ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การฆ่าตัวตาย"
→ศาสนาพุทธ: เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับศาสนา |
|||
บรรทัด 56: | บรรทัด 56: | ||
อัตราการฆ่าตัวตายแตกต่างกันตามแต่ละประเทศและแต่ละช่วงเวลาอย่างมีนัยสำคัญ<ref name=Var2012>{{cite journal|last=Värnik|first=P|title=Suicide in the world|journal=[[International Journal of Environmental Research and Public Health]]|date=March 2012 |volume=9|issue=3|pages=760–71 |pmid=22690161 |doi=10.3390/ijerph9030760 |pmc=3367275}}</ref> ค่าเปอร์เซนต์ของผู้เสียชีวิตใน ค.ศ. 2008 ได้แก่ แอฟริกา 0.5% เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 1.9% อเมริกาเหนือและใต้ 1.2% และยุโรป 1.4%<ref name=Var2012/> อัตราส่วนต่อคน 100,000 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย 8.6 แคนาดา 11.1 จีน 12.7 อินเดีย 23.2 สหราชอาณาจักร 7.6 สหรัฐอเมริกา 11.4 และเกาหลีใต้ 28.9<ref>{{cite web|title=Deaths estimates for 2008 by cause for WHO Member States |url=http://www.who.int/healthinfo/global_burden_disease/estimates_country/en/index.html|publisher=World Health Organization|accessdate=10 February 2013}}</ref><ref>{{cite web|title=Suicide rates Data by country|url=http://apps.who.int/gho/data/node.main.MHSUICIDE?lang=en.|website=who.int|accessdate=23 November 2014}}</ref> การฆ่าตัวตายเป็น[[ความตาย|สาเหตุการเสียชีวิต]]อันดับที่ 10 ในสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 2009 ที่ 36,000 คดีต่อปี<ref>{{cite journal|last=Haney|first=EM|author2=O'Neil, ME |author3=Carson, S |author4=Low, A |author5=Peterson, K |author6=Denneson, LM |author7=Oleksiewicz, C |author8= Kansagara, D |title=Suicide Risk Factors and Risk Assessment Tools: A Systematic Review|date=March 2012|pmid=22574340}}</ref> โดยประมาณ 650,000 คนเข้าแผนกฉุกเฉินเนื่องจากพยายามฆ่าตัวตาย<ref name="EB2011"/> อัตราการฆ่าตัวตายของผู้ชายวัย 50 ปีเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งในทศวรรษ 1999-2010<ref>{{cite web|title=CDC finds suicide rates among middle-aged adults increased from 1999 to 2010|url=http://www.cdc.gov/media/releases/2013/p0502-suicide-rates.html|publisher=Centers for Disease Control and Prevention|accessdate=15 July 2013|date=May 2, 2013}}</ref> [[ประเทศลิทัวเนีย]] [[ญี่ปุ่น]] และ[[ฮังการี]] มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด<ref name=Var2012/> ประเทศที่มีตัวเลขจำนวนครั้งการฆ่าตัวตายสูงสุดคือ[[จีน]] และ[[อินเดีย]] คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด<ref name=Var2012/> ในประเทศจีน การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5<ref name=China2009/> |
อัตราการฆ่าตัวตายแตกต่างกันตามแต่ละประเทศและแต่ละช่วงเวลาอย่างมีนัยสำคัญ<ref name=Var2012>{{cite journal|last=Värnik|first=P|title=Suicide in the world|journal=[[International Journal of Environmental Research and Public Health]]|date=March 2012 |volume=9|issue=3|pages=760–71 |pmid=22690161 |doi=10.3390/ijerph9030760 |pmc=3367275}}</ref> ค่าเปอร์เซนต์ของผู้เสียชีวิตใน ค.ศ. 2008 ได้แก่ แอฟริกา 0.5% เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 1.9% อเมริกาเหนือและใต้ 1.2% และยุโรป 1.4%<ref name=Var2012/> อัตราส่วนต่อคน 100,000 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย 8.6 แคนาดา 11.1 จีน 12.7 อินเดีย 23.2 สหราชอาณาจักร 7.6 สหรัฐอเมริกา 11.4 และเกาหลีใต้ 28.9<ref>{{cite web|title=Deaths estimates for 2008 by cause for WHO Member States |url=http://www.who.int/healthinfo/global_burden_disease/estimates_country/en/index.html|publisher=World Health Organization|accessdate=10 February 2013}}</ref><ref>{{cite web|title=Suicide rates Data by country|url=http://apps.who.int/gho/data/node.main.MHSUICIDE?lang=en.