมยุโรปเป็นนัดแรก โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน [[โจ โคล]] ในยูฟ่ายูโรปาลีก รอบคัดเลือก ในนัดที่เอาชนะ โกเมล 1-0 ต่อมา ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 [[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13]] สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงใน ศึกบิ๊กแมตช์ กับ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]] โดย สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/19310450 "Liverpool 2-2 Man City"] BBC Sport. 26 August 2012. Retrieved 26 August 2012.</ref> หลังจากนั้น สเตอร์ลิง ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง สเตอร์ลิง ก็ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลเรดดิง|เรดดิง]] 1-0<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/19939536 "Liverpool 1-0 Reading"] BBC Sport. 20 October 2012. Retrieved 20 October 2012.</ref> ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]] 3-0<ref>[http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/20843023"Liverpool 3-0 Sunderland"] BBC Sport. 2 January 2013. Retrieved 6 January 2013.</ref> จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 2 ประตูจาก 24 นัด |
|||
==== ฤดูกาล 2013-14 ==== |
|||
[[ไฟล์:Sterling, Coutinho, Enrique.jpg|thumb|left|สเตอร์ลิง (ซ้าย) ลงซ้อมที่ [[แอนฟีลด์]] ร่วมกับ [[ฟีลีปี โกชิญญู]] (กลาง) และ [[โคเซ เอนรีเก ซานเชซ]] (ขวา)]] |
|||
ในลีกคัพ รอบ 2 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลนอตส์เคาน์ตี|นอตส์เคาน์ตี]] ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลนอริชซิตี|นอริชซิตี]] 5-1 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] ที่[[ไวต์ฮาร์ตเลน]] 5-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/photo-liverpool-v-spurs ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/five-star-reds-run-riot-at-the-lane ลิเวอร์พูลยกพลคว้าชัยถึงถิ่นสเปอร์สในเกมระดับห้าดาว]</ref> ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]] 3-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/liverpool-v-cardiff-photos ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sublime-suarez-sends-liverpool-to-summit ความยอดเยี่ยมของซัวเรซส่งลิเวอร์พูลสู่ตำแหน่งจ่าฝูง]</ref> |
|||
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] 5-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/liv-v-arsenal-photo ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบอาร์เซนอล]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/relentless-reds-tear-apart-the-gunners ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มอาร์เซนอล 5-1]</ref> ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ลงมาเป็นตัวสำรองและได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]] ที่[[เซนต์แมรีส์สเตเดียม]] 3-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/photo-liv-v-soton ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลเยือนเซาท์แฮมป์ตัน]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-see-off-saints-to-move-into-second ลิเวอร์พูลเอาชนะเซาท์แฮมป์ตันขยับขึ้นอันดับ 2]</ref> ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/pic-liv-v-city ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/coutinho-settles-city-classic-for-reds คูตินโญ่ยิงประตูชัยเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 3-2 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก]</ref> ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิง 1 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่[[แคร์โรว์โรด]] 3-2 ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัล[[นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ]] ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ จากงานประกาศรางวัล Players’ Awards Dinner ปี 2014 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุม Liverpool ACC Conference Centre<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/suarez-bags-treble-at-awards-dinner ซัวเรซกวาด 3 รางวัล ในงานประกาศรางวัลสโมสรลิเวอร์พูล]</ref> จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 9 ประตูจาก 33 นัด และยิงได้ทั้งหมด 10 ประตู จาก 38 นัด รวมทุกรายการ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่น[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] นับตั้งแต่ในปี 2009 |
|||
==== ฤดูกาล 2014-15 ==== |
|||
[[ไฟล์:Raheem Sterling (15623713741).jpg|thumbnail|สเตอร์ลิง ลงซ้อมให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2014]] |
|||
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2014–15 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ เซาแทมป์ตัน โดย สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 2-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sturridge-strikes-to-edge-lfc-past-saints ลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ช่วยให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะทีมนักบุญ]</ref> ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 3-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-hit-three ลิเวอร์พูลบุกไปยิงสามประตูถึงไวท์ ฮาร์ต เลน]</ref> ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดแรก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จาก [[บัลแกเรีย]] 2-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/stevie-settles-late-drama-in-lfc-favour เจอร์ราร์ดยิงจุดโทษท้ายเกมให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยสุดดราม่า]</ref> ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ [[สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด|เวสต์แฮมยูไนเต็ด]] ที่[[บุลินกราวนด์]] 1-3<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-left-to-rue-west-ham-reverse ลิเวอร์พูลบุกไปพ่ายเวสต์แฮม 1-3]</ref> ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามนัดที่ 100 ในนัดที่พ่ายแพ้ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ที่[[โอลด์แทรฟฟอร์ด]] 0-3 ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2014 แคปปิตอล วัน คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัธ 3-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/raheem-s-brace-sends-reds-to-semi-finals ความเฉียบขาดของสเตอร์ลิงส่งให้ลิเวอร์พูลทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ]</ref> ต่อมา ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลโกลเด้น บอย (นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี) ของ Tuttosport หนังสือพิมพ์สัญชาติอิตาลี<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sterling-the-winner-of-golden-boy-award ราฮีม สเตอร์ลิงคว้ารางวัล โกลเด้น บอย]</ref> ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์|เบิร์นลีย์]] ที่[[เทิร์ฟมัวร์]] 1-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sterling-strike-seals-boxing-day-victory ประตูของสเตอร์ลิงคว้าชัยชนะให้ลิเวอร์พูลในวันบ็อกซิ่งเดย์]</ref> |
|||
ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2015 แคปปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 1-1<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/all-in-the-balance-after-chelsea-draw ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์เสมอเชลซี 1-1]</ref> ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/sturridge-strikes-reds-sink-whu สเตอร์ริดจ์ยิงในเกมที่หงส์แดงเอาชนะขุนค้อน]</ref> ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 [[เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2014–15|เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์]] สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลโบลตันวอนเดอเรอส์|โบลตันวอนเดอเรอส์]] ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/phil-s-late-stunner-sends-reds-through ลูกยิงท้ายเกมของคูตินโญ่ส่งลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ]</ref> ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/liverpool-go-sixth-with-saints-success ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 6 หลังเอาชนะทีมนักบุญ]</ref> |
|||
ในเดือนเมษายน 2015 สเตอร์ลิง ไม่ยอมต่อสัญญาใหม่กับสโมสร พร้อมปฏิเสธค่าเหนื่อยจำนวนกว่า 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 6,300,000 บาท) ซึ่งจะทำให้ดาวรุ่งรายนี้ มีรายได้เป็นสถิติสโมสร และยังแซงหน้าค่าเหนื่อยที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนปัจจุบันที่ได้จากสโมสร อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิง ได้ออกมากล่าวหลังจบเกมทีมชาติกับลิทัวเนียว่า ยังไม่ต้องการคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ในตอนนี้ เนื่องจากต้องการมุ่งสมาธิไปที่การเล่นให้กับสโมสร และจะมีการเจรจากันอีกครั้งหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น |
|||
ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด|นิวคาสเซิลยูไนเต็ด]] 2-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-close-the-gap ลิเวอร์พูลลดช่องว่างท็อปโฟร์หลังชนะนิวคาสเซิล]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/five-things-from-liv-v-new 5 ข้อเท็จจริงจากเกมลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด]</ref> ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 ก่อนจะได้รับรางวัลพร้อมกับท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลบางส่วน โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/phil-wins-four-prizes คูตินโญ่กวาด 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล Players' Awards]</ref> จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 7 ประตูจาก 35 นัด |
|||
ในเดือนกรกฎาคม 2015 สเตอร์ลิง เข้าแจ้งขอย้ายทีมกับ เบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล รวมถึงเจ้าตัวไม่โผล่ไปที่สนามซ้อม โดยอ้างว่าป่วย ซึ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างปีกวัย 20 ปี กับสโมสรกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง<ref>[http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000077397 สุดแสบ! “สเตอร์ลิง” อ้างป่วย โดดซ้อมทัพ “หงส์”]</ref> นอกจากนี้ สเตอร์ลิง แจ้งกับต้นสังกัดว่าตัวเขาจะไม่เข้าร่วมทัวร์ปรีซีซันกับลิเวอร์พูล และหวังว่าการเจรจาย้ายทีมไป แมนเชสเตอร์ซิตี จะจบสิ้นลงก่อนเริ่มโปรแกรมทัวร์ที่[[ประเทศไทย]]<ref>[http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000077011 “ราฮีม” ออกลายปัดทัวร์ปรีซีซันกับ “หงส์” หวังชิ่งไป “เรือใบ”]</ref> ต่อมา ในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 สโมสรลิเวอร์พูล เดินทางมาปรีซีซันที่ประเทศไทย โดย สเตอร์ลิง ไม่ได้เดินทางมาด้วย |
|||
และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน สเตอร์ลิงก็ได้ย้ายเข้าไปสังกัด[[แมนเชสเตอร์ซิตี]] เป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัวสูงถึง 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.45 พันล้านบาท) ด้วยระยะเวลาสัญญานาน 5 ปี<ref>[http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000079846 จบมหากาพย์ “เรือใบ” ปิดดีลเซ็น สเตอร์ลิงเข้ารัง]</ref> |
|||
=== แมนเชสเตอร์ซิตี=== |
=== แมนเชสเตอร์ซิตี=== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:07, 28 กรกฎาคม 2558
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ราฮีม ชาควิลล์ สเตอร์ลิง | ||
เกิด | 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 | ||
เกิดที่ | คิงส์ตัน, จาเมกา | ||
สูง | 1.70 เมตร (5 ฟุต 7 นิ้ว) | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง / ปีกซ้าย / กองหน้า | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | ||
หมายเลข | 7 | ||
ชุดเยาวชน | |||
2003–2010 | ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ | ||
2010–2012 | ลิเวอร์พูล | ||
ชุดใหญ่* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น† | (ประตู)† |
2012–2015 | ลิเวอร์พูล | 95 | (18) |
2015– | แมนเชสเตอร์ซิตี | 0 | (0) |
ทีมชาติ‡ | |||
2009–2010 | อังกฤษ 16 ปี | 9 | (1) |
2010–2011 | อังกฤษ 17 ปี | 13 | (3) |
2012 | อังกฤษ 19 ปี | 1 | (0) |
2012– | อังกฤษ 21 ปี | 8 | (3) |
2012– | อังกฤษ | 16 | (1) |
† ลงเล่น (ประตู) |
ราฮีม ชาควิลล์ สเตอร์ลิง (Raheem Shaquille Sterling) นักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 ในกรุงคิงส์ตัน ประเทศจาเมกา ปัจจุบันสังกัดกับแมนเชสเตอร์ซิตี ในพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ
สเตอร์ลิงสร้างชื่อเสียงมากับลิเวอร์พูล โดยได้ลงเล่นตัวจริงกับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2012 นัดที่เจอกับ วีแกนแอธเลติก โดยเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปี
ผลงานในระดับสโมสร
ควีนส์พาร์กเรนเจอร์
สเตอร์ลิงเป็นนักเตะเยาวชนของควีนส์พาร์กเรนเจอร์เป็นเวลาเจ็ดปีก่อนที่จะย้ายไปยังลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 2011-12
วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทีมชุดใหญ่ครั้งแรก โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วีแกนแอธเลติก ซึ่งลงสนามในวัย 17 ปี กับอีก 107 วัน ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 2 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่แพ้ให้กับ ฟูลัม 0-1[1] ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 3 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่ถล่ม เชลซี 4-1[2]
ฤดูกาล 2012-13
ในเดือนสิงหาคม 2012 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามในเกมยุโรปเป็นนัดแรก โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน โจ โคล ในยูฟ่ายูโรปาลีก รอบคัดเลือก ในนัดที่เอาชนะ โกเมล 1-0 ต่อมา ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงใน ศึกบิ๊กแมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ซิตี โดย สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์[3] หลังจากนั้น สเตอร์ลิง ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง สเตอร์ลิง ก็ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดดิง 1-0[4] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0[5] จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 2 ประตูจาก 24 นัด
