ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดชิงะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Natty sci (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Natty sci (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 85: บรรทัด 85:
**โทะโยะซะโตะ
**โทะโยะซะโตะ
{{col-end}}
{{col-end}}

== เศรษฐกิจ ==
จังหวัดชิงะมีพื้นที่ 1 ใน 6 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยมีการปลูกข้าวกว่าร้อยละ 90 ของพื้นที่การเกษตรและเป็นสินค้าหลัก นาข้าวมีขนาดค่อนข้างเล็กและสร้างรายได้ค่อนข้างน้อย ชาวนาส่วนใหญ่มักจะอาศัยรายได้จากแหล่งอื่น ทางตะวันออกของจังหวัดชิงะมีชื่อเสียงในเรื่องของปราสาทต่างๆและทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่มีชื่อเสียง ส่วนทะเลสาบบิวะนั้นก็เป็นแหล่งประมงที่สำคัญของจังหวัด

ในยุคกลาง โดยเฉพาะ[[ยุคเอะโดะ]]นั้น ประชาชนชาวจังหวัดชิงะมีอาชีพค้าขายเป็นหลัก และพ่อค้าโอมิ (近江商人 โอมิโชนิน) ก็มีชื่อเสียงอย่างมาก บริษัทใหญ่หลายๆบริษัทอย่าง นิปปงไลฟ์ อิโตะชุ มะรุเบะนิ [[ทะกะชิมะยะ]] วาโกล์ และยันมาร์ก็ถูกก่อตั้งขึ้นโดยชาวชิงะ

เมื่อเข้าสู่ช่วงทศวรรษที่ 1960 จังหวัดชิงะเริ่มพัฒนาเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม มีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่มากมาย เช่น ไอบีเอ็มเจแปน แคนอน ยันมาร์ดีเซล มิตสึบิชิ และโทเรย์ จนเติบโตขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้เป็นอันดับสองของชิงะที่ตัวเลข 44.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอุตสาหกรรมดั้งเดิมอย่างสิ่งทอ เครื่องปั้น ยา และพัดก็ยังมีการผลิตจากจังหวัดนี้อยู่เช่นกัน


{{เขตการปกครองในญี่ปุ่น}}
{{เขตการปกครองในญี่ปุ่น}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:55, 10 ตุลาคม 2556

แม่แบบ:กล่องข้อมูล จังหวัดประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดชิงะ (ญี่ปุ่น: 滋賀県โรมาจิShiga-ken) เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคคันไซ มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองโอสึ มีขนาดพื้นที่ทั้งสิ้น 4,017.36 ตารางกิโลเมตร

ประวัติศาสตร์

ในสมัยก่อน ชิงะ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มณฑลโอมิ หรือโกชู ก่อนที่จะมีการใช้ระบบการบริหารราชการแบบแบ่งจังหวัดขึ้น มณฑลโอมิเป็นเพื่อนบ้านกับนะระ และเคียวโตะ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างญี่ปุ่นตะวันตกและตะวันออก ในช่วง ค.ศ. 667 ถึง ค.ศ.672 นั้น จักรพรรดิเทนจิทรงสร้างพระราชวังที่โอสึ จากนั้น ในปี ค.ศ.742 จักรพรรดิโชมุทรงสร้างพระราชวังที่ชิงะระกิ ในช่วงต้นของยุคเฮอัน พระภิกษุไชโชเติบโตขึ้นที่โอสึและได้สร้างวัดเอ็นเรียะคุ เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายมหายานแบบเทนได และได้ปัจจุบันได้เป็นหนึ่งในมรดกโลกพร้อมกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่งในเคียวโตะ

ในยุคกลางนั้น มณฑลโอมิถูกปกครองจากตระกูลซะซะกิ ตามด้วยตระกูลรกกะกุ ตระกูลเคียวโงกุ และตระกูลอะไซ จากนั้นในทศวรรษ 1570 โอะดะ โนะบุนะงะได้เข้ายึดโอมิและสร้างปราสาทอะซุจิขึ้นที่ริมทะเลสาบบิวะฝั่งตะวันออกเมื่อปี ค.ศ. 1579 หลังจากนั้นมณฑลโอมิก็มีไดเมียวปกครองหลายคน และในสมัยนั้น ยังมีนินจาอยู่ที่แถบนี้มากด้วย

ในปี ค.ศ. 1600 อิชิดะ มิสึนะริ กำเนิดขึ้นที่ทางตะวันออกของนะงะฮะมะและได้สร้างปราสาทซะวะยะมะ เพื่อใช้ในการสงครามต้านทัพของโทะกุงะวะ อิเอะยะสุในจังหวัดกิฟุ หลังจากศึกในครั้งนั้น อิเอะยะสุได้ให้อี นะโอะมะสะ เป็นผู้ครองปราสาทซะวะยะมะคนใหม่ นะโอะมะสะปกครองแคว้นฮิโกะเนะ ซึ่งมีชื่อเสียงในยุคของอี นะโอะซุเกะ เมื่ออี นะโอะซุเกะได้เข้าไปรับใช้รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ ก็ได้เป็นผู้ทำสนธิสัญญาทางการค้ากับประเทศตะวันตกและยุติการปิดประเทศญี่ปุ่นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19

เมื่อมีการยกเลิกระบบศักดินาในญี่ปุ่น มณฑลโอมิก็ถูกแบ่งเป็น 8 จังหวัด หลังจากนั้นก็ถูกรวมเข้าเป็นจังหวัดเดียวเป็นจังหวัดชิงะเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1872

สภาพภูมิศาสตร์

ภาพถ่ายดาวเทียมของจังหวัดชิงะ

จังหวัดชิงะมีอาณาเขตติดกับจังหวัดฟุกุอิทางทิศเหนือ จังหวัดกิฟุทางทิศตะวันออก จังหวัดมิเอะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจังหวัดเกียวโตทางทิศตะวันตก มีทะเลสาบบิวะตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัด มีภูเขาฮิระ และยอดเขาฮิเอทางทิศตะวันตก ภูเขาอิบุกิทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ภูเขาซุซุกะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศเหนือมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นกว่าทางใต้ที่มีอากาศอบอุ่น

ทะเลสาบบิวะ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 4 พื้นที่หลักๆคือ โคะโฮะกุ (湖北 ทะเลสาบตอนเหนือ) โคะเซ (湖西 ทะเลสาบตะวันตก) โคะโต (湖 ทะเลสาบตะวันออก) และ โคะนัน (湖南 ทะเลสาบทางใต้)

ในการสำรวจเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2008 พื้นที่ร้อยละ 37 ถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อัตราส่วนที่สูงที่สุดของทุกจังหวัดในญี่ปุ่น)

การปกครอง

เมืองใหญ่

แผนที่จังหวัดชิงะ

จังหวัดชิงะมีเมืองใหญ่อยู่ 13 เมือง ดังนี้

เมืองเล็ก

นอกจากนี้ ยังมีเมืองเล็กๆในแต่ละอำเภอดังนี้

เศรษฐกิจ

จังหวัดชิงะมีพื้นที่ 1 ใน 6 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยมีการปลูกข้าวกว่าร้อยละ 90 ของพื้นที่การเกษตรและเป็นสินค้าหลัก นาข้าวมีขนาดค่อนข้างเล็กและสร้างรายได้ค่อนข้างน้อย ชาวนาส่วนใหญ่มักจะอาศัยรายได้จากแหล่งอื่น ทางตะวันออกของจังหวัดชิงะมีชื่อเสียงในเรื่องของปราสาทต่างๆและทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่มีชื่อเสียง ส่วนทะเลสาบบิวะนั้นก็เป็นแหล่งประมงที่สำคัญของจังหวัด

ในยุคกลาง โดยเฉพาะยุคเอะโดะนั้น ประชาชนชาวจังหวัดชิงะมีอาชีพค้าขายเป็นหลัก และพ่อค้าโอมิ (近江商人 โอมิโชนิน) ก็มีชื่อเสียงอย่างมาก บริษัทใหญ่หลายๆบริษัทอย่าง นิปปงไลฟ์ อิโตะชุ มะรุเบะนิ ทะกะชิมะยะ วาโกล์ และยันมาร์ก็ถูกก่อตั้งขึ้นโดยชาวชิงะ

เมื่อเข้าสู่ช่วงทศวรรษที่ 1960 จังหวัดชิงะเริ่มพัฒนาเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม มีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่มากมาย เช่น ไอบีเอ็มเจแปน แคนอน ยันมาร์ดีเซล มิตสึบิชิ และโทเรย์ จนเติบโตขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้เป็นอันดับสองของชิงะที่ตัวเลข 44.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอุตสาหกรรมดั้งเดิมอย่างสิ่งทอ เครื่องปั้น ยา และพัดก็ยังมีการผลิตจากจังหวัดนี้อยู่เช่นกัน