|website=who.int|accessdate=23 November 2014}}</ref> การฆ่าตัวตายเป็น[[ความตาย|สาเหตุการเสียชีวิต]]อันดับที่ 10 ในสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 2009 ที่ 36,000 คดีต่อปี<ref>{{cite journal|last=Haney|first=EM|author2=O'Neil, ME |author3=Carson, S |author4=Low, A |author5=Peterson, K |author6=Denneson, LM |author7=Oleksiewicz, C |author8= Kansagara, D |title=Suicide Risk Factors and Risk Assessment Tools: A Systematic Review|date=March 2012|pmid=22574340}}</ref> โดยประมาณ 650,000 คนเข้าแผนกฉุกเฉินเนื่องจากพยายามฆ่าตัวตาย<ref name="EB2011"/> อัตราการฆ่าตัวตายของผู้ชายวัย 50 ปีเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งในทศวรรษ 1999-2010<ref>{{cite web|title=CDC finds suicide rates among middle-aged adults increased from 1999 to 2010|url=http://www.cdc.gov/media/releases/2013/p0502-suicide-rates.html|publisher=Centers for Disease Control and Prevention|accessdate=15 July 2013|date=May 2, 2013}}</ref> [[ประเทศลิทัวเนีย]] [[ญี่ปุ่น]] และ[[ฮังการี]] มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด<ref name=Var2012/> ประเทศที่มีตัวเลขจำนวนครั้งการฆ่าตัวตายสูงสุดคือ[[จีน]] และ[[อินเดีย]] คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด<ref name=Var2012/> ในประเทศจีน การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5<ref name=China2009/> |
||
== ศาสนาพุทธ == |
|||
พุทธศาสนาถือว่าการฆ่าตัวตายไม่เป็น[[การฆ่า|ปาณาติบาต]] เพราะปาณาติบาตหมายถึงการฆ่าชีวิตอื่น<ref>{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = พระสัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะ| ชื่อหนังสือ = ปรมัตถโชติกะ มหาอภิธัมมัตถสังคหฎีกา ปริจเฉทที่ ๕ เล่ม ๒ กัมมจตุกกะ และ มรณุปปัตติจตุกกะ| จังหวัด = กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = มูลนิธิสัทธัมมโชติกะ| ปี = 2555| จำนวนหน้า = 334| หน้า = 82-83}}</ref> อย่างไรก็ตามผู้ฆ่าตัวตายด้วยความโกรธ ย่อมไปเกิดใน[[อบายภูมิ]] เช่น [[นรกภูมิ]] เพราะความโกรธนั้น<ref>[http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=149&p=1 อรรถกถา เอกปัณณชาดก ว่าด้วย ต้นไม้ใบเดียว]</ref> |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:19, 8 เมษายน 2560
ส่วนหนึ่งของรายการเรื่อง |
นิติเวชศาสตร์ |
---|
การฆ่าตัวตาย หรือ อัตวินิบาตกรรม เป็นการกระทำให้ตนเองถึงแก่ความตายอย่างตั้งใจ การฆ่าตัวตายมักเกิดจากภาวะซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตเภท ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง[1] โรคพิษสุรา หรือการใช้สารเสพติด[2] ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดเช่นความลำบากทางการเงิน หรือปัญหากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็มีส่วนเช่นกัน ความพยายามป้องกันการฆ่าตัวตายหมายรวมถึงการจำกัดการฆ่าตัวตายด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ปืน และสารพิษ การรักษาอาการทางจิตและการใช้สารเสพติด และการปรับปรุงสถานะทางการเงิน แม้ว่าบริการที่ปรึกษาสายด่วนจะมีทั่วไป แต่แทบไม่มีหลักฐานว่าวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพ[3]
วิธีการฆ่าตัวตายที่พบได้บ่อยที่สุดแตกต่างกันไปตามประเทศและส่วนหนึ่งจะขึ้นกับความเป็นไปได้ วิธีการทั่วไปได้แก่ การแขวนคอ การวางยาด้วยสารฆ่าสัตว์รังควาน และอาวุธปืน การฆ่าตัวตายคร่าชีวิตคน 842,000 คนใน ค.ศ. 2013 ขึ้นจาก 712,000 คนใน ค.ศ. 1990[4] ทำให้เป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 10 ทั่วโลก[2][5] อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง[6] โดยผู้ชายมีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากกว่าผู้หญิง 3-4 เท่า มีการฆ่าตัวตายที่ไม่ถึงแก่ชีวิตประมาณ 10-20 ล้านครั้งทุกปี[7] ความพยายามฆ่าตัวตายที่ไม่ถึงแก่ชีวิตมักก่อให้เกิดการบาดเจ็บ และความพิการระยะยาว ความพยายามดังกล่าวนี้มักพบในคนอายุน้อยและผู้หญิง
