ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กองทุนการออมแห่งชาติ"
แก้ไขตำแหน่ง คกก. |
แก้ไขประวัติความเป็นมา |
||
บรรทัด 44: | บรรทัด 44: | ||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ.2554<ref>[./Https://www.nsf.or.th/images/nsf/pr/knowledge/nsf2554.pdf https://www.nsf.or.th/images/nsf/pr/knowledge/nsf2554.pdf]พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554</ref> โดยมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐและมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกและเพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ |
|||
กอช. เปิดตั้งครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล |
|||
ในปี พ.ศ. 2558 [[กระทรวงการคลัง (ประเทศไทย)|กระทรวงการคลัง]] ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดกองทุนหรือระบบบำนาญอื่นที่สมาชิกไม่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2558<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/D/033/6.PDF กฎกระทรวงกำหนดกองทุนหรือระบบบำนาญอื่นที่สมาชิกไม่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๖๙ ก หน้า ๑๐-๑๒ วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘</ref> กำหนดให้บุคคลที่มีสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติต้องไม่เป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำนาญอื่นของหน่วยงานรัฐ ทั้งหมด 24 หน่วยงาน ซึ่งรวมถึง[[กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา]] |
|||
และยังมีการออกพระราชบัญญัติการให้สิทธิแก่ผู้สมัครเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติบางกรณีและการโอนเงินจากกองทุนประกันสังคมในกรณีชราภาพไปยังกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2558<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/092/12.PDF พระราชบัญญัติการให้สิทธิแก่ผู้สมัครเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติบางกรณีและการโอนเงินจากกองทุนประกันสังคมในกรณีชราภาพไปยังกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หน้า ๑๒-๑๔ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘</ref> โดยภายใน 1 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับ หากในวันที่สมัครเป็นสมาชิกผู้สมัครผู้ใดมีอายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้ผู้นั้นมีสิทธิเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก 10 ปีนับแต่วันที่สมัครเป็นสมาชิก และเมื่อเป็นสมาชิกครบ 10 หรือเมื่อสมาชิกซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปลาออกจากการเป็นสมาชิก ให้ถือว่าเป็นกรณีที่สมาชิกสิ้นสมาชิกภาพเพราะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ รวมไปถึงผู้ที่สมัครสมาชิกก่อนพระราชบัญญัตินี้ก็ได้รับสิทธิเหมือนกัน และยังอนุญาตให้ผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วย[[สำนักงานประกันสังคม|ประกันสังคม]] ผู้ประกันตนมีสิทธิแสดงความจำนงโอนมาเป็นสมาชิกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กองทุนและสำนักงานประกันสังคมร่วมกันกำหนด โดยให้โอนเงินของผู้ประกันตนที่แสดงความจำนงทั้งจำนวนจากกองทุน[[สำนักงานประกันสังคม|ประกันสังคม]]มาเป็นเงินสะสมในบัญชีรายบุคคลของสมาชิกรายนั้นที่มีอยู่กับกองทุน แต่รัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในกรณีที่ผู้แสดงความจำนงเป็นสมาชิกมีอายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้ผู้นั้นมีสิทธิเช่นเดียวกันกับผู้สมัครเป็นสมาชิกตามปกติ ภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับ |
|||
ในปี พ.ศ. 2559 [[กรมสรรพากร]] ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๗๔)<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/D/072/214.PDF ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๗๔) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๗๒ ง หน้า ๒๑๔ วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๙</ref> กำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่สมทบเงินเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ สามารถนำยอดที่สมทบเข้ากองทุนไปลดหย่อนภาษีได้ เมื่อได้หักตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว และยังได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๗๕)<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/D/072/214.PDF ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๗๕) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากกองทุนการออมแห่งชาติ] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๗๒ ง หน้า ๒๑๕ วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๙</ref> กำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่ได้รับเงินผลประโยชน์จากกองทุนการออมแห่งชาติในกรณีทุพพลภาพ อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือตาย ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ |
|||
== คณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ == |
== คณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:04, 21 กุมภาพันธ์ 2563
National Saving Fund | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (13 ปี)[1] |
สำนักงานใหญ่ | 420/1 อาคารเพ็ญศรี พชยสนิธ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400[2] |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัดหน่วยงาน | กระทรวงการคลัง |
เว็บไซต์ | www.nsf.or.th |
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 โดยเริ่มเปิดกองทุนฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
ประวัติ
กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ.2554[3] โดยมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐและมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกและเพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ
กอช. เปิดตั้งครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
คณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ
ข้อมูล ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2561[4]
ประเภทกรรมการ | ชื่อ-นามสกุล | ตำแหน่ง |
---|---|---|
กรรมการโดยตำแหน่ง | นายประสงค์ พูนธเนศ (ปลัดกระทรวงการคลัง) |
ประธานกรรมการ |
ดร.ปรเมธี วิมลศิริ (ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) |
กรรมการ | |
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ (ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) |
กรรมการ | |
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ (ปลัดกระทรวงมหาดไทย) |
กรรมการ | |
นายสุทธิ สุโกศล (ปลัดกระทรวงแรงงาน) |
กรรมการ | |
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน (เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม) |
กรรมการ | |
นายลวรณ แสงสนิท (ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) |
กรรมการ | |
นายวีรไท สันติประภพ (ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) |
กรรมการ | |
นางสาวชื่นฤดี สุวรรณมงคล (เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) |
กรรมการ | |
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ | เลขาธิการ | |
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ | นายสราวุธ เบญจกุล | ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย |
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย | ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบัญชี | |
นางพิลาสลักษณ์ ยุคเกษมวงศ์ | ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินและลงทุน | |
นางมุกดา อินต๊ะสาร | ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสวัสดิการชุมชน | |
กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก | นายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคเหนือ |
นายวิโจรน์ รอดดำ | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคใต้ | |
นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคกลาง | |
นางสำรวย โล่ห์นารายณ์ | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | |
นายวินัย นิยโมสถ | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | |
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคตะวันตก | |
นายเจษฎา มิ่งสมร | กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก ภาคตะวันออก |
คุณสมบัติสมาชิก
- สัญชาติไทย
- อายุ 15-60 ปี
- ไม่อยู่ในกองทุนที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง
- ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐหรือเอกชน
- ผู้ประกันตน ม.40 ทางเลือก 1
เงื่อนไขสมาชิก
1. อายุ 15 ปี – ไม่เกิน 30 ปี สะสมเงินกับ กอช. เท่าใดรัฐบาลสมทบเงินให้ ร้อยละ 50 แต่รับเงินสมทบปีละไม่เกิน 600 บาท 2. อายุ 30 ปี – ไม่เกิน 50 ปี สะสมเงินกับ กอช. เท่าใดรัฐบาลสมทบเงินให้ ร้อยละ 80 แต่รับเงินสมทบปีละไม่เกิน 960 บาท 3. อายุ 50 ปี – ไม่เกิน 60 ปี สะสมเงินกับ กอช. เท่าใดรัฐบาลสมทบเงินให้ ร้อยละ 100 แต่รับเงินสมทบปีละไม่เกิน 1,200 บาท กอช. จะตัดเงินสมทบที่ต้องจ่ายให้ตามสิทธิสมาชิก ตามปีปฏิทิน http://www.nsf.or.th/index.php
อ้างอิง
- ↑ พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หน้า ๔๗-๖๓ วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
- ↑ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดที่ตั้งสำนักงานใหญ่กองทุนการออมแห่งชาติ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๓๓ ง หน้า ๖ วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙
- ↑ [./Https://www.nsf.or.th/images/nsf/pr/knowledge/nsf2554.pdf https://www.nsf.or.th/images/nsf/pr/knowledge/nsf2554.pdf]พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554
- ↑ คณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กองทุนการออมแห่งชาติ สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561