ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มิก้า ชูนวลศรี"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 157: | บรรทัด 157: | ||
|17||2||1||0||0||0||0||0||0||0||18||2 |
|17||2||1||0||0||0||0||0||0||0||18||2 |
||
|- |
|- |
||
|[[ไทยพรีเมียร์ลีก 2558|2015]] |
|||
⚫ | |||
|[[ไทยพรีเมียร์ลีก]] |
|||
⚫ | |||
|1||0||0||0||0||0||0||0||0||0||1||0 |
|||
|- |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
|- |
|- |
||
!colspan=3| รวมทั้งหมด |
!colspan=3| รวมทั้งหมด |
||
! |
!164!!10!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! |
||
|}<ref>http://www.transfermarkt.com/charyl-chappuis/leistungsdaten/spieler/111417/saison//plus/1#CR2</ref> |
|}<ref>http://www.transfermarkt.com/charyl-chappuis/leistungsdaten/spieler/111417/saison//plus/1#CR2</ref> |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:56, 15 กุมภาพันธ์ 2558
มิก้า ชูนวลศรี (อังกฤษ: Mika Chunuonsee) นักฟุตบอลลูกครึ่งไทย-เวลส์ ของสโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด ในไทยพรีเมียร์ลีก สวมเสื้อหมายเลข 17 และเล่นในตำแหน่งกองหลัง
ประวัติ
มิก้า ชูนวลศรี เกิดวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2532 ที่เมือง บริดเจนด์,เวลส์ ประเทศ สหราชอาณาจักร [1] มีพ่อชื่อ ชรินทร์ ชูนวลศรี เป็นอดีตนักฟุตบอล จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีแม่ชื่อเอเรียต[2] [3]เมื่ออายุได้ 1 ขวบพ่อของเขาได้พามาอยู่เมืองไทยที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึงอายุ 10 ขวบ จึงกลับไปที่เวลส์อีกครั้งหนึ่ง มิก้าจบการศึกษาจาก University of Glamorgan ในเซาธ์ เวลส์
การเล่นฟุตบอล
มิก้าเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อย้ายจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปอยู่ที่เวลส์ [4]โดยเล่นอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในปี 2005 และอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรนาน 2 ปี ก่อนจะถูกคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ปล่อยตัวออกจากทีมชุดเยาวชนในเดือนสิงหาคม ปี 2007
บรินทิเรียน แอธเลติก
หลังถูกคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ปล่อยตัว มิก้า ชูนวลศรี ก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม บรินทิเรียน แอธเลติก ในระดับเวลส์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2007–2008 โดยลงเล่นเป็นกองกลาง และสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 ในลีก
นีธ แอธเลติก และ อะฟาน ลิโด
ฤดูกาลต่อมา เดือนกรกฎาคม ปี 2008 มิก้า ย้ายไปอยู่กับสโมสรนีธ แอธเลติก ในระดับเวลส์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของเวลส์ โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของแอนดี ดายเออร์ ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่ในเดือน กันยายน ปี 2008 เขาจะย้ายมาเล่นให้กับสโมสร อะฟาน ลิโด ทีมในเวลส์ลีก ดิวิชัน 1 [5] โดยมิก้า ยิงประตูแรกให้อะฟาน ลิโด ได้เมื่อวันที่ 14 มกราคม ปี 2009 ในเวลส์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2008–2009 นัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสร ทอน เพนทรี ไปได้ 2–0 ที่สนามมาร์สตัน สเตเดี้ยม [6] หลังจบลีกเวลส์ ฤดูกาล 2008–2009 มิก้าได้ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยกับพ่อ
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
