ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เบราน์ชไวค์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ponpan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล เขตการปกครองในเยอรมนี
{{กล่องข้อมูล เขตการปกครองในเยอรมนี
|type = City
|type = City
|name = เบราน์ชไวก์
|name = เบราน์ชไวค์
|image_photo = Braunschweig Luftaufnahme Innenstadt (2011).JPG
|image_photo = Braunschweig Luftaufnahme Innenstadt (2011).JPG
|image_caption =
|image_caption =
บรรทัด 15: บรรทัด 15:
|population = 248502
|population = 248502
|Stand = 31 ธันวาคม 2014
|Stand = 31 ธันวาคม 2014
|pop_ref = <ref name="ประชากรเบราน์ชไวก์">Landesbetrieb für Statistik und Kommunikationstechnologie Niedersachsen (สำนักสถิติและเทคโนโลยีการสื่อสารรัฐโลว์เออร์แซกโซนี), [http://www1.nls.niedersachsen.de/statistik/ 100 Bevölkerungsfortschreibung – Basis Zensus 2011, Stand 31. Dezember 2014] {{de icon}}</ref>
|pop_ref = <ref name="ประชากรเบราน์ชไวค์">Landesbetrieb für Statistik und Kommunikationstechnologie Niedersachsen (สำนักสถิติและเทคโนโลยีการสื่อสารรัฐโลว์เออร์แซกโซนี), [http://www1.nls.niedersachsen.de/statistik/ 100 Bevölkerungsfortschreibung – Basis Zensus 2011, Stand 31. Dezember 2014] {{de icon}}</ref>
|pop_metro = 1150000<ref>{{cite web|url=http://www.zgb.de/barrierefrei/content/regionalplanung/pdf/RenKCO2/Projektbeschreibung_Energiekonzept_Pressemappe.pdf|format=PDF|title=Regionales Energiekonzept für den Großraum Braunschweig|publisher=Zgb.de|accessdate=August 16, 2012}}</ref>
|pop_metro = 1150000<ref>{{cite web|url=http://www.zgb.de/barrierefrei/content/regionalplanung/pdf/RenKCO2/Projektbeschreibung_Energiekonzept_Pressemappe.pdf|format=PDF|title=Regionales Energiekonzept für den Großraum Braunschweig|publisher=Zgb.de|accessdate=August 16, 2012}}</ref>
|postal_code = 38100–38126
|postal_code = 38100–38126
บรรทัด 34: บรรทัด 34:
}}
}}


'''เบราน์ชไวก์''' ({{lang-de|Braunschweig}}; [[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]], [[ภาษาฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]: Brunswick) เป็นเมืองหนึ่งใน[[รัฐโลว์เออร์แซกโซนี]] [[ประเทศเยอรมนี]] มีฐานะเป็นเมืองอิสระ (kreisfreie Stadt) ตามการบริหารเขตปกครองของเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ ปัจจุบันมีประชากรราว 247,000 คน ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของรัฐโลว์เออร์แซกโซนีรองจาก[[ฮันโนเวอร์]] เมื่อรวมเขตปริมณฑลของเมืองเข้าด้วยจะมีประชากรราว 1 ล้านคน เบราน์ชไวก์เป็นเมืองศูนย์กลางด้าน[[การวิจัย]]และพัฒนาด้าน[[วิทยาศาสตร์]]ที่สำคัญของประเทศและ[[สหภาพยุโรป]]<ref name="Eurostat">[http://ec.europa.eu/eurostat/statistics-explained/index.php/Research_and_innovation_statistics_at_regional_level ''Research and innovation statistics at regional level''], Ec.europa.eu, 2014.</ref>
'''เบราน์ชไวค์''' ({{lang-de|Braunschweig}}; [[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]], [[ภาษาฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]: Brunswick) เป็นเมืองหนึ่งใน[[รัฐโลว์เออร์แซกโซนี]] [[ประเทศเยอรมนี]] มีฐานะเป็นเมืองอิสระ (kreisfreie Stadt) ตามการบริหารเขตปกครองของเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ ปัจจุบันมีประชากรราว 247,000 คน ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของรัฐโลว์เออร์แซกโซนีรองจาก[[ฮันโนเวอร์]] เมื่อรวมเขตปริมณฑลของเมืองเข้าด้วยจะมีประชากรราว 1 ล้านคน เบราน์ชไวค์เป็นเมืองศูนย์กลางด้าน[[การวิจัย]]และพัฒนาด้าน[[วิทยาศาสตร์]]ที่สำคัญของประเทศและ[[สหภาพยุโรป]]<ref name="Eurostat">[http://ec.europa.eu/eurostat/statistics-explained/index.php/Research_and_innovation_statistics_at_regional_level ''Research and innovation statistics at regional level''], Ec.europa.eu, 2014.</ref>


เบราน์ชไวก์เป็นส่วนหนึ่งของ ''เขตปริมณฑลฮันโนเวอร์-เบราน์ชไวก์-เกิททิงเงน-ว็อลฟส์บูร์ก'' ซึ่งมีประชากรทั้งหมดราว 3.9 ล้านคน เมืองใหญ่แห่งอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้แก่ [[ว็อลฟส์บูร์ก]] (ประชากร 123,000) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 30 กิโลเมตร [[ฮันโนเวอร์]] (ประชากร 518,000) ทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กิโลเมตร และ[[มักเดบูร์ก]] (ประชากร 230,000) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 100 กิโลเมตร
เบราน์ชไวค์เป็นส่วนหนึ่งของ ''เขตปริมณฑลฮันโนเวอร์-เบราน์ชไวค์-เกิททิงเงน-ว็อลฟส์บูร์ก'' ซึ่งมีประชากรทั้งหมดราว 3.9 ล้านคน เมืองใหญ่แห่งอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้แก่ [[ว็อลฟส์บูร์ก]] (ประชากร 123,000) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 30 กิโลเมตร [[ฮันโนเวอร์]] (ประชากร 518,000) ทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กิโลเมตร และ[[มักเดบูร์ก]] (ประชากร 230,000) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 100 กิโลเมตร


==ประวัติศาสตร์==
==ประวัติศาสตร์==
ประวัติศาสตร์ของเบราน์ชไวก์ย้อนกลับไปตั้งแต่ต้น[[คริสต์ศตวรรษที่ 9]]<ref name="Kimpflinger94">Wolfgang Kimpflinger: ''Denkmaltopographie Bundesrepublik Deutschland. Baudenkmale in Niedersachsen.'' Band 1.1.: ''Stadt Braunschweig.'' Teil 1, S.&nbsp;94. {{de icon}}</ref> [[ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย]]ได้พัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีอิทธิพลและเข้มแข็งอย่างรวดเร็ว ทำให้ตั้งแต่กลาง[[คริสต์ศตวรรษที่ 13]] เบราน์ชไวก์มีฐานะเป็นเมืองสมาชิกใน[[สันนิบาตฮันเซียติก]] ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหารของเมืองการค้าและสมาคมพ่อค้าที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาเอกสิทธิ์ในการค้าขายตามชายฝั่งทะเลของ[[ยุโรปเหนือ]]
ประวัติศาสตร์ของเบราน์ชไวค์ย้อนกลับไปตั้งแต่ต้น[[คริสต์ศตวรรษที่ 9]]<ref name="Kimpflinger94">Wolfgang Kimpflinger: ''Denkmaltopographie Bundesrepublik Deutschland. Baudenkmale in Niedersachsen.'' Band 1.1.: ''Stadt Braunschweig.'' Teil 1, S.&nbsp;94. {{de icon}}</ref> [[ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย]]ได้พัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีอิทธิพลและเข้มแข็งอย่างรวดเร็ว ทำให้ตั้งแต่กลาง[[คริสต์ศตวรรษที่ 13]] เบราน์ชไวค์มีฐานะเป็นเมืองสมาชิกใน[[สันนิบาตฮันเซียติก]] ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหารของเมืองการค้าและสมาคมพ่อค้าที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาเอกสิทธิ์ในการค้าขายตามชายฝั่งทะเลของ[[ยุโรปเหนือ]]


ต้น[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]] เบราน์ชไวก์มีสถานะเป็นเมืองหลวงของ[[รัฐอิสระเบราน์ชไวก์]] ส่วนหนึ่งของ[[สาธารณรัฐไวมาร์]] จนกระทั่ง ค.ศ. 1946 ([[พ.ศ. 2489]]) เบราน์ชไวก์กลายเป็นส่วนหนึ่งของ[[รัฐโลว์เออร์แซกโซนี]]จนถึงปัจจุบัน
ต้น[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]] เบราน์ชไวค์มีสถานะเป็นเมืองหลวงของ[[รัฐอิสระเบราน์ชไวค์]] ส่วนหนึ่งของ[[สาธารณรัฐไวมาร์]] จนกระทั่ง ค.ศ. 1946 ([[พ.ศ. 2489]]) เบราน์ชไวค์กลายเป็นส่วนหนึ่งของ[[รัฐโลว์เออร์แซกโซนี]]จนถึงปัจจุบัน


