มารีอา เลโอพ็อลดีเนอแห่งออสเตรีย
มาเรีย เลโอพ็อลดีเนอแห่งออสเตรีย | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระสาทิสลักษณ์ ป. พ.ศ. 2358 | |||||
จักรพรรดินีแห่งบราซิล | |||||
ดำรงพระยศ | 12 ตุลาคม พ.ศ. 2365 – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2369 | ||||
สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกสและอัลการ์วึช | |||||
ดำรงพระยศ | 10 มีนาคม พ.ศ. 2369 – 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 | ||||
พระราชสมภพ | 22 มกราคม พ.ศ. 2340 พระราชวังโฮฟบวร์ค เวียนนา อาร์ชดัชชีออสเตรีย จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | ||||
สวรรคต | 11 ธันวาคม พ.ศ. 2369 พระราชวังเซา กริชตูเวา รีโอเดจาเนโร จักรวรรดิบราซิล | ||||
คู่อภิเษก | จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล (สมรส 2360) | ||||
พระราชบุตร รายละเอียด | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | ฮาพส์บวร์ค | ||||
พระราชบิดา | จักรพรรดิฟรันทซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | ||||
พระราชมารดา | มาเรีย เทเรซา แห่งนาโปลีและซิซิลี | ||||
ลายพระอภิไธย |
อาร์ชดัชเชสมาเรีย เลโอพ็อลดีเนอแห่งออสเตรีย (อังกฤษ: Archduchess Maria Leopoldina of Austria, เยอรมัน: Erzherzogin Maria Leopoldine von Österreich, โปรตุเกส: Maria Leopoldina da Áustria) ทรงเป็นอาร์ชดัชเชสแห่งออสเตรีย และนอกจากนี้ ยังทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งบราซิล และสมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกสอีกด้วย
พระราชประวัติ
[แก้]อาร์ชดัชเชสมาเรีย เลโอพ็อลดีเนอ ประสูติเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2340 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย พระองค์เป็นพระราชธิดาองค์ที่ 4 และพระราชบุตรองค์ที่ 5 ในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และพระมเหสีองค์ที่ 2 ของพระองค์ เจ้าหญิงมาเรีย เทเรซ่าแห่งทู ซิชิลีส์ เมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงได้รับการศึกษาพร้อมกับพระเชษฐภัคินี พระเชษฐา รวมทั้งพระอนุชา และพระขนิษฐาของพระองค์ โดยมีครูผู้สอนชาวเยอรมันมาสอนตามพระบัญาของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี โดยพระองค์ทรงสนพระทัยเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของภาษา พระองค์ทรงสามารถตรัสและอักษรภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษาละติน และภาษาสเปน เป็นต้น และนอกจากนี้ พระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องวิทยาศาสตร์ และธรรมชาติ
การอภิเษกสมรส
[แก้]เมื่อวันที่5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2360 พระองค์ทรงเดินทางไปประเทศบราซิล เพื่อทรงไปอภิเษกสมรสกับมกุฎราชกุมารแห่งโปรตุเกส ดอมเปโตรแห่งอัลแคนตารา ซึ่งในขณะนั้น ราชวงศ์บรากันซา ทรงอพยพมาประทับอยู่ที่ประเทศบราซิล เนื่องจากถูกกองทัพของนโปเลียน โบนาปาร์ตเข้ามารุกรานและสามารถยึดครองโปรตุเกสได้ และทำให้โปรตุเกสเป็นส่วนหนึ่งของกองบัญชาการในสงครามนโปเลียน โดยหลังจากอภิเษกสมรสแล้ว พระองค์ก็ได้ทรงทำความรู้จักกับประเทศใหม่ โดยเมื่อพระองค์มาประทับอยู่ทีประเทศบราซิลแล้ว พระองค์ทรงสนพระทัยในด้านของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และการวิจัยทางด้านชีววิทยา โดยพระองค์ทรงทำการวิจัยวิทยาศาสตร์พร้อมกับ โจฮันน์ แบ็บติส วอน สพิกซ์ นักธรรมชาติวิทยาชาวเยอรมัน, คาร์ล ฟรีดริช ฟิลลิป วอน มาร์เทียส นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน, และโจฮันน์ แนทเตอเรอ นักธรรมชาติวิทยาชาวออสเตรีย
เมื่อสงครามสงบลงแล้ว เมื่อกองทัพจักรวรรดิฝรั่งเศสยอมถอยทัพออกจากประเทศโปรตุเกส สมเด็จพระเจ้าโจอาวที่ 6 แห่งโปรตุเกส พระราชบิดาในเจ้าฟ้าชายเปโตร ได้ทรงนำพระราชวงศ์โปรตุเกสกลับสู่มาตุภูมิ แต่เจ้าฟ้าชายเปโตรทรงทูลสมเด็จพระราชบิดาว่า จะทรงประทับต่อที่ประเทศบราซิล พร้อมด้วยอาร์ชดัชเชสมาเรีย ลีโอโพลดีน่า (หลังจากอภิเษกสมรสแล้ว ทรงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าฟ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งโปรตุเกส) และพระโอรสและพระธิดา
ในปีพ.ศ. 2365 เจ้าฟ้าชายเปโตรได้ทรงขอพระบรมราชานุญาตจากพระราชบิดา ให้ประกาศเอกราชจากโปรตุเกส ซึ่งพระราชบิดาไม่ทรงอนุญาต และทรงยืนกรานปฏิเสธการให้เอกราชของบราซิล เจ้าฟ้าชายเปโตร และเจ้าฟ้ามาเรีย ลีโอโพลดีน่าทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีพระองค์แรกแห่งบราซิล เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2365
สมเด็จพระจักรพรรดินี
[แก้]สมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย ลีโอโพลดีนาทรงเป็นบุคคลสำคัญของการประกาศเอกราชของบราซิล โดยพระองค์ทรงรู้จากข้าราชบริพารลับที่พระองค์ส่งไปทำงานในราชสำนักโปรตุเกสว่า สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโปรตุเกสจะทรงวางแผนส่งกองทัพมารุกรานบราซิล เพื่อล้มล้างการประกาศเอกราชบราซิล ทำให้พระองค์ต้องทรงวางแผนจัดเตรียมกองทัพเอง เพราะเนื่องจากขณะนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิเปโตร พระราชสวามีทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างแดนและไม่ทรงทราบเรื่องการเตรียมรุกรานบราซิลของโปรตุเกส พระองค์เห็นว่าไม่มีเวลาพอที่จะรอพระราชสวามีกลับมา โดยพระองค์ทรงได้คำแนะนำจากองคมนตรีในราชสำนัก โฮเซ่ บอนีฟาซิโอ โดยพระองค์ทรงจัดตั้งการประชุมชั่วคราวเพื่อจัดเตรียมกองทัพต้านโปรตุเกส เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2365 ซึ่งรัฐสภาได้ลงมติในสนธิสัญญาพระราชกฤษฎีกาการประกาศเอกราช โดยแยกเอกราชบราซิลจากโปรตุเกส นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงส่งลายลิขิตถึงสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโปรตุเกสให้ทรงยกเลิกการรุกรานบราซิล และให้มีพระบรมราชานุญาตให้ประกาศเอกราชแก่บราซิล โดยข้อความส่วนหนึ่งของลายลิขิต มีข้อความว่า Independência do Brasil "The fruit is ready, it's time to harvest.
อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชาธิบดีโยฮาวเสด็จสวรรคตเสียก่อนเมื่อวันที่10 มีนาคม พ.ศ. 2369 การรุกรานบราซิลจึงไม่เกิดขึ้น สมเด็จพระจักรพรรดิเปโตรทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา ดำรงตำแหน่งเป็น สมเด็จพระราชาธิบดีเปโตรที่ 4 แห่งโปรตุเกส (King Pedro IV of Portugal) แต่พระองค์ก็ทรงครองราชย์ในโปรตุเกสเพียง 2 เดือนเท่านั้น พระองค์ก็ทรงสละราชสมบัติให้กับพระราชธิดาองค์โต เจ้าหญิงมาเรีย (ได้ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2, (Queen Maria II of Portugal) แค่เพียง 2 เดือนเท่านั้น ที่สมเด็จพระจักรพรรดิมาเรีย ลีโอโพลดีน่าได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส
พระราชโอรสและพระราชธิดา
[แก้]สมเด็จพระจักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิลกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย เลโอพ็อลดีเนอ มีพระโอรสธิดาร่วมกัน 7 พระองค์ได้แก่
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา หมายเหตุ | |
สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2 แห่งโปรตุเกส | พ.ศ. 2362 |
4 เมษายนพ.ศ. 2396 |
15 พฤศจิกายนอภิเษกสมรสครั้งที่ 1 วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2378 กับ ออกุสต์ เดอ โบฮาร์เนส์ ดยุคแห่งเลาช์เทนเบิร์ก ไม่มีพระโอรสธิดา อภิเษกสมรสครั้งที่ 2 วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2379 กับ เจ้าชายเฟอร์ดินานด์แห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา มีพระโอรสธิดา 11 พระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าเปโดรที่ 5 แห่งโปรตุเกส สมเด็จพระเจ้าลูอิสที่ 1 แห่งโปรตุเกส เจ้าหญิงมาเรียแห่งโปรตุเกส เจ้าชายโจเอา ดยุคแห่งเบจา เจ้าหญิงมาเรีย แอนนาแห่งโปรตุเกส เจ้าหญิงแอนโทเนียแห่งโปรตุเกส เจ้าชายเฟอร์นันโดแห่งโปรตุเกส เจ้าชายออกุสโต ดยุคแห่งโคอิมบรา เจ้าชายลีโอโพลโดแห่งโปรตุเกส เจ้าหญิงมาเรีย ดา กลอเรียแห่งโปรตุเกส เจ้าชายยูจินีโอแห่งโปรตุเกส ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งโปรตุเกสระหว่างปีพ.