หลังย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2009 มิก้าได้ติดต่อขอทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด และผลงานเป็นที่น่าพอใจจึงได้เซ็นสัญญาย้ายเข้ามาร่วมทีม ในช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก 2009[7] โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของอรรถพล บุษปาคม และลงสนามให้เมืองทองฯ นัดแรกวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 2009 ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่ออกไปแพ้สโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี 1–0 ที่สนามแพตสเตเดียม[8] ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวถือเป็นการลงเล่นในลีกอาชีพของไทยเป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย
โดยมิก้าที่ย้ายเข้ามาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ และได้ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีกไปเพียงแค่ 6 นัด (ลงเป็นตัวจริง 1 นัด และเป็นตัวสำรอง 5 นัด) โดยเมื่อจบฤดูกาลทีมสามารถคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของสโมสร
สุวรรณภูมิ ศุลกากร
หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2010 เริ่มแข่งขันไปได้ไม่นาน วันที่ 9 เมษายน ปี 2010 มิก้า ชูนวลศรี ได้ย้ายจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาเล่นให้กับสโมสรสุวรรณภูมิ-ศุลกากร ในไทยลีกดิวิชั่น 1 ที่มี ฌูแซ การ์ลูส ฟีร์ไรรา โค้ชชาวบราซิลเป็นกุนซืออยู่ในขณะนั้น แบบไม่มีค่าตัว และได้เบอร์เสื้อหมายเลข 10 [9] หลังจากย้ายมาร่วมทีมได้เพียงแค่ 10 วัน โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่น สโมสรก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นประภาส ฉ่ำรัศมี [10]
มิก้า ได้รับโอกาสลงสนามให้สโมสรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสมาคมกีฬาไทยฮอนด้า 0-1 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร (ลาดกระบัง 54) และยิงประตูแรกในลีกดิวิชั่น 1 ได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ในนัดที่เปิดบ้านเฉือนชนะสโมสรอาร์แบค เอฟซี 4-3 [11]โดยประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกที่มิก้า ยิงได้ในลีกของประเทศไทย และมายิงในลีกได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน ในนัดที่ถล่มสโมสรนราธิวาส เอฟซีไปถึง 7-0 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร [12]
การลงเล่นในดิวิชั่น 1 เขาสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สโมสรมีลุ้นเลื่อนชั้น และคว้าอันดับ 7 ได้เมื่อจบฤดูกาล โดยมิก้า ลงสนามในฤดูกาลนี้ 24 นัด (ในลีกดิวิชั่น 1 23 นัด ,เอฟเอ คัพ 1 นัด) ยิงในลีกดิวิชั่น 1 ได้ 2 ประตู
บีอีซี เทโรศาสน
แม้มิก้าจะพาทีมศุลกากรเลื่อนชั้นไม่สำเร็จ แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับดิวิชั่น 1 ทำให้หลังจบฤดูกาล 2010 สโมสรบีอีซี เทโรศาสน เซ็นสัญญาคว้าตัวมิก้า ชูนวลศรี ไปร่วมทีมในเดือนตุลาคม [13] โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ บัตเลอร์ โค้ชชาวอังกฤษ และได้รับเสื้อหมายเลข 16
มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามนัดแรกให้บีอีซี เทโรศาสน ด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2011 นัดที่บุกไปชนะสโมสรทีทีเอ็ม-เอฟซี พิจิตร 2-1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ [14]
ในฤดูกาล 2011นี้ มิก้าได้เปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งกองหลัง (แบ็คขวาและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) โดยเป็นผู้เล่นตัวหลักและลงสนามอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2011 สโมสรได้เปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นพยงค์ ขุนเณร [15] ซึ่งมิก้า ก็ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงในทีมไว้ได้เช่นเดิม
วันที่ 3 ธันวาคม มิก้า ได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่าจากการถูกประวีณวัช บุญยงค์เข้าสกัด ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่พบกับสโมสรบางกอกกล๊าส ที่ลีโอสเตเดียม[16] โดยต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวจนจบฤดูกาล
มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ 24 นัด และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7
