ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดชิงะ"
บรรทัด 42: | บรรทัด 42: | ||
จังหวัดชิงะมีอาณาเขตติดกับ[[จังหวัดฟุกุอิ]]ทางทิศเหนือ [[จังหวัดกิฟุ]]ทางทิศตะวันออก [[จังหวัดมิเอะ]]ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และ[[จังหวัดเกียวโต]]ทางทิศตะวันตก มี[[ทะเลสาบบิวะ]]ตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัด มี[[ภูเขาฮิระ]] และ[[ยอดเขาฮิเอ]]ทางทิศตะวันตก [[ภูเขาอิบุกิ]]ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ [[ภูเขาซุซุกะ]]ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศเหนือมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นกว่าทางใต้ที่มีอากาศอบอุ่น |
จังหวัดชิงะมีอาณาเขตติดกับ[[จังหวัดฟุกุอิ]]ทางทิศเหนือ [[จังหวัดกิฟุ]]ทางทิศตะวันออก [[จังหวัดมิเอะ]]ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และ[[จังหวัดเกียวโต]]ทางทิศตะวันตก มี[[ทะเลสาบบิวะ]]ตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัด มี[[ภูเขาฮิระ]] และ[[ยอดเขาฮิเอ]]ทางทิศตะวันตก [[ภูเขาอิบุกิ]]ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ [[ภูเขาซุซุกะ]]ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศเหนือมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นกว่าทางใต้ที่มีอากาศอบอุ่น |
||
[[ทะเลสาบบิวะ]] เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 4 พื้นที่หลักๆคือ โคะโฮะกุ (湖北 ทะเลสาบตอนเหนือ) โคะเซ (湖西 ทะเลสาบตะวันตก) โคะโต (湖 ทะเลสาบตะวันออก) และ โคะนัน (湖南 ทะเลสาบทางใต้) |
|||
ในการสำรวจเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2008 พื้นที่ร้อยละ 37 ถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อัตราส่วนที่สูงที่สุดของทุกจังหวัดในญี่ปุ่น) |
|||
{{เขตการปกครองในญี่ปุ่น}} |
{{เขตการปกครองในญี่ปุ่น}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:34, 10 ตุลาคม 2556
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
แม่แบบ:กล่องข้อมูล จังหวัดประเทศญี่ปุ่น
จังหวัดชิงะ (ญี่ปุ่น: 滋賀県; โรมาจิ: Shiga-ken) เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคคันไซ มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองโอสึ มีขนาดพื้นที่ทั้งสิ้น 4,017.36 ตารางกิโลเมตร
ประวัติศาสตร์
ในสมัยก่อน ชิงะ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มณฑลโอมิ หรือโกชู ก่อนที่จะมีการใช้ระบบการบริหารราชการแบบแบ่งจังหวัดขึ้น มณฑลโอมิเป็นเพื่อนบ้านกับนะระ และเคียวโตะ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างญี่ปุ่นตะวันตกและตะวันออก ในช่วง ค.ศ. 667 ถึง ค.ศ.672 นั้น จักรพรรดิเทนจิทรงสร้างพระราชวังที่โอสึ จากนั้น ในปี ค.ศ.742 จักรพรรดิโชมุทรงสร้างพระราชวังที่ชิงะระกิ ในช่วงต้นของยุคเฮอัน พระภิกษุไชโชเติบโตขึ้นที่โอสึและได้สร้างวัดเอ็นเรียะคุ เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายมหายานแบบเทนได และได้ปัจจุบันได้เป็นหนึ่งในมรดกโลกพร้อมกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่งในเคียวโตะ
ในยุคกลางนั้น มณฑลโอมิถูกปกครองจากตระกูลซะซะกิ ตามด้วยตระกูลรกกะกุ ตระกูลเคียวโงกุ และตระกูลอะไซ จากนั้นในทศวรรษ 1570 โอะดะ โนะบุนะงะได้เข้ายึดโอมิและสร้างปราสาทอะซุจิขึ้นที่ริมทะเลสาบบิวะฝั่งตะวันออกเมื่อปี ค.ศ. 1579 หลังจากนั้นมณฑลโอมิก็มีไดเมียวปกครองหลายคน และในสมัยนั้น ยังมีนินจาอยู่ที่แถบนี้มากด้วย
ในปี ค.ศ. 1600 อิชิดะ มิสึนะริ กำเนิดขึ้นที่ทางตะวันออกของนะงะฮะมะและได้สร้างปราสาทซะวะยะมะ เพื่อใช้ในการสงครามต้านทัพของโทะกุงะวะ อิเอะยะสุในจังหวัดกิฟุ หลังจากศึกในครั้งนั้น อิเอะยะสุได้ให้อี นะโอะมะสะ เป็นผู้ครองปราสาทซะวะยะมะคนใหม่ นะโอะมะสะปกครองแคว้นฮิโกะเนะ ซึ่งมีชื่อเสียงในยุคของอี นะโอะซุเกะ เมื่ออี นะโอะซุเกะได้เข้าไปรับใช้รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ ก็ได้เป็นผู้ทำสนธิสัญญาทางการค้ากับประเทศตะวันตกและยุติการปิดประเทศญี่ปุ่นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
เมื่อมีการยกเลิกระบบศักดินาในญี่ปุ่น มณฑลโอมิก็ถูกแบ่งเป็น 8 จังหวัด หลังจากนั้นก็ถูกรวมเข้าเป็นจังหวัดเดียวเป็นจังหวัดชิงะเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1872
สภาพภูมิศาสตร์
จังหวัดชิงะมีอาณาเขตติดกับจังหวัดฟุกุอิทางทิศเหนือ จังหวัดกิฟุทางทิศตะวันออก จังหวัดมิเอะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจังหวัดเกียวโตทางทิศตะวันตก มีทะเลสาบบิวะตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัด มีภูเขาฮิระ และยอดเขาฮิเอทางทิศตะวันตก ภูเขาอิบุกิทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ภูเขาซุซุกะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศเหนือมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นกว่าทางใต้ที่มีอากาศอบอุ่น
ทะเลสาบบิวะ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 4 พื้นที่หลักๆคือ โคะโฮะกุ (湖北 ทะเลสาบตอนเหนือ) โคะเซ (湖西 ทะเลสาบตะวันตก) โคะโต (湖 ทะเลสาบตะวันออก) และ โคะนัน (湖南 ทะเลสาบทางใต้)
ในการสำรวจเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2008 พื้นที่ร้อยละ 37 ถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อัตราส่วนที่สูงที่สุดของทุกจังหวัดในญี่ปุ่น)