ข้ามไปเนื้อหา

มอร์ฟีน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มอร์ฟีน
ข้อมูลทางคลินิก
การอ่านออกเสียง/ˈmɔːrfn/
ชื่อทางการค้าStatex, MSContin, Oramorph, Sevredol และอื่น ๆ[1]
AHFS/Drugs.comโมโนกราฟ
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
  • AU: C
  • US: C (ยังไม่ชี้ขาด)
    Dependence
    liability
    สูง
    Addiction
    liability
    สูง[2]
    ช่องทางการรับยาการสูดดม (การสูบบุหรี่), ยาพ่น (การสูด), ทางปาก (PO), ไส้ตรง, การฉีดยา (SC), การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (IM), การฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ (IV), การให้ยาทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง และการบริหารช่องไขสันหลัง (IT)
    ประเภทยาโอปิออยด์
    รหัส ATC
    กฏหมาย
    สถานะตามกฏหมาย
    ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์
    ชีวประสิทธิผล20–40% (ทางปาก), 36–71% (ไส้ตรง),[3] 100% (IV/IM)
    การจับกับโปรตีน30–40%
    การเปลี่ยนแปลงยาตับ 90%
    ระยะเริ่มออกฤทธิ์5 นาที (IV), 15 นาที (IM),[4] 20 นาที (PO)[5]
    ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ2–3 ชั่วโมง
    ระยะเวลาออกฤทธิ์3–7 ชั่วโมง[6][7]
    การขับออกไต 90%, น้ำดี 10%
    ตัวบ่งชี้
    • (4R,4aR,7S,7aR,12bS) -3-Methyl-2,3,4,4a,7,7a-hexahydro-1H-4,12-methanobenzofuro[3,2-e]isoquinoline-7,9-diol
    เลขทะเบียน CAS
    • 57-27-2 checkY
      64-31-3 (ซัลเฟตปกติ),
      52-26-6 (ไฮโดรคลอไรต์)
    PubChem CID
    IUPHAR/BPS
    DrugBank
    ChemSpider
    UNII
    KEGG
    ChEBI
    ChEMBL
    PDB ligand
    ECHA InfoCard100.000.291
    ข้อมูลทางกายภาพและเคมี
    สูตรC17H19NO3
    มวลต่อโมล285.343 g·mol−1
    แบบจำลอง 3D (JSmol)
    การละลายในน้ำHCl & sulf.: 60 mg/mL (20 °C)
    • CN1CC[C@]23C4=C5C=CC (O) =C4O[C@H]2[C@@H](O) C=C[C@H]3[C@H]1C5
    • InChI=1S/C17H19NO3/c1-18-7-6-17-10-3-5-13 (20) 16 (17) 21-15-12 (19) 4-2-9 (14 (15) 17) 8-11 (10) 18/h2-5,10-11,13,16,19-20H,6-8H2,1H3/t10-,11+,13-,16-,17-/m0/s1 checkY
    • Key:BQJCRHHNABKAKU-KBQPJGBKSA-N checkY
      (verify)
    สารานุกรมเภสัชกรรม

    มอร์ฟีน (อังกฤษ: morphine) ที่ขายภายใต้ชื่อการค้าหลายชื่อ เป็นยาระงับปวดชนิดยาเข้าฝิ่น ออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาทส่วนกลางเพื่อลดความรู้สึกปวด ใช้ได้ทั้งกับอาการปวดเฉียบพลันและปวดเรื้อรัง มอร์ฟีนยังมักใช้กับอาการปวดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือดและระหว่างการคลอด สามารถให้ทางปาก โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ฉีดใต้ผิวหนัง เข้าหลอดเลือดดำ เข้าช่องว่างระหว่างไขสันหลัง หรือทางทวารหนัก ฤทธิ์สูงสุดอยู่ประมาณ 20 นาทีเมื่อให้เข้าหลอดเลือดดำ และ 60 นาทีเมื่อให้ทางปาก ส่วนระยะออกฤทธิ์อยู่ระหว่าง 3 ถึง 7 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีสูตรออกฤทธิ์ยาว

    ผลข้างเคียงรุนแรงที่อาจเกิดได้มีความพยายามหายใจลดและความดันเลือดต่ำ มอร์ฟีนมีศักยะสูงสำหรับการติดยาและการใช้เป็นสารเสพติด หากลดขนาดหลังการใช้ระยะยาว อาจเกิดอาการถอนได้ ผลข้างเคียงทั่วไปมีซึม อาเจียนและท้องผูก แนะนำให้ระวังเมื่อใช้ระหว่างตั้งครรภ์หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะมอร์ฟีนจะมีผลต่อทารก

    ฟรีดริช แซร์ทัวร์เนอร์เป็นผู้แรกที่แยกมอร์ฟีนระหว่าง ค.ศ. 1803 ถึง 1805 โดยทั่วไปเชื่อว่าเป็นการแยกสารประกอบกัมมันต์จากพืชครั้งแรก แมร์คเริ่มขายเชิงพาณิชย์ครั้งแรกใน ค.ศ. 1827 มอร์ฟีนมีใช้กว้างขวางหลังการประดิษฐ์กระบอกฉีดยาชั้นใต้หนังใน ค.ศ. 1853–1855 แซร์ทัวร์เนอร์เดิมตั้งชื่อสารนี้ว่ามอร์เฟียมตามพระนามเทพเจ้าแห่งฝันของกรีก มอร์เฟียส สำหรับแนวโน้มที่จะทำให้หลับ

    แหล่งมอร์ฟีนหลักคือการแยกจากฟางป๊อปปี (poppy straw) จากต้นฝิ่น ใน ค.ศ. 2013 มีการผลิตมอร์ฟีนประมาณ 523,000 กิโลกรัม มีการใช้ 45,000 กิโลกรัมโดยตรงสำหรับความปวด ซึ่งเพิ่มสี่เท่าในเวลายี่สิบปี การใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้ส่วนมากในประเทศพัฒนาแล้ว มอร์ฟีนประมาณ 70% ใช้ผลิตโอพิออยด์อื่น เช่น ไฮโดรมอร์โฟน อ็อกซีโคโดน เฮโรอีนและเมทาโดน เป็นยา Schedule II ในสหรัฐ Class A ในสหราชอาณาจักร และ Schedule I ในประเทศแคนาดา มอร์ฟีนอยู่ในรายการยาหลักของตัวแบบองค์การอนามัยโลก ยาสำคัญที่สุดที่จำเป็นในระบบสาธารณสุขพื้นฐาน

    การใช้ทางการแพทย์

    [แก้]

    ความเจ็บปวด

    [แก้]

    ในการแพทย์นิยมใช้มอร์ฟีนเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดรุนแรงทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง รวมถึงความเจ็บปวดจากโรคหัวใจขาดเลือดและความเจ็บปวดระหว่างการคลอดด้วย[8] ระยะเวลาที่มอร์ฟีนจะมีผลควบคุมความเจ็บปวดได้โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3-7 ชั่วโมง[6][7]

    บททบทวนงานวิจัยโดยสถาบันคอเครนเมื่อ ค.ศ. 2016 ให้ข้อสรุปว่ามอร์ฟีนเป็นยาแก้ปวดที่ใช้ได้ผลดีในการบรรเทาความเจ็บปวดจากมะเร็ง ผลข้างเคียงต่างๆ เช่น ความคลื่นไส้ อาการท้องผูก มักเป็นไม่รุนแรงมากถึงขั้นที่จะบดบังประโยชน์จากการรักษานี้[9]

    ความเหนื่อย

    [แก้]

    โรคใช้โอพิออยด์ไม่เหมาะสม

    [แก้]

    ผลข้างเคียง

    [แก้]
    • ทำให้สภาพจิตใจอ่อนแอ
    • รู้สึกเคลิบเคลิ้มและเป็นสุข (euphoria)
    • เซื่องซึม (drowsiness)
    • เฉื่อยชา (lethargy)
    • สายตาพร่ามัว (blurred vision)
    • ทำให้ท้องผูก (constipation)
    • เบื่ออาหาร (decreases hunger)
    • ยับยั้งอาการไอ (inhibits the cough reflex)
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • หายใจติดขัด

    ใช้ทางการแพทย์

    [แก้]