บางกอก เอฟซี
เดือนมีนาคม ปี 2012 มิก้า ชูนวลศรี ย้ายมาเล่นในระดับดิวิชั่น 1 อีกครั้ง กับสโมสรบางกอก เอฟซี ที่มีทองสุข สัมปหังสิต เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ในขณะนั้น โดยได้รับเสื้อหมายเลข 16 [17] หลังจากย้ายมาร่วมทีม มิก้า ซึ่งยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับตั้งแต่สมัยเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน ไม่สามารถลงช่วยทีมในช่วงแรกได้ [18]โดยมิก้า ชูนวลศรีได้ลงสนามในดิวิชั่น 1 ให้บางกอก เอฟซี เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 2012 ในนัดที่เสมอกับสโมสรสงขลา เอฟซี ที่สนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ไป 1–1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง [19]
หลังหายจากอาการบาดเจ็บ มิก้า เป็นผู้เล่นคนสำคัญในตำแหน่งกองหลัง และยิงประตูแรกให้บางกอก เอฟซี ได้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสโมสรนครราชสีมา เอฟซี 1-2 [20]
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้เล่นตัวหลักแต่ผลงานของทีมในครึ่งฤดูกาลแรกกลับไม่ค่อยดีนัก โดยตกรอบ 64 ทีมสุดท้ายในถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ 2012 ส่วนผลงานในลีกชนะเพียงแค่ 5 นัด จากการแข่งขัน 15 นัด ทำให้ทองสุข สัมปหังสิต ลาออกจากการเป็นผู้ฝึกสอน [21] และสโมสรได้แต่งตั้งให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเข้ามาทำหน้าที่แทน ในครึ่งฤดูกาลหลัง[22] แต่ก็ทำได้เพียงแค่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ 29 นัด ยิงในลีก 1 ประตู
สุพรรณบุรี เอฟซี
หลังจบฤดูกาล 2012 มิก้า ชูนวลศรี ได้รับความสนใจจากทีมระดับไทยพรีเมียร์ลีกหลายทีม โดยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ซื้อตัวมิก้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 2 ล้านบาท[23] ทำให้มิก้าได้เล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งในไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 16 และลงเล่นภายใต้การคุมทีมของพยงค์ ขุนเณร โดยลงสนามให้สุพรรณบุรี เอฟซี นัดแรกเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 2013 ในไทยพรีเมียร์ลีก ที่สุพรรณบุรี เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1–1 ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียม
ในช่วงแรกมิก้าเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสรด้วยตำแหน่งแบ็คขวา และลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเขาช่วยให้สโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการไม้แพ้ทีมใดในลีกถึง 7 นัดติดต่อกัน โดยมิก้า ชูนวลศรี ทำประตูในลีกให้สุพรรณบุรี เอฟซี ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2013 จากการโหม่งลูกเตะมุม ทำให้ทีมบุกมาขึ้นนำสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี 1–0 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 1–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี[24]
แต่หลังจากนั้นเขากลับประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ที่เรื้อรังมากกว่า 2 เดือน ทำให้ไม่ได้ลงสนามมากนักในช่วงหลัง [25] และสูญเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมให้กับ สุพจน์ วงษ์หอย ในเวลาต่อมา
มิก้า ชูนวลศรีลงสนามให้สุพรรณบุรีในฤดูกาล 2013 ทั้งหมด 18 นัด (ในไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด ลีกคัพ 1 นัด) และยิงในลีกได้ 1 ประตู โดยสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 อย่างเหนือความคาดหมาย
ในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิ้ง โค้ชชาวเยอรมัน-บราซิล และมิก้า ที่หายจากอาการบาดเจ็บก็กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันนัดแรกของฤดูกาล ที่แพ้ในบ้านต่อสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี ไป 1–2 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ [26]
