ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์"
BoatThithat (คุย | ส่วนร่วม) ปรับเปลี่ยนเนื้อหา และอัพเดตเนื้อหา |
BoatThithat (คุย | ส่วนร่วม) ล เพิ่ม B20 จากข้อมูลที่หายไปก่อนหน้านั้น |
||
บรรทัด 113: | บรรทัด 113: | ||
{| class="wikitable" |
{| class="wikitable" |
||
|+ |
|+ |
||
! colspan=" |
! colspan="6" |เบนซิน |
||
|- |
|- |
||
!รหัสเครื่องยนต์ |
!รหัสเครื่องยนต์ |
||
บรรทัด 119: | บรรทัด 119: | ||
!พละกำลัง |
!พละกำลัง |
||
!แรงบิด |
!แรงบิด |
||
!รองรับ B20 |
|||
!หมายเหตุ |
!หมายเหตุ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัด 125: | บรรทัด 126: | ||
|160 แรงม้า |
|160 แรงม้า |
||
|246 นิวตันเมตร |
|246 นิวตันเมตร |
||
|{{No}} |
|||
|เลิกจำหน่ายในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 |
|เลิกจำหน่ายในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 |
||
|- |
|- |
||
บรรทัด 131: | บรรทัด 133: | ||
|236 แรงม้า |
|236 แรงม้า |
||
|377 นิวตัวเมตร |
|377 นิวตัวเมตร |
||
|{{No}} |
|||
|จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
|จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
||
|- |
|- |
||
! colspan=" |
! colspan="6" |ดีเซล |
||
|- |
|- |
||
!รหัสเครื่องยนต์ |
!รหัสเครื่องยนต์ |
||
บรรทัด 139: | บรรทัด 142: | ||
!พละกำลัง |
!พละกำลัง |
||
!แรงบิด |
!แรงบิด |
||
!รองรับ B20 |
|||
!หมายเหตุ |
!หมายเหตุ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัด 146: | บรรทัด 150: | ||
|420 นิวตันเมตร (เกียร์ธรรมดา) |
|420 นิวตันเมตร (เกียร์ธรรมดา) |
||
450 นิวตันเมตร (เกียร์อัตโนมัติ) |
450 นิวตันเมตร (เกียร์อัตโนมัติ) |
||
|{{Yes}} |
|||
|เกียร์ธรรมดา เลิกจำหน่ายในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 |
|เกียร์ธรรมดา เลิกจำหน่ายในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 |
||
|- |
|- |
||
บรรทัด 153: | บรรทัด 158: | ||
|343 นิวตันเมตร (เกียร์ธรรมดา) |
|343 นิวตันเมตร (เกียร์ธรรมดา) |
||
400 นิวตันเมตร (เกียร์อัตโนมัติ) |
400 นิวตันเมตร (เกียร์อัตโนมัติ) |
||
|{{Yes}} |
|||
|เกียร์ธรรมดา จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
|เกียร์ธรรมดา จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัด 159: | บรรทัด 165: | ||
|163 แรงม้า |
|163 แรงม้า |
||
|360 นิวตันเมตร |
|360 นิวตันเมตร |
||
|{{Partial|ได้ แต่มีข้อกำหนด|align=|style=|color=}} |
|||
|จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
|จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัด 165: | บรรทัด 172: | ||
|95 แรงม้า |
|95 แรงม้า |
||
|197 นิวตันเมตร |
|197 นิวตันเมตร |
||
|{{No}} |
|||
|จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
|จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
||
|} |
|}<br /> |
||
=== รุ่นย่อย === |
=== รุ่นย่อย === |
||
สำหรับ All New Fortuner ในปัจจุบัน ที่ขายในประเทศไทย มีรุ่นย่อยดังนี้ |
สำหรับ All New Fortuner ในปัจจุบัน ที่ขายในประเทศไทย มีรุ่นย่อยดังนี้ |
||
บรรทัด 262: | บรรทัด 269: | ||
|- |
|- |
||
|พ.ศ. 2562 |
|พ.ศ. 2562 |
||
| - ปรับรุ่น 2.4G เป็นเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเพิ่มกล้องมองหลัง จอภาพ 7 นิ้ว และไฟตัดหมอก LED |
| - ปรับรุ่น 2.4G เป็นเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเพิ่มกล้องมองหลัง จอภาพ 7 นิ้ว และไฟตัดหมอก LED |
||
- ประกาศรองรับ Biodiesel B20 ในรถ Fortuner รุ่นปี พ.ศ. 2554 ขึ้นไป |
|||
- นำรุ่น 2.7V 2WD ออกจากตลาด |
- นำรุ่น 2.7V 2WD ออกจากตลาด |
||
|} |
|} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:04, 14 มีนาคม 2563
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ (อังกฤษ: Toyota Fortuner) เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดกลาง (Mid-size SUV) ของโตโยต้า โดยเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 ในประเทศไทย ซึ่งใช้โครงสร้างเดียวกันกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ หรือ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่และโตโยต้า อินโนวาในปัจจุบัน
ฟอร์จูนเนอร์เป็นรถรุ่นที่ใกล้เคียงกับ อีซูซุ มิว-เซเว่น, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีที่ใช้โครงสร้างเดียวกันกับรถกระบะ (อีซูซุ ดีแมคซ์, มิตซูบิชิ ไทรทัน และ ฟอร์ด เรนเจอร์ ตามลำดับ) หรือ พีพีวี เช่นเดียวกัน นอกจากนี้รถรุ่นนี้ยังเป็นคู่แข่งขันทางการค้ากับรถเอสยูวีรุ่นอื่น ที่ไม่เข้าข่ายพีพีวี แต่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน เช่น ฮอนด้า ซีอาร์วี, เชฟโรเลต แคปติวา,นิสสัน เอ็กซ์ เทรลเป็นต้น อีกด้วย ในบางประเทศขายในชื่อ Toyota SW4 ซึ่งไม่มีขายในญี่ปุ่น อเมริกาและยุโรป แต่เน้นขายในอาเซียนเป็นหลัก
รุ่นที่ 1 รหัส AN50/AN60 (พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2558)
ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ได้เปิดตัวพร้อมกับโตโยต้า อินโนวา ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” โดยในขณะนั้นโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์มีรูปทรงที่สวยกว่าคู่แข่ง ประกอบกับเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดในเวลานั้นทำให้ตั้งแต่เปิดตัวโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ นั้นกลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดของรถประเภทเดียวกันในเวลานั้น
เครื่องยนต์ในฟอร์จูนเนอร์ รุ่นที่ 1
เบนซิน | ||||
---|---|---|---|---|
รหัสเครื่องยนต์ | ชนิดเครื่องยนต์ | พละกำลัง | แรงบิด | หมายเหตุ |
2TR-FE | 2.7 ลิตร 4 สูบแถวเรียง พร้อม VVT-i | 160 แรงม้า | 246 นิวตันเมตร | |
1GR-FE | 4 ลิตร 6 สูบตัว V | 236 แรงม้า | 377 นิวตัวเมตร | จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
ดีเซล | ||||
รหัสเครื่องยนต์ | ชนิดเครื่องยนต์ | พละกำลัง | แรงบิด | หมายเหตุ |
1KD-FTV VNT | 3.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง VN Turbo | 163 แรงม้า | 360 นิวตันเมตร | จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
2KD-FTV VNT | 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง VN Turbo | 144 แรงม้า | 343 นิวตันเมตร | มาในปลายปี พ.ศ. 2552 |
2KD-FTV | 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง Turbo | 102 แรงม้า | 260 นิวตันเมตร | เลิกจำหน่ายปลายปี พ.ศ. 2552 |
5L-E | 3.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง | 95 แรงม้า | 197 นิวตันเมตร | จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
ประวัติการเปลี่ยนแปลง
ก่อนปรับโฉม
เดือน มี.ค. 2548 เพิ่มรุ่นพิเศษ Exclustive มาพร้อมกับสีขาวมุก
ต่อมาในเดือน ส.ค. 2549 ชึ่งเป็นระยะ 2 ปีเต็มของการปรับอุปกรณ์ใหม่ เช่น หัวเกียร์หุ้มหนัง/แผงบังแดดกำมะหยื่/ระบบฟองอากาศในช่องแอร์/ที่วางแก้วด้านผู้โดยสารตอนหลัง (ในรุ่น V)
กลางเดือน มี.ค. 2550 เพิ่มรุ่นพิเศษ Smart มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ต (เดียวกับ TRD)
ปลายเดือน ก.ย. 2550 มีการเปลื่ยนแปลงของรุ่น 2.7 V จากรุ่น 4WD เป็น 2WD เพื่อขายในโมเดลใหม่ในงาน Motor Expo 2007
ปรับโฉมครั้งที่ 1
ในวันที่ 5 สิงหาคม 2551 ได้มีการปรับโฉมบางส่วน (ไมเนอร์เชนจ์) ครั้งแรกปรับปรุงภายนอกใหม่ โดยภายนอกได้เปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ พร้อมกับไฟหน้าใหม่เป็นโปรเจกต์เตอร์ การออกแบบไฟท้ายใหม่ ล้อแมกลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว มีระบบ VSC และ TRC เปลี่ยนจานเบรกให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มระบบเสริมแรงเบรก BA, มีเครื่องเล่นดีวีดีพร้อมเนวิเกเตอร์ให้เลือก และเพิ่มรุ่นดีเซลขับเคลื่อน 2 ล้อ
ต่อมาในเดือน เม.ย. 2552 เพิ่มรุ่นพิเศษ TRD Sportivo และ Activo
ปลายเดือน ต.ค. 2552 ได้ปรับลุคใหม่ในรุ่น TRD Sportivo และ Activo เช่นสเกิรต์ตกแต่งสปอร์ต และ ล้อรมดำ รวมถึงรุ่น 2.5 G 2WD จากรุ่น 3.0 G 4WD
ปลายเดือน พ.ย. 2553 ปรับลุคอีกครั้งในรุ่น TRD Sportivo เช่น ระบบนำทางอัฉริยะ และชุดแต่งภายนอกให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น
ปรับโฉมครั้งที่ 2
ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปรับโฉมครั้งใหญ่ (บิ๊ก ไมเนอร์เชนจ์) พร้อมกับการเปิดตัวโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ โดยภายนอกมีการเปลี่ยนไฟหน้าเป็นซีนอน-โปรเจกต์เตอร์พร้อมที่ฉีดไฟหน้า มีการออกแบบกระจังหน้า และไฟท้ายใหม่ซึ่งคล้ายโดนัท กันชนหน้าใหม่ มีไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง กันชนท้ายใหม่ โดยมีคิ้วสแตนเลสเขียนว่า FORTUNER เหนือกรอบทะเบียน ทับทิมที่กันชนทรงใหม่ ย้ายตัวอักษรบอกรุ่นเครื่องยนต์ไว้ด้านท้าย
กลางเดือน ส.ค. 2555 ได้เปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่เฉพาะรุ่นดีเซลเปลี่ยนจากเดิม 4 สปีดเป็น 5 สปีด เพิ่มรุ่นย่อย 2.5G เกียร์อัตโนมัติ และปรับกำลังรุ่น 3000cc เป็น 171 แรงม้า หน้าตาภายนอกเหมือนเดิม ส่วนภายในเพิ่มระบบนำทาง Eco Navi พร้อมประมวลผลพฤติกรรมการขับขี่แบบ Real Time ความบันเทิงระดับเครื่องเล่น DVD และจอแสดงผล LCD แบบสัมผัส ขนาด 6.1 นิ้ว
กลางเดือน มี.ค. 2556 เพิ่มรุ่น TRD Sportivo โดยใช้สโลแกน DNA สปอร์ตสายพันธ์ใหม่
ปลายเดือน พ.ย. 2556 ได้ปรับภายในลุคใหม่สีดำ และ เปลื่ยนรุ่นย่อยจาก 2.5 G AT 2WD เป็น 2.5 V AT 2WD เพื่อเพิ่มออฟชั่นที่ครบครัน
กลางเดือน เม.ย. 2557 ได้ปรับลุคใหม่ในรุ่น TRD Sportivo
และปลายเดือน ส.ค. 2557 ได้เพิ่มรุ่นพิเศษ Midnightshine Edition ปรับให้ดูหรูหรามากขึ้น เช่น ไฟหน้า-หลังรมดำ ล้ออัลลอยรมดำ และ กรอบไฟตัดหมอกโครเมื่ยม มาพร้อมกับ 3 สีใหม่ ชึ่งเป็นการปรับครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมี All New Fortuner ใหม่
รุ่นที่ 2 รหัส AN150/AN160 (พ.ศ. 2558 - ปัจจุบัน)
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดงานเปิดตัว “All New Fortuner” ภายใต้สโลแกน “New legend of the pride” ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย และได้เริ่มจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
การออกแบบตัวรถมีความหรูหราทั้งภายในและภายนอก โดยการออกแบบภายนอกมีกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ดีไซน์ใหม่, ไฟหน้า LED โปรเจกต์เตอร์แบบ Bi-Beam, เสารับสัญญาณวิทยุแบบ Shark Fin, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอกหน้าและหลัง, สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ,ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว, กันชนท้ายดีไซน์ใหม่, ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติสามารถควบคุมแรงลมอัตโนมัติ, ช่องเสียบอุปกรณ์ USB, iPOD และ AUX เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift), กล้องมองหลังที่จะแสดงภาพบริเวณมุมมองด้านท้ายของรถ,ระบบควบคุมไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสไฟฟ้า DC 12 โวลต์ และกระแสไฟฟ้า AC 220 โวลต์, ช่องเก็บของแบบ Cool Box
ส่วนระบบความปลอดภัยมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control), ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control), ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control), ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System), ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist), ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution), กล้องมองหลัง (ยกเว้นรุ่น 2.4G MT), เซ็นเซอร์กะระยะการถอยหลัง (เฉพาะรุ่น 2.4G MT), ใช้โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยดูดซับแรงกระแทกเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริเวณห้องโดยสาร, ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุด, พวงมาลัยแบบยุบตัวได้, ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)
เครื่องยนต์ในฟอร์จูนเนอร์ รุ่นที่ 2
เบนซิน | |||||
---|---|---|---|---|---|
รหัสเครื่องยนต์ | ชนิดเครื่องยนต์ | พละกำลัง | แรงบิด | รองรับ B20 | หมายเหตุ |
2TR-FE | 2.7 ลิตร 4 สูบแถวเรียง พร้อม Dual VVT-i | 160 แรงม้า | 246 นิวตันเมตร | ไม่ | เลิกจำหน่ายในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 |
1GR-FE | 4 ลิตร 6 สูบตัว V | 236 แรงม้า | 377 นิวตัวเมตร | ไม่ | จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
ดีเซล | |||||
รหัสเครื่องยนต์ | ชนิดเครื่องยนต์ | พละกำลัง | แรงบิด | รองรับ B20 | หมายเหตุ |
1GD-FTV | 2.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง VN Turbo | 177 แรงม้า | 420 นิวตันเมตร (เกียร์ธรรมดา)
450 นิวตันเมตร (เกียร์อัตโนมัติ) |
ใช่ | เกียร์ธรรมดา เลิกจำหน่ายในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 |
2GD-FTV | 2.4 ลิตร 4 สูบแถวเรียง VN Turbo | 150 แรงม้า | 343 นิวตันเมตร (เกียร์ธรรมดา)
400 นิวตันเมตร (เกียร์อัตโนมัติ) |
ใช่ | เกียร์ธรรมดา จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
1KD-FTV VNT | 3.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง VN Turbo | 163 แรงม้า | 360 นิวตันเมตร | ได้ แต่มีข้อกำหนด | จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
