ตำบลทับยา
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
ตำบลทับยา | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Thap Ya |
พิกัด: 14°57′41″N 100°20′45″E / 14.96139°N 100.34583°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สิงห์บุรี |
อำเภอ | อินทร์บุรี |
พื้นที่[ต้องการอ้างอิง] | |
• ทั้งหมด | 24.27 ตร.กม. (9.37 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2560)[1] | |
• ทั้งหมด | 5,988 คน |
• ความหนาแน่น | 246.72 คน/ตร.กม. (639.0 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 16110 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 170603 |
เทศบาลตำบลทับยา | |
---|---|
คำขวัญ: เมืองโบราณ ย่านการค้า ปลารสดี ประเพณีแข่งเรือ | |
พิกัด: 14°57′41″N 100°20′45″E / 14.96139°N 100.34583°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สิงห์บุรี |
อำเภอ | อินทร์บุรี |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 24.27 ตร.กม. (9.37 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2560)[1] | |
• ทั้งหมด | 5,988 คน |
• ความหนาแน่น | 246.72 คน/ตร.กม. (639.0 คน/ตร.ไมล์) |
รหัส อปท. | 05170602 |
ทางหลวง | |
ที่อยู่ สำนักงาน | สำนักงานเทศบาลตำบลทับยา เลขที่ 12 ถนนสิงห์บุรี–ชัยนาท หมู่ที่ 5 ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี 16110 |
เว็บไซต์ | www |
ทับยา เป็นตำบลหนึ่งในอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี มีพื้นที่ 24.27 ตารางกิโลเมตร มีประชากรในปี พ.ศ. 2560 จำนวน 5,988 คน[1] องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ คือ เทศบาลตำบลทับยา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับยาทั้งตำบล
ประวัติ
[แก้]การตั้งชุมชน
[แก้]จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของเมืองอินทร์บุรี สามารถอนุมานได้ว่า พื้นที่ตำบลทับยาอาจจะมีการตั้งรกรากมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งโบราณคดีคูเมืองมากนัก
การตั้งรกรากของชุมชนโบราณน่าจะอิงอยู่กับแม่น้ำ ทั้งนี้เนื่องจากแม่น้ำเปรียบได้ดั่งเส้นเลือดใหญ่ของชุมชน ประชาชนต้องพึ่งพาแม่น้ำในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อการเกษตร การคมนาคม และอื่น ๆ ดังนั้น ในพื้นที่แห่งนี้จึงมีประชาชนอาศัยตลอดมา ถึงแม้ในบางช่วงเวลาก็อาจจะถูกกวาดต้อนเป็นเชลยสงครามไปบ้างเนื่องจากเป็นเส้นทางการเดินทัพ เป็นพื้นที่เมืองหน้าด่านในสมัยที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ที่มาของชื่อ “ทับยา” มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ดั้งเดิมชื่อ “ทัพหย่า” ซึ่งหมายถึงการหย่าทัพ หรือการเลิกทัพนั่นเอง ก่อนที่จะมีการเพี้ยนเสียงจนกลายเป็นทับยาในที่สุด
ชื่อของทัพหย่า เป็นชื่อเรียกสถานที่ที่อ้างอิงถึงความเป็นมาของสถานที่ที่พม่าหย่าทัพ เป็นเหตุการณ์ในสมัยการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 และเรื่องราววีรกรรมชาวบ้านบางระจัน ทั้งนี้ก็เพราะตำบลทับยามีทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านบางระจันนั่นเอง
เหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่สองเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2307 เมื่อพระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่า ได้จัดทัพสองทัพ โดยมอบหมายให้มังมหานรธาเป็นแม่ทัพยกมาตีกรุงศรีอยุธยา โดยการเข้าตีเรื่อยมาตามรายทางจากทางใต้ โดยเริ่มต้นที่เมืองทวาย ส่วนอีกทัพมีเนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพ เดินทัพมาจากทางเหนือ และทั้งสองทัพจะมาบรรจบกันเข้าอยุธยา การล้อมกรุงครั้งนี้ใช้เวลาต่อเนื่องนานถึงสองปี ทัพพม่าอ่อนล้าและขาดแคลนเสบียงและไม่กล้าตั้งทัพใกล้กับกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเกรงอำนาจปืนใหญ่ เนเมียวสีหบดีได้เลือกทำเลตั้งทัพค่อนมาทางเมืองอินทร์บุรี พร้อมกันนั้นก็ได้จัดแต่งกองทหารออกปล้น ฆ่า สะสมเสบียง กระทำทารุณกรรม ชาวบ้านบางระจันได้ชักชวนชาวเมืองอินทร์ เมืองพรหม และเมืองวิเศษไชยชาญ เพื่อต่อสู้ตอบโต้การกระทำอันป่าเถื่อน จนกระทั่งทัพพม่าที่ตั้งอยู่บริเวณตำบลทับยาต้องหย่าทัพ เพื่อไปหาทำเลที่ตั้งใหม่ พื้นที่ตรงนี้จึงถูกเรียกขานจากตำนานเหตุการณ์นั้นว่า “ทัพหย่า” อย่างไรก็ดี สุดท้ายน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ชาวบ้านบางระจันก็ต้องประสบกับความพ่ายแพ้ในปี พ.ศ. 2309 และคนไทยเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310