ทรรศนะที่มีต่อการฆ่าตัวตายมีหลายประเด็น เช่น ด้านศาสนา เกียรติยศ และความหมายของชีวิต ศาสนาอับราฮัมมองการฆ่าตัวตายว่าเป็นการดูหมิ่นพระเจ้าเนื่องจากความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต ในยุคซะมุไรในญี่ปุ่น เซ็ปปุกุจัดเป็นหนึ่งในวิธีการไถ่โทษสำหรับความผิดพลาด หรือเป็นการประท้วงรูปแบบหนึ่ง พิธีสตี ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คาดหวังให้หญิงม่ายบูชายัญตนเองบนกองฟืนเผาศพของสามี ทั้งสมัครใจหรือจากความกดดันจากครอบครัวและสังคม[8]
ขณะที่ในอดีต การฆ่าตัวตายและความพยายามฆ่าตัวตาย เป็นอาชญากรรมต้องโทษ แต่ปัจจุบันในประเทศตะวันตกมิเป็นเช่นนั้นแล้ว แต่ยังถือว่าเป็นอาชญากรรมในหลายประเทศ ในศตวรรษที่ 20 และ 21 มีการฆ่าตัวตายที่เป็นการบูชายัญตนเองเกิดขึ้นบางโอกาสเป็นสื่อกลางการประท้วง และคะมิกะเซะและการระเบิดฆ่าตัวตายเกิดขึ้นเป็นยุทธวิธีทางทหารหรือการก่อการร้าย[9]
คำจำกัดความ
การฆ่าตัวตาย หรือการฆ่าตัวตายสมบูรณ์แบบ เป็น "การกระทำที่ปลิดชีพตน"[10] ความพยายามฆ่าตัวตาย หรือพฤติกรรมเสียงต่อการฆ่าตัวตายคือการทำร้ายตนเองโดยมีความปรารถนาว่าจะจบชีวิตตน แต่ไม่ถึงแก่ความตาย[11] การฆ่าตัวตายแบบมีผู้ช่วย เกิดขึ้นเมื่อมีคนคนหนึ่งนำพาความตายมาให้อีกคนอีกคนทางอ้อม โดยการให้คำแนะนำหรือวิธีการฆ่าตัวตาย[12] การฆ่าตัวตายตรงข้ามกับการุณยฆาตซึ่งคนอีกคนมีบทบาทหลักในการนำพาความตายมาสู่คนคนหนึ่ง[12] การเกิดความคิดฆ่าตัวตายเป็นความคิดในการจบชีวิตคนคนหนึ่งแต่ไม่ต้องใช้ความพยายามเพื่อทำการดังกล่าว[11]
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ได้แก่ ความผิดปกติทางจิต การใช้ยาในทางที่ผิด ภาวะทางจิตวิทยา สถานการณ์ทางวัฒนธรรม สังคม และครอบครัว และพันธุกรรม[14] อาการป่วยทางจิตใจกับการใช้สารเสพติดนั้นมักเกิดร่วมกันบ่อย ๆ[15] ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ยังรวมถึงความพยายามฆ่าตัวตายมาก่อน[16] ความเพียบพร้อมในการกระทำดังกล่าว ประวัติการฆ่าตัวตายของครอบครัว หรืออาการบาดเจ็บทางสมอง[17] ตัวอย่างเช่น อัตราการฆ่าตัวตายจะพบได้ในบ้านเรือนที่มีอาวุธปืนมากกว่าบ้านเรือนที่ไม่มีอาวุธปืน[18] ปัญหาทางสังคมเศรษฐกิจ เช่น การว่างงาน ความยากจน การไม่มีที่อยู่ และการเหยียดหยาม อาจกระตุ้นให้เกิดความคิดฆ่าตัวตายได้[19][20] คนที่ฆ่าตัวตาย 15-40% ทิ้งจดหมายฆ่าตัวตายไว้[21] พันธุกรรมมีผลต่อพฤติกรรมการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 38% ถึง 55%[22] ทหารผ่านศึกมีความเป็นไปได้ที่จะฆ่าตัวตายมากกว่า เนื่องจากความเจ็บป่วยทางจิตใจ และปัญหาสุขภาพที่มาจากสงคราม[23]
โรคทางจิตใจ
โรคทางจิตใจเกิดขึ้น ณ เวลาที่ฆ่าตัวตายด้วยพิสัยตั้งแต่ 27%[24] จนถึงมากกว่า 90%[16] ในบรรดาคนที่เคยเข้ารับการรักษาทางจิต ความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายสำเร็จในช่วงชีวิตอยู่ที่ประมาณ 8.6%[16] ประชาชนครึ่งหนึ่งที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอาจเป็นโรคเกี่ยวกับความหดหู่ หากมีโรคทางจิตใจอย่างน้อยหนึ่งชนิด เช่น โรคอารมณ์สองขั้ว เพิ่มความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายถึง 20 เท่า[25] โรคอื่น ๆ เช่น โรคจิตเภท (14%) ความผิดปกติด้านบุคลิกภาพ (14%)[26] โรคอารมณ์สองขั้ว[25] และความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ[16] คนที่เป็นโรคจิตเภทราว 5% เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย[27] ความผิดปกติเกี่ยวกับการกินเป็นอีกภาวะหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูง[28]
