เจ้าชายโคลทวิชแห่งโฮเอินโลเออ-ชิลลิงส์เฟือสท์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เฟือสท์แห่งโฮเอินโลเออ-ชิลลิงส์เฟือสท์ | |
---|---|
Fürst zu Hohenlohe-Schillingsfürst | |
![]() | |
นายกรัฐมนตรีจักรวรรดิเยอรมัน | |
ดำรงตำแหน่ง 29 ตุลาคม 1894 – 17 ตุลาคม 1900 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 |
ก่อนหน้า | เลโอ ฟ็อน คาพรีวี |
ถัดไป | แบร์นฮาร์ท ฟ็อน บือโล |
มุขมนตรีราชอาณาจักรปรัสเซีย | |
ดำรงตำแหน่ง 29 ตุลาคม 1894 – 17 ตุลาคม 1900 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 |
ก่อนหน้า | โบโท ซู ออยเลินบวร์ค |
ถัดไป | แบร์นฮาร์ท ฟ็อน บือโล |
มุขมนตรีราชอาณาจักรบาวาเรีย | |
ดำรงตำแหน่ง 31 ธันวาคม 1866 – 8 มีนาคม 1870 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าลูทวิชที่ 2 |
ก่อนหน้า | ลูทวิช ฟ็อน แดร์ ฟอร์ดเทิด |
ถัดไป | อ็อทโท ฟ็อน ไบร-ชไตน์บวร์ค |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | โคลทวิช คาร์ล วิคทอร์ ซู โฮเอินโลเออ-ชิลลิงส์เฟือสท์ 31 มีนาคม ค.ศ. 1819 โรเทินบวร์คอันแดร์ฟุลดา รัฐเฮ็สเซิน สมาพันธรัฐเยอรมัน |
เสียชีวิต | 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1901 บาทรากัทซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ | (82 ปี)
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
พรรคการเมือง | อิสระ |
ลายมือชื่อ | ![]() |
เจ้าชายโคลทวิช คาร์ล วิคทอร์ เฟือสท์แห่งโฮเอินโลเออ-ชิลลิงส์เฟือสท์ เจ้าชายแห่งราทิบอร์และแห่งคอร์ไว (เยอรมัน: Chlodwig Carl Viktor Fürst zu Hohenlohe-Schillingsfürst, Prinz von Ratibor und von Corvey) เป็นเจ้าชายเยอรมันจากราชรัฐโฮเอินโลเออและเป็นรัฐบุรุษเยอรมัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจักรวรรดิเยอรมันและมุขมนตรีปรัสเซียระหว่างปี ค.ศ. 1894 ถึง 1900 โดยก่อนหน้าที่จะทรงเป็นนายกรัฐมนตรี ทรงเคยดำรงตำแหน่งมุขมนตรีบาวาเรีย (1866–1870), เอกอัครราชทูตประจำกรุงปารีส (1873–1880), เสนาบดีต่างประเทศปรัสเซีย (1880) และผู้กำกับราชการจักรวรรดิประจำอาลซัส-ลอแรน (1885–1894) ทรงได้รับการยอมรับนับถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองหัวก้าวหน้าคนสำคัญที่สุดของเยอรมนีในยุคนั้น
เจ้าชายโคลทวิชประสูติที่เมืองโรเทินบวร์คอันแดร์ฟุลดาในรัฐเฮ็สเซินของสมาพันธรัฐเยอรมัน ในราชตระกูลโฮเอินโลเออ เจ้าชายฟรันทซ์ โยเซฟ พระบิดาทรงเป็นคาทอลิก ในขณะที่เจ้าหญิงค็อนชตันเซอแห่งโฮเอินโลเออ-ลังเงินบวร์ค พระมารดา เป็นลูเทอแรน เจ้าชายโคลทวิชเคยคิดจะเข้ารับราชการทหารในกองทัพอังกฤษโดยการสนับสนุนของเจ้าหญิงเฟโอดอราแห่งโฮเอินโลเออ-ลังเงินบวร์ค ผู้เป็นป้าและเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แต่แล้วก็ทรงเปลี่ยนใจเข้ารับราชการในฝ่ายการทูตของปรัสเซียแทนในปี ค.ศ. 1843 เส้นทางชีวิตข้าราชการในช่วงแรกนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮ็ล์มที่ 4 เท่าที่ควร
ในช่วงปี ค.ศ. 1850–1866 โคลทวิชพยายามสร้างสัมพันธภาพกับรัฐบาลบาวาเรียมาตลอด ในที่สุดเขาก็มีเส้นสายแข็งแกร่งในเบอร์ลินกับมิวนิกและเป็นที่ยอมรับของรัฐบาลบาวาเรีย ต่อมาหลังสงครามออสเตรีย-ปรัสเซียในปี ค.ศ. 1866 มุขมนตรีปรัสเซีย อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค เริ่มเข้ามาสนับสนุนเขาอย่างลับ ๆ ทั้งในด้านการเงินและการเมือง ในปลายปีเดียวกันนั้น โคลทวิชได้รับตำแหน่งเสนาบดีราชสำนักและกิจการต่างประเทศ ควบตำแหน่งมุขมนตรีบาวาเรีย และต่อมาในปี ค.ศ. 1873 เขาถูกเลือกโดยบิสมาร์คไปเป็นทูตเยอรมันประจำกรุงปารีสเป็นเวลาเจ็ดปี จนกระทั่งเมื่อเสนาบดีต่างประเทศ แบร์นฮาร์ท แอนสท์ ฟ็อน บือโล ถึงแก่อนิจกรรมในปี ค.ศ. 1879 เขาถูกเรียกตัวกลับกรุงเบอร์ลินเพื่อมาดูแลการต่างประเทศชั่วคราวและยังปฏิบัติหน้าที่แทนบิสมาร์คที่ระหว่างที่ลางานจากอาการป่วย