ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดาบมังกรหยก"
Billdechawat (คุย | ส่วนร่วม) |
|||
บรรทัด 26: | บรรทัด 26: | ||
ระยะเวลาถัดจาก[[มังกรหยก ภาค 2]] สามถึงสี่ชั่วอายุคน เกี่ยวกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพของสำนัก[[ง้อไบ๊]] และสำนัก[[บู๊ตึ้ง]] ตัวเอก เตียบ่อกี้ (บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอมยุทธ์ที่ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าว[[อินทรีคิ้วขาว]] แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่) ซึ่งเป็นลูกหลานในบู๊ตึ้งต้องผจญภัยมากมาย และสุดท้ายได้เป็นประมุข[[นิกายเม้งก่า]] (บางสำนวนใช้ พรรคจรัสหรือพรรครุ่งเรือง) ซึ่งมีบทบาทในการกอบกู้ประเทศจากมองโกล โดยนางเอกในภาคนี้ชื่อหมิ่นหมิ่น (เตี๋ยเมี่ยง) เป็นลูกสาวของอ๋องมองโกล |
ระยะเวลาถัดจาก[[มังกรหยก ภาค 2]] สามถึงสี่ชั่วอายุคน เกี่ยวกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพของสำนัก[[ง้อไบ๊]] และสำนัก[[บู๊ตึ้ง]] ตัวเอก เตียบ่อกี้ (บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอมยุทธ์ที่ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าว[[อินทรีคิ้วขาว]] แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่) ซึ่งเป็นลูกหลานในบู๊ตึ้งต้องผจญภัยมากมาย และสุดท้ายได้เป็นประมุข[[นิกายเม้งก่า]] (บางสำนวนใช้ พรรคจรัสหรือพรรครุ่งเรือง) ซึ่งมีบทบาทในการกอบกู้ประเทศจากมองโกล โดยนางเอกในภาคนี้ชื่อหมิ่นหมิ่น (เตี๋ยเมี่ยง) เป็นลูกสาวของอ๋องมองโกล |
||
== ตัวละคร == |
== ตัวละคร == |
||
[[ไฟล์:ดาบมังกรหยก.jpg|thumb|right|หน้าปก[[ดีวีดี]][[ละครโทรทัศน์]]ชุดดาบมังกรหยก ฉบับปี [[ค.ศ. |
[[ไฟล์:ดาบมังกรหยก.jpg|thumb|right|หน้าปก[[ดีวีดี]][[ละครโทรทัศน์]]ชุดดาบมังกรหยก ฉบับปี [[ค.ศ. 1986]] [[เหลียงเฉาเหว่ย]]รับบทเป็น เตียบ่อกี้]] |
||
; [[ดาบมังกรหยก|เตียบ่อกี้ (จางอู๋จี้)]] : [[เตียบ่อกี้]] หรือ จางอู๋จี้ (Zhang Wuji, 張無忌) เป็นบุตรชายของเตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) ศิษย์คนที่ 5 ของ เตียซำฮง (จางซานฟง) และเป็นหลานชายของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย มีพ่อบุญธรรมคือ พญาราชสีห์ทองคำเจี่ยซุ่น ถือกำเนิดและเติบโตบนเกาะน้ำแข็งอัคคี สมัยเด็กเมื่อกลับสู่แผ่นดินใหญ่ โดนผ่ามือภูตเร้นลับ พิษเย็นเข้าในร่าง พ่อและแม่โดนชาวยุทธถามหาพญาราชสีห์ทองคำที่ครอบครองดาบฆ่ามังกร แต่เพื่อรักษาสัจจะจึงได้ยอมฆ่าตัวตายเพื่อปกปิดความลับ เตียบ่อกี้เติบโตมากับเตียซำฮง แต่เพราะพิษเย็นในร่าง จึงต้องทรมานอยู่เรื่อยตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งเตียซำฮงได้ช่วยเหลือเซี่ยง้อชุนจากพวกชาวยุทธฝ่ายธรรมะ ทำให้เซี่ยง้อชุนซาบซึ้งใจมาก จึงได้อาสาพาเตียบ่อกี้ไปรักษากับหมอเทวดาแห่งเม่งก้านามว่าโอ้วแชงู้ที่หุบเขาผีเสื้อ ทำให้เตียบ่อกี้ได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์ เมื่อเติบโตได้มีโอกาสฝึกพลังเก้าเอี๊ยง (พลังนวภพ) ซึ่งเสริมธาตุหยาง พิษไอเย็นที่เป็นธาตุหยินจึงหายไป และได้มีวาสนาฝึกคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาล จึงได้ขึ้นเป็นประมุขนิกายเม้งก่า เนื่องจากเตียบ่อกี้เป็นชายหนุ่มรูปงามจึงมีสาวงามหลายคนมาหลงรัก คือ เตี๋ยเมี่ยงหรือมินมินเทอมู่เอ่อร์ องค์หญิงแห่งมองโกล จิวจี้เยียก สาวงามศิษย์แม่ชีมิกจ้อแห่งง้อไบ๊ ฮึงลี้หรือตูยี้ญาติผู้น้อง และเสี่ยวเจียว หญิงสาวผู้มีประวัติความเป็นมาอันลึกลับ |
; [[ดาบมังกรหยก|เตียบ่อกี้ (จางอู๋จี้)]] : [[เตียบ่อกี้]] หรือ จางอู๋จี้ (Zhang Wuji, 張無忌) เป็นบุตรชายของเตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) ศิษย์คนที่ 5 ของ เตียซำฮง (จางซานฟง) และเป็นหลานชายของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย มีพ่อบุญธรรมคือ พญาราชสีห์ทองคำเจี่ยซุ่น ถือกำเนิดและเติบโตบนเกาะน้ำแข็งอัคคี สมัยเด็กเมื่อกลับสู่แผ่นดินใหญ่ โดนผ่ามือภูตเร้นลับ พิษเย็นเข้าในร่าง พ่อและแม่โดนชาวยุทธถามหาพญาราชสีห์ทองคำที่ครอบครองดาบฆ่ามังกร แต่เพื่อรักษาสัจจะจึงได้ยอมฆ่าตัวตายเพื่อปกปิดความลับ เตียบ่อกี้เติบโตมากับเตียซำฮง แต่เพราะพิษเย็นในร่าง จึงต้องทรมานอยู่เรื่อยตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งเตียซำฮงได้ช่วยเหลือเซี่ยง้อชุนจากพวกชาวยุทธฝ่ายธรรมะ ทำให้เซี่ยง้อชุนซาบซึ้งใจมาก จึงได้อาสาพาเตียบ่อกี้ไปรักษากับหมอเทวดาแห่งเม่งก้านามว่าโอ้วแชงู้ที่หุบเขาผีเสื้อ ทำให้เตียบ่อกี้ได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์ เมื่อเติบโตได้มีโอกาสฝึกพลังเก้าเอี๊ยง (พลังนวภพ/เก้าสุริยัน) ซึ่งเสริมธาตุหยาง พิษไอเย็นที่เป็นธาตุหยินจึงหายไป และได้มีวาสนาฝึกคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาล จึงได้ขึ้นเป็นประมุขนิกายเม้งก่า เนื่องจากเตียบ่อกี้เป็นชายหนุ่มรูปงามจึงมีสาวงามหลายคนมาหลงรัก คือ เตี๋ยเมี่ยงหรือมินมินเทอมู่เอ่อร์ องค์หญิงแห่งมองโกล จิวจี้เยียก สาวงามศิษย์แม่ชีมิกจ้อแห่งง้อไบ๊ ฮึงลี้หรือตูยี้ญาติผู้น้อง และเสี่ยวเจียว หญิงสาวผู้มีประวัติความเป็นมาอันลึกลับ |