ประวัติของความพยายามฆ่าตัวตายเป็นตัวทำนายการฆ่าตัวตายสมบูรณ์แบบที่ใหญ่ที่สุด[16] การฆ่าตัวตายประมาณ 20% เคยมีความพยายามฆ่าตัวตายมาก่อน และในจำนวนผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายนั้น มีผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จภายในเวลาหนึ่งปีเพียง 1 %[16] และฆ่าตัวตายสำเร็จภายใน 10 ปีเพียง 5%[28] การกระทำที่เป็นการทำร้ายตนเองมักไม่ใช่ความพยายามฆ่าตัวตาย และคนที่ทำร้ายตนเองส่วนมากไม่มีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย[29] คนที่ทำร้ายตนเองบางคนตัดสินใจจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายจริง และความเสี่ยงของการทำร้ายตนเองและการฆ่าตัวตายอาจทับซ้อนกัน[29]
การฆ่าตัวตายสมบูรณ์ประมาณ 80%[30] ผู้ที่ฆ่าตัวตายได้พบกับหมอภายในเวลาหนึ่งปีก่อนเสียชีวิต 45%[31] ของจำนวนนี้พบหมอในหนึ่งเดือนก่อนหน้า ผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จประมาณ 25-40% ใช้บริการสุขภาพจิตในเวลาหนึ่งปีมาก่อน[24][30]
การใช้สารเสพติด
การใช้สารเสพติดเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายอันดับที่สองรองจากโรคซึมเศร้าและโรคอารมณ์สองขั้ว[32] ทั้งการใช้สารเสพติดเรื้อรังและการเสพสารมึนเมาก็มีส่วน[15][33] เมื่อรวมกับความโศกเศร้าส่วนตัว เช่น การสูญเสียคนรัก ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้นอีก[33] นอกจากนี้การใช้สารเสพติดยังเป็นเหตุให้เกิดโรคทางสุขภาพจิตใจด้วย[15]
คนส่วนมากได้รับผลกระทบจากฤทธิ์ยาระงับประสาท (เช่น แอลกอฮอล์ หรือเบนโซไดอาเซพีนส์) หลังเขาเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย[34] โดย 15-61% ของคนกลุ่มนี้เป็นโรคพิษสุรา[15] ประเทศที่มีการบริโภคแอลกอฮอล์สูง และมีบาร์ในเมืองอย่างหนาแน่น มีอัตราการฆ่าตัวตายสูง[35] ผู้ที่ได้รับการรักษาโรคพิษสุราประมาณ 2.2-3.4% ณ เวลาหนึ่งในชีวิตจะเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย[35] คนติดสุราที่พยายามฆ่าตัวตายปกติเป็นผู้ชาย สูงอายุ และเคยพยายามฆ่าตัวตายมาก่อน[15] ผู้เสียชีวิตที่ใช้เฮโรอีน 3-35% เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย (มากกว่าผู้ที่ไม่ใช้ประมาณ 14 เท่า)[36] ในผู้ใหญ่ที่ดื่มสุรา การทำงานผิดพลาดของระบบประสาทและทางจิตอาจมีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย[37]
ปัญหาการพนัน
ปัญหาการพนันเป็นเหตุให้เกิดความคิดฆ่าตัวตายและความพยายามฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป[38] นักเล่นพนันระหว่าง 12-24% พยายามฆ่าตัวตาย[39] อัตราการฆ่าตัวตายในสามีภรรยาของพวกเขามีมากกว่าประชากรทั่วไปถึง 3 เท่า[39] ปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงในนักเล่นพนัน ได้แก่ ความผิดปกติทางจิตใจ แอลกอฮอล์ และการใช้ยา[40]
สื่อ
สื่อต่าง ๆ รวมถึงอินเทอร์เน็ต มีบทบาทสำคัญ[14] ผลกระทบต่อการฆ่าตัวตายจากสื่อมักเป็นทางลบ การรายงานข่าวเด่นซ้ำ ๆ ที่สรรเสริญการฆ่าตัวตายมีผลกระทบสูงสุด[41] เมื่อมีการพรรณนารายละเอียดการฆ่าตัวตายด้วยวิธีเฉพาะทางวิธีหนึ่ง ๆ วิธีการฆ่าตัวตายวิธีนั้นจะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้มาก[42]
แรงกระตุ้นให้เกิด "การฆ่าตัวตายตามกัน" หรือการลอกเลียนแบบการฆ่าตัวตาย ที่เรียกกันว่า ปรากฏการณ์แวเธ่อร์ (Werther effect) ได้ชื่อตามตัวเอกในนวนิยายเรื่อง แวเธ่อร์ระทม ของเกอเทอ ที่ฆ่าตัวตาย และผู้ที่อ่านนวนิยายเรื่องนี้ต่างก็เลียนแบบกัน[43] ความเสี่ยงเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ที่หลงใหลในความตาย[44] ปรากฏว่าขณะที่สื่อข่าวมีผลกระทบมาก ผลกระทบจากสื่อบันเทิงนั้นไม่แน่นอน[45] ตรงกันข้ามกับปรากฏการณ์แวร์เธ่อร์ มีการเสนอว่าเป็นปรากฏการณ์พาพาเกโน ที่การรายงานข่าวกลไกการรับมืออาจมีผลกระทบที่เป็นการป้องกัน คำนี้มาจากตัวละครในละครโอเปราเรื่อง ขลุ่ยวิเศษ ของโมซาร์ท ที่ (กลัวว่าจะสูญเสียคนรัก) วางแผนฆ่าตัวตายจนกระทั่งเพื่อนของเขามาช่วย[43]
วิธีการ
