ข้ามไปเนื้อหา

วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร
แผนที่
ชื่อสามัญวัดธรรมมงคล
ที่ตั้งซอย ปุณณวิถี 20 ซอยสุขุมวิท 101 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
ประเภทพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
นิกายเถรวาท ธรรมยุติกนิกาย
พระประธานพระพุทธสุพิโนภาสศาสดา (หลวงพ่อใหญ่), พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย
เจ้าอาวาสพระราชบัณฑิต (สุดใจ ปสิทฺธิโก) ป.ธ.9 ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสพระอารามหลวง
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ หรือมักเรียกโดยย่อว่า วัดธรรมมงคล สังกัดธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ที่แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2506 เดิมเป็นป่าสะแก ซึ่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร) ใช้เป็นที่พักธุดงค์ในระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ นายเถา-นางบุญมา อยู่ประเทศ มีศรัทธาจึงมอบที่ให้ และได้สร้างเป็นวัดขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2506 ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 32 ไร่ มี พระภิกษุ สามเณร จำพรรษาประมาณ 300 กว่ารูป ปัจจุบันมีพระราชบัณฑิต (สุดใจ ปสิทฺธิโก) ป.ธ.9 เป็นผู้รักษาการแแทนเจ้าอาวาสพระอารามหลวง

ต่อมาในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2568 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะวัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหารขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567[1]

สิ่งสำคัญภายในวัด

[แก้]

พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์

[แก้]

ชั้นบนสุดบรรจุพระเกศา พระอุรังคธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับจากประเทศบังกลาเทศ ฐานเจดีย์เป็นทรง 4 เหลี่ยม สูง 94.78 เมตร มี 14 ชั้น ประกอบด้วยห้องแสดงพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ส่วนฐานเจดีย์เป็นโรงเรียนครูสอนสมาธิ (สถาบันพลังจิตตานุภาพ) ประกอบด้วย ห้องเรียนขนาดใหญ่ รองรับนักศึกษาครั้งละ ประมาณ 500 คน มีห้องเดินจงกรม ห้องนั่งสมาธิ ถ้ำวิปัสสนา ห้องอาหาร และห้องประชุม

อุโบสถ

[แก้]

เป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น สร้างขึ้นใหม่เพื่อทดแทนอุโบสถหลังเดิมที่มีขนาดเล็ก ชั้นล่างเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนชั้นบนเป็นอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระประธานขนาดใหญ่เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ นามว่า "พระพุทธสุพิโนภาสศาสดา"

พระหยกเขียว

[แก้]

ประดิษฐานอยู่ในศาลาหลังคาแบบโดมแก้ว พระพุทธรูปหยกเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีนามว่า "พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย" หยกชิ้นใหญ่นี้ได้ถูกค้นพบที่ใต้ทะเลสาบน้ำแข็ง ประเทศแคนาดา

ถ้ำวิปัสสนา

[แก้]

ตั้งอยู่ในบริเวณสวนของวัด มีเนื้อที่ 4 ไร่ จำลองบรรยากาศการปฏิบัติในป่า-ถ้ำ เพื่อเข้าไปนั่งสมาธิและฟังธรรมในถ้ำได้โดยปราศจากกังวลจากสัตว์ป่า ปากถ้ำมีประตูมุ้งลวด จุคนได้กว่า 200 คน ล้อมรอบด้วยสวนป่า มีไม้ดอกไม้ใบ สระน้ำและเนินเขาซึ่งให้บรรยากาศร่มรื่น

ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ

[แก้]

ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของวัด ในหมู่บ้านรังสิยาเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้ฆราวาสผู้มาปฏิบัติธรรมมีที่พัก ภายในมีห้องพักแบบโรงแรม 80 ห้อง จุผู้มาปฏิบัติได้ ประมาณ 180 คน แบ่งห้องพักเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อไม่ให้แออัดและไม่รบกวนกัน มีทั้งห้องเดียว ห้องคู่ และห้องรวมสำหรับครอบครัว ทุกห้องมีเตียง ที่นอนสปริง หมอน ผ้าปูที่นอน ตู้เสื้อผ้า และเครื่องปรับอากาศ ไว้อำนวยความสะดวก รองรับผู้มาปฏิบัติสมาธิพักค้างคืนได้ตั้งแต่ 3 วัน ถึง 7 วัน มีห้องนั่งสมาธิ บริเวณจงกรม มุมหนังสือธรรมมะและห้องอาหารให้บริการผู้มาเข้าอบรม

สถาบันพลังจิตตานุภาพ

[แก้]

สถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดธรรมมงคล เป็นสถาบันที่มีหน้าที่สอนหลักสูตรครูสมาธิให้แก่ บุคคลทั่วไป ทำการสอนเกี่ยวกับสมาธิเบื้องต้นตั้งแต่การเริ่มบริกรรม จนถึงสมาธิชั้นสูงที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้เล่าเรียนศึกษามาจากพระอาจารย์ใหญ่ทางวิปัสสนา ได้แก่ พระอาจารย์มั่น และ พระอาจารย์กงมา รวมถึงประสบการณ์ชีวิตในการปฏิบัติสมาธิของหลวงพ่อวิริยังค์เองกว่า 60 ปี นอกจากผู้เรียนจะได้เข้าใจการทำสมาธิ ทั้งสมถะ-วิปัสสนาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และยังสามารถเป็นครูสอนสมาธิให้แก่บุคคลอื่นได้โดยถูกต้องด้วย

ลำดับที่ รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ
1 สมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร) พ.ศ. 2509 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563
ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสประเภทวัดราษฎร์ พระพรหมวชิรรังษี (จิรพล อธิจิตฺโต ป.ธ.7) 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 29 กันยายน พ.ศ. 2565
2 พระวิริยวัชรญาณ วิ. (บุรมณ์ เตชธมฺโม) 29 กันยายน พ.ศ. 2565 23 มีนาคม พ.ศ. 2568
ลำดับที่ รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ
ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสพระอารามหลวง พระวิริยวัชรญาณ วิ. (บุรมณ์ เตชธมฺโม) 23 มีนาคม พ.ศ. 2568 26 มีนาคม พ.ศ. 2568
ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสพระอารามหลวง รูปที่1 พระราชบัณฑิต (สุดใจ ปสิทฺธิโก) ป.ธ.9 26 มีนาคม พ.ศ. 2568 ปัจจุบัน

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  1. "พระบรมราชโองการ ประกาศยก '12 วัดราษฎร์' ขึ้นเป็น 'พระอารามหลวง'". เดลินิวส์. 26 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 26 มีนาคม 2025.