ฤดูกาล 2013-14
ในลีกคัพ รอบ 2 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอตส์เคาน์ตี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 5-1 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 5-0[6] [7] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 3-1[8] [9]
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[10] [11] ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ลงมาเป็นตัวสำรองและได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-0[12] [13] ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป[14] [15] ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิง 1 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 3-2 ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ จากงานประกาศรางวัล Players’ Awards Dinner ปี 2014 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุม Liverpool ACC Conference Centre[16] จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 9 ประตูจาก 33 นัด และยิงได้ทั้งหมด 10 ประตู จาก 38 นัด รวมทุกรายการ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นับตั้งแต่ในปี 2009
ฤดูกาล 2014-15
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2014–15 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ เซาแทมป์ตัน โดย สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 2-1[17] ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 3-0[18] ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดแรก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จาก บัลแกเรีย 2-1[19] ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่บุลินกราวนด์ 1-3[20] ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามนัดที่ 100 ในนัดที่พ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 0-3 ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2014 แคปปิตอล วัน คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัธ 3-1[21] ต่อมา ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลโกลเด้น บอย (นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี) ของ Tuttosport หนังสือพิมพ์สัญชาติอิตาลี[22] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 1-0[23]
ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2015 แคปปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 1-1[24] ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0[25] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[26] ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[27]
ในเดือนเมษายน 2015 สเตอร์ลิง ไม่ยอมต่อสัญญาใหม่กับสโมสร พร้อมปฏิเสธค่าเหนื่อยจำนวนกว่า 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 6,300,000 บาท) ซึ่งจะทำให้ดาวรุ่งรายนี้ มีรายได้เป็นสถิติสโมสร และยังแซงหน้าค่าเหนื่อยที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนปัจจุบันที่ได้จากสโมสร อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิง ได้ออกมากล่าวหลังจบเกมทีมชาติกับลิทัวเนียว่า ยังไม่ต้องการคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ในตอนนี้ เนื่องจากต้องการมุ่งสมาธิไปที่การเล่นให้กับสโมสร และจะมีการเจรจากันอีกครั้งหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น
ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[28] [29] ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 ก่อนจะได้รับรางวัลพร้อมกับท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลบางส่วน โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า[30] จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 7 ประตูจาก 35 นัด
ในเดือนกรกฎาคม 2015 สเตอร์ลิง เข้าแจ้งขอย้ายทีมกับ เบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล รวมถึงเจ้าตัวไม่โผล่ไปที่สนามซ้อม โดยอ้างว่าป่วย ซึ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างปีกวัย 20 ปี กับสโมสรกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง[31] นอกจากนี้ สเตอร์ลิง แจ้งกับต้นสังกัดว่าตัวเขาจะไม่เข้าร่วมทัวร์ปรีซีซันกับลิเวอร์พูล และหวังว่าการเจรจาย้ายทีมไป แมนเชสเตอร์ซิตี จะจบสิ้นลงก่อนเริ่มโปรแกรมทัวร์ที่ประเทศไทย[32] ต่อมา ในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 สโมสรลิเวอร์พูล เดินทางมาปรีซีซันที่ประเทศไทย โดย สเตอร์ลิง ไม่ได้เดินทางมาด้วย
และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน สเตอร์ลิงก็ได้ย้ายเข้าไปสังกัดแมนเชสเตอร์ซิตี เป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัวสูงถึง 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.45 พันล้านบาท) ด้วยระยะเวลาสัญญานาน 5 ปี[33]
แมนเชสเตอร์ซิตี
ฤดูกาล 2015-16
ก่อนเริ่มฤดูกาล 2015–16 สเตอร์ลิงได้ย้ายเข้าสังกัดแมนเชสเตอร์ซิตี ด้วยค่าตัวสูงถึง 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.45 พันล้านบาท) ด้วยระยะเวลาสัญญานาน 5 ปี ซึ่งมูลค่าที่สูงถึงขนาดนี้ บรรดาผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลต่างมองว่าเป็นการขายที่สโมสรคุ้มค่ามากที่สุด โดยสเตอร์ลิงยังได้ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุไม่เกิน 21 ปีที่แพงที่สุด และเป็นผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ซิตีที่มีค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร และเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ของโลก และเป็นสถิติอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก[34]
สเตอร์ลิงยิงให้กับแมนเชสเตอร์ซิตีลูกแรกได้ทันทีที่ลงเล่นนัดแรก ในรายการอินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ 2015 ในนาทีที่ 3 ที่พบกับ โรมา ในการแข่งขันที่ออสเตรเลีย[35]
ทีมชาติอังกฤษ
ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ นัดแรก ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ในนัดที่อุ่นเครื่องกระชับมิตร กับ สวีเดน ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงเล่นนัดที่สองให้กับทีมชาติและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในนัดที่ อังกฤษ เอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร ที่สนามกีฬาเวมบลีย์
ฟุตบอลโลก 2014
ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ทีมชาติอังกฤษได้เรียกตัว ราฮีม สเตอร์ลิง ติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โดย อังกฤษ ได้อยู่กลุ่ม D ร่วมกับ อุรุกวัย, คอสตาริกา และ อิตาลี ในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก กลุ่ม D นัดแรก ในนัดที่แพ้ให้กับ อิตาลี 1-2 สุดท้าย อังกฤษ ก็ต้องตกรอบแรก ได้อันดับสุดท้ายของกลุ่ม D เสมอ 1 แพ้ 2 (แพ้ อิตาลี 1-2, แพ้ อุรุกวัย 1-2 และ เสมอ คอสตาริกา 0-0) ทำให้ทีมชาติอังกฤษต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลกที่บราซิลเพียงรอบแรกเท่านั้น และเป็นครั้งแรกในรอบ 56 ปีที่อังกฤษตกรอบแรกฟุตบอลโลก
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก
ในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในนามทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ในนัดที่ อังกฤษ เปิดสนามกีฬาเวมบลีย์เอาชนะ ลิทัวเนีย 4-0[36]
ประตูในนามทีมชาติ
No. | วันที่ | สนาม | คู่แข่งขัน | ประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 27 มีนาคม 2015 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน | ลิทัวเนีย | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก |
สถิติ
สโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ยุโรป | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
ลิเวอร์พูล | 2011–12 | พรีเมียร์ลีก | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 3 | 0 |
2012–13 | 24 | 2 | 1 | 0 | 1 | 0 | 10[a] | 0 | 36 | 2 | ||
2013–14 | 33 | 9 | 3 | 0 | 2 | 1 | 0 | 0 | 38 | 10 | ||
2014–15 | 35 | 7 | 5 | 1 | 4 | 3 | 8[b] | 0 | 52 | 11 | ||
รวม | 95 | 18 | 9 | 1 | 7 | 4 | 18 | 0 | 129 | 23 | ||
แมนเชสเตอร์ซิตี | 2015–16[37] | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 |
รวมทั้งหมด | 95 | 18 | 9 | 1 | 7 | 4 | 18 | 0 | 129 | 23 |
- ↑ ลงเล่นใน ยูฟ่ายูโรปาลีก
- ↑ ลงเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2015.[38]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
อังกฤษ | 2012 | 1 | 0 |
2013 | 0 | 0 | |
2014 | 12 | 0 | |
2015 | 3 | 1 | |
รวม | 16 | 1 |
เกียรติประวัติ
รางวัลส่วนตัว
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล (2): 2013–14[39], 2014–15[40]
- Golden Boy Award (1): 2014
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month (2): เมษายน 2014[41], สิงหาคม 2014[42]
- ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์ (2): เมษายน 2014[43], มกราคม 2015[44]
อ้างอิง
- ↑ "Liverpool 0-1 Fulham" BBC Sport. 1 May 2012. Retrieved 10 June 2012.
- ↑ "Liverpool 4-1 Chelsea" BBC Sport. 8 May 2012. Retrieved 10 June 2012.
- ↑ "Liverpool 2-2 Man City" BBC Sport. 26 August 2012. Retrieved 26 August 2012.
- ↑ "Liverpool 1-0 Reading" BBC Sport. 20 October 2012. Retrieved 20 October 2012.
- ↑ "Liverpool 3-0 Sunderland" BBC Sport. 2 January 2013. Retrieved 6 January 2013.