วิธีการฆ่าตัวตายที่พบมากจะแตกต่างไปตามประเทศต่าง ๆ วิธีการที่พบมากในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ การแขวนคอ การวางยาด้วยสารฆ่าสัตว์รังควาน และการใช้อาวุธปืน[46] ความแตกต่างเหล่านี้ส่วนหนึ่งเชื่อกันว่ามาจากความเป็นไปได้ของแต่ละวิธี[42] จากการทบทวน ประเทศ 56 ประเทศพบว่าการแขวนคอเป็นวิธีการที่พบมากที่สุด[47] คิดเป็นเพศชาย 53% และเพศหญิง 39%[48]
ในทั่วโลก การฆ่าตัวตาย 30% มาจากสารฆ่าสัตว์รังควาน อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ในยุโรปผันแปร 4% และในภูมิภาคแปซิฟิกผันแปรมากกว่า 50%[49] วิธีนี้พบได้บ่อยในลาตินอเมริกาเนื่องจากประชากรที่ทำไร่นาเข้าถึงสารดังกล่าวได้ง่าย[42] ในหลายประเทศ การใช้ยาเกินขนาดคิดเป็นราว 60% ของการฆ่าตัวตายในผู้หญิง และ 30% ในผู้ชาย[50] การฆ่าตัวตายจำนวนมากไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน และเกิดขึ้นในช่วงเวลาอารมณ์รวนเรฉับพลัน[42] อัตราการตายแตกต่างกันไปตามวิธีการ กล่าวคือ จากอาวุธปืน 80-90% การจมน้ำ 65-80% การแขวนคอ 60-85% ท่อไอเสียรถยนต์ 40-60% การกระโดด 35-60% การรมควันจากถ่านไม้ 40-50% สารฆ่าสัตว์รังควาน 6-75% และการใช้ยาเกินขนาด 1.5-4%[42] อัตราการพยายามฆ่าตัวตายที่พบได้บ่อยที่สุดต่างจากอัตราความสำเร็จในการฆ่าตัวตาย กล่าวคือ ความพยายาม 85% เป็นการใช้ยาเกินขนาดในประเทศพัฒนาแล้ว[28]
ในประเทศจีน การบริโภคสารฆ่าสัตว์รังควานเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่พบมากที่สุด[51] ในประเทศญี่ปุ่น วิธีการคว้านไส้ตนเองที่เรียกว่า เซ็ปปุกุ หรือฮาราคีรี ยังคงเกิดขึ้นอยู่[51] อย่างไรก็ตาม การแขวนคอพบได้บ่อยที่สุด[52] การกระโดดจนถึงแก่ชีวิตพบมากในฮ่องกงและประเทศสิงคโปร์ ที่อัตรา 50% และ 80% ตามลำดับ[42] ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีอาวุธปืนอยู่ทั่วไป แต่การฆ่าตัวตายที่พบบ่อยที่สุดคือการแขวนคอ[53] ในสหรัฐอเมริกา การฆ่าตัวตาย 57% เกี่ยวพันกับอาวุธปืน พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง[16] รองลงมาคือการแขวนคอในผู้ชาย และการวางยาพิษตนเองในผู้หญิง[16] วิธีการเหล่านี้รวมกันคิดเป็น 40% ของการฆ่าตัวตายในสหรัฐอเมริกา[54]
วิทยาการระบาด
ประชาชนประมาณ 0.5% - 1.4% เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ด้วยอัตราการตาย 11.6 ต่อ 100,000 คนต่อปี[5][16] การฆ่าตัวตายคร่าชีวิตคน 842,000 คนใน ค.ศ. 2013 ขึ้นจาก 712,000 คนใน ค.ศ. 1990[4] อัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 60% จากคริสต์ทศวรรษ 1960 ถึง ค.ศ. 2012[55] ในอัตราที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา[2] นับถึง ค.ศ. 2008-2009 การฆ่าตัวตายทั่วโลกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่สิบ[2] ในทุก ๆ การฆ่าตัวตายที่ส่งผลให้เกิดผู้เสียชีวิตนั้น 10-40% พยายามฆ่าตัวตายมาก่อน[16]
อัตราการฆ่าตัวตายแตกต่างกันตามแต่ละประเทศและแต่ละช่วงเวลาอย่างมีนัยสำคัญ[5] ค่าเปอร์เซนต์ของผู้เสียชีวิตใน ค.ศ. 2008 ได้แก่ แอฟริกา 0.5% เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 1.9% อเมริกาเหนือและใต้ 1.2% และยุโรป 1.4%[5] อัตราส่วนต่อคน 100,000 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย 8.6 แคนาดา 11.1 จีน 12.7 อินเดีย 23.2 สหราชอาณาจักร 7.6 สหรัฐอเมริกา 11.4 และเกาหลีใต้ 28.9[56][57] การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 10 ในสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 2009 ที่ 36,000 คดีต่อปี[58] โดยประมาณ 650,000 คนเข้าแผนกฉุกเฉินเนื่องจากพยายามฆ่าตัวตาย[16] อัตราการฆ่าตัวตายของผู้ชายวัย 50 ปีเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งในทศวรรษ 1999-2010[59] ประเทศลิทัวเนีย ญี่ปุ่น และฮังการี มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด[5] ประเทศที่มีตัวเลขจำนวนครั้งการฆ่าตัวตายสูงสุดคือจีน และอินเดีย คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด[5] ในประเทศจีน การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5[60]
