ผู้ใช้:JohnnyRayder/ทดลองเขียน/ประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมือง
ส่วนหนึ่งของชุดการเมือง |
การเมือง |
---|
สถานีย่อยการเมือง |
ประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมือง (อังกฤษ: History of political thought) เป็นสาขาวิชาหนึ่งที่มีลักษณะเป็นสหวิทยาการ ซึ่งอธิบายถึงลำดับเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญตามระเบียบวิธีของความคิดทางการเมืองของมนุษย์ การศึกษาประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมืองถือเป็นจุดตัดของสาขาวิชาต่าง ๆ เช่น สาขาวิชากฎหมาย ปรัชญา ประวัติศาสตร์ และรัฐศาสตร์[1]
ประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมืองแบบตะวันตกจำนวนมาก มีรากฐานมาจากองค์ความรู้ของนักปรัชญาในสมัยกรีซโบราณ (โดยเฉพาะแนวคิด ประชาธิปไตยแบบเอเธนส์ และ ปรัชญากรีกโบราณ) ตัวอย่างเช่น โสกราตีส เพลโต และ อาริสโตเติล ที่ต่างก็ได้รับการยกย่องว่ามีคุณูปการสำคัญต่อสาขาวิชาประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมือง[2][3][4][5]
หากเปรียบเทียบกันแล้ว ประวัติศาสตร์ความคิด และ วัฒนธรรมทางการเมือง ที่ไม่ใช่แบบตะวันตกมักจะไม่ค่อยถูกนำเสนอในผลงานวิจัยทางวิชาการเสียสักเท่าไหร่[6] ประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมืองที่ไม่ใช่แบบตะวันตกแต่มีความโดดเด่น ก็เช่น อารยธรรมจีนโบราณ (โดยเฉพาะปรัชญาจีนยุคแรก)[7] และใน อารยธรรมอินเดียโบราณ (อย่างคัมภีร์อรรถศาสตร์ที่เป็นตัวแทนของพระคัมภีร์ในยุคแรก ๆ อธิบายถึงโครงสร้างทางการเมืองและหลักการปกครอง)[8] สำนักความคิดทางการเมืองที่มิใช่แบบตะวันตกที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่ง คือ ปรัชญาการเมืองอิสลาม[9] ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 หลังจากที่มีการแพร่กระจายของศาสนาอิสลาม
การศึกษาประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมืองได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวารสารทางวิชาการร่วมสมัย[10] และได้รับการต่อยอดจากโครงการของมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลกเป็นจำนวนมาก[11][12]
ความคิดทางการเมืองสมัยใหม่[แก้]
สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา[แก้]
ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ปรัชญาการเมืองแบบ รัฐฆราวาส เริ่มปรากฏขึ้นในยุโรปประมาณหนึ่งศตวรรษหลังจากการเกิดขึ้นของความคิดทางการเมืองแบบเทววิทยา แนวความคิดแบบสมัยกลางเริ่มหดตัวถอยหลัง และเข้าสู่สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยเริ่มต้นในภูมิภาคที่เป็นประเทศอิตาลีในสมัยปัจจุบันเป็นแห่งแรก หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันในคริสตศตวรรษที่ 6 มีการเกิดชนชั้นกลาง พลเมืองหรือประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการให้คุณค่าและความสำคัญต่อกิจกรรมทางสังคมหรือในทางศิลปวิทยาการ กลุ่มปัญญาชนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจในการศึกษาภาษา วรรณคดี ศิลปะ และ วัฒนธรรมแบบกรีก-โรมัน การตื่นตัวทางองค์ความรู้และภูมิปัญญาเหล่านี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดทางการเมืองสมัยใหม่ในเวลาต่อมา