== ภูมิศาสตร์ ==
== ภูมิศาสตร์ ==
[[ไฟล์:Braunschweig Brunswick Portikus Teich Buergerpark (2007).JPG|thumb|left|แม่น้ำโอเกอร์ขณะไหลผ่านสวนเบือร์เกอร์พาร์ก ทางทิศใต้ของเมืองเก่า]]
[[ไฟล์:Braunschweig Brunswick Portikus Teich Buergerpark (2007).JPG|thumb|left|แม่น้ำโอเกอร์ขณะไหลผ่านสวนเบือร์เกอร์พาร์ก ทางทิศใต้ของเมืองเก่า]]
เมืองเบราน์ชไวก์ตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางเหนือของ[[ประเทศเยอรมนี]] ตั้งอยู่บนที่ราบเยอรมันเหนือ (Norddeutsches Tiefland) มี[[แม่น้ำโอเกอร์]] (Oker) ยาว 128 [[กิโลเมตร]]<ref>[http://www.wasserblick.net/servlet/is/17842/ C-Berichte 2005 der Oberflächengewässer], wasserblick.net. {{de icon}}</ref> ไหลจากทิศใต้ขึ้นสู่ทิศเหนือผ่านเขตเมืองเก่า แม่น้ำสายนี้มีลักษณะพิเศษคือเมื่อเริ่มไหลเข้าเขตเมืองเก่าทางทิศใต้จะมีฝายกั้นน้ำแยกแม่น้ำออกเป็นสองส่วน และบรรจบกันอีกครั้งทางตอนเหนือ ทำให้เขตเมืองเก่าของเบราน์ชไวก์มีสภาพคล้ายเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งในยุคกลางทำหน้าที่เป็นป้อมปราการธรรมชาติของเมือง แม่น้ำโอเกอร์บรรจบกับ[[คลองมิทเทิลลันด์คานาล]] (Mittellandkanal) ทางทิศเหนือของเมือง แหล่งน้ำแห่งอื่นได้แก่ คลองวาเบ (Wabe, ยาว 26.5 กิโลเมตร) และคลองมิทเทิลรีเดอ (Mittelriede, ยาว 6 กิโลเมตร) ซึ่งคลองทั้งสองสายนี้ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร ไหลขนานกันจากทิศใต้ขึ้นเหนือ ผ่านตัวเมืองด้านทิศตะวันออก คลองทั้งสองสายไหลบรรจบกับคลองชุนเทอร์ (Schunter) ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง
เมืองเบราน์ชไวค์ตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางเหนือของ[[ประเทศเยอรมนี]] ตั้งอยู่บนที่ราบเยอรมันเหนือ (Norddeutsches Tiefland) มี[[แม่น้ำโอเกอร์]] (Oker) ยาว 128 [[กิโลเมตร]]<ref>[http://www.wasserblick.net/servlet/is/17842/ C-Berichte 2005 der Oberflächengewässer], wasserblick.net. {{de icon}}</ref> ไหลจากทิศใต้ขึ้นสู่ทิศเหนือผ่านเขตเมืองเก่า แม่น้ำสายนี้มีลักษณะพิเศษคือเมื่อเริ่มไหลเข้าเขตเมืองเก่าทางทิศใต้จะมีฝายกั้นน้ำแยกแม่น้ำออกเป็นสองส่วน และบรรจบกันอีกครั้งทางตอนเหนือ ทำให้เขตเมืองเก่าของเบราน์ชไวค์มีสภาพคล้ายเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งในยุคกลางทำหน้าที่เป็นป้อมปราการธรรมชาติของเมือง แม่น้ำโอเกอร์บรรจบกับ[[คลองมิทเทิลลันด์คานาล]] (Mittellandkanal) ทางทิศเหนือของเมือง แหล่งน้ำแห่งอื่นได้แก่ คลองวาเบ (Wabe, ยาว 26.5 กิโลเมตร) และคลองมิทเทิลรีเดอ (Mittelriede, ยาว 6 กิโลเมตร) ซึ่งคลองทั้งสองสายนี้ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร ไหลขนานกันจากทิศใต้ขึ้นเหนือ ผ่านตัวเมืองด้านทิศตะวันออก คลองทั้งสองสายไหลบรรจบกับคลองชุนเทอร์ (Schunter) ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง


เมืองเบราน์ชไวก์มีพื้นที่ทั้งสิ้น 192.13 [[ตารางกิโลเมตร]] อาณาเขตของพื้นที่เมืองยาว 98 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดระหว่างทิศเหนือ-ใต้ยาว 19.1 กิโลเมตร ระหว่างทิศตะวันออก-ตะวันตกยาว 15.7 กิโลเมตร พื้นที่ใจกลางเมืองมีความสูงจาก[[ระดับน้ำทะเล]]เฉลี่ย 70 เมตร จุดที่สูงที่สุดของเมืองคือเนินเขาไกเทิลเดอร์แบร์ก (Geitelder Berg) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง มีความสูง 111 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนจุดที่ต่ำที่สุดเป็นแนวโค้งของแม่น้ำโอเกอร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง มีความสูง 62 เมตรจากระดับน้ำทะเล<ref>Stadt Braunschweig, Fachbereich Stadtentwicklung und Statistik [http://www.braunschweig.de/politik_verwaltung/statistik/statistische_angaben.html ''Statistische Angaben über Braunschweig''] {{de icon}}</ref>
เมืองเบราน์ชไวค์มีพื้นที่ทั้งสิ้น 192.13 [[ตารางกิโลเมตร]] อาณาเขตของพื้นที่เมืองยาว 98 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดระหว่างทิศเหนือ-ใต้ยาว 19.1 กิโลเมตร ระหว่างทิศตะวันออก-ตะวันตกยาว 15.7 กิโลเมตร พื้นที่ใจกลางเมืองมีความสูงจาก[[ระดับน้ำทะเล]]เฉลี่ย 70 เมตร จุดที่สูงที่สุดของเมืองคือเนินเขาไกเทิลเดอร์แบร์ก (Geitelder Berg) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง มีความสูง 111 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนจุดที่ต่ำที่สุดเป็นแนวโค้งของแม่น้ำโอเกอร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง มีความสูง 62 เมตรจากระดับน้ำทะเล<ref>Stadt Braunschweig, Fachbereich Stadtentwicklung und Statistik [http://www.braunschweig.de/politik_verwaltung/statistik/statistische_angaben.html ''Statistische Angaben über Braunschweig''] {{de icon}}</ref>


เบราน์ชไวก์มี[[ภูมิอากาศ]]ก้ำกึ่งระหว่างอากาศแบบชายทะเลทางทิศตะวันตกและอากาศแบบแผ่นดินใหญ่ทางทิศตะวันออก [[อุณหภูมิ]]ปานกลางเฉลี่ยทั้งปีเท่ากับ 8.8 [[องศาเซลเซียส|°C]] ปริมาณ[[หยาดน้ำฟ้า]]อยู่ระหว่าง 600 ถึง 650 [[มิลลิเมตร]]ต่อปี อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นฤดูร้อนอยู่ที่ 17.5 °C ส่วนในเดือนมกราคมซึ่งเป็นฤดูหนาวมีอุณหภูมิเฉลี่ย 0.2 °C
เบราน์ชไวค์มี[[ภูมิอากาศ]]ก้ำกึ่งระหว่างอากาศแบบชายทะเลทางทิศตะวันตกและอากาศแบบแผ่นดินใหญ่ทางทิศตะวันออก [[อุณหภูมิ]]ปานกลางเฉลี่ยทั้งปีเท่ากับ 8.8 [[องศาเซลเซียส|°C]] ปริมาณ[[หยาดน้ำฟ้า]]อยู่ระหว่าง 600 ถึง 650 [[มิลลิเมตร]]ต่อปี อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นฤดูร้อนอยู่ที่ 17.5 °C ส่วนในเดือนมกราคมซึ่งเป็นฤดูหนาวมีอุณหภูมิเฉลี่ย 0.2 °C


{{Weather box
{{Weather box
|location = เบราน์ชไวก์
|location = เบราน์ชไวค์
|metric first = Yes
|metric first = Yes
|single line = Yes
|single line = Yes
บรรทัด 99: บรรทัด 99:


==การแบ่งเขตปกครอง==
==การแบ่งเขตปกครอง==
[[ไฟล์:BS Bezirke.svg|thumb|แผนที่เขตปกครองของเมืองเบราน์ชไวก์]]
[[ไฟล์:BS Bezirke.svg|thumb|แผนที่เขตปกครองของเมืองเบราน์ชไวค์]]
เมืองเบราน์ชไวก์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 19 เขต<ref>[http://www.braunschweig.de/politik_verwaltung/politik/stadtbezirksraete/UK60-15.png.scaled/450x542.pm0.bgFFFFFF.png แผนที่เขตปัจจุบันของเบราน์ชไวก์], [http://www.braunschweig.de ''braunschweig.de'']</ref> (Stadtbezirk) แต่ละเขตมีสภาเขต (Stadtbezirksrat) และนายกเทศมนตรี (Bezirksbürgermeister) เป็นของตนเอง เขตทั้ง 19 แห่งมีดังนี้
เมืองเบราน์ชไวค์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 19 เขต<ref>[http://www.braunschweig.de/politik_verwaltung/politik/stadtbezirksraete/UK60-15.png.scaled/450x542.pm0.bgFFFFFF.png แผนที่เขตปัจจุบันของเบราน์ชไวค์], [http://www.braunschweig.de ''braunschweig.de'']</ref> (Stadtbezirk) แต่ละเขตมีสภาเขต (Stadtbezirksrat) และนายกเทศมนตรี (Bezirksbürgermeister) เป็นของตนเอง เขตทั้ง 19 แห่งมีดังนี้
{| class="toptextcells"
{| class="toptextcells"
| width=33%" valign="top" |
| width=33%" valign="top" |
บรรทัด 129: บรรทัด 129:


==การคมนาคม==
==การคมนาคม==
[[ไฟล์:Braunschweig Hauptbahnhof Gesamt 2.JPG|thumb|สถานีรถไฟกลางเบราน์ชไวก์]]
[[ไฟล์:Braunschweig Hauptbahnhof Gesamt 2.JPG|thumb|สถานีรถไฟกลางเบราน์ชไวค์]]
[[ไฟล์:100 6771 0756 Rathaus.jpg|thumbnail|ระบบขนส่งมวลชนภายในเมือง (รถรางสาย M1)]]
[[ไฟล์:100 6771 0756 Rathaus.jpg|thumbnail|ระบบขนส่งมวลชนภายในเมือง (รถรางสาย M1)]]
การคมนาคมเข้าสู่เมืองเบราน์ชไวก์ประกอบด้วย ทางรถยนต์ ซึ่งมีทางพิเศษหลักของประเทศสองสายวิ่งผ่าน ได้แก่ [[ออโตบาห์น]]หมายเลข 2 (เชื่อม[[เบอร์ลิน]]–[[ฮันโนเวอร์]]–[[ดอร์ทมุนด์]]) และหมายเลข 38 ([[ซัลส์กิทเทอร์]]–[[ว็อลฟส์บูร์ก]]) [[ทางรถไฟ]]ของเมืองสายหลักเชื่อมระหว่าง[[แฟรงก์เฟิร์ต]]กับเบอร์ลิน และมี[[รถไฟความเร็วสูง]][[อินเตอร์ซิตี-เอ็กซ์เพรส]] (ICE) ให้บริการ สถานีรถไฟประจำเมืองคือ [[สถานีรถไฟกลางเบราน์ชไวก์]] (Braunschweig Hauptbahnhof) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองชั้นในไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 3 กิโลเมตร สนามบินเบราน์ชไวก์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือออกไปนอกเมือง สร้างตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930
การคมนาคมเข้าสู่เมืองเบราน์ชไวค์ประกอบด้วย ทางรถยนต์ ซึ่งมีทางพิเศษหลักของประเทศสองสายวิ่งผ่าน ได้แก่ [[ออโตบาห์น]]หมายเลข 2 (เชื่อม[[เบอร์ลิน]]–[[ฮันโนเวอร์]]–[[ดอร์ทมุนด์]]) และหมายเลข 38 ([[ซัลส์กิทเทอร์]]–[[ว็อลฟส์บูร์ก]]) [[ทางรถไฟ]]ของเมืองสายหลักเชื่อมระหว่าง[[แฟรงก์เฟิร์ต]]กับเบอร์ลิน และมี[[รถไฟความเร็วสูง]][[อินเตอร์ซิตี-เอ็กซ์เพรส]] (ICE) ให้บริการ สถานีรถไฟประจำเมืองคือ [[สถานีรถไฟกลางเบราน์ชไวค์]] (Braunschweig Hauptbahnhof) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองชั้นในไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 3 กิโลเมตร สนามบินเบราน์ชไวค์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือออกไปนอกเมือง สร้างตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930


การคมนาคมภายในเมือง นอกจากทางรถยนต์แล้วยังมีโครงข่ายทาง[[จักรยาน]]กระจายอยู่ทั่วเมือง [[การขนส่ง|ระบบขนส่งมวลชน]]ประกอบด้วย[[รถราง]]และ[[รถโดยสารประจำทาง]] ดำเนินการโดยบริษัท Braunschweiger Verkehrs-GmbH ส่วนระบบขนส่งมวลชนในเขตปริมณฑลและพื้นที่ใกล้เคียงดำเนินการโดยบริษัท Verbundtarif Region Braunschweig (VRB) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Braunschweiger Verkehrs-GmbH ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันรถรางของเมืองมี 5 สาย ความยาวทั้งสิ้น 51 กิโลเมตร หล่อเลี้ยงด้วยระบบไฟฟ้า เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงยกระดับความทันสมัยและก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติม เช่น การก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติมในปี 2007 ความยาว 3.2 กิโลเมตร<ref>[http://www.lightrailnow.org/news/n_newslog2007q1.htm Braunschweig (Germany): New light rail tram line to suburbs reverses Transit Holocaust], Light Rail Now, 2007-13-02.</ref> ส่วนรถโดยสารประจำทางมีให้บริการทั้งสิ้น 38 สาย ความยาวรวมทั้งสิ้น 489 กิโลเมตร เส้นทางรถรางที่ให้บริการในปัจจุบันทั้ง 5 สายได้แก่<ref>[http://www.braunschweiger-verkehrs-ag.de/fileadmin/user_upload/downloads/Liniennetzplan/A4_linienverzeichnis_2012_v.pdf Tram and bus lines in Braunschweig], Braunschweiger-verkehrs-ag.de</ref>
การคมนาคมภายในเมือง นอกจากทางรถยนต์แล้วยังมีโครงข่ายทาง[[จักรยาน]]กระจายอยู่ทั่วเมือง [[การขนส่ง|ระบบขนส่งมวลชน]]ประกอบด้วย[[รถราง]]และ[[รถโดยสารประจำทาง]] ดำเนินการโดยบริษัท Braunschweiger Verkehrs-GmbH ส่วนระบบขนส่งมวลชนในเขตปริมณฑลและพื้นที่ใกล้เคียงดำเนินการโดยบริษัท Verbundtarif Region Braunschweig (VRB) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Braunschweiger Verkehrs-GmbH ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันรถรางของเมืองมี 5 สาย ความยาวทั้งสิ้น 51 กิโลเมตร หล่อเลี้ยงด้วยระบบไฟฟ้า เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงยกระดับความทันสมัยและก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติม เช่น การก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติมในปี 2007 ความยาว 3.2 กิโลเมตร<ref>[http://www.lightrailnow.org/news/n_newslog2007q1.htm Braunschweig (Germany): New light rail tram line to suburbs reverses Transit Holocaust], Light Rail Now, 2007-13-02.</ref> ส่วนรถโดยสารประจำทางมีให้บริการทั้งสิ้น 38 สาย ความยาวรวมทั้งสิ้น 489 กิโลเมตร เส้นทางรถรางที่ให้บริการในปัจจุบันทั้ง 5 สายได้แก่<ref>[http://www.braunschweiger-verkehrs-ag.de/fileadmin/user_upload/downloads/Liniennetzplan/A4_linienverzeichnis_2012_v.pdf Tram and bus lines in Braunschweig], Braunschweiger-verkehrs-ag.de</ref>
บรรทัด 164: บรรทัด 164:
[[ไฟล์:Braunschweiger Burgplatz.jpg|thumb|250px|'''Burgplatz'''<br />(ซ้าย) Burg Dankwarderode<br />(กลางฉากหลัง) ศาลากลางเมือง<br />(กลางฉากหน้า) Burglöwe<br />(ขวา) Braunschweiger Dom]]
[[ไฟล์:Braunschweiger Burgplatz.jpg|thumb|250px|'''Burgplatz'''<br />(ซ้าย) Burg Dankwarderode<br />(กลางฉากหลัง) ศาลากลางเมือง<br />(กลางฉากหน้า) Burglöwe<br />(ขวา) Braunschweiger Dom]]
[[ไฟล์:Braunschweig Altstadtrathaus mit Brunnen.jpg||thumb|250px|'''Altstadtmarkt'''<br />(กลาง) ศาลากลางเมืองเก่า<br />(ขวา) Stechinelli-Haus]]
[[ไฟล์:Braunschweig Altstadtrathaus mit Brunnen.jpg||thumb|250px|'''Altstadtmarkt'''<br />(กลาง) ศาลากลางเมืองเก่า<br />(ขวา) Stechinelli-Haus]]
* ลานจตุรัส "บูวร์กพลัทซ์" (Burgplatz, จตุรัสปราสาท) ใจกลางเมืองเก่าของเบราน์ชไวก์ ประกอบด้วยกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายเชิง[[ประวัติศาสตร์]]และวัฒนธรรมของเมือง ได้แก่ [[มหาวิหารเบราน์ชไวก์]] (Braunschweiger Dom) สร้างช่วงปลาย[[คริสต์ศตวรรษที่ 12]] ปราสาทบูร์กดังก์วาร์เดโรเดอ (Burg Dankwarderode) ศาลากลางเมืองยุค[[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค]] บ้านกิลเดอเฮาส์ (Gildehaus) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสมาคมช่างฝีมือของเมือง กลางจตุรัสเป็นมีรูปปั้น[[บรอนซ์]]รูปสิงโต "บูร์กเลอเว" (Burglöwe, สิงห์ปราสาท) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1166 ด้วยศิลปะแนว[[ศิลปะโรมาเนสก์|โรมาเนสก์]] ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเบราน์ชไวก์
* ลานจตุรัส "บูวร์กพลัทซ์" (Burgplatz, จตุรัสปราสาท) ใจกลางเมืองเก่าของเบราน์ชไวค์ ประกอบด้วยกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายเชิง[[ประวัติศาสตร์]]และวัฒนธรรมของเมือง ได้แก่ [[มหาวิหารเบราน์ชไวค์]] (Braunschweiger Dom) สร้างช่วงปลาย[[คริสต์ศตวรรษที่ 12]] ปราสาทบูร์กดังก์วาร์เดโรเดอ (Burg Dankwarderode) ศาลากลางเมืองยุค[[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค]] บ้านกิลเดอเฮาส์ (Gildehaus) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสมาคมช่างฝีมือของเมือง กลางจตุรัสเป็นมีรูปปั้น[[บรอนซ์]]รูปสิงโต "บูร์กเลอเว" (Burglöwe, สิงห์ปราสาท) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1166 ด้วยศิลปะแนว[[ศิลปะโรมาเนสก์|โรมาเนสก์]] ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเบราน์ชไวค์