    วิธีการให้ยา

    [แก้]
    • ยาฉีด (Parenteral)
      • ยาฉีด เข้าผิวหนัง (subcutaneous)
      • ยาฉีด เข้าเส้น (intravenous)
      • แผ่นติดผิวหนัง (slow-release transdermal patch)
    • ทางปาก (Orally)
      • ยาน้ำ (elixir หรือ solution)
      • ยาเม็ด
        • ยาเม็ดตอก (tablet form)
        • ยาแคปซูล ( capsule ) ที่พบในทางการค้าจะอยู่ในรูป มอร์ฟีน ซัลเฟต , ในกรณีที่เป็นยารูปแบบที่ออกฤทธิ์ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน อาจใช้การบรรจุ pellet ขนาดเล็กภายในแคปซูล ซึ่งในกรณีนี้อัตราการปลดปล่อยยาจะขึ้นอยู่กับความหนาของฟิมล์ที่เคลือบเพลเลทไว้ โดยมอร์ฟีนแคปซูลนี้อาจใช้กินเป็นแคปซูล หรือแกะเปลือกแคปซูลออกแล้วเทเอาเพลเลทใส่ gastotomy tube นอกจากนี้อาจแกะแคปซูลแล้วเทเพลเล็ทใส่เครื่องดื่มหรือาหารเหลวให้คนไข้ก็ได้

    ข้อบ่งใช้

    [แก้]

    ตามกฎหมายอนุญาตให้มอร์ฟีนได้ดังนี้;

    • บรรเทาอาการปวดที่รุนแรงและเฉียบพลัน
      • ปวดหลังผ่าตัด
      • ปวดจากบาดแผล
    • อาการปวดเรื้อรังขนาดกลางและรุนแรง
      • อาการปวดจากมะเร็ง
      • ปวดจากถอนฟัน
    • ใช้ร่วมกับยาชาทั่วไป
    • ใช้เป็นยาแก้ไอ (antitussive) ในกรณีไออย่างรุนแรง
    • แก้ท้องร่วงเรื้อรัง

    ข้อห้ามใช้

    [แก้]

    ประวัติ

    [แก้]
    • ค.ศ. 1803 ฟรีดริช แซร์ทัวร์เนอร์ (Friedrich Serturner) เภสัชกรชาวเยอรมัน สามารถแยกมอร์ฟีนจากฝิ่นได้ โดยตั้งชื่อตามชื่อเทพเจ้าแห่งการนอนหลับของกรีก มอร์ฟีอัส (Morpheus) ว่า 'มอร์เฟียม' (morphium)
    • ค.ศ. 1874 สังเคราะห์เฮโรอีน (Heroin) จากมอร์ฟีนได้

    อ้างอิง

    [แก้]
    1. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ drugs.com-page
    2. Bonewit-West K, Hunt SA, Applegate E (2012). Today's Medical Assistant: Clinical and Administrative Procedures (ภาษาอังกฤษ). Elsevier Health Sciences. p. 571. ISBN 9781455701506.
    3. Jonsson T, Christensen CB, Jordening H, Frølund C (April 1988). "The bioavailability of rectally administered morphine". Pharmacology & Toxicology. 62 (4): 203–5. doi:10.1111/j.1600-0773.1988.tb01872.x. PMID 3387374.
    4. Whimster F (1997). Cambridge textbook of accident and emergency medicine. Cambridge: Cambridge University Press. p. 191. ISBN 978-0-521-43379-2. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 กันยายน 2017.
    5. Liben S (2012). Oxford textbook of palliative care for children (2 ed.). Oxford: Oxford University Press. p. 240. ISBN 978-0-19-959510-5. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 กันยายน 2017.
    6. 1 2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ AHFS2015
    7. 1 2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Rockwood2009
    8. "Morphine Sulfate". The American Society of Health-System Pharmacists. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 มีนาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2011.
    9. Wiffen PJ, Wee B, Moore RA (2016). "Oral morphine for cancer pain". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 4: CD003868. doi:10.1002/14651858.CD003868.pub4. PMID 27105021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 มกราคม 2017.

    แหล่งข้อมูลอื่น

    [แก้]