ข้ามไปเนื้อหา

พายุไซโคลนอำพัน (พ.ศ. 2563)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พายุไซโคลนอำพัน
พายุซูเปอร์ไซโคลนอำพัน
พายุไซโคลนอำพันขณะมีกำลังแรงสูงสุดเมื่อวันที่
17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
ประวัติทางอุตุนิยมวิทยา
ก่อตัว16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
สลายตัว21 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
พายุซูเปอร์ไซโคลน
3-นาที ของเฉลี่ยลม (IMD)
ความเร็วลมสูงสุด240 กม./ชม. (150 ไมล์/ชม.)
ความกดอากาศต่ำสุด900 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์)
; 26.58 นิ้วปรอท
พายุไต้ฝุ่น
10-นาที ของเฉลี่ยลม (TMD)
ความเร็วลมสูงสุด240 กม./ชม. (150 ไมล์/ชม.)
ความกดอากาศต่ำสุด900 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์)
; 26.58 นิ้วปรอท
พายุหมุนเขตร้อนระดับ 5
1-นาที ของเฉลี่ยลม (SSHWS)
ความเร็วลมสูงสุด285 กม./ชม. (180 ไมล์/ชม.)
ความกดอากาศต่ำสุด895 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์)
; 26.43 นิ้วปรอท
ผลกระทบ
ผู้เสียชีวิต128 ราย
ความเสียหาย$14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ค่าเงินปี พ.ศ. 2563 USD)
(เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่สร้างความ
เสียหาย
มากที่สุดในมหาสมุทร
อินเดียเหนือ
)
พื้นที่ได้รับผลกระทบอินเดีย, บังกลาเทศ, ศรีลังกา,
ภูฏาน, พม่า, ไทย
IBTrACS

ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุไซโคลนมหาสมุทร
อินเดียเหนือ พ.ศ. 2563

พายุซูเปอร์ไซโคลนอำพัน (อักษรโรมัน: Amphan)[nb 1] เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่มีความรุนแรงที่สุดในบริเวณมหาสมุทรอินเดียเหนือในช่วงปี พ.ศ. 2563[1] และเป็นพายุที่สร้างความเสียหายอย่างหนักในประเทศอินเดียโดยเฉพาะในรัฐเบงกอลตะวันตก และรัฐโอฑิศา และประเทศบังกลาเทศ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 นับเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดที่เคลื่อนตัวพัดถล่มสามเหลี่ยมปากแม่น้ำคงคา และเป็นพายุที่หายากที่เคลื่อนตัวพัดถล่มทางตอนเหนือของประเทศบังกลาเทศตั้งแต่ราชชาฮีถึงรังปุระในช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤษภาคม พายุได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อการผลิตมะม่วงของราชชาฮีและรังปุระ[2] นอกจากนี้ ยังเป็นพายุลูกที่ 4 ที่เคลื่อนตัวพัดถล่มรัฐเบงกอลตะวันตก และโกลกาตา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 รวมถึงเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่ส่งผลกระทบในพื้นที่[3] พายุไซโคลนอำพันได้ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าประมาณ 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] และยังเป็นพายุที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในมหาสมุทรอินเดียเหนือแซงหน้าพายุไซโคลนนาร์กิสที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเมื่อปี พ.ศ. 2551[5]