||
; [[ดาบมังกรหยก|เตี๋ยเมี่ยง (จ้าวหมิ่น)]] : เตี๋ยเมี่ยงหรือจ้าวหมิ่น เป็นธิดาของจ้าวลื่ออ๋องแม่ทัพแห่งมองโกล มีชื่อเต็มว่า มินมินเทอมู่เอ่อร์ เล้งอ๋องได้รับบัญชาให้ทำหน้าที่ปราบกบฏ จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับองค์หญิงมินมินไปทำ มินมินได้พบกับเตียบ่อกี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปะทะกันโดยตรง จนกระทั่งวันหนึ่งมินมินยกพวกไปบุกบู๊ตึ๊งโดยอ้างว่าตนคือเตียบ่อกี้แห่งเม้งก่า แต่คราวนั้นเตียบ่อกี้ซึ่งล่วงหน้ามารอก่อนแล้วได้แสดงถึงวรยุทธ์อันสูงส่งของตนให้ทุกคนประจักษ์ทำให้มินมินต้องล่าถอย เพื่อช่วยเหลือฮึงลี้เต็งผู้เป็นศิษย์น้องของบิดา เตียบ่อกี้จึงต้องยอมสัญญาว่าจะทำงานให้มินมิน 3 ข้อ โดยที่ข้อแรกมินมินขอให้เตียบ่อกี้พาไปดูดาบฆ่ามังกร เตียบ่อกี้จึงจำเป็นต้องรับปากและพาไปเกาะน้ำแข็งอัคคี ในระหว่างเดินทางเตียบ่อกี้ได้พบแม่เฒ่ากิมฮวยกำลังบังคับให้จิวจี้เยียกตามนางไป เตียบ่อกี้ มินมิน และเสี่ยวเจียวจึงต้องเดินทางไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์แทน บนเกาะงูศักดิ์สิทธิ์ จิวจี้เยียกซึ่งต้องการกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรตัดสินใจวางยาทุกคน ฆ่าฮึงลี้ญาติผู้น้องของเตียบ่อกี้ และนำมินมินไปลอยแพเพื่อเตรียมใส่ความ โชคดีมินมินรอดมาได้ ถูกเตียบ่อกี้เข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เตียบ่อกี้ก็ใจอ่อนเกินกว่าจะทำร้ายนาง อีกทั้งความผูกพันที่มีทำให้เขาไม่กล้าทำอะไรมากมายนัก ในวันแต่งงานของเตียบ่อกี้กับจิวจี้เยียก มินมินตัดสินใจตามไปขัดขวาง พร้อมทั้งขอให้ทำงานชิ้นที่สอง คือขอไม่ให้แต่งงานกับจิวจี้เยียกโดยใช้พญาราชสีห์ทองคำมาเป็นเครื่องมือข่มขู่ เตียบ่อกี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องตามออกไป ในที่สุดเตียบ่อกี้ตัดสินใจออกจากเม้งก่าเพื่ออยู่กับมินมินอย่างสงบสุข และมินมินได้ขอสัญญาข้อที่สาม คือ ขอให้เตียบ่อกี้เขียนคิ้วให้ทุกวันตราบจนชีวิตจะหาไม่ไปด้วยกัน |
; [[ดาบมังกรหยก|เตี๋ยเมี่ยง (จ้าวหมิ่น)]] : เตี๋ยเมี่ยงหรือจ้าวหมิ่น เป็นธิดาของจ้าวลื่ออ๋องแม่ทัพแห่งมองโกล มีชื่อเต็มว่า มินมินเทอมู่เอ่อร์ เล้งอ๋องได้รับบัญชาให้ทำหน้าที่ปราบกบฏ จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับองค์หญิงมินมินไปทำ มินมินได้พบกับเตียบ่อกี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปะทะกันโดยตรง จนกระทั่งวันหนึ่งมินมินยกพวกไปบุกบู๊ตึ๊งโดยอ้างว่าตนคือเตียบ่อกี้แห่งเม้งก่า แต่คราวนั้นเตียบ่อกี้ซึ่งล่วงหน้ามารอก่อนแล้วได้แสดงถึงวรยุทธ์อันสูงส่งของตนให้ทุกคนประจักษ์ทำให้มินมินต้องล่าถอย เพื่อช่วยเหลือฮึงลี้เต็งผู้เป็นศิษย์น้องของบิดา เตียบ่อกี้จึงต้องยอมสัญญาว่าจะทำงานให้มินมิน 3 ข้อ โดยที่ข้อแรกมินมินขอให้เตียบ่อกี้พาไปดูดาบฆ่ามังกร เตียบ่อกี้จึงจำเป็นต้องรับปากและพาไปเกาะน้ำแข็งอัคคี ในระหว่างเดินทางเตียบ่อกี้ได้พบแม่เฒ่ากิมฮวยกำลังบังคับให้จิวจี้เยียกตามนางไป เตียบ่อกี้ มินมิน และเสี่ยวเจียวจึงต้องเดินทางไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์แทน บนเกาะงูศักดิ์สิทธิ์ จิวจี้เยียกซึ่งต้องการกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรตัดสินใจวางยาทุกคน ฆ่าฮึงลี้ญาติผู้น้องของเตียบ่อกี้ และนำมินมินไปลอยแพเพื่อเตรียมใส่ความ โชคดีมินมินรอดมาได้ ถูกเตียบ่อกี้เข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เตียบ่อกี้ก็ใจอ่อนเกินกว่าจะทำร้ายนาง อีกทั้งความผูกพันที่มีทำให้เขาไม่กล้าทำอะไรมากมายนัก ในวันแต่งงานของเตียบ่อกี้กับจิวจี้เยียก มินมินตัดสินใจตามไปขัดขวาง พร้อมทั้งขอให้ทำงานชิ้นที่สอง คือขอไม่ให้แต่งงานกับจิวจี้เยียกโดยใช้พญาราชสีห์ทองคำมาเป็นเครื่องมือข่มขู่ เตียบ่อกี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องตามออกไป ในที่สุดเตียบ่อกี้ตัดสินใจออกจากเม้งก่าเพื่ออยู่กับมินมินอย่างสงบสุข และมินมินได้ขอสัญญาข้อที่สาม คือ ขอให้เตียบ่อกี้เขียนคิ้วให้ทุกวันตราบจนชีวิตจะหาไม่ไปด้วยกัน |
||