การเริ่มตั้งชุมชนในพื้นที่ตำบลทับยาน่าจะมีมาโดยต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์การเสียกรุงฯ เมื่อบ้านเมืองสงบจากการศึก ชาวบ้านที่หนีภัยเข้าป่าก็เริ่มต้นกลับมาตั้งรกรากในพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง และพื้นที่ริมน้ำก็เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งชุมชน
เมื่อดูจากประวัติศาสตร์ของตำบลทับยา จะพบว่าแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นเงื่อนไขหลักในการเลือกทำเลที่ตั้งรกราก แม่น้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชุมชนโบราณ แม่น้ำเจ้าพระยากับชาวทับยาก็เช่นเดียวกัน เจ้าพระยาเป็นเส้นทางคมนาคม ชาวบ้านจึงหันหน้าบ้านลงน้ำ วัดซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนก็เป็นเช่นเดียวกัน ท่าน้ำของวัดก็คือท่าหน้าวัด การทำนา ในอดีตก็ได้พึ่งพา “บาง” หรือคลองที่ต่อเนื่องกับเจ้าพระยาที่จะนำน้ำกระจายออกสู่ท้องทุ่งในฤดูน้ำหลาก “ลำแม่ลา” เริ่มมีผู้คนตั้งถิ่นฐาน เมื่อบริเวณริมเจ้าพระยาเริ่มหนาแน่น พร้อม ๆ กับชื่อเสียงของปลาแม่ลา ผู้คนพึ่งพิงแม่ลาในทุกด้านเช่นกัน “คลองบรมธาตุ” จุดเปลี่ยนอันสำคัญยิ่งเริ่มต้นที่คลองชลประทานที่เข้ามาสู่ชุมชนในต้นทศวรรษ 2500
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
[แก้]เดิมทีตำบลทับยาการปกครองเป็นรูปแบบของสภาตำบล และได้ถูกยกฐานะขึ้นเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีหลักเกณฑ์ในการยกฐานะดังนี้ สภาตำบลใดที่มีรายได้โดยไม่รวมเงินอุดหนุนในงบประมาณที่ล่วงมาติดต่อกันสามปี เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน ให้ยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป และมีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ทั้งเป็นนิติบุคคล ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยนายเสนาะ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2539 โดยมีผลสมบูรณ์เมื่อครบกำหนด 60 วัน คือในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 และองค์การบริหารส่วนตำบลทับยาได้ถูกจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลชั้น 5 และได้เปลี่ยนแปลงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลทับยาได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาท้องถิ่นในด้านคุณภาพชีวิต พัฒนาศักยภาพการผลิต การจัดระบบสาธารณูปโภค การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนในการดำเนินงานทุกด้านนั้นมาจากความต้องการของประชาชนทั้งสิ้น
ที่ตั้งและอาณาเขต
[แก้]ตำบลทับยาห่างจากตัวอำเภออินทร์บุรี ประมาณ 6 กิโลเมตร พื้นที่จำนวนทั้งสิ้น 24.27 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ทางการเกษตร 13,684 ไร่ เป็นพื้นที่อยู่อาศัย 1,483 ไร่ รวม 15,167 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ข้างเีคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดกับตำบลอินทร์บุรีและตำบลห้วยชัน อำเภออินทร์บุรี
- ทิศตะวันออก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
- ทิศใต้ ติดกับตำบลบางกระบือ อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- ทิศตะวันตก ติดกับตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี, ตำบลแม่ลา อำเภอบางระจัน และบ้านโพธิ์งาม อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
ประชากร
[แก้]ตำบลทับยามีจำนวนประชากรชาย 2,997 คน จำนวนประชากรหญิง 3,273 คน จำนวนครัวเรือน 1,811 ครัวเรือน รวมจำนวนประชากรทั้งสิ้น 6,270 คน จำนวนชุมชน 12 ชุมชน ประกอบด้วย
- ชุมชนบางพระนอน
- ชุมชนบางพระนอน
- ชุมชนท้ายเกาะ
- ชุมชนวัดใหม่
- ชุมชนสวนมะม่วง
- ชุมชนทับยา
- ชุมชนท้องคุ้ง
- ชุมชนวัดสิงห์
- ชุมชนคลองใหม่
- ชุมชนแหลมทอง
- ชุมชนดงทอง
- ชุมชนดอนแฝก
การศึกษา
[แก้]ตำบลทับยามีสถานศึกษาที่เป็นของรัฐ โดยมีโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสิงห์บุรี ได้แก่ โรงเรียนชุมชนวัดพระนอน โรงเรียนวัดสุธาวาส โรงเรียนวัดยาง และสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ศูนย์บริการเด็กเล็กเทศบาลตำบลทับยา
สาธารณสุข
[แก้]หน่วยบริการด้านสาธารณสุขในเขตตำบลทับยา ได้แก่ โรงพยาบาลอินทร์บุรี (รพท. ขนาด 300 เตียง, บางส่วนอยู่ในพื้นที่ เทศบาลตำบลอินทร์บุรี) และสถานีอนามัยตำบลทับยา
เศรษฐกิจ
[แก้]ในเขตตำบลทับยามีโรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งพาณิชยกรรมที่สำคัญดังนี้
- โรงงานอุตสาหกรรม
- โรงสี
- ร้านอาหาร
- ร้านค้า
- ทำไร่นาสวนผสม
- ปลูกไม้ผล
- ปลูกพืชผัก
- ปลูกถั่วแระ (ฤดูแล้ง)
- ปลูกข้าวโพด
- บ่อตอกเพื่อการเกษตร
- ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2560 ตำบลทับยา ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์เทศบาลตำบลทับยา เก็บถาวร 2019-04-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน