สุรินทร์ ภาคศิริ
สุรินทร์ ภาคศิริ | |
---|---|
ชื่อเกิด | ชานนท์ ภาคศิริ |
รู้จักในชื่อ | ทิดโส สุดสะแนน |
เกิด | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2485 อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ |
เสียชีวิต | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 (79 ปี)[1] |
แนวเพลง | เพลงลูกทุ่ง · หมอลำ |
อาชีพ | นักแต่งเพลง · นักดนตรี · นักเขียน · กวี |
ช่วงปี | พ.ศ. 2506 – 2565 (59 ปี) |
สุรินทร์ ภาคศิริ เป็นศิลปินมรดกอีสาน (ประพันธ์เพลง) ประจำปี พ.ศ. 2551[2] เป็นนักแต่งเพลงในแนวเพลงลูกทุ่งอีสานที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทย[3][4] เป็นที่รู้จักจากเพลง หนาวลมที่เรณู[5][6] ขับร้องโดยศรคีรี ศรีประจวบ อีสานลำเพลิน[6] ขับร้องโดยอังคนางค์ คุณไชย และ วอนลมฝากรัก ขับร้องโดยบุปผา สายชล และยังมีผลงานประพันธ์เพลงให้นักร้องลูกทุ่งอีกเป็นจำนวนมาก และยังเป็นพิธีกร และที่ปรึกษาของรายการสารพันลั่นทุ่ง (บางเขน) ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
ประวัติ
[แก้]สุรินทร์ ภาคศิริ มีชื่อเกิดว่า ชานนท์ ภาคศิริ เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2485 ที่ตำบลกุดเชียงหมี อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันแยกตัวออกมาเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ) จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนอำนาจเจริญ เมื่อ พ.ศ. 2503 [7]
เขามีพรสวรรค์ด้านการประพันธ์เพลงและร้อยแก้วต่างๆ มาตั้งแต่เยาว์วัย เนื่องจากเขาได้มีโอกาสเรียนรู้จากคณะละครอุลิตราตรีศิลป์และคณะเทพศิลป์ 2 ซึ่งไปทำการแสดงที่บ้านเกิดของเขาขณะเขากำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากนั้นเขาจึงเริ่มแต่งคำประพันธ์ นิยาย เรื่องสั้น และยังแต่งเพลงเชียร์กีฬาให้กับทางโรงเรียนอีกด้วย[7]
การเสียชีวิต
[แก้]สุรินทร์ ได้ล้มป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล กระทั่งจากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565[8]
เส้นทางนักแต่งเพลง
[แก้]เมื่อจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สุรินทร์ได้มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อทำตามความฝันเนื่องจากมีอุปสรรคและขาดโอกาสการศึกษาต่อจึงไปอยู่ที่วัดนรนารถสุนทริการามโดยได้รับความช่วยเหลือจากพระที่วัดดังกล่าว ระหว่างนี้เขาได้ฝึกการเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงจนกระทั่งไปฝากตัวเป็นศิษย์ของก.แก้วประเสริฐ จากนั้นก็ไปสอบเข้าเป็นข้าราชการประจำกรมราชทัณฑ์[7] ทำให้เขาไม่ได้มีผลงานด้านการร้องเพลงอีก เขามุ่งกับงานราชการประกอบกับเป็นนักแต่งเพลงจึงทำให้เขาได้มีโอกาสประพันธ์เพลงให้กับนักร้องลูกทุ่งในสมัยนั้น โดยผลงานชิ้นแรกคือ คนขี้หึง ขับร้องโดยชื่นกมล ชื่นฤทัย ต่อด้วย คนขี้งอน ขับร้องโดยไพรวัลย์ ลูกเพชร ตามด้วย เมษาอาลัย และ เต้ยเกี้ยวสาว ตามลำดับ หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานแต่งเพลงให้กับศิลปินท่านอื่นอีกมากมาย อาทิ สายัณห์ สัญญา ยอดรัก สลักใจ ศักดิ์ศรี ศรีอักษร ไพรินร์ พรพิบูลย์ สนธิ สมมาตร กาเหว่า เสียงทอง ศรคีรี ศรีประจวบ ชาย เมืองสิงห์ รอยัลสไปรท์ ศรชัย เมฆวิเชียร ศักดิ์สยาม เพชรชมภู ดาว บ้านดอน บรรจบ เจริญพร เอ๋ พจนา เป็นต้น[6]
ใน พ.ศ. 2534 เขาได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2 จากเพลง ทุ่งกุลาร้องไห้ ขับร้องโดยศักดิ์สยาม เพชรชมภู[7]
ตัวอย่างผลงานประพันธ์เพลง
[แก้]- บ่อยครั้งที่สายัณห์อกหัก (สายัณห์ สัญญา)
- หนาวลมที่เรณู (สายัณห์ สัญญา)
- หนุ่มพเนจร (สายัณห์ สัญญา)