* ลาน "อัลท์ชตัดท์มาร์กท์" (Altstadtmarkt, ตลาดเมืองเก่า) รอบข้างเป็นที่ตั้งของศาลากลางเก่าซึ่งสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13–15 ด้วย[[สถาปัตยกรรมกอทิก|สถาปัตยกรรมแนวกอทิก]] โบสถ์[[มาร์แต็งแห่งตูร์|มาร์ตินี]] (Martinikirche) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1195 บ้านโบราณเกวันด์เฮาส์ (Gewandhaus) ซึ่งอดีตเคยเป็นที่ตั้งของสมาคมช่างทอผ้า บ้านชเทคคีเนลลีเฮาส์ (Stechinelli-Haus) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1690 และน้ำพุเก่าแก่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1408
* ลาน "อัลท์ชตัดท์มาร์กท์" (Altstadtmarkt, ตลาดเมืองเก่า) รอบข้างเป็นที่ตั้งของศาลากลางเก่าซึ่งสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13–15 ด้วย[[สถาปัตยกรรมกอทิก|สถาปัตยกรรมแนวกอทิก]] โบสถ์[[มาร์แต็งแห่งตูร์|มาร์ตินี]] (Martinikirche) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1195 บ้านโบราณเกวันด์เฮาส์ (Gewandhaus) ซึ่งอดีตเคยเป็นที่ตั้งของสมาคมช่างทอผ้า บ้านชเทคคีเนลลีเฮาส์ (Stechinelli-Haus) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1690 และน้ำพุเก่าแก่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1408
บรรทัด 172: บรรทัด 172:
* ลาน "ฮาเกินมาร์กท์" (Hagenmarkt) บริเวณใกล้เคียงมีโบสถ์[[แคเธอรินแห่งอะเล็กซานเดรีย|คาทารีเนน]] (Katharinenkirche) สร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 และน้ำพุ[[ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย|ไฮน์ริชส์]]บรุนเนิน (Heinrichsbrunnen) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1874
* ลาน "ฮาเกินมาร์กท์" (Hagenmarkt) บริเวณใกล้เคียงมีโบสถ์[[แคเธอรินแห่งอะเล็กซานเดรีย|คาทารีเนน]] (Katharinenkirche) สร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 และน้ำพุ[[ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย|ไฮน์ริชส์]]บรุนเนิน (Heinrichsbrunnen) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1874


* บริเวณ "มักนิเฟียร์เทิล" (Magniviertel) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเขตเมืองเก่า เป็นเขตที่เก่าแก่ที่สุดเขตหนึ่งของเบราน์ชไวก์ เลียบไปตามถนนที่ปูด้วย[[หินกรวด]] มีร้านค้าขนาดเล็กและร้านกาแฟตั้งเรียงไปตามถนน ช่วงกลางของถนนเป็นที่ตั้งของโบสถ์มักนิ (Magnikirche) สร้างราว[[คริสต์ศตวรรษที่ 13]] นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ริซซีเฮาส์ (Rizzi-Haus) ซึ่งมีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นและสะดุดตาจากลวดลายการ์ตูน ออกแบบโดย[[สถาปนิก]]ชาวอเมริกัน เจมส์ ริซซี สำหรับงาน[[เอ็กซ์โป 2000]] ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง[[ฮันโนเวอร์]]
* บริเวณ "มักนิเฟียร์เทิล" (Magniviertel) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเขตเมืองเก่า เป็นเขตที่เก่าแก่ที่สุดเขตหนึ่งของเบราน์ชไวค์ เลียบไปตามถนนที่ปูด้วย[[หินกรวด]] มีร้านค้าขนาดเล็กและร้านกาแฟตั้งเรียงไปตามถนน ช่วงกลางของถนนเป็นที่ตั้งของโบสถ์มักนิ (Magnikirche) สร้างราว[[คริสต์ศตวรรษที่ 13]] นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ริซซีเฮาส์ (Rizzi-Haus) ซึ่งมีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นและสะดุดตาจากลวดลายการ์ตูน ออกแบบโดย[[สถาปนิก]]ชาวอเมริกัน เจมส์ ริซซี สำหรับงาน[[เอ็กซ์โป 2000]] ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง[[ฮันโนเวอร์]]


* โบสถ์[[นักบุญอันดรูว์|อันเดรอัส]] (Andreaskirche) สร้างด้วยสถาปัตยกรรม[[สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์|โรมาเนสก์]]และ[[สถาปัตยกรรมกอทิก|กอทิก]] สร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 16 งานกระจกสีรังสรรค์โดยชาร์เลส โครเดิล (1894–1973) ภายนอกเป็นที่ตั้งของ "ลิเบไร" (Liberei) ซึ่งเป็นอาคารหอสมุด (อาคารเดี่ยว) ที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี<ref>Tina Stadlmayer, ''Wo Braunschweigs erste Bücher standen'', Merlin-Verlag, 2012, หน้า 7.</ref>
* โบสถ์[[นักบุญอันดรูว์|อันเดรอัส]] (Andreaskirche) สร้างด้วยสถาปัตยกรรม[[สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์|โรมาเนสก์]]และ[[สถาปัตยกรรมกอทิก|กอทิก]] สร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 16 งานกระจกสีรังสรรค์โดยชาร์เลส โครเดิล (1894–1973) ภายนอกเป็นที่ตั้งของ "ลิเบไร" (Liberei) ซึ่งเป็นอาคารหอสมุด (อาคารเดี่ยว) ที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี<ref>Tina Stadlmayer, ''Wo Braunschweigs erste Bücher standen'', Merlin-Verlag, 2012, หน้า 7.</ref>
บรรทัด 180: บรรทัด 180:
* โรงละครประจำรัฐ (Staatstheater Braunschweig) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเก่า สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1856 โรงละครเดิมสร้างเมื่อ ค.ศ. 1690
* โรงละครประจำรัฐ (Staatstheater Braunschweig) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเก่า สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1856 โรงละครเดิมสร้างเมื่อ ค.ศ. 1690


* พระราชวัง[[ดยุก]]เบราน์ชไวก์ ใจกลางเมือง ซึ่งถูกทิ้งระเบิดในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]และถูกรื้อถอนในปี ค.ศ. 1960 จากนั้นพื้นที่นี้กลายเป็น[[สวนสาธารณะ]]ของเมือง และในปี ค.ศ. 2005 โครงสร้างภายนอกเหมือนพระราชวังถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันภายในเป็นพิพิธภัณฑ์และ[[ศูนย์การค้า]]
* พระราชวัง[[ดยุก]]เบราน์ชไวค์ ใจกลางเมือง ซึ่งถูกทิ้งระเบิดในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]และถูกรื้อถอนในปี ค.ศ. 1960 จากนั้นพื้นที่นี้กลายเป็น[[สวนสาธารณะ]]ของเมือง และในปี ค.ศ. 2005 โครงสร้างภายนอกเหมือนพระราชวังถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันภายในเป็นพิพิธภัณฑ์และ[[ศูนย์การค้า]]


