อุทกภัยในประเทศจีน พ.ศ. 2563
น้ำท่วมเมืองเก่าต้าทง ในนครถงหลิง กรกฎาคม พ.ศ. 2563 | |
วันที่ | ต้นเดือนมิถุนายน[1] – ปัจจุบัน |
---|---|
ที่ตั้ง | หูหนาน เจียงซี กวางสี กุ้ยโจว เสฉวน หูเป่ย์ ฉงชิ่ง อานฮุย เจ้อเจียง ฝูเจี้ยน และยูนนาน[2][3][4][1] |
เสียชีวิต | เสียชีวิตหรือสูญหาย >141 คน (13 กรกฎาคม)[5][3] |
ทรัพย์สินเสียหาย | 82.23 พันล้านหยวน (RMB) (12 กรกฎาคม)[6] |
นับตั้งแต่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563[1] ฝนตกหนักและต่อเนื่องในฤดูฝนของเอเชียตะวันออกได้นำไปสู่ อุทกภัยในประเทศจีน ในช่วงเดือนมิถุนายน อุทกภัยเกิดขึ้นหลักในภูมิภาคตอนใต้ของจีน ส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคน[2] ในเดือนกรกฎาคม มีการคาดการณ์ว่าฝนที่ตกหนักขึ้นกว่าเดิมนั้นจะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคทางตอนกลางและตะวันออกของจีน[7] เหตุอุทกภัยนี้ถือว่าเป็นอุทกภัยที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่อุทกภัยในประเทศจีนปี พ.ศ. 2541 เป็นอย่างน้อย[8]
กระทรวงจัดการเหตุฉุกเฉินของจีน (应急管理部) ระบุว่า ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน เหตุอุทกภัยนี้ได้ทำให้ประชาชน 744,000 คนจากพื้นที่ทั้งหมด 26 มณฑลของจีนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน และมี 81 รายที่เสียชีวิตหรือสูญหาย[2] ในต้นเดือนกรกฎาคม เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่าผู้อยู่อาศัยจำนวน 20 ล้านคนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยนี้ และมี 121 รายที่เสียชีวิตหรือสูญหาย[9] ในวันที่ 13 กรกฎาคม อุทกภัยได้ส่งผลกระทบต่อประชากร 37.89 ล้านคนใน 27 มณฑล เขตปกครองตนเอง และเทศบาลนคร มี 141 รายที่เสียชีวิตหรือสูญหาย และมีบ้าน 28,000 หลังพังถล่ม[5] กระทรวงทรัพยากรน้ำ (水利部) ระบุว่ามีแม่น้ำทั้งหมด 443 สายที่เกิดน้ำท่วม ในจำนวนนี้มี 33 สายที่มีระดับน้ำสูงที่สุดในประวัติศาสตร์[10] จากสถิติของกรมมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ (国家文物局) พบว่าโบราณวัตถุสำคัญทางวัฒนธรรม 76 แห่ง และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมระดับมณฑล 187 แห่งได้รับความเสียหายในระดับต่าง ๆ จากน้ำท่วม[11]
ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบนั้นได้แก่ มณฑลกวางสี มณฑลกุ้ยโจว มณฑลเสฉวน มณฑลหูเป่ย และฉงชิ่ง[2][4][12] รวมถึงพื้นที่ตอนบนและตอนกลางของแอ่งแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำสาขา น้ำฝนจำนวนมากเริ่มไหลท่วมภูมิภาคตอนล่างของแม่น้ำ ได้แก่ มณฑลอานฮุย มณฑลเจียงซี และมณฑลเจ้อเจียง[1] รวมทั้งมณฑลหูหนาน มณฑลฝูเจี้ยน และมณฑลยูนนาน ก็ได้รับผลกระทบ
สาเหตุ
[แก้]เหตุจากธรรมชาติ
[แก้]เอลนีโญได้ส่งผลให้เกิดอากาศแปรปรวนในหลายส่วนของจีน นักอุตุนิยมวิทยา หู เซี่ยว (胡啸) จากกรมอุตุนิยมวิทยาจีน (中国气象局; CMA) ระบุว่าฝนที่ตกมากกว่าปกตินี้เป็นผลมาจากไอน้ำจำนวนมากที่ระเหยจากมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก[13]
เหตุจากมนุษย์