- ช้ำหรือยัง (สายัณห์ สัญญา)
- รักคนชื่อเพ็ญ (สายัณห์ สัญญา)
- สาวเมืองสองแคว (สายัณห์ สัญญา)
- บ้องกัญชา (ศรเพชร ศรสุพรรณ)
- บางกอกเมืองหลวง (ศรเพชร ศรสุพรรณ)
- คิดดีแล้วหรือ (ยอดรัก สลักใจ)
- ทหารเกณฑ์ผลัดสอง (ศรชัย เมฆวิเชียร)
- เสียงแคนค่อนคืน (ศรชัย เมฆวิเชียร)
- ชีวิตสามล้อ (ยอดรัก สลักใจ)
- หนุ่ม นปข (สนธิ สมมาตร)
- แก่นนคร (สนธิ สมมาตร)
- กางเกงขาสั้น (สนธิ สมมาตร)
- ภูพานสะอื้น (สนธิ สมมาตร)
- สวรรค์อีสาน (สนธิ สมมาตร)
- ลูกทุ่งคนยาก (สนธิ สมมาตร)
- หอมกลิ่นดอกคำใต้ (สนธิ สมมาตร)
- ทุ่งกุลาร้องไห้ (ศักดิ์สยาม เพชรชมภู)
- อส. รอรัก (ศักดิ์สยาม เพชรชมภู)
- แก้มแดงอ่องต่อง (ยอดรัก สลักใจ)
- นักร้องพ่อลูกอ่อน (ยอดรัก สลักใจ)
- นิราศเวียงเหนือ (ยอดรัก สลักใจ)
- โกนจุกสิงโต (เพลิน พรหมแดน)
- คนงามแสนงอน (ชาย เมืองสิงห์)
- ทะเลาะกันทําไม (สดใส รุ่งโพธิ์ทอง)
- บางกอกหลอกลวง (สดใส รุ่งโพธิ์ทอง)
- แม่ค้าผลไม้ (ยอดรัก สลักใจ)
- รักมันๆ (ยอดรัก สลักใจ)
- ง้อรัก (ยอดรัก สลักใจ)
- ลาอิสาน (ยอดรัก สลักใจ)
- สิ้นสั่งจากไป (ยอดรัก สลักใจ)
- หนุ่มตังเกเร่รัก (ยอดรัก สลักใจ)
- ช้ำแล้วหรือ (สนธิ สมมาตร)
- หนุ่มกระเป๋า (เอกราช สุวรรณภูมิ)
- ไม่นานเกินรอ (สันติ ดวงสว่าง)
- สี่ปีที่กินน้ำตา (สันติ ดวงสว่าง)
- ข่าวฝากจากแม่ (สันติ ดวงสว่าง)
- จดหมายพ่ายโทรศัพท์ (สันติ ดวงสว่าง)
- ข่าวเศร้าจาก 7 สี (สันติ ดวงสว่าง)
- ไอ้หนุ่ม ร.ฟ.ท. (สันติ ดวงสว่าง)
- ผ้าขาวม้า (รอยัลสไปรท์)
- ทำใจไม่ได้ (นคร มีโชคชัย)
- หลอกพี่ให้ช้ำ (นคร มีโชคชัย)
- แตงโมยโสธร (นคร มีโชคชัย)
- ตะวันขึ้นที่โขงเจียม (เอ๋ พจนา)
- ลำเลาะทุ่ง (ไวพจน์ เพชรสุพรรณ)
- แถมให้ก็บ่เอา (เฉลิมพล มาลาคำ)
- ว่างบ่เจ้านาย (เฉลิมพล มาลาคำ)
- โคราชกันเอง (เฉลิมพล มาลาคำ)
- ขุนแผนญี่ปุ่น (เฉลิมพล มาลาคำ)
- อย่าลืมอ้ายเด้อ (แมน มณีวรรณ)
- ชมรมยาดอง (แมน มณีวรรณ)
และเพลงอื่น ๆ อีกมากมาย
รายการวิทยุ
[แก้]- ทิดโสโปข่าว
รางวัล
[แก้]- พ.ศ. 2534 - รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2
- พ.ศ. 2551 - ศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ (ประพันธ์เพลง) ประจำปี พ.ศ. 2551 จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น[7]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2532 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)[9]
- พ.ศ. 2530 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)[10]
- พ.ศ. 2533 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ อาลัย ‘สุรินทร์ ภาคศิริ’ ครูเพลงลูกทุ่งอีสาน จากไปในวัย 79 ปี
- ↑ ฐานข้อมูลศิลปินมรดกอีสาน - สุรินทร์ ภาคศิริ - Google Sites
- ↑ สุรินทร์ ภาคศิริ จากเว็บไซต์นิตยสารทางอีศาน
- ↑ แผ่นเสียงแห่งชีวิต ครูเพลงสุรินทร์ ภาคศิริ
- ↑ ‘ครูสุรินทร์’ ฟันธง ! หมดยุคลูกทุ่งรวมศูนย์
- ↑ 6.0 6.1 6.2 นายสุรินทร์ ภาคศิริ จาก IsanGate - ประตูสู่อีสานบ้านเฮา
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 ศิลปินมรดกอีสาน 2551 สุรินทร์ ภาคศิริ (ประพันธ์เพลง)
- ↑ กรุงเทพธุรกิจ: อาลัย "สุรินทร์ ภาคศิริ" นักแต่งเพลงชั้นครู จากไปในวัย 79 ปี
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๗ ตอนที่ ๖๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๔๒, ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๒๕๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๐๕, ๙ ธันวาคม ๒๕๓๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๐๘ ตอนที่ ๑๑๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๖๖, ๒๒ มิถุนายน ๒๕๓๔