* [[พระราชวัง]]ริชมนด์ (Schloss Richmond) แนว[[บารอก]] ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1768–1769 ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะแนวอังกฤษ
* [[พระราชวัง]]ริชมนด์ (Schloss Richmond) แนว[[บารอก]] ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1768–1769 ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะแนวอังกฤษ
บรรทัด 204: บรรทัด 204:


===สวนสาธารณะ===
===สวนสาธารณะ===
เบราน์ชไวก์มีพื้นที่สีเขียวในตัวเมืองหลายแห่ง ได้แก่ [[สวนพฤกษศาสตร์]]แห่ง[[มหาวิทยาลัยเทคนิคเบราน์ชไวก์]] ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1840 โดย[[โยฮันน์ ไฮน์ริช บลาซิอุส]] นอกจากนี้ยังมีสวนเบือร์เกอร์พาร์ก (Bürgerpark, สวนประชาชน) ทางทิศใต้ของเมืองเก่า สวนเลอเวินวัลล์ (Löwenwall, กำแพงสิงห์) ซึ่งภายในมีเสา[[โอเบลิสก์]]ต้นหนึ่งตั้งอยู่ สวนพรินซ์อัลเบรคท์พาร์ก (Prinz-Albrecht-Park) ทางทิศตะวันออกของเมือง สวนอินเซิลวัลล์ (Inselwallpark) สวนมูเซอุมพาร์ก (Museumpark, สวนพิพิธภัณฑ์) สวนหลายแห่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกันกลายเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองชั้นใน
เบราน์ชไวค์มีพื้นที่สีเขียวในตัวเมืองหลายแห่ง ได้แก่ [[สวนพฤกษศาสตร์]]แห่ง[[มหาวิทยาลัยเทคนิคเบราน์ชไวค์]] ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1840 โดย[[โยฮันน์ ไฮน์ริช บลาซิอุส]] นอกจากนี้ยังมีสวนเบือร์เกอร์พาร์ก (Bürgerpark, สวนประชาชน) ทางทิศใต้ของเมืองเก่า สวนเลอเวินวัลล์ (Löwenwall, กำแพงสิงห์) ซึ่งภายในมีเสา[[โอเบลิสก์]]ต้นหนึ่งตั้งอยู่ สวนพรินซ์อัลเบรคท์พาร์ก (Prinz-Albrecht-Park) ทางทิศตะวันออกของเมือง สวนอินเซิลวัลล์ (Inselwallpark) สวนมูเซอุมพาร์ก (Museumpark, สวนพิพิธภัณฑ์) สวนหลายแห่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกันกลายเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองชั้นใน


==บุคคลสำคัญจากเมือง==
==บุคคลสำคัญจากเมือง==
บรรทัด 210: บรรทัด 210:
[[ไฟล์:Ricarda-Huch.jpg|thumb|120px|[[ริการ์ดา ฮูค]]]]
[[ไฟล์:Ricarda-Huch.jpg|thumb|120px|[[ริการ์ดา ฮูค]]]]


บุคคลสำคัญที่เกิดในเมืองเบราน์ชไวก์คนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากคือ [[คาร์ล ฟรีดริช เกาส์]] (1777–1855) นัก[[คณิตศาสตร์]]ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เจ้าชายแห่งคณิตศาสตร์" และนักคณิตศาสตร์อีกท่านที่เกิดในยุคหลังคือ [[ริชาร์ด เดเดคินด์]] (1831–1916) นักเขียนคนสำคัญได้แก่ [[Ernst August Klingemann|แอร์นสท์ เอากุสท์ คลิงเงอมันน์]] และ[[ริการ์ดา ฮูค]] (1864–1947) นักแสดง [[Gustav Knuth|กุสตาฟ คนุท]] นักการทูตและนักการเมือง [[Günter Gaus|กึนเทอร์ เกาส์]] (1929–2004) และ[[Wilhelm Bracke|วิลเฮล์ม บรัคเคอ]] (1842–1880) ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง Sozialdemokratische Arbeiterpartei (SDAP) ซึ่งเป็นพรรคดังเดิมของ[[พรรคประชาธิปไตยสังคมแห่งเยอรมนี]] (SPD) ในปัจจุบัน สถาปนิก [[Carl Theodor Ottmer|คาร์ล เทโอดอร์ อ็อทเมอร์]] นักล่องบอลลูน [[Wilhelmine Reichard|วิลเฮลมีเนอ ไรช์อาร์ด]] (1788–1848) นักประพันธ์เพลงและนักดนตรี [[Louis Spohr|ลูอีส สพอร์]] (1784–1859) นักประพันธ์เพลง [[Norbert Schultze|นอร์แบร์ท ชุลท์เซอ]] (1911–2002) สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน เช่น นักบาสเกตบอล[[เอ็นบีเอ]] [[Dennis Schröder|เดนนิส ชเรอเดอร์]] [[ผู้ตัดสิน (ฟุตบอล)|กรรมการตัดสินฟุตบอล]] [[Florian Meyer|ฟลอเรียน เมเยอร์]]
บุคคลสำคัญที่เกิดในเมืองเบราน์ชไวค์คนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากคือ [[คาร์ล ฟรีดริช เกาส์]] (1777–1855) นัก[[คณิตศาสตร์]]ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เจ้าชายแห่งคณิตศาสตร์" และนักคณิตศาสตร์อีกท่านที่เกิดในยุคหลังคือ [[ริชาร์ด เดเดคินด์]] (1831–1916) นักเขียนคนสำคัญได้แก่ [[Ernst August Klingemann|แอร์นสท์ เอากุสท์ คลิงเงอมันน์]] และ[[ริการ์ดา ฮูค]] (1864–1947) นักแสดง [[Gustav Knuth|กุสตาฟ คนุท]] นักการทูตและนักการเมือง [[Günter Gaus|กึนเทอร์ เกาส์]] (1929–2004) และ[[Wilhelm Bracke|วิลเฮล์ม บรัคเคอ]] (1842–1880) ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง Sozialdemokratische Arbeiterpartei (SDAP) ซึ่งเป็นพรรคดังเดิมของ[[พรรคประชาธิปไตยสังคมแห่งเยอรมนี]] (SPD) ในปัจจุบัน สถาปนิก [[Carl Theodor Ottmer|คาร์ล เทโอดอร์ อ็อทเมอร์]] นักล่องบอลลูน [[Wilhelmine Reichard|วิลเฮลมีเนอ ไรช์อาร์ด]] (1788–1848) นักประพันธ์เพลงและนักดนตรี [[Louis Spohr|ลูอีส สพอร์]] (1784–1859) นักประพันธ์เพลง [[Norbert Schultze|นอร์แบร์ท ชุลท์เซอ]] (1911–2002) สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน เช่น นักบาสเกตบอล[[เอ็นบีเอ]] [[Dennis Schröder|เดนนิส ชเรอเดอร์]] [[ผู้ตัดสิน (ฟุตบอล)|กรรมการตัดสินฟุตบอล]] [[Florian Meyer|ฟลอเรียน เมเยอร์]]


สำหรับบุคคลสำคัญที่ไม่ได้เกิดในเบราน์ชไวก์ แต่เคยใช้ชีวิตในเมืองหรือมีส่วนเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่ง ได้แก่ [[ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย]] (มีชีวิตในช่วง[[คริสต์ศตวรรษที่ 12]]) [[ทิลล์ ออยเลนชปีเกล]] บุคคลในตำนานผู้สร้างความขบขันพอใจให้กับผู้คนทั่วไป นักการ[[การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์|ปฏิรูปศาสนา]] [[Johannes Bugenhagen|โยฮันเนส บูเกินฮาเกิน]] (1485–1558) นักภาษาศาสตร์และกวี [[Hoffmann von Fallersleben|ฮอฟมัน ฟอน ฟัลเลอร์สเลเบิน]] (1798–1874) ผู้ประพันธ์เพลงชาติเยอรมนี ''[[ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน]]''
สำหรับบุคคลสำคัญที่ไม่ได้เกิดในเบราน์ชไวค์ แต่เคยใช้ชีวิตในเมืองหรือมีส่วนเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่ง ได้แก่ [[ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย]] (มีชีวิตในช่วง[[คริสต์ศตวรรษที่ 12]]) [[ทิลล์ ออยเลนชปีเกล]] บุคคลในตำนานผู้สร้างความขบขันพอใจให้กับผู้คนทั่วไป นักการ[[การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์|ปฏิรูปศาสนา]] [[Johannes Bugenhagen|โยฮันเนส บูเกินฮาเกิน]] (1485–1558) นักภาษาศาสตร์และกวี [[Hoffmann von Fallersleben|ฮอฟมัน ฟอน ฟัลเลอร์สเลเบิน]] (1798–1874) ผู้ประพันธ์เพลงชาติเยอรมนี ''[[ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน]]''


== เมืองพี่น้อง ==
== เมืองพี่น้อง ==
เบราน์ชไวก์มี[[เมืองพี่น้องและเมืองแฝด|เมืองพี่น้อง]]<ref>[http://web.archive.org/web/20121201122754/http://www.braunschweig.de/kultur_tourismus/stadtportraet/partnerstaedte/partner_freundschaftsstaedte.html Braunschweigs Partner und Freundschaftsstädte], Stadt Braunschweig, 2012 {{de icon}}</ref> ดังนี้
เบราน์ชไวค์มี[[เมืองพี่น้องและเมืองแฝด|เมืองพี่น้อง]]<ref>[http://web.archive.org/web/20121201122754/http://www.braunschweig.de/kultur_tourismus/stadtportraet/partnerstaedte/partner_freundschaftsstaedte.html Braunschweigs Partner und Freundschaftsstädte], Stadt Braunschweig, 2012 {{de icon}}</ref> ดังนี้


* {{flagicon|IDN}} [[บันดุง]] อินโดนีเซีย (ตั้งแต่ ค.ศ. 1960)
* {{flagicon|IDN}} [[บันดุง]] อินโดนีเซีย (ตั้งแต่ ค.ศ. 1960)
บรรทัด 228: บรรทัด 228:


==ดูเพิ่ม==
==ดูเพิ่ม==
* [[ดัชชีเบราน์ชไวก์-ลือเนบูร์ก]]
* [[ดัชชีเบราน์ชไวค์-ลือเนบูร์ก]]
* [[ไอน์ทรัคท์เบราน์ชไวค์]]
* [[ไอน์ทรัคท์เบราน์ชไวก์]]


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:22, 9 เมษายน 2561

เบราน์ชไวค์
ธงของเบราน์ชไวค์
ธง
ตราราชการของเบราน์ชไวค์
ตราอาร์ม
ที่ตั้งของเบราน์ชไวค์ ในLower Saxony
ประเทศเยอรมนี
รัฐนีเดอร์ซัคเซิน
อำเภอนครนอกอำเภอ
ก่อตั้งคริสต์ศตวรรษที่ 9
เขตการปกครอง19 เขต
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรีอุลริช มาร์คัวร์ท (SPD)
พื้นที่
 • นคร192.13 ตร.กม. (74.18 ตร.ไมล์)
ความสูง75 เมตร (246 ฟุต)
ประชากร
 (2020-12-31)[2]
 • นคร248,561 คน
 • ความหนาแน่น1,300 คน/ตร.กม. (3,400 คน/ตร.ไมล์)
 • รวมปริมณฑล1,150,000[1] คน
เขตเวลาUTC+01:00 (CET)
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)UTC+02:00 (CEST)
รหัสไปรษณีย์38100–38126
รหัสโทรศัพท์0531, 05307, 05309
ทะเบียนพาหนะBS
เว็บไซต์braunschweig.de

เบราน์ชไวค์ (เยอรมัน: Braunschweig; อังกฤษ, ฝรั่งเศส: Brunswick) เป็นเมืองหนึ่งในรัฐโลว์เออร์แซกโซนี ประเทศเยอรมนี มีฐานะเป็นเมืองอิสระ (kreisfreie Stadt) ตามการบริหารเขตปกครองของเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ ปัจจุบันมีประชากรราว 247,000 คน ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของรัฐโลว์เออร์แซกโซนีรองจากฮันโนเวอร์ เมื่อรวมเขตปริมณฑลของเมืองเข้าด้วยจะมีประชากรราว 1 ล้านคน เบราน์ชไวค์เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของประเทศและสหภาพยุโรป[4]

เบราน์ชไวค์เป็นส่วนหนึ่งของ เขตปริมณฑลฮันโนเวอร์-เบราน์ชไวค์-เกิททิงเงน-ว็อลฟส์บูร์ก ซึ่งมีประชากรทั้งหมดราว 3.9 ล้านคน เมืองใหญ่แห่งอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้แก่ ว็อลฟส์บูร์ก (ประชากร 123,000) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 30 กิโลเมตร ฮันโนเวอร์ (ประชากร 518,000) ทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กิโลเมตร และมักเดบูร์ก (ประชากร 230,000) ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 100 กิโลเมตร

ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ของเบราน์ชไวค์ย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 9[5] ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรียได้พัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีอิทธิพลและเข้มแข็งอย่างรวดเร็ว ทำให้ตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 เบราน์ชไวค์มีฐานะเป็นเมืองสมาชิกในสันนิบาตฮันเซียติก ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหารของเมืองการค้าและสมาคมพ่อค้าที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาเอกสิทธิ์ในการค้าขายตามชายฝั่งทะเลของยุโรปเหนือ

ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เบราน์ชไวค์มีสถานะเป็นเมืองหลวงของรัฐอิสระเบราน์ชไวค์ ส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐไวมาร์ จนกระทั่ง ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) เบราน์ชไวค์กลายเป็นส่วนหนึ่งของรัฐโลว์เออร์แซกโซนีจนถึงปัจจุบัน

ภูมิศาสตร์

แม่น้ำโอเกอร์ขณะไหลผ่านสวนเบือร์เกอร์พาร์ก ทางทิศใต้ของเมืองเก่า

เมืองเบราน์ชไวค์ตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางเหนือของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนที่ราบเยอรมันเหนือ (Norddeutsches Tiefland) มีแม่น้ำโอเกอร์ (Oker) ยาว 128 กิโลเมตร[6] ไหลจากทิศใต้ขึ้นสู่ทิศเหนือผ่านเขตเมืองเก่า แม่น้ำสายนี้มีลักษณะพิเศษคือเมื่อเริ่มไหลเข้าเขตเมืองเก่าทางทิศใต้จะมีฝายกั้นน้ำแยกแม่น้ำออกเป็นสองส่วน และบรรจบกันอีกครั้งทางตอนเหนือ ทำให้เขตเมืองเก่าของเบราน์ชไวค์มีสภาพคล้ายเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งในยุคกลางทำหน้าที่เป็นป้อมปราการธรรมชาติของเมือง แม่น้ำโอเกอร์บรรจบกับคลองมิทเทิลลันด์คานาล (Mittellandkanal) ทางทิศเหนือของเมือง แหล่งน้ำแห่งอื่นได้แก่ คลองวาเบ (Wabe, ยาว 26.5 กิโลเมตร) และคลองมิทเทิลรีเดอ (Mittelriede, ยาว 6 กิโลเมตร) ซึ่งคลองทั้งสองสายนี้ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร ไหลขนานกันจากทิศใต้ขึ้นเหนือ ผ่านตัวเมืองด้านทิศตะวันออก คลองทั้งสองสายไหลบรรจบกับคลองชุนเทอร์ (Schunter) ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง

เมืองเบราน์ชไวค์มีพื้นที่ทั้งสิ้น 192.13 ตารางกิโลเมตร อาณาเขตของพื้นที่เมืองยาว 98 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดระหว่างทิศเหนือ-ใต้ยาว 19.1 กิโลเมตร ระหว่างทิศตะวันออก-ตะวันตกยาว 15.7 กิโลเมตร พื้นที่ใจกลางเมืองมีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 70 เมตร จุดที่สูงที่สุดของเมืองคือเนินเขาไกเทิลเดอร์แบร์ก (Geitelder Berg) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง มีความสูง 111 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนจุดที่ต่ำที่สุดเป็นแนวโค้งของแม่น้ำโอเกอร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง มีความสูง 62 เมตรจากระดับน้ำทะเล[7]

เบราน์ชไวค์มีภูมิอากาศก้ำกึ่งระหว่างอากาศแบบชายทะเลทางทิศตะวันตกและอากาศแบบแผ่นดินใหญ่ทางทิศตะวันออก อุณหภูมิปานกลางเฉลี่ยทั้งปีเท่ากับ 8.8 °C ปริมาณหยาดน้ำฟ้าอยู่ระหว่าง 600 ถึง 650 มิลลิเมตรต่อปี อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นฤดูร้อนอยู่ที่ 17.5 °C ส่วนในเดือนมกราคมซึ่งเป็นฤดูหนาวมีอุณหภูมิเฉลี่ย 0.2 °C

ข้อมูลภูมิอากาศของเบราน์ชไวค์
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 2.8
(37)
3.7
(38.7)
8.1
(46.6)
13.1
(55.6)
18
(64)
21
(70)
22.6
(72.7)
22.3
(72.1)
18.9
(66)
13.2
(55.8)
7.5
(45.5)
4.1
(39.4)
13
(55)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) −2.3
(27.9)
−2.3
(27.9)
0
(32)
3.3
(37.9)
7.2
(45)
10.3
(50.5)
12.4
(54.3)
12
(54)
9.2
(48.6)
5.5
(41.9)
2.4
(36.3)
−0.7
(30.7)
4.8
(40.6)
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) 44
(1.73)
38
(1.5)
43
(1.69)
47
(1.85)
59
(2.32)
73
(2.87)
65
(2.56)
65
(2.56)
45
(1.77)
43
(1.69)
49
(1.93)
50
(1.97)
621
(24.45)
แหล่งที่มา: Klimadiagramm für Braunschweig (เยอรมัน)

การแบ่งเขตปกครอง

แผนที่เขตปกครองของเมืองเบราน์ชไวค์

เมืองเบราน์ชไวค์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 19 เขต[8] (Stadtbezirk) แต่ละเขตมีสภาเขต (Stadtbezirksrat) และนายกเทศมนตรี (Bezirksbürgermeister) เป็นของตนเอง เขตทั้ง 19 แห่งมีดังนี้

  1. วาเบ-ชุนเทอร์-เบเบอร์บาค
    Wabe-Schunter-Beberbach
  2. ฮนเดอลาเกอ
    Hondelage
  3. โฟล์คมาโรเดอ
    Volkmarode
  4. เอิสท์ลิเชสริงเกบีท
    Östliches Ringgebiet
  5. อินเนินชตัดท์
    Innenstadt
  6. ฟีเว็กส์การ์เทิน-เบเบิลโฮฟ
    Viewegsgarten-Bebelhof
  7. ชเติคไฮม์-ไลแฟร์เดอ
    Stöckheim-Leiferde
  1. ไฮด์แบร์ก-เม็ลเฟโรเดอ
    Heidberg-Melverode
  2. ซึดชตัดท์-เราท์ไฮม์-มัชเชโรเดอ
    Südstadt-Rautheim-Mascherode
  3. เวสท์ชตัดท์
    Weststadt
  4. ทิมเมอร์ลา-ไกเทลเดอ-ชติดเดียน
    Timmerlah-Geitelde-Stiddien
  5. โบรทเซ็ม
    Broitzem
  6. รือนิงเงิน
    Rüningen
  1. เวสท์ลิเชสริงเกบีท
    Westliches Ringgebiet
  2. เลนดอร์ฟ-วาเทินบึทเทิล
    Lehndorf-Watenbüttel
  3. เฟลเทินโฮฟ-รือเมอ
    Veltenhof-Rühme
  4. เวนเดิน-ทูเนอ-ฮาร์กซ์บึทเทิล
    Wenden-Thune-Harxbüttel
  5. นอร์ดชตัดท์
    Nordstadt
  6. ชุนเทอร์เอาอา
    Schunteraue

การคมนาคม

สถานีรถไฟกลางเบราน์ชไวค์
ระบบขนส่งมวลชนภายในเมือง (รถรางสาย M1)

การคมนาคมเข้าสู่เมืองเบราน์ชไวค์ประกอบด้วย ทางรถยนต์ ซึ่งมีทางพิเศษหลักของประเทศสองสายวิ่งผ่าน ได้แก่ ออโตบาห์นหมายเลข 2 (เชื่อมเบอร์ลินฮันโนเวอร์ดอร์ทมุนด์) และหมายเลข 38 (ซัลส์กิทเทอร์ว็อลฟส์บูร์ก) ทางรถไฟของเมืองสายหลักเชื่อมระหว่างแฟรงก์เฟิร์ตกับเบอร์ลิน และมีรถไฟความเร็วสูงอินเตอร์ซิตี-เอ็กซ์เพรส (ICE) ให้บริการ สถานีรถไฟประจำเมืองคือ สถานีรถไฟกลางเบราน์ชไวค์ (Braunschweig Hauptbahnhof) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองชั้นในไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 3 กิโลเมตร สนามบินเบราน์ชไวค์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือออกไปนอกเมือง สร้างตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930

การคมนาคมภายในเมือง นอกจากทางรถยนต์แล้วยังมีโครงข่ายทางจักรยานกระจายอยู่ทั่วเมือง ระบบขนส่งมวลชนประกอบด้วยรถรางและรถโดยสารประจำทาง ดำเนินการโดยบริษัท Braunschweiger Verkehrs-GmbH ส่วนระบบขนส่งมวลชนในเขตปริมณฑลและพื้นที่ใกล้เคียงดำเนินการโดยบริษัท Verbundtarif Region Braunschweig (VRB) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Braunschweiger Verkehrs-GmbH ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันรถรางของเมืองมี 5 สาย ความยาวทั้งสิ้น 51 กิโลเมตร หล่อเลี้ยงด้วยระบบไฟฟ้า เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงยกระดับความทันสมัยและก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติม เช่น การก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติมในปี 2007 ความยาว 3.2 กิโลเมตร[9] ส่วนรถโดยสารประจำทางมีให้บริการทั้งสิ้น 38 สาย ความยาวรวมทั้งสิ้น 489 กิโลเมตร เส้นทางรถรางที่ให้บริการในปัจจุบันทั้ง 5 สายได้แก่[10]

สาย สถานีต้นทาง สถานีปลายทาง
M1 เวนเดิน
Wenden
ชเติคไฮม์
Stöckheim
2 ซิกฟรีดเฟียร์เทิล
Siegfriedviertel
ไฮด์แบร์ก
Heidberg
M3 โฟล์คมาโรเดอ
Volkmarode
เวสท์ชตัดท์ เวเซอร์ชตราเซอ
Weststadt Weserstraße
4 ราเดอคลินท์
Radeklint
เฮล์มชเตดเทอร์ชตราเซอ
Helmstedter Straße
M5 สถานีรถไฟกลาง
Hauptbahnhof
โบรทเซ็ม
Broitzem

แหล่งท่องเที่ยว

Burgplatz
(ซ้าย) Burg Dankwarderode
(กลางฉากหลัง) ศาลากลางเมือง
(กลางฉากหน้า) Burglöwe
(ขวา) Braunschweiger Dom
Altstadtmarkt
(กลาง) ศาลากลางเมืองเก่า
(ขวา) Stechinelli-Haus
  • ลานจตุรัส "บูวร์กพลัทซ์" (Burgplatz, จตุรัสปราสาท) ใจกลางเมืองเก่าของเบราน์ชไวค์ ประกอบด้วยกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมือง ได้แก่ มหาวิหารเบราน์ชไวค์ (Braunschweiger Dom) สร้างช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปราสาทบูร์กดังก์วาร์เดโรเดอ (Burg Dankwarderode) ศาลากลางเมืองยุคสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค บ้านกิลเดอเฮาส์ (Gildehaus) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสมาคมช่างฝีมือของเมือง กลางจตุรัสเป็นมีรูปปั้นบรอนซ์รูปสิงโต "บูร์กเลอเว" (Burglöwe, สิงห์ปราสาท) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1166 ด้วยศิลปะแนวโรมาเนสก์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเบราน์ชไวค์
  • ลาน "อัลท์ชตัดท์มาร์กท์" (Altstadtmarkt, ตลาดเมืองเก่า) รอบข้างเป็นที่ตั้งของศาลากลางเก่าซึ่งสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13–15 ด้วยสถาปัตยกรรมแนวกอทิก โบสถ์มาร์ตินี (Martinikirche) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1195 บ้านโบราณเกวันด์เฮาส์ (Gewandhaus) ซึ่งอดีตเคยเป็นที่ตั้งของสมาคมช่างทอผ้า บ้านชเทคคีเนลลีเฮาส์ (Stechinelli-Haus) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1690 และน้ำพุเก่าแก่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1408
  • ลาน "โคห์ลมาร์กท์" (Kohlmarkt, ตลาดถ่านหิน) ล้อมรอบด้วยบ้านเก่าแก่และน้ำพุที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1869
  • ลาน "ฮาเกินมาร์กท์" (Hagenmarkt) บริเวณใกล้เคียงมีโบสถ์คาทารีเนน (Katharinenkirche) สร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 และน้ำพุไฮน์ริชส์บรุนเนิน (Heinrichsbrunnen) สร้างเมื่อ ค.ศ. 1874
  • บริเวณ "มักนิเฟียร์เทิล" (Magniviertel) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเขตเมืองเก่า เป็นเขตที่เก่าแก่ที่สุดเขตหนึ่งของเบราน์ชไวค์ เลียบไปตามถนนที่ปูด้วยหินกรวด มีร้านค้าขนาดเล็กและร้านกาแฟตั้งเรียงไปตามถนน ช่วงกลางของถนนเป็นที่ตั้งของโบสถ์มักนิ (Magnikirche) สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ริซซีเฮาส์ (Rizzi-Haus) ซึ่งมีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นและสะดุดตาจากลวดลายการ์ตูน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกัน เจมส์ ริซซี สำหรับงานเอ็กซ์โป 2000 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฮันโนเวอร์
  • โบสถ์อันเดรอัส (Andreaskirche) สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และกอทิก สร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 16 งานกระจกสีรังสรรค์โดยชาร์เลส โครเดิล (1894–1973) ภายนอกเป็นที่ตั้งของ "ลิเบไร" (Liberei) ซึ่งเป็นอาคารหอสมุด (อาคารเดี่ยว) ที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี[11]
  • โบสถ์เอกีเดียน (Aegidienkirche) แนวสถาปัตยกรรมกอทิก สร้างเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 และมีอารามตั้งอยู่ติดกันซึ่งในปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์
  • โรงละครประจำรัฐ (Staatstheater Braunschweig) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเก่า สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1856 โรงละครเดิมสร้างเมื่อ ค.ศ. 1690
  • พระราชวังดยุกเบราน์ชไวค์ ใจกลางเมือง ซึ่งถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและถูกรื้อถอนในปี ค.ศ. 1960 จากนั้นพื้นที่นี้กลายเป็นสวนสาธารณะของเมือง และในปี ค.ศ. 2005 โครงสร้างภายนอกเหมือนพระราชวังถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันภายในเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์การค้า
  • พระราชวังริชมนด์ (Schloss Richmond) แนวบารอก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1768–1769 ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะแนวอังกฤษ
  • แอบบีย์ริดดักส์เฮาเซิน (Kloster Riddagshausen) ตั้งอยู่ริมคลองวาเบ ทางทิศตะวันออกของตัวเมือง เดิมเป็นอารามแห่งคณะซิสเตอร์เชียน รอบแอบบีย์เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ Riddagshäuser Teiche
(ซ้าย) Veltheimsches Haus
(ขวา) Gildehaus
(ซ้าย) Veltheimsches Haus
(ขวา) Gildehaus 
Martinikirche
Martinikirche 
Gewandhaus
Gewandhaus 
Kohlmarkt
Kohlmarkt 
(หลัง) Katharinenkirche
(หน้า) Heinrichsbrunnen
(หลัง) Katharinenkirche
(หน้า) Heinrichsbrunnen 
Magnikirche
Magnikirche 
Happy Rizzi House
Happy Rizzi House 
(ซ้าย) Andreaskirche
(ขวา) Alte Waage
(ซ้าย) Andreaskirche
(ขวา) Alte Waage 
Aegidienkirche
Aegidienkirche 
โรงละครแห่งรัฐ
โรงละครแห่งรัฐ 
Schlossmuseum Braunschweig
Schlossmuseum Braunschweig 
Schloss Richmond
Schloss Richmond 