มิก้า กลับมาเป็นตัวจริงของทีมอีกครั้งในยุคของ มาโน โพลกิ้ง แต่ผลงานในลีกของทีมกลับไม่ดีเท่าที่ควร ประกอบกับทีมตกรอบโตโยต้า ลีกคัพ 2014 ตั้งแต่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ทำให้ มาโน โพลกิ้ง ถูกปลดในเดือนพฤษภาคม [27]
จากนั้น อเดบาโย กาเดโบ ผู้อำนวยการชาวไนจีเรียของสโมสรได้แถลงว่า มิก้า ชูนวลศรี ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในเลกที่ 2 และพร้อมปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อให้ย้ายไปร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด[28] โดยมิก้าลงสนามในเลกแรกของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 ให้สุพรรณบุรี 12 นัด
แบงค็อก ยูไนเต็ด
ในเดือนมิถุนายน ช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 มิก้า ย้ายมาร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิง ที่เคยร่วมงานกันที่สุพรรณบุรี เป็นกุนซือใหญ่ และได้เสื้อหมายเลข 17 [29] โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด 3–0 ที่สนามศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) และมาทำประตูแรกให้สโมสรได้ในนัดต่อมาที่ออกไปเยือนสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี วันที่ 29 มิถุนายน ที่สนามศรีนครลำดวน โดยมิก้าโหม่งลูกเตะมุมให้ทีมขึ้นนำ 1–0 ก่อนจะชนะไป 3–1
มิก้ามายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีกหนึ่งประตูในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่บุกมาเอาชนะสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี 3–0 ที่สนามแพตสเตเดียม โดยในเลกที่ 2 นี้ มิก้าเป็นผู้เล่นตัวหลักที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด 18 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด เอฟเอคัพ 1 นัด) ยิงในลีกได้ 2 ประตู และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 8
สถิติ
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ทวีป | อื่นๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | ||
บรินทิเรียน แอธเลติก | 2007-2008 | เวลส์ลีก ดิวิชั่น 1 | 22 | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 22 | 3 |
นีธ แอธเลติก | 2008-2009 | เวลส์ พรีเมียร์ลีก | 5 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 5 | 0 |
อะฟาน ลิโด | 2008-2009 | เวลส์ลีก ดิวิชั่น 1 | 8 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 8 | 1 |
รวม (เวลส์) | 35 | 4 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 35 | 4 | ||
เมืองทอง ยูไนเต็ด | 2009 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 6 | 0 |
สุวรรณภูมิ-ศุลกากร | 2010 | ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | 23 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 24 | 2 |
บีอีซี เทโรศาสน | 2011 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 24 | 0 | 2 | 0 | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 32 | 0 |
บางกอก เอฟซี | 2012 | ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | 29 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 29 | 1 |
สุพรรณบุรี เอฟซี | 2013 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 17 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 18 | 1 |
2014 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 12 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 12 | 0 | |
แบงค็อก ยูไนเต็ด | 2014 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 17 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 18 | 2 |
2015 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | |
รวม (ไทย) | 129 | 6 | 4 | 0 | 7 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 140 | 6 | ||