อ้างอิง
- ↑ Paris, J (June 2002). "Chronic suicidality among patients with borderline personality disorder". Psychiatric services (Washington, D.C.). 53 (6): 738–42. doi:10.1176/appi.ps.53.6.738. PMID 12045312.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 Hawton K, van Heeringen K (April 2009). "Suicide". Lancet. 373 (9672): 1372–81. doi:10.1016/S0140-6736(09)60372-X. PMID 19376453.
- ↑ Sakinofsky, I (June 2007). "The current evidence base for the clinical care of suicidal patients: strengths and weaknesses". Canadian Journal of Psychiatry. 52 (6 Suppl 1): 7S–20S. PMID 17824349.
- ↑ 4.0 4.1 GBD 2013 Mortality and Causes of Death, Collaborators (17 December 2014). "Global, regional, and national age-sex specific all-cause and cause-specific mortality for 240 causes of death, 1990-2013: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2013". Lancet. 385: 117–71. doi:10.1016/S0140-6736(14)61682-2. PMID 25530442.
{{cite journal}}
:|first1=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 Värnik, P (March 2012). "Suicide in the world". International Journal of Environmental Research and Public Health. 9 (3): 760–71. doi:10.3390/ijerph9030760. PMC 3367275. PMID 22690161.
- ↑ Meier, Marshall B. Clinard, Robert F. (2008). Sociology of deviant behavior (14th ed.). Belmont, CA: Wadsworth Cengage Learning. p. 169. ISBN 978-0-495-81167-1.
- ↑ Bertolote JM, Fleischmann A (October 2002). "Suicide and psychiatric diagnosis: a worldwide perspective". World Psychiatry. 1 (3): 181–5. PMC 1489848. PMID 16946849.
- ↑ "Indian woman commits sati suicide". Bbc.co.uk. 2002-08-07. สืบค้นเมื่อ 2010-08-26.
- ↑ Aggarwal, N (2009). "Rethinking suicide bombing". Crisis. 30 (2): 94–7. doi:10.1027/0227-5910.30.2.94. PMID 19525169.
- ↑ Stedman's medical dictionary (28th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. 2006. ISBN 978-0-7817-3390-8.
- ↑ 11.0 11.1 Krug, Etienne (2002). World Report on Violence and Health (Vol. 1). Genève: World Health Organization. p. 185. ISBN 978-92-4-154561-7.
- ↑ 12.0 12.1 Gullota, edited by Thomas P.; Bloom, Martin (2002). The encyclopedia of primary prevention and health promotion. New York: Kluwer Academic/Plenum. p. 1112. ISBN 978-0-306-47296-1.
{{cite book}}
:|first=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ Karch, DL (Aug 26, 2011). "Surveillance for violent deaths—National Violent Death Reporting System, 16 states, 2008". Morbidity and mortality weekly report. Surveillance summaries (Washington, D.C. : 2002). 60 (10): 1–49. PMID 21866088.
{{cite journal}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ 14.0 14.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHawton2012
- ↑ 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อDrug2011
- ↑ 16.00 16.01 16.02 16.03 16.04 16.05 16.06 16.07 16.08 16.09 16.10 Chang, B; Gitlin, D; Patel, R (September 2011). "The depressed patient and suicidal patient in the emergency department: evidence-based management and treatment strategies". Emergency medicine practice. 13 (9): 1–23, quiz 23–4. PMID 22164363.
- ↑ Simpson, G; Tate, R (December 2007). "Suicidality in people surviving a traumatic brain injury: prevalence, risk factors and implications for clinical management". Brain injury : [BI]. 21 (13–14): 1335–51. doi:10.1080/02699050701785542. PMID 18066936.
