การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ค.ศ. 1995

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ค.ศ. 1995

← 1988 23 เมษายน 1995 (รอบที่หนึ่ง)
7 พฤษภาคม 1995 (รอบที่สอง)
2002 →
ลงทะเบียน39,992,912 (รอบที่ 1)
39,976,944 (รอบที่ 2)
ผู้ใช้สิทธิรอบที่ 1 : 78.3% (ลดลง 3.0 จุด)
รอบที่ 2 : 79.6% (ลดลง 4.4 จุด)
 
ผู้สมัคร ฌัก ชีรัก ลียอแนล ฌ็อสแป็ง
พรรค ชุมนุมเพื่อสาธารณรัฐ พรรคสังคมนิยม
คะแนนเสียง 6,348,375 (รอบที่ 1)
15,763,027 (รอบที่ 2)
7,097,786 (รอบที่ 1)
14,180,644 (รอบที่ 2)
% 20.8% (รอบที่ 1)
52.6% (รอบที่ 2)
23.3% (รอบที่ 1)
47.3% (รอบที่ 2)

ผลการเลือกตั้งรอบที่หนึ่งแยกตามเขตการปกครอง

ผลการเลือกตั้งรอบที่สองแยกตามเขตการปกครอง

ประธานาธิบดีก่อนการเลือกตั้ง

ฟร็องซัว มีแตร็อง
พรรคสังคมนิยม

ว่าที่ประธานาธิบดี

ฌัก ชีรัก
ชุมนุมเพื่อสาธารณรัฐ

ผลการเลือกตั้งในรอบแรก:
ผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งโดยมีเสียงข้างมากในแต่ละเขตการปกครอง:
ฌากส์ ชีรัก
ลีโอเนล โฌส์แปง
เอดูอาร์ด บัลลาดูร์
ฌอง-มารี เลอ เปิง
เดอ วิลลีเยร์

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2538 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2538 และ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 เพื่อที่จะเลือกตั้งเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 5 แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5

ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้นคือ ฟรองซัวส์ มิแตรรองด์ ไม่ปรารถนาที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 เพราะเขาอายุ 78 ปีแล้ว ทั้งยังเป็นมะเร็ง และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสครั้งที่ผ่านมา พรรคของเขาก็ได้ประสบความพ่ายแพ้อีกด้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เขาได้ทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีอนุรักษนิยมและคณะรัฐมนตรีของเอดูอาร์ด บัลลาดูร์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคอาร์พีอาร์ บัลลาดูร์เองยังเคยได้สัญญากับฌากส์ ชีรัก หัวหน้าพรรคแอร์เปแอร์ (RPR) ว่าจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่จากการสำรวจเขาทำงานได้อย่างดีและยังมีนักการเมืองอนุรักษนิยมอีกหลายคนสนับสนุนบัลลาดูร์ ทำให้เขาตัดสินใจลงสมัครแข่งขัน ซึ่งทำให้มีการแข่งขันกันเองในขั้วอนุรักษนิยมระหว่างฌากส์ ชีรักกับเอดูอาร์ด บัลลาดูร์

ในขณะที่ฝ่ายซ้ายนั้นได้อ่อนแอลงหลังจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ และความผิดหวังในการบริหารของฟรองซัวส์ มิแตรรองด์ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2537 อดีตนายกรัฐมนตรีมิเชล โรการ์ด ได้ออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยม หลังจากความล่มเหลวของพรรคในการเลือกตั้งรัฐสภาสหภาพยุโรป หลังจากนั้น ฌาคส์ เดอลอร์ส์ ตัดสินใจที่จะไม่เป็นผู้สมัครเข้าเป็นหัวหน้าพรรคเนื่องจากเขาไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงของหัวหน้าพรรคคนใหม่ อองรี อองมานูล์ลี ซึ่งทำให้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นเป็นที่เปิดกว้าง ไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครจะดำรงตำแหน่งเช่น ฌาก ลาง, ปีแอร์ โฌกซ์, โลรองต์ ฟาบิอูส์, เซโกแลน รัวยาล และ โรแบร์ต บาแดงแตร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลีโอเนล โฌส์แปงได้ถูกสมาชิกพรรคเลือกให้ลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประจันหน้ากับอองรี อองมานูล์ลี ซึ่งเขาก็ได้สัญญาว่าจะรื้อฟื้นความไว้เนื่อเชื่อใจและชื่อเสียงของพรรคให้กลับคืนมาแต่โอกาสที่เขาชนะนั้นแคบลงทุกที

พรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส (PCF) พยายามที่จะหยุดความเสื่อมถอยของพรรคในการเลือกตั้ง โดยที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ โรแบร์ต อู รณรงค์หาเสียงต่อต้าน "เงินของกษัตริย์" และต้องการเสนอคอมมิวนิสต์ฟื้นฟู เขาต้องเผชิญหน้ากับ อาร์เล็ตต์ ลากุยแลร์ ผู้สมัครซ้ายจัด ทร็อตสกีนิยม ซึ่งลงเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทั้งสองผู้ลงสมัครมีผลงานทีผ่านมาดีกว่าผลงานของพรรคตนเองในปี พ.ศ. 2531 แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะไม่สามารถเข้าไปในรอบต่อไปได้ และในการเลือกโดมินิก วัวเนต์ พรรคเขียว (Les Verts) เลือกที่จะรวมกันเป็นกลุ่มก้อนกับพวกฝ่ายซ้าย