ผลงานที่ทรงอิทธิพลที่สุดชิ้นหนึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว คือ งานของ นิกโกเลาะ มาเกียเวลลี ชื่อว่า เจ้าผู้ปกครอง (Il Principe) ได้รับการประพันธ์ขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1511 จนถึงปี ค.ศ. 1512 และได้รับการตีพิมพ์หลังจากการเสียชีวิตของเจ้าตัว ในปี ค.ศ. 1532 พร้อมกับผลงานที่ชื่อว่า วาทกรรม (The Discourses) งานประพันธ์ของมาเกียเวลลีเป็นการวิเคราะห์ผ่านมุมมองแบบสมัยคลาสสิก ผลงานของมาเกียเวลลีมีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดทางการเมืองสมัยใหม่ในโลกตะวันตก ปัญญาชนกลุ่มหนึ่ง (รวมถึง ฌ็อง-ฌัก รูโซ) ได้ตีความเนื้อหาของ เจ้าผู้ปกครอง ไว้ว่าเป็น งานประพันธ์แนวเสียดสี ซึ่งหมายถึงการล้อเลียนตระกูลเมดิชีหลังจากการยึดฟลอเรนซ์คืน และขับไล่ตระกูลมาเกียเวลลีออกจากฟลอเรนซ์ในเวลาต่อมา[13] แม้ว่าผลงานชิ้นนี้จะเขียนขึ้นเพื่ออุทิศให้กับตระกูลเมดิซี โดยคาดหวังว่าพวกเขาจะอภัยโทษให้กับมาเกียเวลลีหลังจากการถูกเนรเทศ แต่ถึงอย่างไรมาเกียเวลลีก็ยังสนับสนุนฝ่ายนิยมสาธารณรัฐฟลอเรนซ์มากกว่าอำนาจคณาธิปไตยของตระกูลเมดีชีอยู่ดี อย่างไรก็ตามมาเกียเวลลีได้นำเสนอมุมมองทางการเมืองเชิงปฏิบัติและค่อนข้างเป็นผลสืบเนื่อง โดยแบ่งแยกความดีและความชั่วไว้สำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจทางการเมืองแต่เพียงเท่านั้น โทมัส ฮอบส์ ก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในยุคนี้ผ่านการนำเสนอทฤษฎีสัญญาประชาคมในมุมมองของตน ฮอบส์ได้ขยายความมุมมองนี้เพิ่มเติมไว้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ระหว่างสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอังกฤษ
จอห์น ล็อก ได้นำเสนอทฤษฎีการเมืองยุคใหม่นี้ไว้ในผลงานของเขาที่ชื่อว่า ความเรียงที่สองว่าด้วยการปกครอง (Two Treatises of Government) ในหนังสือเล่มดังกล่าวล็อกได้เสนอทฤษฎีที่เรียกว่า สภาพธรรมชาติ ทฤษฎีดังกล่าวสนับสนุนต่อแนวความคิดของเขาโดยตรงว่าพัฒนาทางการเมืองเกิดขึ้นและได้รับการจัดตั้งขึ้นมาได้ด้วยวิธีใดผ่านหลักสัญญาประชาคม ล็อกยืนยันต่อทฤษฎีนี้เพื่อหักล้างทฤษฎีการเมืองที่ เซอร์ โรเบิร์ต ฟิล์มเมอร์ เคยนำเสนอไว้ โดยสนับสนุนระบบธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของธรรมชาติภายใต้ระบบที่ถูกกำหนดขึ้นโดยเฉพาะ
การปฏิวัติอุตสาหกรรม[แก้]
การเกิดขึ้นของ การปฏิวัติอุตสาหกรรม มีอิทธิพลสำคัญต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก คาร์ล มากซ์ และ ฟรีดริช เอ็งเงิลส์ เป็นนักทฤษฎีกลุ่มแรก ๆ ที่สมาทานแนวคิดแบบสังคมนิยม และ ลัทธิคอมมิวนิสต์ แนวคิดของพวกเขาได้รับการต่อยอดโดย วลาดิมีร์ เลนิน ไปเป็น ลัทธิเลนิน จนกระทั่งหลังจากการเถลิงขึ้นสู่อำนาจของ โจเซฟ สตาลิน แนวคิดเหล่านี้ก็ได้รับการพัฒนาและรวบยอดไปเป็น ลัทธิมากซ์–เลนิน ที่จะเป็นแม่แบบให้กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติของ สหภาพโซเวียต และ กลุ่มประเทศตะวันออก ในสมัยสงครามเย็น นอกจากนี้ความคิดทางการเมืองรูปแบบดังกล่าวยังเป็นสารตั้งต้นที่จะได้รับการต่อยอดไปเป็น ลัทธิเหมา แนวคิดโฮจิมินห์ ลัทธิฮอจา และ ลัทธิตีโต ในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ผลพวงจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิด ลัทธิอาณานิคม กับ จักรวรรดินิยม ส่งผลให้เกิดอุดมการณ์ที่มีแนวคิดแบบต่อต้านจักรวรรดินิยม ขึ้นตามมา ได้แก่ ลัทธิคานธี และ ลัทธินัสเซอร์
ดูเพิ่ม[แก้]
- เทวสิทธิราชย์
- ประวัติศาสตร์ความคิดทางเศรษฐกิจ
- ประวัติศาสตร์ทางความคิด
- ประวัติศาสตร์รัฐศาสตร์
- ประวัติศาสตร์สตรีนิยม
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Schröder, Peter; และคณะ (2012). "Forum: History of Political Thought". German History. 30 (1): 75–99. doi:10.1093/gerhis/ghr126.
