พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน
พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งเกิตทาลันด์ (สวีเดน) ดยุกแห่งจัตแลนด์ใต้ (ชเลสวิช) เจ้าชายแห่งเดนมาร์ก | |||||
พระมหากษัตริย์สวีเดนแห่งเกิตทาลันด์ | |||||
ครองราชย์ | ราว 1120-1132 | ||||
ก่อนหน้า | อิงเงอที่ 2 | ||||
ถัดไป | สแวร์เกอร์ที่ 1 | ||||
ประสูติ | ราว ค.ศ. 1106 | ||||
สวรรคต | 4 มิถุนายน ค.ศ. 1134 (28 ปี) ยุทธการฟอเตอวิค, แคว้นสคาเนีย | ||||
คู่อภิเษก | ริเชซาแห่งโปแลนด์ | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | แอสตริดเซน | ||||
พระราชบิดา | พระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | มาร์กาเรียตา เฟรียดกุลลาแห่งสวีเดน | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน หรือ พระเจ้ามักนุส ผู้แข็งแกร่ง (สวีเดน: Magnus Nilsson; เดนมาร์ก: Magnus Nielsen[1]) (ราว ค.ศ. 1106 – 4 มิถุนายน ค.ศ. 1134 ในยุทธการฟอเตอวิค) ทรงเป็นเจ้าชายและดยุกเดนมาร์กที่ปกครองเกิตทาลันด์ในทางตอนใต้ของสวีเดนตั้งแต่ทศวรรษที่ 1120 ถึงราวค.ศ. 1132 ยังเป็นที่ถกเถียงว่าพระองค์ได้รับเลือกเป็นพระมหากษัตริย์โดยชาวสวีเดนหรือไม่ แต่บางครั้งพระองค์ก็ปรากฏพระนามในรายพระนามพระมหากษัตริย์สวีเดนในการรวบรวมรายชื่อยุคสมัยใหม่ ในฐานะ กษัตริย์มักนุสที่ 1[2][3] สตอร์รี สตูร์ลาสันได้ตั้งพระสมัญญานามของพระองค์ว่า "มักนุส ผู้แข็งแกร่ง"
พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ร่วมในเดนมาร์กในช่วงเวลาสั้นๆ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1134[4] จนกระทั่งพระองค์สวรรคต
ทรงพระเยาว์และรูปโฉม
[แก้]เจ้าชายมักนุสแห่งเดนมาร์กเป็นพระราชโอรสในพระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์กกับพระราชินีมาร์กาเรียตา เฟรียดกุลลา ซึ่งเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าอิงเงอที่ 1 แห่งสวีเดน เมื่อเจ้าชายอิงเงอ นีลส์เซน พระเชษฐาของพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุจากการทรงม้า ส่งผลให้เจ้าชายมักนุสเป็นรัชทายาทหนึ่งเดียวของกษัตริย์นีลส์[5] พระองค์เจริญพระชันษารูปร่างสูงโปร่งและทรงมีพระวรกายแข็งแรง และทรงมีพระเศียรสูงกว่าใคร พงศาวดารให้ภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันในเรื่องรูปโฉมของพระองค์ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบทางการเมืองของนักพงศาวดารแต่ละคน พงศาวดารรอสคิลด์ ซึ่งใกล้เคียงยุคร่วมสมัย บรรยายว่าพระองค์เป็นคนสนุกสนาน พระทัยกว้าง และมี "ความแน่วแน่ในอุปนิสัย" ส่วนแซ็กโซ แกรมมาติคัสบรรยายว่าพระองค์มีความเป็นธรรมชาติแต่ก็มีความป่าเถื่อนดุร้าย[6]
เส้นทางสู่การเป็นกษัตริย์