รวมทั้งหมด | 164 | 10 |
ทีมชาติ
ในต้นปี 2015 มิก้า ชูนวลศรี ได้มีโอกาสติดทีมชาติครั้งแรกในรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 จาก "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย หลังจาก อดิศร พรหมรักษ์ ซึ่งเป็นตัววางได้รับอาการบาดเจ็บ[31]
มิก้า ลงสนามให้ทีมชาติไทยนัดแรก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2015 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 นัดที่พบกับทีมชาติฮอนดูรัส ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยลงเล่นเป็นตัวจริงและพาทีมชาติไทยชนะไป 3-1 [32]
เกียรติประวัติ
รางวัลระดับทีมชาติ
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 ปี พ.ศ. 2558:รองชนะเลิศ
ผลงาน
เมืองทอง ยูไนเต็ด
- ไทยพรีเมียร์ลีก :แชมป์ (ฤดูกาล 2009)
ผลงานอื่นๆ
- มิวสิควิดีโอเพลง "โอ๊ โอ่ โอ โอ๊ โอ่" ของวงแทตทูคัลเลอร์ featuring K'NAAN [33]
อ้างอิง
- ↑ Playing squad, Welsh Premier League
- ↑ แข้ง 19 ปีคึกลูกครึ่งไทย-เวลส์ขอทดสอบฝีเท้า
- ↑ http://mtutd.tv/HealthCare.asp?id=503 มิก้า ชูนวลศรี ขอไต่บันไดเมืองทองฯ สู่ทีมชาติไทย
- ↑ http://sport.mthai.com/football-thai/2490.html
- ↑ neathfc.com: Mika leaves for the Lido
- ↑ http://www.walesonline.co.uk/sport/other-sport/football-depleted-ton-pentre-go-2130054
- ↑ walesonline.co.uk: Mika jetting off to start a new life in Thailand
- ↑ http://mtutd.tv/HealthCare.asp?id=503
- ↑ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100409_147.html มิก้า ลาเมืองทอง.ซบนายด่านแล้ว
- ↑ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100420_152.html
- ↑ http://thaipremierleague.co.th/2015/news_detail.php?nid=00151
- ↑ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100929_232.html
- ↑ http://sport.mthai.com/football-thai/2029.html มิก้า ย้ายซบอกมังกรไฟ
- ↑ http://www.xn--c3cxbic5br4blhzd3e8acbb0a3oma7byj.com
- ↑ http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20110607/99738/เทโรปลดโค้ช!ดันพยงค์เสียบ.html
- ↑ http://www.tplshopping.com/article/16444/มิก้า%20ไม่น่ารอดเตรียมขึ้นเขียงผ่าเอ็นเข่ารักษาอาการเจ็บ
- ↑ http://www.smmonline.net/news/47294-กระทิงเหล็ก%20ทำเซอร์ไพรส์ดึง%20มิก้า%20ปิดท้ายตลาดนักเตะ.html กระทิงเหล็ก เซอร์ไพรส์ดึงมิก้าปิดท้ายตลาดนักเตะ
- ↑ http://tl.smmonline.net/news/49173.html
- ↑ http://www.smmonline.net/news/49320-กระทิงเหล็ก%20ยังไม่ฟื้นไล่เจ๊า%20สงขลา%201-1%20เก็บทีมละแต้ม.html
- ↑ http://www.smmonline.net/news/53167-โคราชคืนฟอร์มบุกเฉือนบางกอก2-1รอยเตอร์โผล่เฉย.html
- ↑ http://thaileaguesoccer.blogspot.com/2012/06/12bet-19062555.html?m=1
- ↑ http://m.goal.com/s/th/news/3188307/
- ↑ http://tl.smmonline.net/news/70255.html สุพรรณบุรี คว้าตัวมิก้า
- ↑ http://www.hugball.com/other-match-Ratchaburi-FC-vs-Suphanburi-FC-9794.html
- ↑ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/131015_252.html
- ↑ http://www.ballthaifc.com/view_news.php?id=5530&league_id=
- ↑ http://www.goal.com/th/news/4280/ฟุตบอลไทย/2014/05/15/4818282/มาโน่เสียใจโดนปลดทั้งที่ไม่แพ้บิ๊กทรี-เมินหวนงานทีมชาติ
- ↑ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/140607_250.html
- ↑ http://www.goal.com/th/news/4280/ฟุตบอลไทย/2014/06/06/4864958/BREAKING-NEWS-สุพรรณโละมิก้าซบตักบียู
- ↑ http://www.transfermarkt.com/charyl-chappuis/leistungsdaten/spieler/111417/saison//plus/1#CR2
- ↑ "เพิ่มความหล่อ! "ซิโก้" เรียก "มิกา" ลุย คิงส์ คัพ". ผู้จัดการออนไลน์. 6 January 2015. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
- ↑ http://www.thairath.co.th/content/478470
- ↑ you2play: MV เพลงโอ๊ โอ่ โอ โอ๊ โอ่ Tattoo Colour ft. K'NAAN