5L-E | 3.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง | 95 แรงม้า | 197 นิวตันเมตร | ไม่ | จำหน่ายในต่างบางประเทศ |
รุ่นย่อย
สำหรับ All New Fortuner ในปัจจุบัน ที่ขายในประเทศไทย มีรุ่นย่อยดังนี้
รุ่น | ราคา | เครื่องยนต์ | ระบบขับเคลื่อน | เกียร์ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
2.8V A/T 4WD TRD Sportivo | 1,779,000 บาท | 1GD-FTV 2.8 ลิตร ดีเซล | 4 ล้อ Sigma4 | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | เป็นชุดแต่ง TRD Sportivo |
2.8V A/T 2WD TRD Sportivo | 1,709,000 บาท | 1GD-FTV 2.8 ลิตร ดีเซล | 2 ล้อหลัง | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | เป็นชุดแต่ง TRD Sportivo |
2.8V A/T 4WD | 1,629,000 บาท | 1GD-FTV 2.8 ลิตร ดีเซล | 4 ล้อ Sigma4 | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | |
2.8V A/T 2WD | 1,559,000 บาท | 1GD-FTV 2.8 ลิตร ดีเซล | 2 ล้อหลัง | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | |
2.7V A/T 2WD | 1,549,000 บาท | 2TR-FE 2.7 ลิตร เบนซิน | 2 ล้อหลัง | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | เลิกจำหน่ายปี พ.ศ. 2562 |
2.4V A/T 4WD | 1,399,000 บาท | 2GD-FTV 2.4 ลิตร ดีเซล | 4 ล้อ Sigma4 | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | เริ่มจำหน่ายปี พ.ศ. 2560 |
2.4V A/T 2WD | 1,399,000 บาท | 2GD-FTV 2.4 ลิตร ดีเซล | 2 ล้อหลัง | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | |
2.4G A/T 2WD | 1,299,000 บาท | 2GD-FTV 2.4 ลิตร ดีเซล | 2 ล้อหลัง | อัตโนมัติ 6 จังหวะ | |
2.4G M/T 2WD | 1,229,000 บาท | 2GD-FTV 2.4 ลิตร ดีเซล | 2 ล้อหลัง | ธรรมดา 6 จังหวะ | เลิกจำหน่ายปี พ.ศ. 2562 |
หมายเหตุ : รุ่น TRD Sportivo มีสี 2-Tone ให้เลือก แต่ต้องเพิ่มราคาอีก 20,000 บาท , สีขาวมุก White Pearl เพิ่มราคา 12,000 บาท
ประวัติการเปลี่ยนแปลง
ปี | รายละเอียด |
---|---|
พ.ศ. 2559 | - เพิ่มรุ่นพิเศษ TRD Sportivo โดยการตกแต่งภายนอกและภายในที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น |
พ.ศ. 2560 | - เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.4V 4WD
- ปรับอุปกรณ์ทั้งรุ่นปกติและ TRD Sportivo เช่น เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED และระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ (มาในช่วงปลายปี) |
พ.ศ. 2561 | - เพิ่มระบบ T-Connect Tclmatics ในรุ่น 2.8V
- ปรับโฉมรุ่น TRD Sportivo ให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดตกแต่งภายนอก ล้ออัลลอยทูโทน 20 นิ้ว และคิ้วประตูท้ายสีดำเมทัลลิก |
พ.ศ. 2562 | - ปรับรุ่น 2.4G เป็นเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเพิ่มกล้องมองหลัง จอภาพ 7 นิ้ว และไฟตัดหมอก LED
- ประกาศรองรับ Biodiesel B20 ในรถ Fortuner รุ่นปี พ.ศ. 2554 ขึ้นไป - นำรุ่น 2.7V 2WD ออกจากตลาด |
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลของฟอร์จูนเนอร์ โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- http://www.toyota.co.th/model/fortuner
- คลับของผู้ใช้รถ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
- Car history: 8ปีของเอสยูวียอดนิยมToyota fortuner