[แก้]เมื่อพระญาติของพระราชินีมาร์กาเรียตา คือ พระเจ้าอิงเงอที่ 2 แห่งสวีเดนสวรรคตโดยในเวลาช่วงทศวรรษที่ 1120 เจ้าชายมักนุสทรงอ้างสิทธิในราชบัลลังก์สวีเดนในฐานะเป็นพระราชนัดดาองค์ใหญ่ในพระเจ้าอิงเงอที่ 1 แห่งสวีเดน ตามพงศาวดารของแซ็กโซ แกรมมาติคัส กษัตริย์มักนุสได้รับการยอมรับจากชาวกีต (เกิตทาร์นา) ในเกิตทาลันด์ แต่อภิสิทธิ์ในการเลือกตั้งกษัตริย์นั้นอยู่ในมือของชาวสวีเดน (สวีด) ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งทางตอนเหนือของชาวกีต
ในพงศาวดารโดยรวมตามกฎหมายเวสโตรเกิตทิก ไม่ได้กล่าวถึงกษัตริย์มักนุส แต่บันทึกว่า หลังจากการสวรรคตของกษัตริย์อิงเงอ ชาวสวีดได้เลือกรังน์วัลด์ นัปฮอเดอขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ กษัตริย์รังน์วัลด์นั้นไม่ทรงให้ความเคารพต่อชาวกีตโดยทรงไม่มอบตัวประกันให้ตามธรรมเนียมในระหว่างทรงม้าประกอบพิธีอีริคสกาตา (พิธีการเสด็จเยือนเพื่อรับตำแหน่ง)[7] เพื่อการแก้แค้น กษัตริย์รังน์วัลด์ถูกลอบปลงพระชนม์โดยชาวกีต เหตุการณ์เกิดขึ้นราวค.ศ. 1129 หลังจากเหตุการณ์นี้ ผู้ดูแลกฎหมายของเวสเตร์เกิตลันด์ ชื่อ คาร์ลแห่งอัดสวือรา ได้เข้าปกครองแคว้นของเขาในช่วงเวลานี้ โดยเขาถูกเรียกในบางครั้งว่าเป็น "ยาร์ล" หรือ "กษัตริย์"[8]
แซ็กโซไม่ได้เอ่ยพระนามของรังน์วัลด์ แต่ระบุว่าได้มีการเลือกชาวสวีดเป็นกษัตริย์เพื่อตอบสนองต่อต้านการเลือกตั้งกษัตริย์มักนุส และอ้างอีกว่าชาวสวีดพระองค์นั้นถูกสังหารโดยชาวกีต และ "เมื่อพระองค์สวรรคต อำนาจก็ถูกถ่ายโอนไปยังมักนุส"[9] มักนุสไม่ได้ถูกกล่าวถึงในฐานะพระมหากษัตริย์ในรายพระนามกษัตริย์สวีเดน จึงทำให้มีการตั้งคำถามถึงขอบเขตอำนาจที่แท้จริงของพระองค์[10]
รัชกาล
[แก้]มีแหล่งข้อมูลไม่กี่แหล่งระบุว่าศาสนาคริสต์ยังไม่ได้มีการเผยแพร่ไปทั่วทุกพื้นที่ ซิวาร์ดัส บิชอปแห่งอุปซอลาได้รับการแต่งตั้งจากอร์กบิชอปแห่งฮัมบูร์ก-เบรเมินใน ค.ศ. 1123 แต่เขาถูกขับไล่โดย "พวกเพแกน" ใน ค.ศ. 1130 บิชอปคนอื่นๆ อย่างเฮนริก ได้รับการแต่งตั้งให้ประจำซิกตูนา โดยอาร์กบิชอกเดนมาร์ก คือ อัสเชอร์ ทอร์คิลสัน และเขาจะกลายเป็นผู้สนับสนุนกษัตริย์มักนุสอย่างแข็งขัน การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งบอกถึงการขับเคี่ยวกันระหว่างฮัมบูร์ก-เบรเมินและอาร์กบิชอปแห่งลุนด์ของเดนมาร์ก[11] มีเรื่องราวตามพงศาวดารของแซ็กโซ ระบุว่า กษัตริย์มักนุสทรงออกสำรวจแบบไวกิงตามพื้นที่ต่างๆ ของสวีเดนอย่างล่าช้าและทรงนำค้อนธอร์กลับมาหลังจากที่พระองค์เข้าปล้นเกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ชาวสวีเดนที่ยังไม่นับถือศาสนาคริสต์เต็มที่ มองว่าพระองค์เป็นผู้ก่อกวนวิหารที่ทำการปล้นเหล่าทวยเทพ[12]
ราว ค.ศ. 1127 กษัตริย์มักนุสอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงริเชซาแห่งโปแลนด์ พระราชธิดาในดยุกโบเรสเลาสที่ 3 แห่งโปแลนด์ ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรส ได้แก่ เจ้าชายคนุตแห่งสวีเดน (ประสูติ ค.ศ. 1129 ต่อมาเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์ก) และเจ้าชายนีลส์แห่งสวีเดน (ประสูติ ค.ศ. 1130) ใน ค.ศ. 1130 กษัตริย์มักนุสทรงสนับสนุนดยุกโบเรสเลาที่ 3 ในการยึดเกาะรือเงิน กองทัพโปแลนด์และกองเรือเดนมาร์กสามารถขับไล่ชาว รานี (ชนเผ่าสลาวิก) เพื่อสถาปนาอำนาจของชาวโปแลนด์เหนือเกาะนี้[13]
สงครามกลางเมืองในเดนมาร์ก
[แก้]ในค.ศ. 1131 กษัตริย์มักนุสทรงมีพระญาติผู้พี่พระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นคู่แข่งในการสืบราชบัลลังก์เดนมาร์ก คือ เจ้าชายคนุต ลาวาร์ด และพระองค์ก็วางแผนปลงพระชนม์เจ้าชายพระองค์นี้[1] หลังจากทรงก่อการครั้งนี้ พระองค์ต้องเสด็จกลับไปยังเกิตเทินลันด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ แม้ว่าพระองค์จะได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์นีลส์แห่งเดนมาร์ก พระราชบิดา แต่กษัตริย์มักนุสต้องทำสงครามกลางเมืองกับพระเชษฐาต่างมารดาของเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด คือ เจ้าชายอีริค[1] สงครามกลางเมืองเดนมาร์กทำให้สถานะของกษัตริย์มักนุสในสวีเดนอ่อนแอลง ชาวสวีดได้รวมตัวกันเลือกเจ้าที่ดินจากเอิสเตร์เยิตลันด์ขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกเขาในฐานะ พระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน[14] ตามพงศาวดารของแซ็กโซ แกรมมาติคัสระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดราว ค.ศ. 1132[8]
อดีตกษัตริย์มักนุสและกษัตริย์นีลส์แห่งเดนมาร์ก พระราชบิดาได้สู้รบกับศัตรูในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1134 ณ ยุทธการฟอเตอวิค แคว้นสคาเนีย ตามบันทึกของแซ็กโซ กษัตริย์ชรานีลส์ทรงตื่นตระหนกและเสด็จหนีออกไปเมื่อกองทัพของเจ้าชายอีริคเข้ามาใกล้ แต่อดีตกษัตริย์มักนุสทรงเผชิญหน้ากับศัตรูพร้อมผู้ติดตามที่มุ่งมั่น "พระองค์ทรงยอมตายแทนที่จะหลบหนีเพื่อไม่ให้ชื่อเสียงด้านความกล้าหาญของพระองค์ต้องมัวหมอง สุดท้าย พระองค์ทรงต่อสู้อย่างมุทะลุและสังหารศัตรูจำนวนมาก แล้วพระองค์ก็ล้มลงนอนสิ้นใจทับซากศพที่กองอยู่รอบตัวพระองค์"[15] หลังจากความพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด กษัตริย์นีลส์ทรงหลบหนีไปทางเรือ แต่พระองค์ก็ถูกปลงพระชนม์ในปีเดียวกัน
พระราชมรดก
[แก้]หลังจากอดีตกษัตริย์มักนุสสวรรคต สมเด็จพระพันปีหลวงริเชซา พระราชินีม่ายของพระองค์เสด็จกลับไปยังอีกฟากของทะเลบอลติก พระนางอภิเษกสมรสกับโวโลดาร์ เกลโบวิช เจ้าชาบแห่งมินสก์ ผู้นำเชื้อสายไวกิงจากราชวงศ์รูลิค หลังจากนั้นพระนางเสด็จกลับสวีเดนและอภิเษกสมรสกับพระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน ศัตรูผู้โค่นอำนาจกษัตริย์มักนุส อดีตพระราชสวามี
พระราชโอรสของกษัตริย์มักนุส คือ พระเจ้าคนุตที่ 5 แห่งเดนมาร์ก ได้แข่งขันในการสืบราชบัลลังก์เดนมาร์กกับพระญาติ คือ พระเจ้าสเวนที่ 3 แห่งเดนมาร์ก เมื่อกษัตริย์คนุตที่ 5 สวรรคตในค.ศ. 1157 เชื้อสายสันตติวงศ์ตามกฎหมายของพระองค์ได้สูญสิ้น พระโอรสองค์โตของกษัตริย์คนุต คือ นักบุญนีลส์ มรณภาพในค.ศ. 1180 มีโอรสนอกสมรสที่ประสูติหลังจากกษัตริย์คนุตสวรรคต ได้แก่ บิชอปวัลเดมาร์แห่งชเลสวิชและเป็นมุขนายกแห่งเบรเมิน มรณภาพในค.ศ. 1236 เขาเป็นเชื้อสายของกษัตริย์มักนุสคนสุดท้าย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 Bricka, Carl Frederik, Dansk Biografisk Lexikon, vol. XI [Maar – Müllner], 1897, pp.45. Available online
- ↑ Kings and Rulers of Sweden ISBN 91-87064-35-9 pp. 3 & 15
- ↑ Swedish Royal Court เก็บถาวร 2011-05-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน official list of monarchs
- ↑ Reference (direct link not possible): Regesta Imperii. Akademie der Wissenschaften und der Literatur, Mainz: "RI IV Lothar III. und ältere Staufer (1125-1197) - RI IV,1,1 - 1134 April 15, Halberstadt" (www.regesta-imperii.de/regesten/4-1-1-lothar-iii/nr/1134-04-15_1_0_4_1_1_392_392.html?tx_hisodat_sources[action]=show&tx_hisodat_sources[controller]=Sources&cHash=8719127f4b33fc041a031693357e7cd7#rinav)
- ↑ Saxo Grammaticus, Danmarks kronike, II, p. 55-6.
- ↑ Gillingstam, "Magnus Nilsson".
- ↑ Västgötalagen, http://project2.sol.lu.se/fornsvenska/01_Bitar/A.L5.D-Vidhem.html
- ↑ 8.0 8.1 Sawyer, När Sverige blev Sverige, pp. 38-39.
- ↑ Saxo Grammaticus, Danmarks kronike, II, p. 64.
- ↑ Tunberg, Sveriges historia till våra dagar, II, p. 39.
- ↑ Sawyer, När Sverige blev Sverige, pp. 39.
- ↑ Saxo Grammaticus, Danmarks kronike, II, p. 66.
- ↑ Edmund Kosiarz, Wojny na Bałtyku X–XIX w., Gdańsk 1978, p. 38.
- ↑ Saxo Grammaticus, Danmarks kronike, II, p. 81.
- ↑ Saxo Grammaticus, Danmarks kronike, II, p. 84.
วรรณกรรม
[แก้]- Bricka, Carl Frederik, Dansk Biografisk Lexikon, vol. XI [Maar – Müllner], 1897. http://runeberg.org/dbl/11/0047.html
- Gillingstam, Hans. "Magnus Nilsson", Svenskt biografiskt lexikon, https://sok.riksarkivet.se/sbl/Presentation.aspx?id=10158
- Kosiarz, Edmund, Wojny na Bałtyku X–XIX w. Gdańsk, 1978.
- Sawyer, Peter. När Sverige blev Sverige. Alingsås: Viktoria, 1991.
- Saxo Grammaticus. Danmarks kronike, Vol. I-II. Kobenhavn: Aschenfeldt's, 1985 (ISBN 87-414-4524-4).
- Tunberg, Sven. Sveriges historia till våra dagar. Andra delen. Äldre medeltiden. Stockholm: P.A. Norstedt & Söners Förlag, 1926.
- Västgötalagen, http://project2.sol.lu.se/fornsvenska/01_Bitar/A.L5.D-Vidhem.html
ก่อนหน้า | พระเจ้ามักนุสที่ 1 แห่งสวีเดน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าอิงเงอที่ 2 | พระมหากษัตริย์สวีเดนแห่งเกิตทาลันด์ แย่งชิงราชบัลลังก์กับ รังน์วัลด์ นัปฮอเดอ (ทศวรรษที่ 1120 - ราวค.ศ. 1132) |
พระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 | ||
คนุต ลาวาร์ด | เอิร์ล/ดยุกแห่งจัตแลนด์ใต้ (ค.ศ. 1130 - ค.ศ. 1134) |
ว่าง ตำแหน่งถัดไป พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 |