ข้ามไปเนื้อหา

คุกลับ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ค่ายกักกันกัวตานาโมของสหรัฐ ในคิวบาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคุกลับอีกแห่งของสหรัฐ

คุกลับ[1] (อังกฤษ: Black site) เป็นศูนย์กักกันลับที่ดำเนินการโดยรัฐ โดยนักโทษซึ่งไม่เคยถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมจะถูกจำคุกโดยไม่ได้รับกระบวนการยุติธรรมหรือคำสั่งศาล มักถูกปฏิบัติอย่างทารุณกรรมและถูกสังหาร โดยไม่มีสิทธิ์ในการประกันตัว[2][3][4]

อาร์เจนตินา[แก้]

ศูนย์กักขังลับหลายแห่งเปิดดำเนินการในอาร์เจนตินาระหว่างการปกครองแบบเผด็จการทหาร ซึ่งปกครองประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ถึง 2526 นักโทษหลายคน "หายตัวไป" ถูกทรมานและสังหาร รวมถึงสตรีมีครรภ์ที่ถูกฆ่าหลังคลอดและให้ทารกแก่ครอบครัวทหาร[5]

จีน[แก้]

คุกลับแพร่หลายในประเทศจีน และคุกลับของจีนถูกกล่าวหาว่ามีตั้งอยู่ในดูไบโดยอดีตผู้ถูกคุมขัง[3] คุกลับในจีนมีอีกชื่อหนึ่งว่า "คุกดำ" (black jail)[6]

อียิปต์[แก้]

คุกลับถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยหน่วยรักษาความปลอดภัยอียิปต์ ในช่วงวิกฤตการณ์อียิปต์ (พ.ศ. 2554-2557) ผู้ประท้วงหลายร้อยคนกล่าวหาว่ามีการทรมานในคุกลับเหล่านี้ หน่วยรักษาความปลอดภัยอียิปต์ยังดำเนินการคุกลับที่เกี่ยวข้องกับโครงการคุกลับเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายของซีไอเอ[7]

อิหร่าน[แก้]

กลุ่มสิทธิได้บันทึกการละเมิดในศูนย์กักกันลับ แหล่งข่าวที่ซีเอ็นเอ็นอ้างถึงตั้งข้อสังเกตในปี พ.ศ. 2566 ว่าการทรมานในคุกลับดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในระหว่างการประท้วงกรณีแมฮ์ซอ แอมีนี[8]

อิสราเอล[แก้]

ในช่วงสงครามอิสราเอล-ฮามาส มีรายงานว่าผู้ต้องขังชาวกาซานถูกส่งตัวจากฉนวนกาซาไปยังสเดเตมาน ซึ่งเป็นฐานทัพทหารที่ใช้เป็นคุกลับ มีการรายงานความรุนแรง การละเมิด และในบางกรณีมีผู้เสียชีวิต[9]

รัสเซีย[แก้]

ในเชชเนีย ชายเกย์อ้างว่าถูกทรมานในคุกลับโดยกองกำลังความมั่นคงเชเชน[10] เกย์ในพื้นที่อื่น ๆ ของรัสเซียถูกลักพาตัวและถูกส่งตัวไปยังสถานที่ในเชชเนีย ซึ่งมีผู้ถูกทรมานมากกว่า 100 ราย และบางส่วนเสียชีวิต[11] เจ้าหน้าที่ชาวเชเชนได้ขัดขวางความพยายามของเครือข่ายแอลจีบีทีรัสเซียในการช่วยชาวเกย์ในเชชเนียหลบหนีไปยังสถานที่ปลอดภัยในรัสเซีย และขัดขวางการสืบสวนของทัตยานา มอสคัลโควา กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเครมลิน แม้จะมีการประท้วงในเมืองใหญ่ ๆ ของรัสเซียเพื่อต่อต้านสถานการณ์ในเชชเนีย แต่วลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับคาดีรอฟ ก็ได้ปฏิเสธว่ามีการใช้การละเมิดกลุ่มรักร่วมเพศในเชชเนีย เชชเนียถือเป็นพื้นที่ที่มีการเกลียดชังกลุ่มรักร่วมเพศมากที่สุดในรัสเซีย โดยประชากร 95% นับถือศาสนาอิสลามนิกายออร์โธดอกซ์ (สุหนี่) ยังคงเป็นเขตเดียวของรัสเซียที่การรักร่วมเพศเป็นสิ่งผิดกฎหมายและมีโทษจำคุก[12][13]

สหรัฐ[แก้]

รัฐบาลสหรัฐใช้คุกลับที่ควบคุมโดยซีไอเอในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อกักขังนักรบของศัตรู[4] ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐยอมรับการมีอยู่ของเรือนจำลับที่ดำเนินการโดยซีไอเอในระหว่างการปราศรัยเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2549 คำกล่าวอ้างว่ามีคุกลับเกิดขึ้นโดย เดอะวอชิงตันโพสต์ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548 และก่อนหน้านี้โดยองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน[14]

รายงานของสหภาพยุโรป (EU) ที่รับรองเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 โดยเสียงข้างมากของรัฐสภายุโรป (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 382 คนลงคะแนนเห็นชอบ 256 คนคัดค้าน และงดออกเสียง 74 คน) ระบุว่าซีไอเอดำเนินการเที่ยวบิน 1,245 เที่ยว และไม่สามารถโต้แย้งหลักฐานหรือ ข้อเสนอแนะว่าศูนย์กักขังลับที่นักโทษถูกทรมานนั้นดำเนินการในโปแลนด์และโรมาเนีย[4][15] หลังจากปฏิเสธข้อเท็จจริงนี้มานานหลายปี โปแลนด์ก็ยืนยันในปี พ.ศ. 2557 ว่าได้เป็นเจ้าของพื้นที่คุกลับดังกล่าว[16]

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 สำนักงานอัยการสูงสุดของโปแลนด์ได้เริ่มดำเนินคดีสืบสวนสอบสวนซบิกเนียว เซียเมียทโคว์สกี้ อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของโปแลนด์ เซียเมียทโคว์สกี้ถูกตั้งข้อหาอำนวยความสะดวกในการดำเนินการกักขังของซีไอเอที่ถูกกล่าวหาว่าตั้งอยู่ในโปแลนด์ ซึ่งผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติอาจถูกทรมานในบริบทของสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งเป็นไปได้ว่า เลสเซ็ค มิลเลอร์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ระหว่างปี พ.ศ. 2544 ถึง พ.ศ. 2547 ก็อาจจะมีส่วนร่วมและรับรู้ด้วย[17][18]

เรื่องราวของ United Press International ในปี พ.ศ. 2565 อ้างถึงอดีตประธานาธิบดีโปแลนด์ อาแล็กซันแดร์ กฟัชแญฟสกี โดยยอมรับในปี พ.ศ. 2557 ว่าประเทศของเขาได้จัดเตรียม "สถานที่เงียบสงบ" ให้ซีไอเอดำเนินการคุกลับเพื่อทรมานผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์ 9/11[19]

ในประเทศไทยมีการกล่าวหาว่าเคยมีคุกลับของซีไอเอตั้งอยู่ในพื้นที่ของรัฐบาลไทยที่เคยให้กองทัพสหรัฐใช้งานในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเกี่ยวข้องกับจีนา แฮสเปล ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการคุกลับในไทย[1]ที่มีชื่อว่า สถานกักกันเขียว (Detention Site Green) จากการเปิดเผยของคณะกรรมาธิการวิสามัญด้านข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐ (SSCI) ซึ่งคาดว่าอยู่ในฐานทัพหลักของสหรัฐในอดีตในจังหวัดอุดรธานี[20] แต่ไม่ระบุชัดเจน เช่น ฐานบินอุดรธานี[20] ค่ายรามสูร[21]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "จับโป๊ะโฆษกทูตอเมริกา ปากบอกไม่เคยแทรกแซง แต่มีคุกลับ CIA ในไทย". mgronline.com. 2023-06-04.
  2. "black site". Collins English Dictionary.
  3. 3.0 3.1 "Detainee says China has secret jail in Dubai, holds Uyghurs". Taiwan News. Associated Press. August 16, 2021.
  4. 4.0 4.1 4.2 "EU endorses damning report on CIA". BBC News. February 14, 2007.
  5. Tondo, Lorenzo; Basso, Elena; Jones, Sam (16 January 2023). "Adopted by their parents' enemies: tracing the stolen children of Argentina's 'dirty war'". The Guardian.
  6. LANGFITT, FRANK. "For Complainers, A Stint In China's 'Black Jails'". NPR.org. NPR. สืบค้นเมื่อ 16 August 2021.
  7. Rosenfeld, Jesse (June 19, 2014). "Egypt's Black Site Torture Camps". The Daily Beast. สืบค้นเมื่อ 16 August 2021.
  8. "How Iran used a network of secret torture centers to crush an uprising". www.cnn.com. 2023. สืบค้นเมื่อ 20 March 2023.
  9. http://archive.today/newest/https://www.nytimes.com/2024/06/06/world/middleeast/israel-gaza-detention-base.html. {{cite news}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  10. Krupkin, Taly. "Gay Men in Chechnya Tell of Black Sites Where They're Tortured, Some to Death". Haaretz. สืบค้นเมื่อ 16 August 2021.
  11. "Chechen police 'kidnap and torture gay men' - LGBT activists". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2017-04-11. สืบค้นเมื่อ 2022-02-06.
  12. De Bruyn, Piet (8 June 2018). "Persecution of LGBTI people in the Chechen Republic (Russian Federation)" (PDF). Doc. 14572 Report. Council of Europe (Committee on Equality and Non-Discrimination). 1: 15 – โดยทาง ECOI.
  13. "Russia: New Anti-Gay Crackdown in Chechnya". Human Rights Watch (ภาษาอังกฤษ). 2019-05-08. สืบค้นเมื่อ 2022-02-06.
  14. Priest, Dana (2005-11-02). "CIA Holds Terror Suspects in Secret Prisons". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 2007-02-19.
  15. Key excerpts of the February 2007 report adopted by the European Parliament
  16. Williams, Carol (2015-05-10). "Poland feels sting of betrayal over CIA 'black site'". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-01-16.
  17. Matthew Day (2012-03-27). "Poland ex-spy boss 'charged over alleged CIA secret prison'". The Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 12, 2022. สืบค้นเมื่อ 2012-03-28.
  18. Joanna Berendt, Nicholas Kulish (2012-03-27). "Polish Ex-Official Charged With Aiding the C.I.A." The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2012-03-28.
  19. "Supreme Court rejects Guantánamo prisoner's request to interview torturers". www.upi.com. United Press International. March 3, 2022. สืบค้นเมื่อ 2 February 2022.
  20. 20.0 20.1 "คุกลับสหรัฐฯ ในไทย : อดีตซีไอเอหญิง กับฉายา "ราชินีแห่งการซ้อมทรมาน"". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2024-06-12.
  21. "คุกลับกับ "ค่ายรามสูร"". bangkokbiznews. 2014-12-12.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

  • วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Black sites