พายุไซโคลนอำพันเป็นลูกแรกของฤดูพายุไซโคลนมหาสมุทรอินเดียเหนือ พ.ศ. 2563 ก่อตัวขึ้นจากหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของโคลัมโบประมาณ 300 กิโลเมตร (200 ไมล์) หลังจากนั้นพายุก็ได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และก่อตัวขึ้นเหนืออุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น หย่อมความกดอากาศต่ำได้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนในวันที่ 15 พฤษภาคม และในวันต่อมาพายุก็ได้กลายเป็นพายุไซโคลนกำลังแรงอย่างมากภายใน 12 ชั่วโมง พายุไซโคลนอำพันมีกำลังแรงสูงสุดด้วยความเร็วลม 3 นาทีที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (150 ไมล์ต่อชั่วโมง) และด้วยความเร็วลมสูงสุด 1 นาทีที่ 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (180 ไมล์ต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่ 900 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 26.58 นิ้วของปรอท) ในวันที่ 18 พฤษภาคม พายุเริ่มสร้างวัฏจักรการแทนที่กำแพงตาได้ไม่นาน หลังจากที่พายุมีกำลังแรงสูงสุด แต่ผลกระทบต่อเนื่องของอากาศแห้ง และลมเฉือน ที่ทำให้กระบวนการนี้หยุดชะงัก และทำให้พายุอ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ ในขณะที่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศอินเดีย และรัฐเบงกอลตะวันตก เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พายุไซโคลนอำพันได้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่ง และสลายตัวไปในเวลาไม่นาน

พื้นที่ชายฝั่งในรัฐเบงกอลตะวันตก เช่น อำเภอปัศจิมเมดินีปุระ อำเภอปูร์บาเมดินีปุระ ทางตอนเหนือ 24 ของอำเภอปารกานัส ทางตอนใต้ 24 ของอำเภอปารกานัส โกลกาตา อำเภอฮูกลี และอำเภอฮาวราห์ เป็นต้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุ นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากในประเทศบังกลาเทศโดยนำพายุฝนฟ้าคะนองมาสู่ราชชาฮี และรังปุระ พายุไซโคลนอำพันยังสร้างความเสียหายให้กับโกลกาตา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่[6]

ผลกระทบ

[แก้]

ประเทศอินเดีย

[แก้]

พายุไซโคลนอำพันได้เคลื่อนตัวพัดขึ้นฝั่งที่รัฐเบงกอลตะวันตกด้วยความเร็วลม 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (100 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในประเทศอินเดีย พายุได้คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 98 ราย และสร้างความเสียหายมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.17 ล้านล้านรูปี (13.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) พายุได้ก่อให้เกิดลมแรงจนหลังคาบ้านปลิว ต้นไม้โค่นล้มลง และคลื่นลมแรงซัดฝั่งสูงประมาณ 4.6 เมตร ในพื้นที่ เช่น ดีกา และรัฐเบงกอลตะวันตก เป็นต้น[7][8]

ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย

[แก้]

พายุไซโคลนอำพันได้เคลื่อนตัวพัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองบักคาลีในรัฐเบงกอลตะวันตกเมื่อเวลา 16:00 น. (09:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 20 พฤษภาคม[9] พัดกระหน่ำภูมิภาคด้วยลมแรง และฝนตกหนัก[10] แม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก แต่ผลกระทบของพายุก็ยังคงเป็นวงกว้าง และร้ายแรงในรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพายุที่เคลื่อนตัวพัดขึ้นฝั่ง และได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนอำพันอย่างกว้างขวางที่สุด[11] พายุลูกนี้ถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดที่เคลื่อนตัวพัดถล่มภูมิภาคนี้ในรอบกว่าทศวรรษ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 86 ราย[12] ในรัฐเบงกอลตะวันตก ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการถูกไฟฟ้าดูด หรือบ้านเรือนพังถล่ม[13] รัฐบาลของรัฐประมาณการว่าพายุลูกนี้สร้างความเสียหายอย่างน้อย 1.02 ล้านล้านรูปี (13.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และส่งผลโดยตรงต่อประชากรของรัฐ 70 เปอร์เซ็นต์[14]

หัวหน้าคณะรัฐมนตรีมะมะตา พยานาร์จี ได้กล่าวถึงผลกระทบของพายุที่นั่นว่าเลวร้ายกว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019[15] คลื่นลมแรงซัดฝั่งสูงประมาณ 5 เมตร ท่วมชุมชนที่อยู่ชายฝั่งเป็นบริเวณกว้าง และการสื่อสารถูกตัดขาด มีการคาดการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นที่สุนทรวัน ซึ่งอาจขยายไปถึงประมาณ 15 กิโลเมตร (9.3 ไมล์) ในแผ่นดิน[16] เขื่อนกั้นน้ำในภูมิภาคถูกคลื่นซัดทับส่งผลให้เกาะต่าง ๆ ในสุนทรวันถูกน้ำท่วม[17] สะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะต่าง ๆ กับแผ่นดินใหญ่ของประเทศอินเดียถูกพัดหายไป[18] พายุได้ก่อให้เกิดลมแรงที่มีความเร็วลมที่ต่อเนื่องอยู่ที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (70 ไมล์ต่อชั่วโมง) และลมกระโชกแรงถึง 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (120 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งบันทึกโดยหอสังเกตการณ์อาลีปอร์ในโกลกาตา พายุได้ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ต้นไม้ และเสาไฟฟ้าโค่นล้มลง ความเร็วลมตามพื้นที่ชายฝั่งวัดได้สูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (100 ไมล์ต่อชั่วโมง) และในเมืองแคนนิงมีการบันทึกความเร็วลมได้ 157 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (98 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดยมีลมกระโชกแรงถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (115 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในขณะที่นิมพิธ เกาะซาการ์ และที่อยู่ใกล้เคียง มีการบันทึกความเร็วลมได้ 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (95 ไมล์ต่อชั่วโมง)[19] ท่าอากาศยานนานาชาติเนตาจี สุภาษ จันทระ โพส มีการบันทึกความเร็วลมได้สูงถึง 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (83 ไมล์ต่อชั่วโมง) และโกลกาตาได้มีการบันทึกความเร็วลมสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (80 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อเวลา 21:30 น. (17:30 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) มีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ประมาณ 240 มิลลิเมตร (9.44 นิ้ว) ในโกลกาตา และบริเวณโดยรอบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม[20]

เหตุการณ์นี้ทำให้รถพลิกคว่ำ และต้นไม้โค่นล้มลงประมาณ 10,000 ต้น[21] เทศบาลนครโกลกาตาได้เปิดเผยว่าพายุไซโคลนอำพันได้ทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มลงมากกว่าประมาณ 4,000 ต้น[22] และส่งผลให้เมืองส่วนใหญ่ไม่มีไฟฟ้าใช้นานกว่า 14 ชั่วโมง[23] มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยประมาณ 19 ราย ในโกลกาตา และพายุยังทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างทั่วเมืองอีกด้วย มีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ประมาณ 236 มิลลิเมตร (9.3 นิ้ว) ในโกลกาตา[24] สายไฟฟ้าที่ขาดได้ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วรัฐเบงกอลตะวันตก และยังทำให้หัวหน้าคณะรัฐมนตรีมะมะตา พยานาร์จี ได้สั่งตัดแหล่งจ่ายไฟใน 2 รัฐ ของ 24 ของอำเภอปารกานัสเป็นมาตรการป้องกัน ทางตอนเหนือ 24 ของอำเภอปารกานัสมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบ้านเรือนได้รับความเสียหายถึงประมาณ 5,500 หลัง[25] บ้านดินหลายพันหลังได้รับความเสียหายในอำเภอฮูกลี และที่อยู่ใกล้เคียง บ้านเรือนกว่าล้านหลังได้รับความเสียหายในทางตอนใต้ 24 ของอำเภอปารกานัส คันดินที่พังทลายทำให้หมู่บ้าน และพื้นที่เพาะปลูกหลายแห่ง ต้องถูกน้ำท่วม บ้านเรือนประมาณ 26,000 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างหนักในโกซาบา น้ำท่วมจากน้ำทะเลส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ หลังจากเกิดความเสียหายต่อคันดินที่อยู่ใกล้เคียงประมาณ 19 กิโลเมตร (12 ไมล์) พายุลูกนี้อยู่ห่างจากพื้นที่ในอำเภอนาเดียประมาณ 150 กิโลเมตร (95 ไมล์) ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในรัฐเบงกอลตะวันตก เช่น นาข้าวประมาณ 88,000 เฮกตาร์ และพืชผักประมาณ 200,000 เฮกตาร์ เป็นต้น[26]