- ↑ ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส
- ↑ ลิเวอร์พูลยกพลคว้าชัยถึงถิ่นสเปอร์สในเกมระดับห้าดาว
- ↑ ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
- ↑ ความยอดเยี่ยมของซัวเรซส่งลิเวอร์พูลสู่ตำแหน่งจ่าฝูง
- ↑ ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบอาร์เซนอล
- ↑ ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มอาร์เซนอล 5-1
- ↑ ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลเยือนเซาท์แฮมป์ตัน
- ↑ ลิเวอร์พูลเอาชนะเซาท์แฮมป์ตันขยับขึ้นอันดับ 2
- ↑ ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้
- ↑ คูตินโญ่ยิงประตูชัยเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 3-2 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก
- ↑ ซัวเรซกวาด 3 รางวัล ในงานประกาศรางวัลสโมสรลิเวอร์พูล
- ↑ ลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ช่วยให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะทีมนักบุญ
- ↑ ลิเวอร์พูลบุกไปยิงสามประตูถึงไวท์ ฮาร์ต เลน
- ↑ เจอร์ราร์ดยิงจุดโทษท้ายเกมให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยสุดดราม่า
- ↑ ลิเวอร์พูลบุกไปพ่ายเวสต์แฮม 1-3
- ↑ ความเฉียบขาดของสเตอร์ลิงส่งให้ลิเวอร์พูลทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ
- ↑ ราฮีม สเตอร์ลิงคว้ารางวัล โกลเด้น บอย
- ↑ ประตูของสเตอร์ลิงคว้าชัยชนะให้ลิเวอร์พูลในวันบ็อกซิ่งเดย์
- ↑ ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์เสมอเชลซี 1-1
- ↑ สเตอร์ริดจ์ยิงในเกมที่หงส์แดงเอาชนะขุนค้อน
- ↑ ลูกยิงท้ายเกมของคูตินโญ่ส่งลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ
- ↑ ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 6 หลังเอาชนะทีมนักบุญ
- ↑ ลิเวอร์พูลลดช่องว่างท็อปโฟร์หลังชนะนิวคาสเซิล
- ↑ 5 ข้อเท็จจริงจากเกมลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
- ↑ คูตินโญ่กวาด 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล Players' Awards
- ↑ สุดแสบ! “สเตอร์ลิง” อ้างป่วย โดดซ้อมทัพ “หงส์”
- ↑ “ราฮีม” ออกลายปัดทัวร์ปรีซีซันกับ “หงส์” หวังชิ่งไป “เรือใบ”
- ↑ จบมหากาพย์ “เรือใบ” ปิดดีลเซ็น สเตอร์ลิงเข้ารัง
- ↑ หน้า 20 กีฬา, ราฮีม สเตอร์ลิง อดีต 'หงส์' อนาคต 'เรือ' โดย หมึกบอล. เดลินิวส์ฉบับที่ 24,016: วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 แรม 15 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม
- ↑ หน้า 19 ต่อจากหน้า 17 กีฬา, ฟานกัลแย้ม'ผี'ล่าหัวหอก. "เรือใบสีฟ้าดวลเป้าดับโรมา". เดลินิวส์ฉบับที่ 24,023: วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8-8 ปีมะแม
- ↑ ประตูของสเตอร์ลิง และความยอดเยี่ยมของสเคอร์เทล
- ↑ "Games played by Raheem Sterling in 2015/2016". Soccerbase. สืบค้นเมื่อ 15 July 2015.
- ↑ "Player Info: Raheem Shaquille Sterling". englandstats.com. สืบค้นเมื่อ 7 December 2014.
- ↑ รายชื่อผู้ได้รับรางวัล Players' Awards Dinner 2014
- ↑ "คูตี้"กวาดรางวัลในงาน LFC Players Award 2015
- ↑ ประกาศรายชื่อนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน
- ↑ ประกาศรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม
- ↑ ลูกโยกหลอกของสเตอร์ลิงคว้าประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน
- ↑ สเตอร์ลิงคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคม
แหล่งข้อมูลอื่น
- Profile at liverpoolfc.tv
- ราฮีม สเตอร์ลิง – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)
- สถิติของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ Soccerbase
- Raheem Sterling – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)
- Pages using infobox3cols with undocumented parameters
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2537
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวอังกฤษ
- ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
- นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี
- กองกลางฟุตบอล
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2014
- ชาวอังกฤษเชื้อสายจาเมกา