; [[จาง ซานฟง|เตียซำฮง (จางซานฟง)]]: เตียซำฮงเป็นเจ้าสำนักของสำนักบู๊ตึ๊ง (หวู่ตัง) ผู้คิดค้นวิชาไท้เก๊ก มีชื่อเดิมว่าเตียกุนป้อ เป็นเด็กวัดเสี้ยวลิ้ม (เส้าหลิน) มีหน้าที่คอยดูแลหอพระธรรมร่วมกับกักเอี้ยงไต้ซือผู้เป็นอาจารย์ กุนป้อและกักเอี้ยงไต้ซือได้มีโอกาสได้ฝึกพลังนวภพ (พลังเก้าเอี้ยง) จากคัมภีร์นวภพ (คัมภีร์เก้าเอี้ยง) ที่ปรมาจารย์ตั๊กม้อบัญญัติไว้ โดยทั้งคู่คิดเพียงว่าเป็นวิชาช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น และนอกจากพลังนวภพแล้วกุนป้อก็ไม่ได้ฝึกพลังการต่อสู้อื่นเลย ต่อมาเซียวเซียงจื้อและอีเคอซีแห่งมองโกลได้ใช้แผนชั่วร้ายเข้ามาในวัดและขโมยคัมภีร์นวภพออกไป กุนป้อและ กักเอี้ยงไต้ซือได้ออกตามหา จนเกิดการต่อสู้กัน ด้วยการชี้แนะจากเอี้ยก้วยบวกกับพลังปราณนวภพภายในตัวทำให้สามารถเอาชนะได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ปรากฏว่าไม่พบคัมภีร์นวภพที่ทั้งคู่ สองศิษย์อาจารย์จึงต้องกลับวัดไปมือเปล่า กักเอี้ยงไต้ซือโดนลงโทษโดยต้องแบกนำขึ้นลงจากวัดทุกวัน หลายปีต่อมา ฮ่อจ๊กเต๊า หรือฉายาสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น ได้เดินทางมายังเสี้ยวลิ้ม เพื่อบอกว่า อีเคอซีและเซียวเซียงจื้อเดินทางมาถึงยอดเขาคุนลุ้น เกิดการต่อสู้เพื่อแย่งคัมภีร์นวภพกันจนล้มตายทั้งคู่ ก่อนตายอีเคอซีได้ฝากฮ่อจกเต๋ามาบอกเสี้ยวลิ้มว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน" แต่เนื่องจากเกิดการขัดคอกัน ฮ่อจกเต๋าจึงคิดจะรับคำชี้แนะจากเสี้ยวลิ้ม กุนป้อได้มีโอกาสต่อสู้ และด้วยพลังนวภพที่ฝึกมาหลายปีบวกกับกระบวนท่าที่ได้รับมาจากเอี้ยก่วยอีกเล็กน้อย ทำให้กุนป้อเอาชนะฮ่อจกเต๋าได้ แต่เนื่องจากกฎของเสี้ยวลิ้มห้ามให้ศิษฐ์ในวัดห้ามแอบฝึกวิชาโดยไม่ได้รับอนุญาต กุนป้อจึงกลายเป็นศิษย์ทรยศ ด้วยความช่วยเหลือจากกักเอี้ยงไต้ซือ กุนป้อจึงหนีรอดมาได้ คืนนั้น ก่อนที่กักเอี้ยงไต้ซือจะมรณภาพ ได้ถ่ายทอดพลังนวภพให้กับกุนป้อ, ก๊วยเซียง และบ้อเส็กเซียงสือแห่งเสี้ยวลิ้มที่ฟังอยู่ด้านข้าง ต่งคนต่างจำได้คนละส่วน หลังจากนั้นก็มรณภาพ ไม่นานหลังจากนั้น กุนป้อก็เดินทางไปถึงภูเขาแห่งหนึ่ง เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเตียซำฮงและก่อตั้งสำนักบู๊ตึ๊งขึ้น ส่วนก๋วยเซียงซึ่งได้รับฟังเคล็ดพลังนวภพจากกักเอี้ยงไต้ซือเช่นกันก็ได้บวชเป็นชี และก่อต้งสำนักง้อไบ๊ขึ้นเช่นกัน |
; [[จาง ซานฟง|เตียซำฮง (จางซานฟง)]]: เตียซำฮงเป็นเจ้าสำนักของสำนักบู๊ตึ๊ง (หวู่ตัง) ผู้คิดค้นวิชาไท้เก๊ก มีชื่อเดิมว่าเตียกุนป้อ เป็นเด็กวัดเสี้ยวลิ้ม (เส้าหลิน) มีหน้าที่คอยดูแลหอพระธรรมร่วมกับกักเอี้ยงไต้ซือผู้เป็นอาจารย์ กุนป้อและกักเอี้ยงไต้ซือได้มีโอกาสได้ฝึกพลังนวภพ (พลังเก้าเอี้ยงพเก้าสุริยัน) จากคัมภีร์นวภพ (คัมภีร์เก้าเอี้ยง/เก้าสุริยัน) ที่ปรมาจารย์ตั๊กม้อบัญญัติไว้ โดยทั้งคู่คิดเพียงว่าเป็นวิชาช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น และนอกจากพลังนวภพแล้วกุนป้อก็ไม่ได้ฝึกพลังการต่อสู้อื่นเลย ต่อมาเซียวเซียงจื้อและอีเคอซีแห่งมองโกลได้ใช้แผนชั่วร้ายเข้ามาในวัดและขโมยคัมภีร์นวภพออกไป กุนป้อและ กักเอี้ยงไต้ซือได้ออกตามหา จนเกิดการต่อสู้กัน ด้วยการชี้แนะจากเอี้ยก้วยบวกกับพลังปราณนวภพภายในตัวทำให้สามารถเอาชนะได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ปรากฏว่าไม่พบคัมภีร์นวภพที่ทั้งคู่ สองศิษย์อาจารย์จึงต้องกลับวัดไปมือเปล่า กักเอี้ยงไต้ซือโดนลงโทษโดยต้องแบกนำขึ้นลงจากวัดทุกวัน หลายปีต่อมา ฮ่อจ๊กเต๊า หรือฉายาสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น ได้เดินทางมายังเสี้ยวลิ้ม เพื่อบอกว่า อีเคอซีและเซียวเซียงจื้อเดินทางมาถึงยอดเขาคุนลุ้น เกิดการต่อสู้เพื่อแย่งคัมภีร์นวภพกันจนล้มตายทั้งคู่ ก่อนตายอีเคอซีได้ฝากฮ่อจกเต๋ามาบอกเสี้ยวลิ้มว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน" แต่เนื่องจากเกิดการขัดคอกัน ฮ่อจกเต๋าจึงคิดจะรับคำชี้แนะจากเสี้ยวลิ้ม กุนป้อได้มีโอกาสต่อสู้ และด้วยพลังนวภพที่ฝึกมาหลายปีบวกกับกระบวนท่าที่ได้รับมาจากเอี้ยก่วยอีกเล็กน้อย ทำให้กุนป้อเอาชนะฮ่อจกเต๋าได้ แต่เนื่องจากกฎของเสี้ยวลิ้มห้ามให้ศิษฐ์ในวัดห้ามแอบฝึกวิชาโดยไม่ได้รับอนุญาต กุนป้อจึงกลายเป็นศิษย์ทรยศ ด้วยความช่วยเหลือจากกักเอี้ยงไต้ซือ กุนป้อจึงหนีรอดมาได้ คืนนั้น ก่อนที่กักเอี้ยงไต้ซือจะมรณภาพ ได้ถ่ายทอดพลังนวภพให้กับกุนป้อ, ก๊วยเซียง และบ้อเส็กเซียงสือแห่งเสี้ยวลิ้มที่ฟังอยู่ด้านข้าง ต่งคนต่างจำได้คนละส่วน หลังจากนั้นก็มรณภาพ ไม่นานหลังจากนั้น กุนป้อก็เดินทางไปถึงภูเขาแห่งหนึ่ง เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเตียซำฮงและก่อตั้งสำนักบู๊ตึ๊งขึ้น ส่วนก๋วยเซียงซึ่งได้รับฟังเคล็ดพลังนวภพจากกักเอี้ยงไต้ซือเช่นกันก็ได้บวชเป็นชี และก่อต้งสำนักง้อไบ๊ขึ้นเช่นกัน |
||
; [[ดาบมังกรหยก|จิวจี้เยียก (โจว |
; [[ดาบมังกรหยก|จิวจี้เยียก (โจวจื่อรั่ว)]] : จิวจี้เยียกเดิมเป็นบุตรสาวคนแจวเรือ ในขณะที่ได้มีการปะทะกันระหว่างเซี่ยง่อชุนและชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะทำให้พ่อของนางต้องมาตายลง ระหว่างนั้นเตียซำฮงแห่งบู๊ตึ๊งได้เข้ามาช่วยหลือเซี่ยง่อชุนและได้พาจิวจี๊เยียกไปฝากฝังเป็นศิษย์ของแม่ชีมิกจ้อแห่งสำนักง้อไบ๊ จิวจี้เยียกมีความรักที่มั่นคงแต่เพียงเตียบ่อกี้ แต่โชคร้ายเนื่องจากเตียบ่อกี้ได้ขึ้นเป็นประมุขเม้งก่าซึ่งมีความแค้นกับแม่ชีมิกจ้ออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้แม่ชีมิกจ้อบังคับให้จิวจี้เยียกสาบานว่าจะไม่รักเตียบ่อกี้เด็ดขาด และจะไม่แต่งงานกันพร้อมทั้งมอบตำแหน่งเจ้าสำนักง้อไบ๊ให้และบอกความลับเกี่ยวกับกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกร หลังจากที่แม่ชีมิกจ้อมรณภาพลง จิวจี้เยียกถูกแม่เฒ่ากิมฮวยบังคับให้ไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์กับนาง ที่นั่นจิวจี้เยียกได้พบกับเตียบ่อกี้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนั้นเตียบ่อกี้มากับเตี๋ยเมี่ยง และเสี่ยวเจียวเพื่อมาตามหาเจี่ยซุ่นผู้เป็นบิดาบุญธรรม จิวจี้เยียกรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะที่เกาะนั้นมีทั้งกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกรอยู่ จิวจี้เยียกจึงวางแผนใส่ร้ายเตี๋ยเมี่ยงและขโมยกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรเพื่อเอาสุดยอดเคล็ดวิชาในนั้น เพื่อที่จะขับพิษผงสิบหอมที่อยู่ในร่างของจิวจี้เยียก เจี่ยซุ่นจึงขอร้องแกมบังคับให้เตียบ่อกี้หมั้นหมายกับจิวจี้เยียกเพื่อจะได้สะดวกในการรักษาเพราะขั้นตอนของการรักษาต้องมีการถูกเนื้อต้องตัวกัน และจะแต่งงานกันเมื่อกลับไปถึงแผ่นดินใหญ่ ในงานแต่งงานของจิวจี้เยียกกับเตียบ่อกี้ เตี๋ยเมี่ยงไม่อาจทนอยู่ได้จึงเข้ามาขัดขวางพร้อมทั้งทวงสัญญาข้อสอง ขอให้เตียบ่อกี้ล้มเลิกงานแต่งงานโดยหยิบเส้นผมของเจี่ยซุ่นออกมาขู่ เตียบ่อกี้จึงวิ่งออกจากงานแต่งงานไป ระหว่างนั้นจิวจี้เยียกได้เข้าขัดขวางและเกิดการต่อสู้กัน ในการต่อสู้ครั้งนี้เองที่จิวจี้เยียกใช้วิชาที่แอบขโมยมาจากกระบี่อิงฟ้า (กรงเล็บกระดูกขาว) ต่อหน้าผู้อื่นเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งเตียบ่อกี้ได้ จิวจี้เยียกจึงต้องกลับง้อไบ๊ด้วยความแค้นและฝึกวิชากงเล็บกระดูกขาว เพื่อหวังที่จะล้างแค้นเตียบ่อกี้ แต่ด้วยความร้อนใจทำให้จิวจี้เยียกเร่งฝึกฝนอย่างไร้การควบคุม ทำให้เกิดคลุ้มคลั่งจนสติวิปลาส กลายเป็นมารไป |
||
; เตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) : ศิษย์คนที่ 5 แห่งสำนักบู๊ตึ๊ง บิดาของเตียบ่อกี้ เป็นผู้รักคุณธรรม ได้พบรักกับ ฮึงซู่ซู่ บุตรีของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย แห่งพรรคอินทรีฟ้า ในงานประกาศศักดาดาบฆ่ามังกร เขาถูกเจี่ยซุ่นจับตัวไปยังเกาะน้ำแข็งอัคคีพร้อมนาง ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน ทำให้ทั้ง 2 ได้ผลิตเตียบ่อกี้ ซึ่งเป็นพยานรักขึ้นมา |
; เตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) : ศิษย์คนที่ 5 แห่งสำนักบู๊ตึ๊ง บิดาของเตียบ่อกี้ เป็นผู้รักคุณธรรม ได้พบรักกับ ฮึงซู่ซู่ บุตรีของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย แห่งพรรคอินทรีฟ้า ในงานประกาศศักดาดาบฆ่ามังกร เขาถูกเจี่ยซุ่นจับตัวไปยังเกาะน้ำแข็งอัคคีพร้อมนาง ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน ทำให้ทั้ง 2 ได้ผลิตเตียบ่อกี้ ซึ่งเป็นพยานรักขึ้นมา |
||
บรรทัด 68: | บรรทัด 68: | ||
; โอ้วแชงู้ (หูชิงหนิว) : หมอเทวดา ผู้ถ่ายทอดวิชาการแพทย์แก่เตียบ่อกี้ |
; โอ้วแชงู้ (หูชิงหนิว) : หมอเทวดา ผู้ถ่ายทอดวิชาการแพทย์แก่เตียบ่อกี้ |
||
; แม่นางแซ่เอี้ย (หยาง) หรือแม่นางเสื้อเหลือง : เจ้าสำนักสุสานโบราณ ทายาทรุ่นหลานของเอี้ยก้วย (หยางกั้ว) และเซียวเหล่งนึ่ง (เสี่ยวหลงหนวี่) วรยุทธ์ลึกล้ำสุดคาดเดา เอาชนะกรงเล็บกระดูกขาวของจิวจี้เยี้ยกได้ในกระบวนท่าเดียว ไม่เปิดเผยชื่อจริง ทิ้งท้ายคำพูดไว้เป็นปริศนาแก่เตียบ่อกี้ว่า "หลังภูเขา |
; แม่นางแซ่เอี้ย (หยาง) หรือแม่นางเสื้อเหลือง : เจ้าสำนักสุสานโบราณ ทายาทรุ่นหลานของเอี้ยก้วย (หยางกั้ว) และเซียวเหล่งนึ่ง (เสี่ยวหลงหนวี่) แต่งกายด้วยชุดสีเหลือง วรยุทธ์ลึกล้ำสุดคาดเดา เอาชนะกรงเล็บกระดูกขาวของจิวจี้เยี้ยกได้ในกระบวนท่าเดียว ไม่เปิดเผยชื่อจริง ทิ้งท้ายคำพูดไว้เป็นปริศนาแก่เตียบ่อกี้ว่า "หลังภูเขาจงหนาน ในสุสานโบราณ คู่รักเจ้าอินทรี สาบสูญจากยุทธภพ" อีกทั้งยังขอฝากอนาคตของพรรคกระยาจกไว้ที่เตี้ยบ่อกี้อีกด้วย |
||
; ค้างคาวปีกเขียว : ฉายา "พญาค้างคาวปีกเขียว" หนึ่งใน 4 ผู้คุมกฎนิกายเม้งก่า มีวิชาตัวเบาที่เป็นเลิศแต่เนื่องจากฝึกวิชาฝ่ามือไหมเย็น จนธาตุไฟเข้าแทรกทำให้ต้องดื่มเลือดของมนุษย์เพื่อคลายพิษของตัวเอง เคยดูดเลือดของเตียบ่อกี้สมัยเด็กด้วยความเข้าใจผิด ภายหลังได้เตียบ่อกี้ ใช้วิชาเก้าเอี้ยงช่วยขับพิษดังกล่าวให้ ค้างคาวปีกเขียวจึงซึ้งในพระคุณ ได้เป็นกำลังสำคัญตั้งใจฟื้นฟูนิกายเม้งก่า |
; ค้างคาวปีกเขียว : ฉายา "พญาค้างคาวปีกเขียว" หนึ่งใน 4 ผู้คุมกฎนิกายเม้งก่า มีวิชาตัวเบาที่เป็นเลิศแต่เนื่องจากฝึกวิชาฝ่ามือไหมเย็น จนธาตุไฟเข้าแทรกทำให้ต้องดื่มเลือดของมนุษย์เพื่อคลายพิษของตัวเอง เคยดูดเลือดของเตียบ่อกี้สมัยเด็กด้วยความเข้าใจผิด ภายหลังได้เตียบ่อกี้ ใช้วิชาเก้าเอี้ยงช่วยขับพิษดังกล่าวให้ ค้างคาวปีกเขียวจึงซึ้งในพระคุณ ได้เป็นกำลังสำคัญตั้งใจฟื้นฟูนิกายเม้งก่า |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:35, 11 ตุลาคม 2556
ดาบมังกรหยก (มังกรหยก ภาค 3) | |
---|---|
ผู้ประพันธ์ | กิมย้ง |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | 倚天屠龍記 (yǐ tiān tú lóng jì) |
