มันสำปะหลัง
![]() | ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
มันสำปะหลัง | |
---|---|
![]() | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Malpighiales |
วงศ์: | Euphorbiaceae |
วงศ์ย่อย: | Crotonoideae |
เผ่า: | Manihoteae |
สกุล: | Manihot |
สปีชีส์: | M. esculenta |
ชื่อทวินาม | |
Manihot esculenta Crantz |
มันสำปะหลัง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Manihot esculenta (L.) Crantz) เป็นพืชหัวชนิดหนึ่ง เป็นพืชอาหารที่สำคัญอันดับ 5 รองจากข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าว และมันฝรั่ง[1] ชื่อสามัญเรียกหลายชื่อเช่น Cassava, Yuca, Mandioa, Manioc, Tapioca ชาวไทยเดิมเรียกกันว่า มันสำโรง มันไม้ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่า มันต้นเตี้ย ภาคใต้เรียกมันเทศ (แต่เรียกมันเทศว่า "มันหลา") คำว่า "สำปะหลัง" ที่นิยมเรียกอาจมาจากคำว่า "ซำเปอ (Sampou)" ของชวาตะวันตก
มันสำปะหลังมีแหล่งกำเนิดแถบที่ลุ่มเขตร้อน (lowland tropics) มีหลักฐานแสดงว่าปลูกกันในโคลัมเบีย และเวเนซูเอลา มานานกว่า 3,000–7,000 ปีมาแล้ว นิยมใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์[2] สามารถปลูกได้ง่ายในพื้นที่ร้อน และร้อนชื้น จึงได้มีการสนับสนุนแก่ประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีสภาพภูมิอากาศดังกล่าวปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ[3]
ชนิดและสายพันธุ์[แก้]
มันสำปะหลังที่ปลูกเชิงเกษตรกรรม มีสองชนิด[4] คือ
- ชนิดหวาน มีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิกต่ำ ไม่มีรสขมและสามารถใช้ทำอาหารได้โดยตรง เช่น พันธุ์ห้านาที, พันธุ์ระยอง 2
- ชนิดขม มีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิกสูง ต้องนำไปแปรรูปก่อน เช่น พันธุ์ระยอง 1, 3, 5, 60, 90 พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 และ พันธุ์ห้วยบง 60
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์[แก้]
ไม้พุ่ม สูง 1.3–5 เมตร รากแบบสะสมอาหาร (tuberous root) สายพันธุ์ที่นิยมปลูกสูงประมาณ 2.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 10–1.5 เซนติเมตร ใบมีร่องลึก 3–7 ร่อง มีหูใบ ก้านใบยาว ดอกเป็นช่อดอก ผลแบบแคปซูลทรงกลม ประมาณ 1.2 เซนติเมตร มี 3 เมล็ดใน 1 ผล[5]
การจำแนกสายพันธุ์ใช้คุณลักษณะหลายอย่างช่วยในการจำแนกเช่น สีของใบอ่อน สีก้านใบ สีลำต้น ขนที่ยอดอ่อน ลักษณะทรงต้น หูใบ[6]
การเพาะปลูก[แก้]
ใช้กิ่งปักชำ ระยะเวลาเก็บเกี่ยวประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปี 4 เดือนขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ปลูก เป็นพืชที่ทนแล้งได้
ประโยชน์และการนำไปใช้[แก้]
- ประกอบอาหารคาวหวาน โดยนำส่วนของรากสะสมอาหารที่มีการสะสมของคาร์โบไฮเดรตไปใช้ประกอบอาหาร
- แปรรูปเป็นสารปรุงแต่งรสอาหาร
- อาหารสัตว์
- อุตสาหกรรมกาว
- พลังงานเอทานอล
การส่งออกผลผลิต[แก้]
การแปรรูปรากสะสมอาหารมันสำปะหลังเพื่อให้เก็บรักษาได้เป็นเวลานาน ถูกส่งออกในรูปแบบมันสำปะหลังอัดเม็ด มันเส้น สาคู แป้งมันสำปะหลัง[7]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ http://www.doa.go.th/pl_data/CASS/1STAT/st01.html
- ↑ http://www.doa.go.th/fieldcrops/cas/var/his.HTM
- ↑ http://www.fao.org/ag/save-and-grow/cassava/index_en.html
- ↑ http://store.farmkaset.net/index.php?option=com_kunena&Itemid=0&func=view&catid=5&id=93[ลิงก์เสีย]
- ↑ https://www.hort.purdue.edu/newcrop/duke_energy/Manihot_esculenta.html#Description
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-08-05. สืบค้นเมื่อ 2010-06-30.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-05-21. สืบค้นเมื่อ 2016-05-11.
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: มันสำปะหลัง |