สวนสาธารณะ

เบราน์ชไวค์มีพื้นที่สีเขียวในตัวเมืองหลายแห่ง ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเทคนิคเบราน์ชไวค์ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1840 โดยโยฮันน์ ไฮน์ริช บลาซิอุส นอกจากนี้ยังมีสวนเบือร์เกอร์พาร์ก (Bürgerpark, สวนประชาชน) ทางทิศใต้ของเมืองเก่า สวนเลอเวินวัลล์ (Löwenwall, กำแพงสิงห์) ซึ่งภายในมีเสาโอเบลิสก์ต้นหนึ่งตั้งอยู่ สวนพรินซ์อัลเบรคท์พาร์ก (Prinz-Albrecht-Park) ทางทิศตะวันออกของเมือง สวนอินเซิลวัลล์ (Inselwallpark) สวนมูเซอุมพาร์ก (Museumpark, สวนพิพิธภัณฑ์) สวนหลายแห่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกันกลายเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองชั้นใน

บุคคลสำคัญจากเมือง

คาร์ล ฟรีดริช เกาส์
ริการ์ดา ฮูค

บุคคลสำคัญที่เกิดในเมืองเบราน์ชไวค์คนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากคือ คาร์ล ฟรีดริช เกาส์ (1777–1855) นักคณิตศาสตร์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เจ้าชายแห่งคณิตศาสตร์" และนักคณิตศาสตร์อีกท่านที่เกิดในยุคหลังคือ ริชาร์ด เดเดคินด์ (1831–1916) นักเขียนคนสำคัญได้แก่ แอร์นสท์ เอากุสท์ คลิงเงอมันน์ และริการ์ดา ฮูค (1864–1947) นักแสดง กุสตาฟ คนุท นักการทูตและนักการเมือง กึนเทอร์ เกาส์ (1929–2004) และวิลเฮล์ม บรัคเคอ (1842–1880) ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง Sozialdemokratische Arbeiterpartei (SDAP) ซึ่งเป็นพรรคดังเดิมของพรรคประชาธิปไตยสังคมแห่งเยอรมนี (SPD) ในปัจจุบัน สถาปนิก คาร์ล เทโอดอร์ อ็อทเมอร์ นักล่องบอลลูน วิลเฮลมีเนอ ไรช์อาร์ด (1788–1848) นักประพันธ์เพลงและนักดนตรี ลูอีส สพอร์ (1784–1859) นักประพันธ์เพลง นอร์แบร์ท ชุลท์เซอ (1911–2002) สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน เช่น นักบาสเกตบอลเอ็นบีเอ เดนนิส ชเรอเดอร์ กรรมการตัดสินฟุตบอล ฟลอเรียน เมเยอร์

สำหรับบุคคลสำคัญที่ไม่ได้เกิดในเบราน์ชไวค์ แต่เคยใช้ชีวิตในเมืองหรือมีส่วนเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่ง ได้แก่ ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย (มีชีวิตในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12) ทิลล์ ออยเลนชปีเกล บุคคลในตำนานผู้สร้างความขบขันพอใจให้กับผู้คนทั่วไป นักการปฏิรูปศาสนา โยฮันเนส บูเกินฮาเกิน (1485–1558) นักภาษาศาสตร์และกวี ฮอฟมัน ฟอน ฟัลเลอร์สเลเบิน (1798–1874) ผู้ประพันธ์เพลงชาติเยอรมนี ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน

เมืองพี่น้อง

เบราน์ชไวค์มีเมืองพี่น้อง[12] ดังนี้

  • อินโดนีเซีย บันดุง อินโดนีเซีย (ตั้งแต่ ค.ศ. 1960)
  • ฝรั่งเศส นีม ฝรั่งเศส (ตั้งแต่ ค.ศ. 1962)
  • อังกฤษ บาธ สหราชอาณาจักร (ตั้งแต่ ค.ศ. 1971)
  • ตูนิเซีย Sousse ตูนีเซีย (ตั้งแต่ ค.ศ. 1980)
  • อิสราเอล Kiryat Tiv'on อิสราเอล (ตั้งแต่ ค.ศ. 1985/86)
  • เยอรมนี มักเดบูร์ก เยอรมนี (ตั้งแต่ ค.ศ. 1987)
  • รัสเซีย คาซาน รัสเซีย (ตั้งแต่ ค.ศ. 1988)
  • สหรัฐ โอมาฮา สหรัฐอเมริกา (ตั้งแต่ ค.ศ. 1992)
  • จีน จูไห่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (ตั้งแต่ ค.ศ. 2011)

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. "Regionales Energiekonzept für den Großraum Braunschweig" (PDF). Zgb.de. สืบค้นเมื่อ August 16, 2012.
  2. Landesamt für Statistik Niedersachsen, LSN-Online Regionaldatenbank, Tabelle A100001G: Fortschreibung des Bevölkerungsstandes, Stand 31. Dezember 2020.
  3. Landesbetrieb für Statistik und Kommunikationstechnologie Niedersachsen (สำนักสถิติและเทคโนโลยีการสื่อสารรัฐโลว์เออร์แซกโซนี), 100 Bevölkerungsfortschreibung – Basis Zensus 2011, Stand 31. Dezember 2014 (เยอรมัน)
  4. Research and innovation statistics at regional level, Ec.europa.eu, 2014.
  5. Wolfgang Kimpflinger: Denkmaltopographie Bundesrepublik Deutschland. Baudenkmale in Niedersachsen. Band 1.1.: Stadt Braunschweig. Teil 1, S. 94. (เยอรมัน)
  6. C-Berichte 2005 der Oberflächengewässer, wasserblick.net. (เยอรมัน)
  7. Stadt Braunschweig, Fachbereich Stadtentwicklung und Statistik Statistische Angaben über Braunschweig (เยอรมัน)
  8. แผนที่เขตปัจจุบันของเบราน์ชไวค์, braunschweig.de
  9. Braunschweig (Germany): New light rail tram line to suburbs reverses Transit Holocaust, Light Rail Now, 2007-13-02.
  10. Tram and bus lines in Braunschweig, Braunschweiger-verkehrs-ag.de
  11. Tina Stadlmayer, Wo Braunschweigs erste Bücher standen, Merlin-Verlag, 2012, หน้า 7.
  12. Braunschweigs Partner und Freundschaftsstädte, Stadt Braunschweig, 2012 (เยอรมัน)

แหล่งข้อมูลอื่น