ผู้แปล | ว. ณ เมืองลุง, จำลอง พิศนาคะ, น.นพรัตน์, ฉบับอื่นๆ ไม่ทราบแน่ชัด |
ภาษา | จีน |
ประเภท | นิยายกำลังภายใน |
ชนิดสื่อ | นิยาย |
ดาบมังกรหยก (หรือ มังกรหยกภาค 3 หรือ กระบี่อิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร) เป็นนิยายกำลังภายในภาคต่อของ มังกรหยก แต่งโดยกิมย้ง (ชื่อในภาษาจีน อักษรจีนตัวเต็ม: 倚天屠龍記; อักษรจีนตัวย่อ: 倚天屠龙记; พินอิน: yǐ tiān tú lóng jì) และชื่อในภาษาอังกฤษ คือ The Heavenly Sword and the Dragon Saber หรือ The Heaven Sword and Dragon Saber)
เนื้อเรื่องย่อ
ระยะเวลาถัดจากมังกรหยก ภาค 2 สามถึงสี่ชั่วอายุคน เกี่ยวกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพของสำนักง้อไบ๊ และสำนักบู๊ตึ้ง ตัวเอก เตียบ่อกี้ (บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอมยุทธ์ที่ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าวอินทรีคิ้วขาว แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่) ซึ่งเป็นลูกหลานในบู๊ตึ้งต้องผจญภัยมากมาย และสุดท้ายได้เป็นประมุขนิกายเม้งก่า (บางสำนวนใช้ พรรคจรัสหรือพรรครุ่งเรือง) ซึ่งมีบทบาทในการกอบกู้ประเทศจากมองโกล โดยนางเอกในภาคนี้ชื่อหมิ่นหมิ่น (เตี๋ยเมี่ยง) เป็นลูกสาวของอ๋องมองโกล
ตัวละคร
- เตียบ่อกี้ (จางอู๋จี้)
- เตียบ่อกี้ หรือ จางอู๋จี้ (Zhang Wuji, 張無忌) เป็นบุตรชายของเตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) ศิษย์คนที่ 5 ของ เตียซำฮง (จางซานฟง) และเป็นหลานชายของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย มีพ่อบุญธรรมคือ พญาราชสีห์ทองคำเจี่ยซุ่น ถือกำเนิดและเติบโตบนเกาะน้ำแข็งอัคคี สมัยเด็กเมื่อกลับสู่แผ่นดินใหญ่ โดนผ่ามือภูตเร้นลับ พิษเย็นเข้าในร่าง พ่อและแม่โดนชาวยุทธถามหาพญาราชสีห์ทองคำที่ครอบครองดาบฆ่ามังกร แต่เพื่อรักษาสัจจะจึงได้ยอมฆ่าตัวตายเพื่อปกปิดความลับ เตียบ่อกี้เติบโตมากับเตียซำฮง แต่เพราะพิษเย็นในร่าง จึงต้องทรมานอยู่เรื่อยตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งเตียซำฮงได้ช่วยเหลือเซี่ยง้อชุนจากพวกชาวยุทธฝ่ายธรรมะ ทำให้เซี่ยง้อชุนซาบซึ้งใจมาก จึงได้อาสาพาเตียบ่อกี้ไปรักษากับหมอเทวดาแห่งเม่งก้านามว่าโอ้วแชงู้ที่หุบเขาผีเสื้อ ทำให้เตียบ่อกี้ได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์ เมื่อเติบโตได้มีโอกาสฝึกพลังเก้าเอี๊ยง (พลังนวภพ/เก้าสุริยัน) ซึ่งเสริมธาตุหยาง พิษไอเย็นที่เป็นธาตุหยินจึงหายไป และได้มีวาสนาฝึกคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาล จึงได้ขึ้นเป็นประมุขนิกายเม้งก่า เนื่องจากเตียบ่อกี้เป็นชายหนุ่มรูปงามจึงมีสาวงามหลายคนมาหลงรัก คือ เตี๋ยเมี่ยงหรือมินมินเทอมู่เอ่อร์ องค์หญิงแห่งมองโกล จิวจี้เยียก สาวงามศิษย์แม่ชีมิกจ้อแห่งง้อไบ๊ ฮึงลี้หรือตูยี้ญาติผู้น้อง และเสี่ยวเจียว หญิงสาวผู้มีประวัติความเป็นมาอันลึกลับ
- เตี๋ยเมี่ยง (จ้าวหมิ่น)
- เตี๋ยเมี่ยงหรือจ้าวหมิ่น เป็นธิดาของจ้าวลื่ออ๋องแม่ทัพแห่งมองโกล มีชื่อเต็มว่า มินมินเทอมู่เอ่อร์ เล้งอ๋องได้รับบัญชาให้ทำหน้าที่ปราบกบฏ จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับองค์หญิงมินมินไปทำ มินมินได้พบกับเตียบ่อกี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปะทะกันโดยตรง จนกระทั่งวันหนึ่งมินมินยกพวกไปบุกบู๊ตึ๊งโดยอ้างว่าตนคือเตียบ่อกี้แห่งเม้งก่า แต่คราวนั้นเตียบ่อกี้ซึ่งล่วงหน้ามารอก่อนแล้วได้แสดงถึงวรยุทธ์อันสูงส่งของตนให้ทุกคนประจักษ์ทำให้มินมินต้องล่าถอย เพื่อช่วยเหลือฮึงลี้เต็งผู้เป็นศิษย์น้องของบิดา เตียบ่อกี้จึงต้องยอมสัญญาว่าจะทำงานให้มินมิน 3 ข้อ โดยที่ข้อแรกมินมินขอให้เตียบ่อกี้พาไปดูดาบฆ่ามังกร เตียบ่อกี้จึงจำเป็นต้องรับปากและพาไปเกาะน้ำแข็งอัคคี ในระหว่างเดินทางเตียบ่อกี้ได้พบแม่เฒ่ากิมฮวยกำลังบังคับให้จิวจี้เยียกตามนางไป เตียบ่อกี้ มินมิน และเสี่ยวเจียวจึงต้องเดินทางไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์แทน บนเกาะงูศักดิ์สิทธิ์ จิวจี้เยียกซึ่งต้องการกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรตัดสินใจวางยาทุกคน ฆ่าฮึงลี้ญาติผู้น้องของเตียบ่อกี้ และนำมินมินไปลอยแพเพื่อเตรียมใส่ความ โชคดีมินมินรอดมาได้ ถูกเตียบ่อกี้เข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เตียบ่อกี้ก็ใจอ่อนเกินกว่าจะทำร้ายนาง อีกทั้งความผูกพันที่มีทำให้เขาไม่กล้าทำอะไรมากมายนัก ในวันแต่งงานของเตียบ่อกี้กับจิวจี้เยียก มินมินตัดสินใจตามไปขัดขวาง พร้อมทั้งขอให้ทำงานชิ้นที่สอง คือขอไม่ให้แต่งงานกับจิวจี้เยียกโดยใช้พญาราชสีห์ทองคำมาเป็นเครื่องมือข่มขู่ เตียบ่อกี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องตามออกไป ในที่สุดเตียบ่อกี้ตัดสินใจออกจากเม้งก่าเพื่ออยู่กับมินมินอย่างสงบสุข และมินมินได้ขอสัญญาข้อที่สาม คือ ขอให้เตียบ่อกี้เขียนคิ้วให้ทุกวันตราบจนชีวิตจะหาไม่ไปด้วยกัน
- เตียซำฮง (จางซานฟง)