ศ. 2369 จนถึงพ.ศ. 2396 พระราชสวามีองค์แรกของพระนาง ออกุสต์ เดอ โบฮาร์เนส์ ดยุคแห่งเลาช์เทนเบิร์กได้สิ้นพระชนม์เพียงไม่กี่เดือนหลังจากอภิเษกสมรส พระราชสวามีองค์ต่อมาของพระนางคือ เจ้าชายเฟอร์ดินานด์แห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา ผู้ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าเฟอร์นันโดที่ 2 แห่งโปรตุเกสหลังจากพระนางมีพระประสูติกาลโอรสพระองค์แรก ซึ่งมีพระโอรสธิดารวม 11 พระองค์ สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2 ทรงเป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์ของพระอนุชา จักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล โดยพระนางทรงดำรงเป็นเจ้าหญิงพระวรราชกุมารีแห่งบราซิลจนกระทั่งพระนางทรงถูกตัดออกจากสิทธิการสืบราชบัลลังก์ด้วยกฎหมายมาตราที่ 91 ในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2378[1] | |
เจ้าชายมิเกลแห่งเบย์รา | พ.ศ. 2363 |
26 เมษายนพ.ศ. 2363 |
26 เมษายนทรงดำรงพระอิศริยยศ เจ้าชายแห่งเบย์ราจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ | |
เจ้าชายโจเอา คาร์ลอสแห่งเบย์รา | พ.ศ. 2364 |
6 มีนาคมพ.ศ. 2365 |
4 กุมภาพันธ์ทรงดำรงพระอิศริยยศ เจ้าชายแห่งเบย์ราจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ | |
เจ้าหญิงยาโนเรียแห่งบราซิล | พ.ศ. 2365 |
11 มีนาคมพ.ศ. 2444 |
15 พฤศจิกายนอภิเษกสมรส วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2387 กับ เจ้าชายหลุยส์ เคานท์แห่งอควิลา มีพระโอรสธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายหลุยส์ เคานท์แห่งร็อคคากูเกลมา เจ้าหญิงมาเรีย อิซาเบลลาแห่งบูร์บง-ทูซิชิลี เจ้าชายฟิลิปโปแห่งบูร์บง-ทูซิชิลี เจ้าชายมาเรีย เอ็มมานูเอลแห่งบูร์บง-ทูซิชิลี ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายหลุยส์ เคานท์แห่งอควิลา ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 แห่งทูซิชิลี พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรซิซิลีทั้งสอง ทรงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าหญิงแห่งโปรตุเกสอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2365[2] พระนางทรงถูกตัดออกจากสิทธิการสืบราชบัลลังก์โปรตุเกสหลังจากบราซิลประกาศอิสรภาพ[3] | |
เจ้าหญิงเปาลาแห่งบราซิล | พ.ศ. 2366 |
17 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2376 |
16 มกราคมทรงสิ้นพระชนม์ขณะมีพระชนมายุ 9 พรรษาด้วยพระโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ[4] ทรงประสูติในบราซิลหลังจากได้รับเอกราชแล้ว พระนางทรงถูกตัดออกจากสิทธิการสืบราชบัลลังก์โปรตุเกส[5] | |
เจ้าหญิงฟรานซิสกาแห่งบราซิล | พ.ศ. 2367 |
2 สิงหาคมพ.ศ. 2441 |
27 มีนาคมอภิเษกสมรส วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2386 กับ เจ้าชายฟรองซัวส์แห่งออร์เลออง เจ้าชายแห่งโจอินวิลล์ มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงฟรองซัวส์แห่งออร์เลออง เจ้าชายปิแยร์ ดยุคแห่งเพนทิเอฟเร เจ้าหญิงมารี ลีโอโพลดีนแห่งออร์เลออง ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟรองซัวส์แห่งออร์เลออง เจ้าชายแห่งโจอินวิลล์ ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส พระมหากษัตริย์กรกฎาคมแห่งฝรั่งเศส ทรงประสูติในบราซิลหลังจากได้รับเอกราชแล้ว พระนางทรงถูกตัดออกจากสิทธิการสืบราชบัลลังก์โปรตุเกส[6] | |
จักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล | พ.ศ. 2368 |
2 ธันวาคมพ.ศ. 2434 |
