ถั่วพู
ถั่วพู | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
วงศ์ย่อย: | Faboideae |
เผ่า: | Phaseoleae |
สกุล: | Psophocarpus |
สปีชีส์: | P. tetragonolobus |
ชื่อทวินาม | |
Psophocarpus tetragonolobus (L.) D.C. |
ถั่วพู (ชื่อวิทยาศาสตร์: Psophocarpus tetragonolobus) เป็นพืชล้มลุก ดอกสีขาวอมม่วง ผลเป็นฝักแบนยาวมี 4 ปีก ความยาวของฝักประมาณ 3-4 นิ้ว ภายในมีเมล็ดกลมเรียบ[1] นิยมนำถั่วพูมาประกอบอาหารประเภทยำหรือกินสด ถั่วพูเป็นผักที่เสียเร็ว เหี่ยวง่ายและเกิดสีน้ำตาลเร็ว เก็บได้ไม่นาน คุณค่าทางอาหาร ถั่วพูมีคาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน ไขมัน แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ซี อี บี1 บี2 ไนอะซิน สรรพคุณทางยาบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดเมื่อย แก้ตัวร้อน ลดไข้[2]
ในอาหารไทยนำฝักอ่อนมาลวก กินกับน้ำพริก ยำ หั่นใส่ในแกงส้ม แกงป่าหรือกินกับขนมจีน หั่นผสมในทอดมัน ยอดอ่อนและดอกใช้จิ้มน้ำพริก ใบอ่อนทำสลัดหรือใส่ในแกงจืด เมล็ดแก่คั่วให้สุกรับประทานได้ หัวแก่ใช้เชื่อมเป็นของหวานหรือเผารับประทานเช่นเดียวกับมันเทศหรือมันสำปะหลัง ในพม่า นำหัวถั่วพูไปต้มจิ้มน้ำจิ้ม กินเป็นอาหารว่าง ใบอ่อนกินเป็นสลัด ในปาปัวนิวกินีนำหัวถั่วพูไปห่อใบตองหรือใบไผ่แล้วย่างรับประทาน ในอินโดนีเซียนำเมล็ดถั่วพูไปทำเทมเป้เช่นเดียวกับถั่วเหลือง หัวถั่วพูนำมาสับ ตากแห้งคั่วให้เหลือง ชงน้ำดื่มต่างน้ำ เป็นยาบำรุงกำลัง[3]
ในทางสิ่งแวดล้อม ถั่วพูสามารถส่งเสริมการย่อยสลายแอนทราซีนและฟลูออรีนในไรโซสเฟียร์ได้ดี[4]
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์) | |
---|---|
พลังงาน | 1,711 กิโลจูล (409 กิโลแคลอรี) |
41.7 g | |
ใยอาหาร | 25.9 g |
16.3 g | |
อิ่มตัว | 2.3 g |
ไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว | 6 g |
ไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ | 4.3 g |
29.65 g | |
วิตามิน | |
ไทอามีน (บี1) | (90%) 1.03 มก. |
ไรโบเฟลวิน (บี2) | (38%) 0.45 มก. |
ไนอาซิน (บี3) | (21%) 3.09 มก. |
(16%) 0.795 มก. | |
วิตามินบี6 | (13%) 0.175 มก. |
โฟเลต (บี9) | (11%) 45 μg |
แร่ธาตุ | |
แคลเซียม | (44%) 440 มก. |
เหล็ก | (103%) 13.44 มก. |
แมกนีเซียม | (50%) 179 มก. |
แมงกานีส | (177%) 3.721 มก. |
ฟอสฟอรัส | (64%) 451 มก. |
โพแทสเซียม | (21%) 977 มก. |
โซเดียม | (3%) 38 มก. |
สังกะสี | (47%) 4.48 มก. |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ แหล่งที่มา: USDA FoodData Central |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ถั่วพู".สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดสุรินทร์ สืบค้นเมื่อ 2567-06-17
- ↑ นิตยสารชีวจิต ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน 2550
- ↑ กรณิศ รัตนามหัทธนะ.ความลับของถั่วพู. ครัว. ปีที่ 19 ฉบับที่ 226 เมษายน 2556 หน้า 18-20
- ↑ Somtrakoon, K., W. Chouychai, H. Lee.Comparing Anthracene and Fluorene Degradation in Anthracene and Fluorene-Contaminated Soil by Single and Mixed Plant Cultivation International Journal of Phytoremediation. 2014. 16: 415-428. DOI: 10.1080/15226514.2013.803024