- เตียซำฮงเป็นเจ้าสำนักของสำนักบู๊ตึ๊ง (หวู่ตัง) ผู้คิดค้นวิชาไท้เก๊ก มีชื่อเดิมว่าเตียกุนป้อ เป็นเด็กวัดเสี้ยวลิ้ม (เส้าหลิน) มีหน้าที่คอยดูแลหอพระธรรมร่วมกับกักเอี้ยงไต้ซือผู้เป็นอาจารย์ กุนป้อและกักเอี้ยงไต้ซือได้มีโอกาสได้ฝึกพลังนวภพ (พลังเก้าเอี้ยงพเก้าสุริยัน) จากคัมภีร์นวภพ (คัมภีร์เก้าเอี้ยง/เก้าสุริยัน) ที่ปรมาจารย์ตั๊กม้อบัญญัติไว้ โดยทั้งคู่คิดเพียงว่าเป็นวิชาช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น และนอกจากพลังนวภพแล้วกุนป้อก็ไม่ได้ฝึกพลังการต่อสู้อื่นเลย ต่อมาเซียวเซียงจื้อและอีเคอซีแห่งมองโกลได้ใช้แผนชั่วร้ายเข้ามาในวัดและขโมยคัมภีร์นวภพออกไป กุนป้อและ กักเอี้ยงไต้ซือได้ออกตามหา จนเกิดการต่อสู้กัน ด้วยการชี้แนะจากเอี้ยก้วยบวกกับพลังปราณนวภพภายในตัวทำให้สามารถเอาชนะได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ปรากฏว่าไม่พบคัมภีร์นวภพที่ทั้งคู่ สองศิษย์อาจารย์จึงต้องกลับวัดไปมือเปล่า กักเอี้ยงไต้ซือโดนลงโทษโดยต้องแบกนำขึ้นลงจากวัดทุกวัน หลายปีต่อมา ฮ่อจ๊กเต๊า หรือฉายาสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น ได้เดินทางมายังเสี้ยวลิ้ม เพื่อบอกว่า อีเคอซีและเซียวเซียงจื้อเดินทางมาถึงยอดเขาคุนลุ้น เกิดการต่อสู้เพื่อแย่งคัมภีร์นวภพกันจนล้มตายทั้งคู่ ก่อนตายอีเคอซีได้ฝากฮ่อจกเต๋ามาบอกเสี้ยวลิ้มว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน" แต่เนื่องจากเกิดการขัดคอกัน ฮ่อจกเต๋าจึงคิดจะรับคำชี้แนะจากเสี้ยวลิ้ม กุนป้อได้มีโอกาสต่อสู้ และด้วยพลังนวภพที่ฝึกมาหลายปีบวกกับกระบวนท่าที่ได้รับมาจากเอี้ยก่วยอีกเล็กน้อย ทำให้กุนป้อเอาชนะฮ่อจกเต๋าได้ แต่เนื่องจากกฎของเสี้ยวลิ้มห้ามให้ศิษฐ์ในวัดห้ามแอบฝึกวิชาโดยไม่ได้รับอนุญาต กุนป้อจึงกลายเป็นศิษย์ทรยศ ด้วยความช่วยเหลือจากกักเอี้ยงไต้ซือ กุนป้อจึงหนีรอดมาได้ คืนนั้น ก่อนที่กักเอี้ยงไต้ซือจะมรณภาพ ได้ถ่ายทอดพลังนวภพให้กับกุนป้อ, ก๊วยเซียง และบ้อเส็กเซียงสือแห่งเสี้ยวลิ้มที่ฟังอยู่ด้านข้าง ต่งคนต่างจำได้คนละส่วน หลังจากนั้นก็มรณภาพ ไม่นานหลังจากนั้น กุนป้อก็เดินทางไปถึงภูเขาแห่งหนึ่ง เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเตียซำฮงและก่อตั้งสำนักบู๊ตึ๊งขึ้น ส่วนก๋วยเซียงซึ่งได้รับฟังเคล็ดพลังนวภพจากกักเอี้ยงไต้ซือเช่นกันก็ได้บวชเป็นชี และก่อต้งสำนักง้อไบ๊ขึ้นเช่นกัน
- จิวจี้เยียก (โจวจื่อรั่ว)
- จิวจี้เยียกเดิมเป็นบุตรสาวคนแจวเรือ ในขณะที่ได้มีการปะทะกันระหว่างเซี่ยง่อชุนและชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะทำให้พ่อของนางต้องมาตายลง ระหว่างนั้นเตียซำฮงแห่งบู๊ตึ๊งได้เข้ามาช่วยหลือเซี่ยง่อชุนและได้พาจิวจี๊เยียกไปฝากฝังเป็นศิษย์ของแม่ชีมิกจ้อแห่งสำนักง้อไบ๊ จิวจี้เยียกมีความรักที่มั่นคงแต่เพียงเตียบ่อกี้ แต่โชคร้ายเนื่องจากเตียบ่อกี้ได้ขึ้นเป็นประมุขเม้งก่าซึ่งมีความแค้นกับแม่ชีมิกจ้ออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้แม่ชีมิกจ้อบังคับให้จิวจี้เยียกสาบานว่าจะไม่รักเตียบ่อกี้เด็ดขาด และจะไม่แต่งงานกันพร้อมทั้งมอบตำแหน่งเจ้าสำนักง้อไบ๊ให้และบอกความลับเกี่ยวกับกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกร หลังจากที่แม่ชีมิกจ้อมรณภาพลง จิวจี้เยียกถูกแม่เฒ่ากิมฮวยบังคับให้ไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์กับนาง ที่นั่นจิวจี้เยียกได้พบกับเตียบ่อกี้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนั้นเตียบ่อกี้มากับเตี๋ยเมี่ยง และเสี่ยวเจียวเพื่อมาตามหาเจี่ยซุ่นผู้เป็นบิดาบุญธรรม จิวจี้เยียกรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะที่เกาะนั้นมีทั้งกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกรอยู่ จิวจี้เยียกจึงวางแผนใส่ร้ายเตี๋ยเมี่ยงและขโมยกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรเพื่อเอาสุดยอดเคล็ดวิชาในนั้น เพื่อที่จะขับพิษผงสิบหอมที่อยู่ในร่างของจิวจี้เยียก เจี่ยซุ่นจึงขอร้องแกมบังคับให้เตียบ่อกี้หมั้นหมายกับจิวจี้เยียกเพื่อจะได้สะดวกในการรักษาเพราะขั้นตอนของการรักษาต้องมีการถูกเนื้อต้องตัวกัน และจะแต่งงานกันเมื่อกลับไปถึงแผ่นดินใหญ่ ในงานแต่งงานของจิวจี้เยียกกับเตียบ่อกี้ เตี๋ยเมี่ยงไม่อาจทนอยู่ได้จึงเข้ามาขัดขวางพร้อมทั้งทวงสัญญาข้อสอง ขอให้เตียบ่อกี้ล้มเลิกงานแต่งงานโดยหยิบเส้นผมของเจี่ยซุ่นออกมาขู่ เตียบ่อกี้จึงวิ่งออกจากงานแต่งงานไป ระหว่างนั้นจิวจี้เยียกได้เข้าขัดขวางและเกิดการต่อสู้กัน ในการต่อสู้ครั้งนี้เองที่จิวจี้เยียกใช้วิชาที่แอบขโมยมาจากกระบี่อิงฟ้า (กรงเล็บกระดูกขาว) ต่อหน้าผู้อื่นเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งเตียบ่อกี้ได้ จิวจี้เยียกจึงต้องกลับง้อไบ๊ด้วยความแค้นและฝึกวิชากงเล็บกระดูกขาว เพื่อหวังที่จะล้างแค้นเตียบ่อกี้ แต่ด้วยความร้อนใจทำให้จิวจี้เยียกเร่งฝึกฝนอย่างไร้การควบคุม ทำให้เกิดคลุ้มคลั่งจนสติวิปลาส กลายเป็นมารไป
- เตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน)
- ศิษย์คนที่ 5 แห่งสำนักบู๊ตึ๊ง บิดาของเตียบ่อกี้ เป็นผู้รักคุณธรรม ได้พบรักกับ ฮึงซู่ซู่ บุตรีของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย แห่งพรรคอินทรีฟ้า ในงานประกาศศักดาดาบฆ่ามังกร เขาถูกเจี่ยซุ่นจับตัวไปยังเกาะน้ำแข็งอัคคีพร้อมนาง ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน ทำให้ทั้ง 2 ได้ผลิตเตียบ่อกี้ ซึ่งเป็นพยานรักขึ้นมา
- ฮึงซู่ซู่ (อินซู่ซู่)
- มารดาของเตียบ่อกี้, บุตรีของ พญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงทีเจี่ย แห่งพรรคอินทรีฟ้า ได้ชื่อว่าเป็นนางมาร แม้บางคราจะดูเหี้ยมโหด แต่นางก็ยังคงมีหัวใจให้แก่เตียชุ่ยซัว เมื่อครั้งที่ 6 สำนักขึ้นเขาบู๊ตึ๊งบีบบังคับให้บอกที่ซ่อนของเจี่ยซุ่น นางได้ฆ่าตัวตายตามเตียชุ่ยซัวผู้สามีเพื่อรักษาความลับให้กับเจี่ยซุ่น ก่อนตาย นางได้แอบวางกลเสี้ยมให้ 6 สำนักแตกคอกันเอง และสอนเตียบ่อกี้ว่าอย่าไว้ใจสตรี เพราะสตรียิ่งงดงามเท่าไร ยิ่งมีเล่ห์เหลี่ยมร้ายกาจมากเท่านั้น
- เอี้ยเซียว
- (หยางเซียว) ทูตซ้ายแห่งพรรคจรัส หรือ นิกายเม้งก่า ฝีมือสูงส่ง หน้าตาหล่อเหลา เขาหลงรักกีเฮียวพู้ ศิษย์เอกแห่งสำนักง้อไบ๊ ความรักของทั้งคู่เป็นที่ประทับใจต่อผู้ที่ได้ชมได้อ่าน นอกจากนี้บุตรสาวของทั้งคู่ คือ เอี้ยปุ๊กหุ่ย ซึ่งในละครมักจะมีแคแรกเตอร์ที่น่ารัก เป็นที่จดจำไม่รู้เลือน
- กีเฮียวพู้
- กีเฮียวพู้ (จี้เสียวฝู) ศิษย์เอกของแม่ชีมิกจ้อ เป็นคู่หมั้นของ ฮึงหลีเต็ง จอมยุทธ์ 6 แห่งบู๊ตึ๊ง เอี้ยเซียว เพื่อต้องการที่จะข่มขู่แม่ชีมิกจ้อ จึงได้จับนางไปเป็นตัวประกัน แต่สุดท้าย ด้วยความอ่อนโยน ใจดี และความใกล้ชิด จึงทำให้เอี้ยเซียวหลงรักนางโดยไม่รู้ตัว ทำให้กีเฮียวพู้ต้องผิดต่อฮึงหลีเต็ง เพราะนางวเองก็เกิดหลงรักเอี้ยเซียวขึ้นมาด้วยเช่นกัน
- เอี้ยปุ๊กหุ่ย (หยางปู้หุ่ย)
- เอี้ยปุ๊กหุ่ยเป็นลูกสาวของกีเฮียวพู้ และ เอี้ยเซียว หลังจากที่กีเฮียวพู้ถูกเอี้ยเซียวลักพาตัวไป เมื่อทั้ง 2 ได้อยู่ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก เอี้ยปุ๊กหุ่ย เป็นน้องสาวที่เตียบ่อกี้รักมากคนหนึ่ง อยู่กับเตียบ่อกี้มาตั้งแต่เล็กๆ ได้มารู้ความจริงทีหลังว่าพ่อกับแม่ของตนทำผิดต่อฮึงหลีเต็ง และเห็นว่าฮึงหลีเต็งพิการจากฝีมือเซ่งคุน จึงเกิดความเห็นใจ สงสาร จนกลายเป็นความรักต่อกัน จึงได้ตกลงใจจะรัก และดูแลฮึงหลีเต็งต่อไปจนชั่วชีวิต เอี้ยปุ๊กหุ่ยมีหน้าตาคล้ายกับกีเฮียวพู้ผู้เป็นแม่มาก ชื่อของปุ๊กหุ่ย แปลว่า ไม่สำนึก, ไม่เสียใจ (ปู้หุ่ย) เพราะกีเฮียวพู้ไม่เคยนึกเสียใจเลย ที่รักเอี้ยเซียว
- ฮึงหลีเต็ง (อินลี่ถิง)
- ศิษย์คนที่ 6 ของสำนักบู๊ตึ๊ง อารมณ์ร้อน มุทะลุ เขาหลงรักกีเฮียวพู้ ทว่ากีเฮียวพู้กลับปันใจให้เอี้ยเซียว ทำให้เขาเศร้าโศก และคิดมากจนกลายเป็นคนที่สติไม่อยู่กับร่องกับรอย คุ้มดีคุ้มร้ายไป
- เสี่ยวเจียว (เสี่ยวจาว)
- เป็นสาวน้อยลึกลับที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป เข้ามาอยู่กับนิกายเม้งก่าในฐานะสาวใช้ หน้าตาขี้เหร่ แต่แท้ที่จริงสวมหน้ากากไว้ ใบหน้าจริงงดงามมาก เป็นลูกสาวของแม่เฒ่ากิมฮวย และเป็นประมุขสาขาใหญ่นิกายเม้งก่าที่ เปอร์เซีย ฐานะที่แท้จริงเป็นเจ้าหญิง
- ตูยี้, ฮึงลี้
- ตูยี้ (จูเอ๋อ) หรืออินหลี เป็นลูกพี่ลูกน้องของเตียบ่อกี้ เป็นลูกสาวของพี่ชายของฮึงซู่ซู่ หลงรักเตียบ่อกี้อยู่ข้างเดียว มีความแค้นต่อพ่อที่ทำให้แม่ของตัวเองต้องตาย ตูยี้มีหน้าตาอัปลักษณ์ เพราะฝึกวิชาแมงมุมพิษเพื่อจะเป็นเซียนพิษ ทำให้พิษทำลายโฉมหน้าของนางจนหมดสิ้น เลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกายล้วนเป็นพิษทั้งสิ้น ตูยี้เป็นศิษย์ของแม่เฒ่ากิมฮวย ตอนที่จิวจี้เยี๊ยกชิงดาบฆ่ามังกรกับกระบี่อิงฟ้า ตูยี้เป็นคนเดียวที่เป็นพยานรู้เห็น จี้เยี้ยกจึงฆ่าตูยี้เพื่อหวังปิดปาก แต่เหตุการณ์กลับกัน เพราะนอกจากตูยี้จะไม่ตายแล้ว เลือดพิษในตัวยังไหลออกไปหมด ทำให้ตูยี้คืนชีพขึ้นมา และหน้าตายังหายอัปลักษณ์อีกด้วย
- มิกจ้อซือไท่ (เมี่ยเจวี๋ยซือไท่)
- แม่ชีมิกจ้อซือไท่เป็นเจ้าสำนักแห่งง้อไบ๊มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพ มีฝีมือเก่งกาจแต่ได้ฉายาว่าถือดีงี่เง่า แต่มีกระบี่อิงฟ้าครอบครอง มีความแค้นต่อพรรคเม้งก่าโดยเฉพาะเอี้ยเซียว ก่อนตายได้บอกความลับของกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกร ให้กับจิวจี้เยี้ยกซึ่งเป็นเจ้าสำนักรุ่นที่ 4 ต่อจากนาง
- แม่เฒ่ากิมฮวย (กิมฮวยโผวโผ่ว หรือจินฮวาผอผ่อ)
- แม่เฒ่ากิมฮวย มีฉายาว่า "มังกรเสื้อม่วง" หรือ "พญามังกรแพรม่วง" เป็นมารดาของเสี่ยวเจียว อีกทั้งยังเป็นกุมารีของประมุขสาขาใหญ่นิกายเม้งก่าที่เปอร์เซีย มีชื่อเดิมว่าไดอีซี่ (ไต้ฉีซือ) ได้รับคำสั่งให้มาเข้าร่วมเม้งก่าในแผ่นดินตงง้วนเพื่อหาทางขโมยเคล็ดวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล นางประกอบความดีความชอบจนได้รับขึ้นชื่อเป็นอันดับ 1 จาก 4 เจ้าพิทักษ์โลกบาลแห่งเม้งก่า เนื่องจากเมื่อคราที่ฮั่งโชยเฮียะมาท้าประลองกับสำนักเม้งก่า นางสามารถชนะการประลองได้ แต่จากการประลองครั้งนั้นทำให้นางและฮั่งโชยเฮียะเกิดจิตปฏิพัทธ์ต่อกัน ต่อมานางออกจากเม้งก่าและไปใช้ชีวิตคู่อยู่กับใบไม้เงินฮั่งโชยเฮียะ หลังจากฮั่งโชยเฮียะสิ้นชีพ นางจึงต้องทอดทิ้งลูกสาวไว้ แล้วปลอมแปลงตัวตนเป็นแม่เฒ่ากิมฮวยเพื่อหลบซ่อนจากการตามล่าของเม้าก่าเปอร์เซีย เนื่องจากการที่นางมีสามีเป็นการผิดกฎของเม้งก่าที่กุมารีจะต้องประพฤติพรหมจรรย์ โดยโทษของการฝ่าฝืนกฎจะต้องถูกเผาทั้งเป็น
- ฮึงทีเจี่ย (อินเทียนเจิ้ง)
- หนึ่งใน 4 ผู้คุมกฎนิกายเม้งก่า ฉายา "พญาอินทรีคิ้วขาว" บิดาของฮึงซู่ซู่ และฮึงเหี่ยอ้วง ภายหลังที่ประมุขเอี้ยเต็งทีสิ้นชีพ เขาได้ออกจากนิกายมาก่อตั้งพรรคของตนเองขึ้น ชื่อว่าพรรคอินทรีฟ้า
- เจี่ยซุ่น (เซี่ยซิ่น)
- หนึ่งใน 4 ผู้คุมกฎนิกายเม้งก่า ฉายา "พญาราชสีห์ทองคำ" บิดาบุญธรรมของเตียบ่อกี้ เฝ้าตามหาดาบฆ่ามังกรเพื่อบงการทั่วหล้า และล้างแค้นเซ่งคุนผู้เป็นอาจารย์ ด้วยความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในอดีต ทำให้เขามีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย ขณะเดินทางไปยังเกาะน้ำแข็งอัคคีได้เกิดคลุ้มคลั่งจะทำร้ายเตียชุ่ยซัว และซู่ซู่ จึงถูกซู่ซู่ซัดด้วยพิษจนตาบอดทั้ง 2 ข้าง และเมื่อครั้งที่ฮึงซู่ซู่จะคลอดเตียบ่อกี้ก็ได้เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก ทว่าเสียงร้องของเตียบ่อกี้ทำให้ได้สติกลับคืนมา เขาเป็นคนตั้งชื่อให้เตียบ่อกี้ตามชื่อ เจี่ยบ่อกี้ ลูกชายที่ตายไป หลังจากที่เตียบ้อกี้ได้กลับสู่แผ่นดินใหญ่ จึงได้เปลี่ยนนามสกุลจากเจี่ยมาใช้เตียตามบิดาแทน (บ่อกี้ หรืออู๋จี้ หมายถึง ไร้กฎเกณฑ์)
- เต็งเมี่ยงกุน (ติงหมิ่นจิน)
- ศิษย์พี่ของจิวจี้เยี้ยก เป็นศิษย์ร่วมรุ่นกับกีเฮียวพู้ เป็นคนทะเยอทะยาน ขี้อิจฉา คอยโขกสับจิวจี้เยียกอยู่เสมอ เพราะริษยาที่ตนเองไม่ได้เป็นศิษย์โปรดทั้งๆ ที่อยู่มานานกว่า
- ซ่งแชจือ (ซ่งชิงซู)
- บุตรชายของซ่งง้วนเกี่ยแห่งบู๊ตึ๊ง มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเตียบ่อกี้เช่นกัน เกลียดชังที่เตียบ่อกี้แย่งชิงความรักจากจิวจี้เยียกไป มีความรักที่มั่นคงมาก เขายอมสละชีวิตเพื่อปกป้องทั้งบิดาของตน และสตรีที่ตนรัก
- ฮึงเหี่ยอ้วง (อินเยี่ยหวัง)
- พี่ชายของฮึงซู่ซู่ บิดาของฮึงลี้ เป็นคนเจ้าชู้ เขาทอดทิ้งแม่ของฮึงลี้ไปมีภรรยาใหม่ ทำให้นางต้องตรอมใจ โกรธแค้นที่ฮึงลี้ทำร้ายภรรยาใหม่จนตาย ทำให้ตัดขาดความเป็นพ่อลูกกัน ภายหลังถูกฝ่ามือภูตเร้นลับจนเกือบสิ้นชีวิต จึงได้สำนึกกลับใจหันมาให้อภัยกับฮึงลี้
- โอ้วแชงู้ (หูชิงหนิว)
- หมอเทวดา ผู้ถ่ายทอดวิชาการแพทย์แก่เตียบ่อกี้
- แม่นางแซ่เอี้ย (หยาง) หรือแม่นางเสื้อเหลือง
- เจ้าสำนักสุสานโบราณ ทายาทรุ่นหลานของเอี้ยก้วย (หยางกั้ว) และเซียวเหล่งนึ่ง (เสี่ยวหลงหนวี่) แต่งกายด้วยชุดสีเหลือง วรยุทธ์ลึกล้ำสุดคาดเดา เอาชนะกรงเล็บกระดูกขาวของจิวจี้เยี้ยกได้ในกระบวนท่าเดียว ไม่เปิดเผยชื่อจริง ทิ้งท้ายคำพูดไว้เป็นปริศนาแก่เตียบ่อกี้ว่า "หลังภูเขาจงหนาน ในสุสานโบราณ คู่รักเจ้าอินทรี สาบสูญจากยุทธภพ" อีกทั้งยังขอฝากอนาคตของพรรคกระยาจกไว้ที่เตี้ยบ่อกี้อีกด้วย
- ค้างคาวปีกเขียว
- ฉายา "พญาค้างคาวปีกเขียว" หนึ่งใน 4 ผู้คุมกฎนิกายเม้งก่า มีวิชาตัวเบาที่เป็นเลิศแต่เนื่องจากฝึกวิชาฝ่ามือไหมเย็น จนธาตุไฟเข้าแทรกทำให้ต้องดื่มเลือดของมนุษย์เพื่อคลายพิษของตัวเอง เคยดูดเลือดของเตียบ่อกี้สมัยเด็กด้วยความเข้าใจผิด ภายหลังได้เตียบ่อกี้ ใช้วิชาเก้าเอี้ยงช่วยขับพิษดังกล่าวให้ ค้างคาวปีกเขียวจึงซึ้งในพระคุณ ได้เป็นกำลังสำคัญตั้งใจฟื้นฟูนิกายเม้งก่า
- เซ่งคุน (เฉิงคุน)
- หัตถ์อัสนีบาต อาจารย์ของเจี่ยซุ่น อดีตเคยอยู่ในนิกายเม้งก่า ลักลอบเป็นชู้กับฮูหยินเอี้ย เพื่อต้องการทำลายเม้งก่า จึงได้ฆ่าล้างครอบครัวเจี่ยซุ่น เพราะรู้ดีว่าเจี่ยซุ่นมุทะลุ จะต้องใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายชื่อเสียงของเม้งก่าได้อย่างแน่นอน หลบหนีการตามล่าของเจี่ยซุ่นไปกบดานที่เสี้ยวลิ้ม และเปลี่ยนชื่อเป็น หยวนเจินไต้ซือ
- ซ่งง้วนเกี่ย (ซ่งหยวนเฉียว)
- จอมยุทธ์ 1 แห่งบู๊ตึ๊ง บิดาของซ่งแชจือ มีความสุขุม ทว่าขาดความรอบคอบ ตามใจซ่งแชจือจนเสียคน จนสุดท้ายก็ต้องมาสูญเสียลูกชายไป
ความหมายที่แฝงในชื่อดาบ
หากวิเคราะห์ให้ดีแล้วชื่อของดาบและกระบี่มีอะไรที่แฝงอยู่ โดยปกติแล้วมังกรเป็นสัตว์เทพ แสดงถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่กล้าใช้สัญลักษณ์นี้ การที่ดาบนี้ถูกตั้งชื้อว่าดาบฆ่ามังกร แฝงความนัยถึงการใช้ดาบนี้โค่นล้มฮ่องเต้ ซึ่งในเนื้อเรื่องคือพวกมองโกล ราชวงศ์หยวนนั่นเอง ส่วนชื่อกระบี่ที่ว่าอิงฟ้านั้นหมายความถึงการอ้างอิงสิทธิของสวรรค์ ล้มล้างคนชั่วเพื่อช่วยเหลือคนดี เมื่อใดที่คนชั่วเป็นใหญ่ สวรรค์จะไม่ปล่อยไว้ จะเห็นได้ว่าชื่ออาวุธสองอย่างนี้แสดงความหมายในการกอบกู้บ้านเมือง ช่วยเหลือสังคม และคงไว้ซึ่งความสงบของแผ่นดิน
แหล่งข้อมูลอื่น
- เนื้อเพลงดาบมังกรหยก (ค.ศ. 2002) ภาษาจีนและพินอินกำกับ