[แก้]ในปี พ.ศ. 2458 ทะเลสาบต้งถิงมีพื้นที่ 5,000 ตร.กม. (1,900 ตารางไมล์)[14] แต่ในปี พ.ศ. 2543 พื้นที่ของทะเลสาบเหลือเพียง 2,625 ตร.กม. (1,014 ตารางไมล์)[14] เช่นเดียวกับในคริสต์ทศวรรษ 1950 ซึ่งทะเลสาบโผหยางมีพื้นที่ 4,350 ตร.กม. (1,680 ตารางไมล์)[14] แต่ในปี พ.ศ. 2543 เหลือเพียง 3,750 ตร.กม. (1,450 ตารางไมล์)[14] มณฑลหูเป่ย์นั้นเคยถูกเรียกขานว่าเป็น "มณฑลแห่งทะเลสาบนับพัน" (千湖之省)[14] ที่ซึ่งในปลายคริสต์ทศวรรษ 1950 มีทะเลสาบรวม 1,066 แห่ง[14] แต่ในต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เหลือเพียง 309 แห่งเท่านั้น[14][15] เนื่องด้วยการเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็วในประเทศจีน ทะเลสาบจำนวนมากได้ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นพื้นที่ทำเกษตรและอยู่อาศัย เพื่อตอบรับกับความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับความต้องการพื้นที่อยู่อาศัย[14] การลดขนาดลงและการหายไปของทะเลสาบเหล่านี้ในพื้นที่ของแม่น้ำแยงซีตอนกลางและตอนล่าง เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้อุทกภัยเกิดขึ้นรุนแรงขึ้นมาก[15][16][17]
เขื่อนสามผา
[แก้]เขื่อนหลายแห่งในลุ่มแม่น้ำแยงซีใช้ในการควบคุมน้ำท่วม โดยเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดก็คือเขื่อนซานเสียต้าป้า หรือเขื่อนสามผา (三峡大坝) ที่มีพื้นที่รับน้ำประมาณ 1,000,000 ตารางกิโลเมตร (390,000 ตารางไมล์) ซึ่งถูกสร้างขึ้นไม่เพียงแต่สำหรับการผลิตไฟฟ้าแต่ยังใช้สำหรับการควบคุมน้ำท่วม โดยเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2563 ได้มีการเริ่มปล่อยน้ำในเขื่อนออกมา[18] ในขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาจีน ระบุว่าการปล่อยน้ำเริ่มในวันที่ 29 มิถุนายน แต่ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าประตูระบายน้ำถูกเปิดขึ้นก่อนหน้านั้นห้าวัน[19] อี๋ชาง (宜昌) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใต้เขื่อน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างกว้างขวางทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการควบคุมน้ำท่วมโดยเขื่อน[20] มีความกังวลว่านครอู่ฮั่นจะถูกน้ำท่วม[4] บริษัทที่จัดการเขื่อนได้กล่าวว่า เขื่อนได้ "ลดความเร็วและขอบเขตของระดับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในตอนกลางและตอนล่างของลุ่มแม่น้ำแยงซี"[21] อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์กล่าวว่า เขื่อน "ไม่ได้ทำในสิ่งที่มันถูกออกแบบมา" และไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์รุนแรงได้[21]
มีการรายงานข่าวอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขื่อนสามผา โดยเฉพาะจากสื่อของกลุ่มการเมืองพันธมิตรรวมกลุ่มสีเขียว (泛綠聯盟; Pan-Green Coalition) ในไต้หวัน[22] รายงานคาดการณ์การวิบัติของเขื่อนเกิดขึ้นเกือบทุกฤดูร้อนในสื่อของไต้หวัน[23] หนังสือพิมพ์ the Global Times (环球时报) ของรัฐบาลจีนปิดกั้นรายงานเหล่านี้ โดยบอกว่าเขื่อนซานเสียต้าป้า นั้นปลอดภัยสำหรับกรณีฝนตกหนักและ "ไม่เสี่ยงต่อการวิบัติ"[24] สื่อต่างประเทศบางแห่งกระตุ้นว่ามี "การบิดเบือน" ในเรื่องของเขื่อนสามผา[25]
ปฏิบัติการของรัฐบาล