รัฐโอฑิศาเป็นรัฐเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงโดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 106 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (66 ไมล์ต่อชั่วโมง) และมีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ประมาณ 300 มิลลิเมตร (12 นิ้ว) ในปาราดีป เมืองภัทรรักมีปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ประมาณ 384.6 มิลลิเมตร (15.14 นิ้ว) สายไฟฟ้าแรงสูงยาวประมาณ 1,167 กิโลเมตร (725 ไมล์) หม้อแปลงไฟฟ้าประมาณ 126,540 ตัว และสถานีไฟฟ้าย่อยประมาณ 448 แห่ง ได้รับผลกระทบอย่างหนักส่งผลกระทบให้ประชาชนประมาณ 3.4 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และความเสียหายต่อโครงข่ายไฟฟ้าสูงถึงประมาณ 3.2 พันล้านรูปี (42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[27] มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในรัฐโอฑิศา เช่น ผู้คน 2 ราย เสียชีวิตจากวัตถุที่พังทลาย ผู้คน 1 ราย เสียชีวิตจากการจมน้ำ[28] และผู้คนอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เป็นต้น[29] ประชาชนประมาณ 4.4 ล้านคน ใน 10 เขต ในรัฐโอฑิศา ที่ได้รับผลกระทบจากพายุในทางใดทางหนึ่ง บ้านเรือนอย่างน้อยประมาณ 500 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และบ้านเรือนอีก 15,000 หลัง ได้รับความเสียหาย ปศุสัตว์เกือบประมาณ 4,000 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ปีกได้ตายลงหมด พายุไซโคลนอำพันมีความรุนแรงที่สุดในบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย[30]

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. "อำพัน" เป็นชื่อพายุหมุนเขตร้อนในรายชื่อชุดที่ 8 ลำดับที่ 8 ของมหาสมุทรอินเดียเหนือ และส่งโดยประเทศไทย

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Naming of Tropical Cyclones over the North Indian Ocean" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). New Delhi: Regional Specialized Meteorological Centre. 2023-12-06. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 3 September 2021. สืบค้นเมื่อ 6 December 2023.
  2. Kumar, Shubham; Lal, Preet; Kumar, Amit (2021-06-01). "Influence of Super Cyclone "Amphan" in the Indian Subcontinent amid COVID-19 Pandemic". Remote Sensing in Earth Systems Sciences (ภาษาอังกฤษ). 4 (1): 96–103. doi:10.1007/s41976-021-00048-z. ISSN 2520-8209. PMC 8197602. PMID 34151185.{{cite journal}}: CS1 maint: PMC format (ลิงก์)
  3. * Nandi, Jayashree; Thakur, Joydeep (2020-05-18). "Super Cyclonic Storm #Amphan is the 1st SUCS in the Bay of Bengal since the 1999 Odisha Super Cyclone". Hindustan Times (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 May 2020. สืบค้นเมื่อ 19 May 2020.
  4. "Amphan: Cyclone wreaks deadly havoc in India and Bangladesh". BBC News (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-20. สืบค้นเมื่อ 20 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  5. Sud, Vedika; Rajaram, Prema (2020-05-22). "Cyclone Amphan caused an estimated $13.2 billion in damage in India's West Bengal: government source" (ภาษาอังกฤษ). CNN. สืบค้นเมื่อ 22 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. "Cyclone devastates Kolkata and leaves scores dead" (ภาษาอังกฤษ). BBC News. 2020-05-21. สืบค้นเมื่อ 23 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  7. Bloch, Matthew (2020-05-20). "Live Cyclone Amphan Map: Tracking the Storm's Path". The New York Times (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 13 January 2021.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  8. Freedman, Andrew; Slater, Joanna (2021-01-13). "Cyclone Amphan poses extreme storm surge danger for eastern India, Bangladesh". Washington Post (ภาษาอังกฤษ). ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ 13 January 2021.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  9. "In pictures: Cyclone Amphan hits India and Bangladesh" (ภาษาอังกฤษ). CNN. 2020-05-20. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 May 2020. สืบค้นเมื่อ 20 May 2020.
  10. "HIGHLIGHTS | 6.5 lakh evacuated, at least 24 dead as Cyclone 'Amphan' batters Bengal, Odisha; to weaken into 'deep depression'". The New Indian Express (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-21. สืบค้นเมื่อ 22 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. Beer, Tommy (2020-05-22). "500,000 Families May Be Homeless Due To Devastation From Cyclone Amphan". Forbes (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  12. "Mamata pegs cyclone Amphan damage at ₹1 lakh crore, toll rises to 86". The Hindu (ภาษาอังกฤษ). THG Publishing. 2020-05-23. สืบค้นเมื่อ 23 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  13. "72 killed in Amphan's march through Bengal, PM Modi to visit today". The Times of India (ภาษาอังกฤษ). Bennett, Coleman & Company. Times News Network. 2020-05-22. สืบค้นเมื่อ 21 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  14. Singh, Shiv Sahay (2020-06-07). "Bengal pegs cyclone Amphan damage at ₹1.02 lakh crore". Hindustan Times (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 8 June 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  15. "Cyclone Amphan [LIVE]: Wind velocity in Kolkata clocks 112 kmph as cyclone crosses WB; 2 people dead in state". TimesNowNews.com (ภาษาอังกฤษ). Bennett, Coleman & Company. Times Now Digital. 2020-05-20. สืบค้นเมื่อ 22 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  16. Nagchoudhary, Subrata; Paul, Ruma (2020-05-20). "Cyclone kills 14 in India, Bangladesh leaving trail of destruction". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  17. "Cyclone Amphan: Protests erupt as Bengal reels under storm aftermath; Army deployed for restoration work". The Indian Express (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-23. สืบค้นเมื่อ 25 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  18. "After Cyclone Hits India and Bangladesh, the Waiting Begins". The New York Times (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-21. สืบค้นเมื่อ 22 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  19. "72 people dead in West Bengal, Mamata urges PM Modi to visit state". The Economic Times (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-21. สืบค้นเมื่อ 21 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  20. "6 Hours Of Fear As Cyclone Amphan Ripped Through Kolkata: Videos". NDTV.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-06-01. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  21. "72 people dead in West Bengal, Mamata urges PM Modi to visit state". The Economic Times (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-21. สืบค้นเมื่อ 21 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  22. Nagchoudhary, Subrata; Paul, Ruma (2020-05-20). "Cyclone kills 14 in India, Bangladesh leaving trail of destruction". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  23. Niyogi, Subhro; Ray, Saikat (2020-05-22). "Kolkata loses 5,000 trees, experts want shift in plantation pattern". The Times of India (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-22.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  24. "Protests over lack of power & water in several parts of Calcutta". The Telegraph (ภาษาอังกฤษ). Kolkata, India. 2020-05-23. สืบค้นเมื่อ 25 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  25. "Cyclone Amphan: Survivors return to face destruction left by storm" (ภาษาอังกฤษ). BBC. 2020-05-22. สืบค้นเมื่อ 23 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  26. Nagchoudhary, Subrata; Paul, Ruma (2020-05-22). "Cyclone Amphan leaves thousands homeless in eastern India, Modi offers help". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  27. "Cyclone 'Amphan' aftermath: Power supply restored in affected districts". The New Indian Express (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-26. สืบค้นเมื่อ 27 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  28. Mohanty, Debabrata (2020-05-21). "3 dead as Cyclone Amphan crosses Odisha before making landfall in Bengal". Hindustan Times (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 21 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  29. "Agony after cyclone Amphan in Odisha". The New Indian Express (ภาษาอังกฤษ). 2020-05-22. สืบค้นเมื่อ 27 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  30. Barik, Satyasundar (2020-05-20). "Amphan: Heavy rain, wind hit coastal districts of Odisha". The Hindu (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 May 2020.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]