5 ธันวาคมอภิเษกสมรส วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2385 กับ เจ้าหญิงเทเรซา คริสตินาแห่งทูซิชิลี มีพระโอรสธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายอฟอนโซ เจ้าชายรัชทายาทแห่งบราซิล เจ้าหญิงอิซาเบล เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งบราซิล เจ้าหญิงลีโอโพลดินาแห่งบราซิล เจ้าชายเปดรู เจ้าชายรัชทายาทแห่งบราซิล ทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งบราซิลระหว่างปีพ.ศ. 2374 จนกรทั่งพ.ศ. 2432 ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเทเรซา คริสตินาแห่งทูซิชิลี ซึ่งเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 แห่งทูซิชิลี พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรซิซิลีทั้งสอง ทรงประสูติในบราซิลหลังจากได้รับเอกราชแล้ว พระองค์ทรงถูกตัดออกจากสิทธิการสืบราชบัลลังก์โปรตุเกส[7] |
สมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย ลีโอโพลดีนาทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2369 ในขณะที่ทรงแท้งพระบุตรองค์ที่ 8
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Barman 1999, p. 438.
- ↑ Morato 1835, p. 17.
- ↑ Morato 1835, pp. 33–34.
- ↑ Barman 1999, p. 42.
- ↑ Morato 1835, pp. 17–18.
- ↑ Morato 1835, pp. 18–19, 34.
- ↑ Calmon 1975, p. 81.
- Helga Thoma: Ungeliebte Königin
- Carlos H. Oberacker: Leopoldine. Habsburgs Kaiserin von Brasilien
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Article by Princess Michael of Kent about Leopoldine เก็บถาวร 2007-09-28 ที่ archive.today Retrieved 26 January 2006
ราชตระกูล
[แก้]อาร์ชดัชเชสมาเรีย ลีโอโพลดีนาแห่งออสเตรีย | พระชนก: สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย) |
พระอัยกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระจักรพรรดิลีโอโพลด์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก: เจ้าหญิงมาเรีย หลุยซ่าแห่งสเปน |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลอสที่ 3 แห่งสเปน | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: เจ้าหญิงมาเรีย อมาเลียแห่งแซ็กโซนี | |||
พระชนนี: เจ้าหญิงมาเรีย เทเรซ่าแห่งทู ซิชิลีส์ |
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี: สมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งทู ซิชิลีส์ |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลอสที่ 3 แห่งสเปน | |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: เจ้าหญิงมาเรีย อมาเลียแห่งแซ็กโซนี | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี: อาร์ชดัชเชสมารี แคโรไลน์แห่งออสเตรีย |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา |
ก่อนหน้า | มารีอา เลโอพ็อลดีเนอแห่งออสเตรีย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ไม่มี | สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งบราซิล Empress of Brazil (ค.ศ. 1822 - 1826) |
เจ้าหญิงอเมลีแห่งเลาช์เทนเบิร์ก | ||
เจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งสเปน | สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส Queen of Portugal (10 มีนาคม – 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1826) |
ออกัส เดอ โบฮาเนส ดยุคแห่งลอยช์เทนเบิร์ก เจ้าชายพระราชสวามี (Prince Consort) |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2340
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2369
- ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน
- จักรพรรดินีบราซิล
- ราชวงศ์บรากังซา
- ราชินีแห่งโปรตุเกส
- ราชกุมารีแห่งโปรตุเกส
- เสียชีวิตจากการคลอดบุตร
- เจ้าหญิงโปรตุเกส
- ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่เป็นสตรี
- คู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์โปรตุเกส
- พระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิ
- พระราชธิดาในพระมหากษัตริย์
- พระราชบุตรในจักรพรรดิฟรันทซ์ที่ 2 และ 1
- จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล