ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (ประเทศไทย)"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 17: | บรรทัด 17: | ||
== รายชื่อหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ == |
== รายชื่อหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ == |
||
ในปัจจุบันมีหน่วยบริการรูปแบบพิเศษในประเทศไทย จำนวน 2 หน่วยงาน คือ<ref>[http://po.opdc.go.th/org3.php?cat_id=3 ข้อมูลพื้นฐาน หน่วยงบริการรูปแบบพเศษ]</ref> |
ในปัจจุบันมีหน่วยบริการรูปแบบพิเศษในประเทศไทย จำนวน 2 หน่วยงาน คือ<ref>[http://po.opdc.go.th/org3.php?cat_id=3 ข้อมูลพื้นฐาน หน่วยงบริการรูปแบบพเศษ]</ref> |
||
* [[สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี]] |
* [[สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี]] สังกัด[[สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ]] |
||
* [[สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจานุเบกษา]] |
* [[สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจานุเบกษา]] สังกัด[[สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี]] |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:44, 1 พฤษภาคม 2556
หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (อังกฤษ: Service Delivery Unit: SDU) เป็นรูปแบบหน่วยงานที่สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ศึกษาแนวทางการจัดรูปแบบหน่วยงานของรัฐ เพื่อการส่งเสริมประสิทธิภาพการพัฒนาระบบราชการตามเจตนารมณ์และเงื่อนไขตามมาตรา 3/1 และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และแผนยุทธศาสตร์พัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2546-2550) เกี่ยวกับการจัดโครงสร้างรูปแบบอื่นที่มิใช่ส่วนราชการ
แนวคิดและหลักการ
หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ มีแนวคิดและหลักการ คือ
- มีสถานะเป็นหน่วยงานให้บริการภายในของระบบราชการ โดยมีลักษณะกึ่งอิสระ แต่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลยังคงถือเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงหรือกรม และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของปลัดกระทรวงหรืออธิบดี มีเป้าหมายให้บริการหน่วยงานแม่เป็นอันดับแรก และหากมีกำลังการผลิตส่วนเกินจะให้บริการหน่วยงานอื่นได้ ในการส่งมอบผลผลิตต้องมีระบบการประกันคุณภาพ
- มีลักษณะของการจัดโครงสร้างการบริหารในแบบการกระจายอำนาจ แยกส่วนออกมาเป็นหน่วยงานเอกเทศ หรือเรียกกันว่า ศูนย์รับผิดชอบ (responsibility center) ที่สามารถดูแลรับผิดชอบการดำเนินงานการบริหารทรัพยากรและการส่งมอบผลผลิตของตนเองในลักษณะเดียวกันกับศูนย์กำไร (profit center) ที่นิยมจัดตั้งขึ้นในบริษัทธุรกิจโดยทั่วไป
- มีการถ่ายโอนและโยกย้ายข้าราชการและลูกจ้างบางส่วนออกไป ลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของการดำเนินงานให้ดีขึ้น
- องค์ประกอบของลักษณะงานที่อาจกำหนดเป็นหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ
- มีลักษณะงานเป็นการให้บริการ
- สามารถดำเนินการได้อย่างชัดเจนภายใต้กรอบนโยบายที่กำหนดขึ้น
- มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงและสร้างภาระรับผิดชอบต่อหน่วยงานแม่ต้นสังกัดได้
- สามารถวัดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
- มีขนาดที่เหมาะสมเพียงพอต่อการแยกส่วนออกมาจากหน่วยงานแม่ต้นสังกัด
- ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
- การบริหารงาน อาจดำเนินการในรูปของคณะกรรมการอำนวยการหรือคณะกรรมการบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากหน่วยงานแม่ต้นสังกัด โดยให้มีผู้อำนวยการซึ่งผ่านการคัดเลือกตามเงื่อนไขที่กำหนด ทำหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารงานให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว ทั้งนี้ หน่วยบริการรูปแบบพิเศษจะต้องมีอิสระความคล่องตัวในการจัดโครงสร้างองค์กร อัตรากำลังและค่าตอบแทนของตนได้เองตามความเหมาะสม โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการหรือคณะกรรมการบริหาร หรือผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานแม่สุดแล้วแต่กรณี
รายชื่อหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ
ในปัจจุบันมีหน่วยบริการรูปแบบพิเศษในประเทศไทย จำนวน 2 หน่วยงาน คือ[1]
- สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
- สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจานุเบกษา สังกัดสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี