ข้ามไปเนื้อหา

พระธรรมธีรราชมหามุนี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระธรรมธีรราชมหามุนี
ผู้ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบัน
ว่าง
ตั้งแต่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2564
การเรียกขานท่านเจ้าคุณ
จวนพระอารามหลวง หรือวัดราษฎร์
ผู้แต่งตั้งพระมหากษัตริย์ไทย
วาระตลอดชีพ หรือ ได้รับสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง
ผู้ประเดิมตำแหน่งพระธรรมธิราราชมหามุนี (ชื่น) ว่าที่พระพนรัตน
สถาปนาพ.ศ. 2325

พระธรรมธีรราชมหามุนี เป็นราชทินนามสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรมรูปหนึ่ง ปัจจุบันพระราชทานเฉพาะแก่พระภิกษุฝ่ายมหานิกาย มีพัดยศเฉพาะแถบสีดำ

ประวัติ

[แก้]

ในทำเนียบ "ตำแหน่งพระราชาคณะในกรุงนอกกรุง ครั้งกรุงเก่า" ปรากฏชื่อพระครูสุธรรมธิราราชมหามุนี เป็นพระครูเจ้าคณะเมืองระยอง ขึ้นกับในคณะคามวาสีฝ่ายขวา[1] ถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้ลดสมณศักดิ์สมเด็จพระสังฆราช (ชื่น) ลงเป็นพระธรรมธิราราชมหามุนีว่าที่พระพนรัตน

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พระจัน ที่เพิ่งถูกถอดจากสมณศักดิ์พระเทพโมลี กลับเป็นพระราชาคณะเสมอชั้นเทพที่พระธรรมธีระราชมหามุนี[2] ถึง พ.ศ. 2495 พระเทพเมธี (ธีร์ ปุณฺณโก) จึงได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมธีรราชมหามุนีเป็นรูปแรก

ในบรรดาพระสงฆ์ทั้งหมดที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์นี้ พระสงฆ์รูปที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ.9) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระรูปแรกของสำนักวิปัสสนากรรมฐาน วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยท่านได้นำวิธีการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน พองหนอ-ยุบหนอ จากการเดินทางไปศึกษาดูงานและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ ประเทศพม่า มาสอนในสำนักวิปัสสนากรรมฐานของวัดมหาธาตุฯ จนทำให้มีผู้ที่สนใจฝึกปฏิบัติเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ท่านยังเป็นพระอาจารย์ถวายการสอนวิปัสสนากรรมฐานแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระวิปัสสนาจารย์ผู้เลื่องชื่อในด้านวิชชาธรรมกาย เมื่อปี พ.ศ. 2498 ซึ่งทั้งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และหลวงพ่อสด ได้รับผลจากการปฏิบัติเป็นที่น่าพอพระทัยและน่าพอใจ โดยเฉพาะหลวงพ่อสด ท่านได้มอบภาพถ่ายของท่านให้กับสำนักวิปัสสนากรรมฐาน วัดมหาธาตุฯ พร้อมกับเขียนรับรองผลการปฏิบัติใต้ภาพถ่าย โดยระบุว่า การปฏิบัติแบบนี้ ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฏฐานสูตรทุกประการ แต่เป็นที่น่าเสียดายและเศร้าสลดใจยิ่งนัก เนื่องจากพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ.9) หลังจากได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เพียงแค่ 6 เดือน ก็ได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2531 นับเป็นพระสงฆ์ที่ดำรงสมณศักดิ์นี้สั้นที่สุด

รายนาม

[แก้]

นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีพระเถระได้รับสมณศักดิ์ที่พระธรรมธีรราชมหามุนีรวมทั้งสิ้น 8 รูป ดังนี้

ลำดับที่รายนามวัดดำรงสมณศักดิ์สังกัดคณะสงฆ์สมณศักดิ์สุดท้าย
1พระธรรมธิราราชมหามุนี (ชื่น) ว่าที่พระพนรัตนวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารพ.ศ. 2325–2330มหานิกายพระธรรมไตรโลก
2พระธรรมธีระราชมหามุนี (จันทร์ สิริจนฺโท)วัดบรมนิวาสราชวรวิหารพ.ศ. 2459–2466ธรรมยุติกนิกายพระอุบาลีคุณูปมาจารย์
3พระธรรมธีรราชมหามุนี (ธีร์ ปุณฺณโก)วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหารพ.ศ. 2495–2506มหานิกายสมเด็จพระธีรญาณมุนี
4พระธรรมธีรราชมหามุนี (ช่วง วรปุญฺโญ)วัดปากน้ำ ภาษีเจริญพ.ศ. 2516–2530มหานิกายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
5พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารพ.ศ. 2530–2531มหานิกายดำรงสมณศักดิ์จนกระทั่งมรณภาพ
6พระธรรมธีรราชมหามุนี (วิลาศ ญาณวโร)วัดยานนาวาพ.ศ. 2532–2537มหานิกายพระพรหมโมลี
7พระธรรมธีรราชมหามุนี (วิเชียร อโนมคุโณ)วัดปากน้ำ ภาษีเจริญพ.ศ. 2541–2549มหานิกายพระวิสุทธิวงศาจารย์
8พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม)วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารพ.ศ. 2551–2564มหานิกายดำรงสมณศักดิ์จนกระทั่งมรณภาพ

อ้างอิง

[แก้]
  1. สมมอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 428 หน้า. หน้า 291. ISBN 974-417-530-3
  2. เรื่องเดียวกัน, หน้า 244