พระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสาโร)
พระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสาโร) | |
---|---|
คำนำหน้าชื่อ | พระเดชพระคุณ |
ชื่ออื่น | ตุ๊ปู่จี๋ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 5 เมษายน พ.ศ. 2460 (94 ปี 211 วัน ปี) |
มรณภาพ | 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม 3 ประโยค พธ.ด.กิตติมศักดิ์ |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร จังหวัดแพร่ |
อุปสมบท | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2481 |
พรรษา | 75 |
ตำแหน่ง | อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร |
พระมหาโพธิวงศาจารย์ นามเดิม สุจี ขรวงค์ ฉายา กตสาโร หรือ ตุ๊ปู่จี๋ อดีตที่ปรึกษาคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 อดีตประธานสภาวิทยาเขตแพร่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร พระนักการศึกษาแห่งแผ่นดินล้านนา
ประวัติ
[แก้]พระมหาโพธิวงศาจารย์ หรือที่ชาวจังหวัดแพร่เรียก ตุ๊ปู่จี๋ หรือ ครูบาจี๋ นามเดิม สุจี ขรวงค์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2460 ขึ้น 14 ค่ำ ปีมะเส็ง ณ บ้านทุ่งอ่วน หมู่ที่ 6 ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เป็นบุตรของ นายลาด กับ นางผัน ขรวงค์ ได้สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดนาจักร จนสำเร็จชั้นประถมปีที่ 5 อันเป็นชั้นสูงสุด แล้วบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 15 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 ณ วัดกาญจนาราม ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ พระอุปัชฌาย์คือพระครูมหาญาณสิทธิ์ วัดมิ่งเมือง (ปัจจุบันวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร) อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และอุปสมบทวันที่ 14 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2481 ณ วัดกาญจนาราม ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ พระอุปัชฌาย์คือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว) (ในขณะดำรงสมนศักดิ์ที่ พระปริยัติวงศาจารย์) วัดพระบาท (ปัจจุบันวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร) ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่[1]
พระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสาโร) มรณภาพลงเมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ด้วยโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุ 94 ปี 211 วัน ปี พรรษา 75 ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่[2] พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ณ เมรุปราสาทนกหัสดีลิงค์ มณฑลพิธีสนามหลวงจังหวัดแพร่
วิทยฐานะ
[แก้]- พ.ศ. 2484 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- พ.ศ. 2486 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- พ.ศ. 2529 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์
- พ.ศ. 2536 ได้รับปริญญาครุศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาการบริหารการศึกษา) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
- พ.ศ. 2551 ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาบริหารศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ความชำนาญพิเศษ เทศนาภาษาไทยถิ่นเหนือ อ่านและเขียนอักษรธรรมล้านนาได้[3]
การทำงาน
[แก้]ด้านงานปกครองสงฆ์
[แก้]- พ.ศ. 2501 เป็นพระอุปัชฌาย์ จนถึงปัจจุบัน
- พ.ศ. 2502 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง
- พ.ศ. 2509 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดแพร่
- พ.ศ. 2510 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดแพร่
- พ.ศ. 2518 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง
- พ.ศ. 2522 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะภาค 6
- พ.ศ. 2540 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นกรรมการฝ่ายปกครอง ของมหาเถรสมาคม
- พ.ศ. 2541 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6
ด้านงานการศึกษา
[แก้]- พ.ศ. 2484 เป็นครูสอนนักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- พ.ศ. 2486 เป็นกรรมการตรวจนักธรรมชั้นตรีสนามหลวง
- พ.ศ. 2495 เป็นกรรมการตรวจนักธรรมชั้นโทสนามหลวง
- พ.ศ. 2500 เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบาลีมัธยมธรรมราชวิทยา
- พ.ศ. 2506 เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
- พ.ศ. 2513 เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่พุทธโกศัยวิทยา (ปัจจุบันโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา จังหวัดแพร่)
- พ.ศ. 2514 เป็นกรรมการนำประโยคข้อสอบธรรมไปเปิดสอบ ณ ประเทศมาเลเซีย
- พ.ศ. 2530 เป็นรองอธิการบดีมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาเขตแพร่
- พ.ศ. 2541 เป็นประธานสภา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่
ด้านงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา
[แก้]- พ.ศ. 2486 เป็นกรรมการส่งเสริมศีลธรรมแพร่
- พ.ศ. 2490 เป็นผู้แทนนำพระไตรปิฎกไปประดิษฐานที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่
- พ.ศ. 2497 เป็นอนุกรรมการ ก.ป.ช. จังหวัดแพร่
- พ.ศ. 2508 เป็นประธานนำครู-อาจารย์โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์อกกอบรม ศีลธรรมแก่ประชาชนตามอำเภอต่างๆ ในเทศกาลเข้าพรรษาจนถึงปัจจุบัน
- พ.ศ. 2514 เป็นผู้ร่วมเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ ประเทศอินโดนีเซีย
- พ.ศ. 2535 ได้ร่วมกับคณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปเผยแผ่ ณ ประเทศจีน
- พ.ศ. 2539 ได้แสดงพระธรรมเทศนาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดแพร่ ชื่อ รายการ “ธรรมะสู่ประชาชน” เป็นประจำทุกวัน เวลา 05.15 น.
- ได้เชิญชวนพระภิกษุสามเณรและคณะศรัทธาญาติโยมผู้ใจบุญได้กระทำพิธีกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา ตลอดจนวันสำคัญที่เกี่ยวกับบ้านเมือง
- ได้ให้การอบรมศีลธรรมแก่นักเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ , โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยาและพระนิสิตมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ ในบางโอกาส
- ได้ให้การอบรมศีลธรรมแก่ผู้ใขบุญในวันธัมมัสวนะที่วัดทุกวัน
- ได้ให้การอบรมศีลธรรมแก่ประชาชนตามโครงการต่างๆ ของคณะสงฆ์ และหน่วยงานราชการ
- ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการใช้สถานที่วัดจัดประชุมสัมมนาสอบบรรจุและบำเพ็ญสาธารณกุศลอื่นๆ
กิจกรรมภายในวัด
[แก้]- มีการทำอุโบสถกรรม (สวดปาฏิโมกข์) ตลอดปี และมีภิกษุที่สวดปาฏิโมกข์ได้ 1 รูป
- มีการทำวัตรสวดมนต์เช้า – เย็น เป็นประจำตลอดปี
- มีระเบียบการปกครองของวัด เป็นไปตามกฎระเบียบมหาเถรสมาคม พระธรรมวินัยและอาณัติสงฆ์ในเขตหนเหนือ จนถึงปัจจุบัน
- มีกติกาของวัด โดยใช้กติกาของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
สมณศักดิ์
[แก้]- พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งเป็น พระใบฎีกา ฐานานุกรมของพระปริยัติวงศาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว)[4]
- พ.ศ. 2493 ได้รับแต่งตั้งเป็น พระครูปลัด ฐานานุกรมของพระเทพมุนี (ฟู อตฺตสิโว)[4]
- พ.ศ. 2495 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษที่ พระครูธรรมสารสุจิต[4]
- พ.ศ. 2500 รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ พระภัทรสารมุนี[5]
- พ.ศ. 2514 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชรัตนมุนี ศรีโกไสยคุณาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[6]
- พ.ศ. 2526 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิริยาภรณ์ สุนทรกิจโกศล วิมลธรรมานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[7]
- พ.ศ. 2535 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนากร สุนทรพรหมปฏิบัติ สมณวัตรโกศล วิมลปิฎกธาดา มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[8]
- พ.ศ. 2540 รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระมหาโพธิวงศาจารย์ ญาณจริยสมบัติ พุทธบริษัทปสาทนียคุณ วิบูลพัฒนวโรปการ ศาสนภารธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[9]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ประวัติวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารฯ (๒๕๕๔), : เมืองแพร่การพิมพ์.
- ↑ อะลิตเติ้ลบุ๊คด่ะ ดอตคอม . หลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์ มหาเถระแห่งล้านนามรณภาพ
- ↑ วัดพนมขวัญ .ประวัติตุ๊ปู่จี๋ .พระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสาโร)
- ↑ 4.0 4.1 4.2 http://watpanomkwan.blogspot.com/2014/04/tupujeehistory3.html
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๗๔, ตอนที่ ๑๐๗ , ๑๗ สิงหาคม ๒๕๐๐, หน้า ๒๙๕๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๘๘, ตอนที่ ๑๕๑ ฉบับพิเศษ, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๔, หน้า ๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๐๐, ตอนที่ ๒๐๗ ฉบับพิเศษ, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๖, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ เก็บถาวร 2015-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๙, ตอนที่ ๑๕๕ ฉบับพิเศษ, ๕ ธันวาคม ๒๕๓๕, หน้า ๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, เล่ม ๑๑๔, ตอนที่ ๒๘ ข, ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๐, หน้า ๕-๑๐