- ↑ Sabine, George H.; Thorson, T. L. (1937). A History of Political Theory (3rd ed.). Thomson Learning. ISBN 9780039102838.
- ↑ Klosko, George (2011). Klosko, George (บ.ก.). The Oxford Handbook of the History of Political Philosophy (ภาษาอังกฤษ). Oxford University Press. doi:10.1093/oxfordhb/9780199238804.003.0051.
- ↑ McClelland, J. S. (1996). A History of Western Political Thought. Routledge. ISBN 0203980743.
- ↑ Shefali, Jha (2018). Western Political Thought: From The Ancient Greeks to Modern Times (2nd ed.). Pearson Education. ISBN 978-93-528-6934-3.
- ↑ Whatmore, Richard (2021). The History of Political Thought: A Very Short Introduction. Oxford University Press. ISBN 9780192595355.
- ↑ Dunstan, Helen (2004). "Premodern Chinese Political Thought". ใน Gaus, Gerald F. (บ.ก.). Handbook of Political Theory. Sage Publications. pp. 320–337. ISBN 0761967877.
- ↑ Kulke, Hermann (1986). A History of India. Routledge. ISBN 0203751698.
- ↑ Bowering, Gerhard; และคณะ, บ.ก. (2013). "Introduction". The Princeton Encyclopedia of Islamic Political Thought. Princeton University Press. ISBN 9780691134840.
- ↑ "History of Political Thought on JSTOR". www.jstor.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-09-29.
- ↑ "History of Political Thought Project" (ภาษาอังกฤษ). Princeton University. สืบค้นเมื่อ 2022-09-29.
- ↑ "MA in the History of Political Thought and Intellectual History" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Queen Mary University of London. สืบค้นเมื่อ 2022-09-29.
- ↑ Johnston, Ian (February 2002). "Lecture on Machiavelli's The Prince". Malaspina University College. สืบค้นเมื่อ 2007-02-20.
อ่านเพิ่ม[แก้]
- คอลลินส์, เจคอบ. จุดเปลี่ยนทางมานุษยวิทยา: ความคิดทางการเมืองของฝรั่งเศสหลังปี ค.ศ. 1968 (สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย, 2020) บทวิจารณ์หนังสือออนไลน์
- เฟียลา, แอนดรูว์, บ.ก. คู่มือบลูมส์บิวรีว่าด้วยปรัชญาการเมือง (2015)
- คลอสโก, จอร์จ, บ.ก. คู่มืออ็อกซ์ฟอร์ดว่าด้วยประวัติศาสตร์ปรัชญาการเมือง (2012)
- กอรับ-การ์ปอวิช, ดับบลิว. จูเลียน. ในประวัติศาสตร์ปรัชญาการเมือง: นักคิดทางการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ทิวซิดิดีสจนถึงล็อก (เราท์เลดจ์, 2015)
- มาแทรเวอร์ส, เดเร็ค, โจนาธาน ไพค์, และ ไนเกิล วอร์บูตัน, บ.ก. การอ่านปรัชญาการเมือง: ตั้งแต่มาเกียเวลลีจนถึงมิลล์ (2000) บทความโดยผู้เชี่ยวชาญ
- ไรอัน, อลัน. ว่าด้วยการเมือง ประวัติศาสตร์บทใหม่ของปรัชญาการเมือง (เล่มที่ 2, 2012), หน้าที่ 1152, เฮโรโดทัสจนถึงปัจจุบัน
- สกินเนอร์, เควนติน. รากฐานของความคิดทางการเมืองสมัยใหม่ (เล่มที่ 2, 1978)
- สเตราส์, ลีโอ, และ โจเซฟ คร็อปซีย์, บ.ก. ประวัติปรัชญาการเมือง (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชิคาโก, 2012 พิมพ์ซ้ำ)
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- ประวัติศาสตร์ความคิดทางการเมือง โปสเตอร์พร้อมภาพรวมภาพ