ทางด้านฝ่ายขวาจัด ฌอง-มารี เลอ เปิง ต้องการที่จะได้ผลการเลือกตั้งที่เป็นที่ตกใจอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้านี้ คู่ต่อสู้ฝ่ายขวาจัดคนสำคัญของเขาคือ ฟิลิป เดอ วิลลีเยร์ ผู้สมัคร หนึ่งในสมาชิกสภายุโรปขวา

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2538 เมื่อได้ประกาศการลงสมัครรับเลือกตั้ง เอดูอาร์ด บัลลาดูร์ เป็นผู้ที่มีหวังที่จะเป็นผู้ชนะมากที่สุด และตามการสำรวจของสถาบัน SOFRES เขามีข้อได้เปรียบ 14 คะแนนมากกว่าชีรัก (32% ต่อ 18% ในรอบแรก) เขาได้เอาการถูกประเมินในทางบวกของเขาในฐานะนายกรัฐมนตรีมาเป็นผลประโยชน์แก่ตัวเขาเองโดยการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรี ชีรักได้ประณามเอดูอาร์ด บัลลาดูร์ ถึงความแตกร้าวทางสังคมและวิจารณ์เรื่องที่เขาถูกครอบงำในความคิด ชีรักได้อ้างว่า "เงินไม่ได้เป็นศัตรูของการจ้างงาน" แท้จริงแล้ว การตกงานเป็นหลักสำคัญในการแข่งขัน ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ชีรักก็ได้รับคะแนนบางส่วนจากบัลลาดูร์เข้ามามากขึ้นจากการสำรวจ

การหาเสียงของแต่ละคนนั้นได้ใช้สโลแกน เช่น

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรอบแรกนั้น ลีโอเนล โฌส์แปงได้คะแนนเสียงมาเป็นที่หนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นการเลือกตั้งที่รื้อฟื้นความนิยมของพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง คู่แข่งฝ่ายขวาของเขาที่จะแข่งขันกันในการเลือกตั้งรอบที่สองนั้นคือ ฌากส์ ชีรัก ไม่ใช่เอดูอาร์ด บัลลาดูร์ บัลลาดูร์เองได้ยอมรับในการพ่ายแพ้ ส่วนฌอง-มารี เลอ เปิงได้คะแนนเสียงพอๆ กันกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

ในช่วงการโต้วาทีซึ่งถ่ายทอดทางโทรทัศน์ระหว่างสองผู้แข่งขันรอบสุดท้าย พวกเขาได้ทะเลาะกันในเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี โฌส์แปงต้องการที่จะลดวาระ 7 ปีลงเหลือ 5 ปี ส่วนทางชีรักต้องการ 7 ปี ซึ่งโฌส์แปงก็ได้กล่าวว่า "ทางเลือกคือ 5 ปีกับข้าพเจ้าหรือ 7 ปีกับฌากส์ ชีรัก" อย่างไรก็ตาม วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสนั้นก็ได้ลดลงเหลือ 5 ปีหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2545

ผลการเลือกตั้งในรอบสอง:
ผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งโดยมีเสียงข้างมากในเขตการปกครอง
ฌากส์ ชีรัก: ฟ้า
ลีโอเนล โฌส์แปง: ชมพู

ฌากส์ ชีรักได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส เอดูอาร์ด บัลลาดูร์ได้ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอแลง ฌูป์เปได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อมา


· ·
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส 23 เมษายน และ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
อันดับที่ ผู้สมัครเลือกตั้ง พรรค รอบแรก รอบสอง
คะแนนเสียง เปอร์เซนต์ คะแนนเสียง เปอร์เซนต์
1 (2) ลีโอเนล โฌส์แปง พรรคสังคมนิยม (PS) 7,098,191 23.30% 14,180,644 47.36%
2 (1) ฌากส์ ชีรัก พรรครวมพลเพื่อสาธารณรัฐ (RPR) 6,348,696 20.84% 15,763,027 52.64%
3 เอดูอาร์ด บัลลาดูร์ แยกตัวออกมาจากพรรครวมพลเพื่อสาธารณรัฐ 5,658,996 18.57%
4 ฌอง-มารี เลอ เปิง พรรคแนวหน้าแห่งชาติ (FN) 4,571,138 15.00%
5 โรแบร์ต อู พรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส (PCF) 2,638,936 8.66%
6 อาร์เล็ตต์ ลากุยแยร์ พรรคพลังแรงงาน (LO) 1,615,653 5.30%
7 ฟิลิป เดอ วิลลีเยร์ พรรคขบวนการเพื่อฝรั่งเศส (MPF) 1,443,235 4.74%
8 โดมินิก วัวเนต์ พรรคเขียว (Les Verts) 1,010,738 3.32%
9 ฌากส์ เชอมินาด พรรคแรงงานยุโรป (POE) 84,969 0.28%
ผลรวม 30,470,552 29,943,671
เสียงข้างมากเด็ดขาด (15,231,317)  
บัตรดี 30,462,633 97.18% 29,943,671 94.03%
บัตรเสีย 883,161 2.82% 1,902,148 5.97%
จำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้ง 31,345,794 78.38% 31,845,819 79.66%
จำนวนผู้งดออกเสียงเลือกตั้ง 8,647,118 21.62% 8,131,125 20.34%
จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 39,992,912 100% 39,976,944 100%