[แก้]รัฐบาลจีนจัดสรรงบประมาณ 309 ล้านหยวน (44.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาคที่ประสบอุทกภัย[5] ในวันที่ 8 กรกฎาคมและ 12 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้สั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ในพื้นที่น้ำท่วมทั่วประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง[26][5][27]
ในตอนเย็นของวันที่ 12 กรกฎาคม มีเจ้าหน้าที่และทหารของกองทัพภาคที่ 71 และกองทัพภาคที่ 72 เดินทางไปที่เมืองจิ่วเจียง (九江) ในมณฑลเจียงซี และเมืองถงหลิง (铜陵) ในมณฑลอานฮุย เพื่อเข้าร่วมในการต่อสู้น้ำท่วมและงานช่วยเหลือฉุกเฉิน[28][29][30] ในตอนเช้าของวันที่ 14 กรกฎาคมมีเจ้าหน้าที่และทหารกว่า 3,700 นายจากกองทัพภาคที่ 73 เร่งรีบไปยังเขตอำเภอหยูกาน (余干县) ของมณฑลเจียงซี เพื่อสู้กับอุทกภัยและรับมือกับเหตุฉุกเฉิน[28][29][30] และในวันเดียวกันตามคำสั่งของคณะกรรมาธิการทหารกลาง เจ้าหน้าที่และทหารกว่า 16,000 คนถูกส่งไปยังเมืองจิ่วเจียง, เมืองชั่งเหรา (上饶) และพื้นที่อื่น ๆ ของมณฑลเจียงซีเพื่อต่อสู้กับน้ำท่วม[28][29][30] เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ของกองบัญชาการยุทธบริเวณกลาง (中部战区) มาถึงนครอู่ฮั่นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ตอนกลางของจีน เพื่อควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมและบรรเทาภัยพิบัติ[31]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 Yu Zeyuan (9 กรกฎาคม 2020). "Floods in China: Can the Three Gorges Dam weather 'once-in-a-century massive floods in the Yangtze River'?". Think China. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 Linda Lew (27 มิถุนายน 2020). "After coronavirus, flooding hits southern China with 14 million affected". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2020.
- ↑ 3.0 3.1 Raymond Zhong (3 กรกฎาคม 2020). "Severe Floods in China Leave Over 106 Dead or Missing". New York Times. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "More Chinese regions brace for floods as storms shift east". Reuters. 29 มิถุนายน 2020. สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2020.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 "433 rivers exceed alerting levels in flood-hit China since June". cgtn.com. 13 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 薄晨棣 (10 กรกฎาคม 2020). "防汛抗洪形势严峻 国家防总专题研判会商抢险救灾工作". 人民网. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2020.
- ↑ "More Chinese regions brace for floods as storms shift east". CNA. 27 มิถุนายน 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 สิงหาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2020.
- ↑ Evelyn Cheng (14 กรกฎาคม 2020). "Floods and the coronavirus create more uncertainty for China as food prices climb". cnbc.com. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2020.
- ↑ "China's flood defence network put to the test as it braces for more storms". South China Morning Post. 6 กรกฎาคม 2020.
- ↑ Nectar Gan (14 กรกฎาคม 2020). "China has just contained the coronavirus. Now it's battling some of the worst floods in decades". CNN. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2020.
- ↑ "Live updates: 23.85 mln affected since July as floods batter S. China". cgtn.com. 20 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020.
- ↑ "China – Over 1 Million Affected by Floods in Hubei". FloodList. 30 มิถุนายน 2020. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2020.
- ↑ Li Lei, Li Hongyang (2 กรกฎาคม 2020). "Warning renewed for torrential rains". Chinadaily. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 14.0 14.1 14.2 14.3 14.4 14.5 14.6 14.7 Shen Xubin (谌旭彬) (14 กรกฎาคม 2017). 五十年代至今,中国有多少湖泊死去?. qq.com (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 15.0 15.1 湖北湖泊面积五十年消失过半,加剧洪涝灾害. 163.com (ภาษาจีน). 15 กรกฎาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2020.
- ↑ Hua Chunhao (华纯皓), บ.ก. (14 กันยายน 2016). 武汉发布首部抗洪救灾白皮书 填湖建房是城市内涝祸首. Hubei government (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2020.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Dai Yuxi (戴玉玺), บ.ก. (8 กรกฎาคม 2016). 武汉渍水围城背后的填湖史. Beijing News (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2020.
- ↑ Keoni Everington (30 มิถุนายน 2020). "China admits to 'floodwater discharge' from Three Gorges Dam". Taiwan News. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2020.
- ↑ Keoni Everington (13 กรกฎาคม 2020). "Satellite images show Three Gorges Dam opening all floodgates". Taiwan News. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2020.
- ↑ Keoni Everington (29 มิถุนายน 2020). "Flooding below China's Three Gorges raises questions about dam". Taiwan News. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2020.
- ↑ 21.0 21.1 David Stanway (14 กรกฎาคม 2020). "Record Floods Raise Questions About China's Three Gorges Dam". U.S. News & World Report. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 汪葛雷 (8 กรกฎาคม 2020). "成日詛咒三峽大壩 覺青真是窩囊". China Times. สืบค้นเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 台海网 (8 กรกฎาคม 2020). "我们对着台媒这个三峡大坝报道已经笑了一晚上了". Sina. สืบค้นเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020.
- ↑ Wan Lin (22 มิถุนายน 2020). "Three Gorges Dam 'not at risk of collapse,' safe for heavy rainfall: experts". Global Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2020.
- ↑ Shan Jie, Zhao Juecheng (20 กรกฎาคม 2020). "Authorities answer to refute misunderstandings, rumors on Three Gorges Dam". Global Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 李克强部署防汛救灾:各级防汛责任人要下沉一线. gov.cn (ภาษาจีน). 10 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2020.
- ↑ Liu Pai (刘湃) (12 กรกฎาคม 2020). 习近平对进一步做好防汛救灾工作作出重要指示 要求压实责任 勇于担当 深入一线 靠前指挥 尽最大努力保障人民群众生命财产安全. chinanews.com (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 28.0 28.1 28.2 2.9万余名官兵奋战抗洪一线,全力守护人民生命财产安全. thepaper.cn (ภาษาจีน). 15 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 29.0 29.1 29.2 Yue Huairang (岳怀让) (15 กรกฎาคม 2020). 东部战区陆军下辖三大集团军均已派官兵增援抗洪一线. ifeng.com (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 30.0 30.1 30.2 Chen Li (陈利); Zhou Yuan (周远); Wu Min (吴敏) (15 กรกฎาคม 2020). 紧急驰援!2.9万余名官兵、5000余名民兵战斗在抗洪一线. Sohu (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2020.
- ↑ 中部战区派出前指,一线指挥驻鄂部队投入抗洪抢险任务. qq.com (ภาษาจีน). 19 กรกฎาคม 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 21 กรกฎาคม 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ อุทกภัยในประเทศจีน พ.ศ. 2563