พระพรหมวชิราธิบดี (พีร์ สุชาโต)
(พีร์ สุชาโต) | |
---|---|
![]() | |
คำนำหน้าชื่อ | พระเดชพระคุณ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 31 ตุลาคม พ.ศ. 2473 (92 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม 5 ประโยค |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ตั้งมั่นที่ | วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร |
สถานะที่อุปสมบท | 29 มิถุนายน พ.ศ. 2493 |
การบวช | 72 พรรษา |
ตำแหน่ง | อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
พระพรหมวชิราธิบดี นามเดิม พีร์ ผ่องสุภาพ ฉายา สุชาโต เป็นพระพระราชาคณะเจ้าคณะรองฝ่ายมหานิกาย อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร[1] ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร[2] นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย[3]
ประวัติ[แก้]
พระพรหมวชิราธิบดี มีนามเดิมว่า พีร์ ผ่องสุภาพ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2473 ตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 12 ปีมะเมีย ณ หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านแค อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายคำ และนางเจริญ ผ่องสุภาพ ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
การอุปสมบท[แก้]
จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดบ้านแค ตำบลบ้านแค อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2493 โดยมีพระโพธิวงศาจารย์ (แผ้ว สุนฺทโร) เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง วัดอ่างทอง ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระวิกรมมุนี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “สุชาโต” หมายความว่า “ชาติกำเนิดที่ดีงาม”
วิทยฐานะ[แก้]
- จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราษฎร์สุธานุสรณ์ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
- สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ
- สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค สำนักเรียนวัดมหาธาตุฯ
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยแห่งประเทศอินเดีย สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
งานทางคณะสงฆ์[แก้]
- พ.ศ. 2532 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
- พ.ศ. 2534 เป็นเจ้าคณะแขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
- พ.ศ. 2535 เป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นหัวหน้าพระวินยาธิการ กรุงเทพฯ
- พ.ศ. 2541 เป็นเจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักร
- พ.ศ. 2542 เป็นเจ้าคณะเขตบางกอกน้อย
- พ.ศ. 2544 เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2547 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
- พ.ศ. 2548 เป็นอธิบดีสงฆ์(เจ้าอาวาส)วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
- พ.ศ. 2554 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
งานด้านการศึกษา[แก้]
พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สมณศักดิ์[แก้]
- พ.ศ. 2532 ได้รับแต่งตั้งจากพระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ) ให้ดำรงตำแหน่งฐานานุกรมในฐานานุศักดิ์ราชทินนาม ที่ พระครูปลัดสุวัฒนสัทธาคุณ
- พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระเมธีธรรมาจารย์[4]
- พ.ศ. 2540 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชเมธี ศรีวรกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]
- พ.ศ. 2545 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพเมธี ศรีสังฆโสภณ วิมลศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[6]
- พ.ศ. 2549 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมสุธี ศรีธรรมประสุต ประยุตกิจจานุกิจ พิศิษฏ์สังฆกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[7]
- พ.ศ. 2559 ได้รับพระราชทานโปรดสถาปนาขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฎ ที่ พระธรรมปัญญาบดี ศรีสังฆวรนายก มหาจุฬาลงกรณดิลกสุพพิธาน นายกสภาบริหารบัณฑิต ปริยัติกิจวรธาดา มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[8]
- พ.ศ. 2565 ได้รับพระราชทานราชทินนามเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฎที่ พระพรหมวชิราธิบดี ศรีสังฆวรนายก มหาจุฬาลงกรณดิลกสุพพิธาน นายกสภาบริหารบัณฑิต ปริยัติกิจวรธาดา มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี [9]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[แก้]
- 18 พฤษภาคม 2560 —
เครื่องราชอิสริยาภรณ์สหไมตรี ชั้นมหาเสนา ประเทศกัมพูชา
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "เสนอขอแต่งตั้ง พระเทพเมธี ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์" (PDF). มหาเถรสมาคม. 8 กุมภาพันธ์ 2548. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "เสนอแต่งตั้ง พระธรรมสุธี ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร" (PDF). มหาเถรสมาคม. 31 มกราคม 2554. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "พระธรรมสุธี รับพระบัญชา 'นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย'". มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 21 พฤษภาคม 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-09. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 109, ตอนที่ 155 ง ฉบับพิเศษ, 5 ธันวาคม 2535, หน้า 16
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 114, ตอนที่ 26 ข, 2 ธันวาคม 2540, หน้า 8
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 119, ตอนที่ 23 ข, 11 ธันวาคม 2545, หน้า 7
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 123, ตอนที่ 15 ข, 6 กรกฎาคม 2549, หน้า 4
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ,เล่ม 133, ตอนที่ 42 ข, 5 ธันวาคม 2559, หน้า 2
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานราชทินนามและสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 139, ตอนที่ 3 ข, 6 กรกฎาคม 2565,หน้า 1