- ↑ 18.0 18.1 Miller, M; Azrael, D; Barber, C (April 2012). "Suicide mortality in the United States: the importance of attending to method in understanding population-level disparities in the burden of suicide". Annual review of public health. 33: 393–408. doi:10.1146/annurev-publhealth-031811-124636. PMID 22224886.
- ↑ Qin P, Agerbo E, Mortensen PB (April 2003). "Suicide risk in relation to socioeconomic, demographic, psychiatric, and familial factors: a national register-based study of all suicides in Denmark, 1981–1997". Am J Psychiatry. 160 (4): 765–72. doi:10.1176/appi.ajp.160.4.765. PMID 12668367.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Centers for Disease Control and Prevention, (CDC) (May 3, 2013). "Suicide among adults aged 35-64 years--United States, 1999-2010". MMWR. Morbidity and mortality weekly report. 62 (17): 321–5. PMID 23636024.
- ↑ Gilliland, Richard K. James, Burl E. (2012-05-08). Crisis intervention strategies (7th ed.). Belmont, CA: Brooks/Cole. p. 215. ISBN 978-1-111-18677-7.
- ↑ Brent, DA; Melhem, N (June 2008). "Familial transmission of suicidal behavior". The Psychiatric clinics of North America. 31 (2): 157–77. doi:10.1016/j.psc.2008.02.001. PMC 2440417. PMID 18439442.
- ↑ Rozanov, V; Carli, V (July 2012). "Suicide among war veterans". International journal of environmental research and public health. 9 (7): 2504–19. doi:10.3390/ijerph9072504. PMC 3407917. PMID 22851956.
- ↑ 24.0 24.1 University of Manchester Centre for Mental Health and Risk. "The National Confidential Inquiry into Suicide and Homicide by People with Mental Illness" (PDF). สืบค้นเมื่อ 25 July 2012.
- ↑ 25.0 25.1 Chehil, Stan Kutcher, Sonia (2012). Suicide Risk Management A Manual for Health Professionals (2nd ed.). Chicester: John Wiley & Sons. pp. 30–33. ISBN 978-1-119-95311-1.
- ↑ Bertolote, JM; Fleischmann, A; De Leo, D; Wasserman, D (2004). "Psychiatric diagnoses and suicide: revisiting the evidence". Crisis. 25 (4): 147–55. doi:10.1027/0227-5910.25.4.147. PMID 15580849.
- ↑ van Os J, Kapur S (August 2009). "Schizophrenia" (PDF). Lancet. 374 (9690): 635–45. doi:10.1016/S0140-6736(09)60995-8. PMID 19700006.
- ↑ 28.0 28.1 28.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTint2010
- ↑ 29.0 29.1 Greydanus, DE; Shek, D (September 2009). "Deliberate self-harm and suicide in adolescents". The Keio journal of medicine. 58 (3): 144–51. doi:10.2302/kjm.58.144. PMID 19826208.
- ↑ 30.0 30.1 Pirkis, J; Burgess, P (December 1998). "Suicide and recency of health care contacts. A systematic review". The British journal of psychiatry : the journal of mental science. 173 (6): 462–74. doi:10.1192/bjp.173.6.462. PMID 9926074.
- ↑ Luoma, JB; Martin, CE; Pearson, JL (June 2002). "Contact with mental health and primary care providers before suicide: a review of the evidence". The American Journal of Psychiatry. 159 (6): 909–16. doi:10.1176/appi.ajp.159.6.909. PMID 12042175.
- ↑ Perrotto, Jerome D. Levin, Joseph Culkin, Richard S. (2001). Introduction to chemical dependency counseling. Northvale, N.J.: Jason Aronson. pp. 150–152. ISBN 978-0-7657-0289-0.
- ↑ 33.0 33.1 Fadem, Barbara (2004). Behavioral science in medicine. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. p. 217. ISBN 978-0-7817-3669-5.
- ↑ Youssef NA, Rich CL (2008). "Does acute treatment with sedatives/hypnotics for anxiety in depressed patients affect suicide risk? A literature review". Ann Clin Psychiatry. 20 (3): 157–69. doi:10.1080/10401230802177698. PMID 18633742.
- ↑ 35.0 35.1 Sher, L (January 2006). "Alcohol consumption and suicide". QJM : monthly journal of the Association of Physicians. 99 (1): 57–61. doi:10.1093/qjmed/hci146. PMID 16287907.
- ↑ Darke S, Ross J (November 2002). "Suicide among heroin users: rates, risk factors and methods". Addiction. 97 (11): 1383–94. doi:10.1046/j.1360-0443.2002.00214.x. PMID 12410779.
- ↑ Sher L (2007). "Functional magnetic resonance imaging in studies of the neurobiology of suicidal behavior in adolescents with alcohol use disorders". Int J Adolesc Med Health. 19 (1): 11–8. doi:10.1515/ijamh.2007.19.1.11. PMID 17458319.
- ↑ Pallanti, Stefano; Rossi, Nicolò Baldini; Hollander, Eric (2006). "11. Pathological Gambling". ใน Hollander, Eric; Stein, Dan J. (บ.ก.). Clinical manual of impulse-control disorders. American Psychiatric Pub. p. 253. ISBN 978-1-58562-136-1.
- ↑ 39.0 39.1 Oliveira, MP; Silveira, DX; Silva, MT (June 2008). "Pathological gambling and its consequences for public health". Revista de saude publica. 42 (3): 542–9. doi:10.1590/S0034-89102008005000026. PMID 18461253.
- ↑ Hansen, M; Rossow, I (Jan 17, 2008). "Gambling and suicidal behaviour". Tidsskrift for den Norske laegeforening : tidsskrift for praktisk medicin, ny raekke. 128 (2): 174–6. PMID 18202728.
- ↑ Bohanna, I; Wang, X (2012). "Media guidelines for the responsible reporting of suicide: a review of effectiveness". Crisis. 33 (4): 190–8. doi:10.1027/0227-5910/a000137. PMID 22713977.
- ↑ 42.0 42.1 42.2 42.3 42.4 42.5 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อYip2012
- ↑ 43.0 43.1 Sisask, M; Värnik, A (January 2012). "Media roles in suicide prevention: a systematic review". International journal of environmental research and public health. 9 (1): 123–38. doi:10.3390/ijerph9010123. PMC 3315075. PMID 22470283.
- ↑ Stack S (April 2005). "Suicide in the media: a quantitative review of studies based on non-fictional stories". Suicide Life Threat Behav. 35 (2): 121–33. doi:10.1521/suli.35.2.121.62877. PMID 15843330.
- ↑ Pirkis J (July 2009). "Suicide and the media". Psychiatry. 8 (7): 269–271. doi:10.1016/j.mppsy.2009.04.009.
- ↑ Ajdacic-Gross V; Weiss MG; Ring M; และคณะ (September 2008). "Methods of suicide: international suicide patterns derived from the WHO mortality database". Bull. World Health Organ. 86 (9): 726–32. doi:10.2471/BLT.07.043489. PMC 2649482. PMID 18797649.
{{cite journal}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|name-list-format=
ถูกละเว้น แนะนำ (|name-list-style=
) (help) - ↑ Ajdacic-Gross, Vladeta, et al. "Methods of suicide: international suicide patterns derived from the WHO mortality database"PDF (267 KB). Bulletin of the World Health Organization 86 (9): 726–732. September 2008. Accessed 2 August 2011. Archived 2 August 2011. See html version. The data can be seen here [1]
- ↑ O'Connor, Rory C.; Platt, Stephen; Gordon, Jacki, บ.ก. (1 June 2011). International Handbook of Suicide Prevention: Research, Policy and Practice. John Wiley and Sons. p. 34. ISBN 978-1-119-99856-3.
- ↑ Gunnell D., Eddleston M., Phillips M.R., Konradsen F. (2007). "The global distribution of fatal pesticide self-poisoning: systematic review". BMC Public Health. 7: 357. doi:10.1186/1471-2458-7-357. PMC 2262093. PMID 18154668.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Geddes, John; Price, Jonathan; Gelder, Rebecca McKnight; with Michael; Mayou, Richard (2012-01-05). Psychiatry (4th ed.). Oxford: Oxford University Press. p. 62. ISBN 978-0-19-923396-0.
- ↑ 51.0 51.1 Krug, Etienne (2002). World Report on Violence and Health, Volume 1. Genève: World Health Organization. p. 196. ISBN 978-92-4-154561-7.
- ↑ (editor), Diego de Leo (2001). Suicide and euthanasia in older adults : a transcultural journey. Toronto: Hogrefe & Huber. p. 121. ISBN 978-0-88937-251-1.
{{cite book}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ Eshun, edited by Sussie; Gurung, Regan A.R. (2009). Culture and mental health sociocultural influences, theory, and practice. Chichester, U.K.: Wiley-Blackwell. p. 301. ISBN 978-1-4443-0581-4.
{{cite book}}
:|first=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ "U.S. Suicide Statistics (2005)". สืบค้นเมื่อ 2008-03-24.
- ↑ "Suicide prevention". WHO Sites: Mental Health. World Health Organization. Aug 31, 2012. สืบค้นเมื่อ 2013-01-13.
- ↑ "Deaths estimates for 2008 by cause for WHO Member States". World Health Organization. สืบค้นเมื่อ 10 February 2013.
- ↑ "Suicide rates Data by country". who.int. สืบค้นเมื่อ 23 November 2014.
- ↑ Haney, EM; O'Neil, ME; Carson, S; Low, A; Peterson, K; Denneson, LM; Oleksiewicz, C; Kansagara, D (March 2012). "Suicide Risk Factors and Risk Assessment Tools: A Systematic Review". PMID 22574340.
{{cite journal}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
(help) - ↑ "CDC finds suicide rates among middle-aged adults increased from 1999 to 2010". Centers for Disease Control and Prevention. May 2, 2013. สืบค้นเมื่อ 15 July 2013.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อChina2009