ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โกสัมพี"

พิกัด: 25°20′20″N 81°23′34″E / 25.338984°N 81.392899°E / 25.338984; 81.392899
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดแม่แบบเรียงลำดับ
Mr.GentleCN (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น|เปลี่ยนทาง=โกสัมพี|ดูที่=โกสัมพี (แก้ความกำกวม)}}
{{ความหมายอื่น|เปลี่ยนทาง=โกสัมพี|ดูที่=โกสัมพี (แก้ความกำกวม)}}
{{Infobox settlement
| name = โกสัมพี
| native_name =
| native_name_lang =
| other_name =
| settlement_type = นคร
| image_skyline =
| image_alt =
| image_caption =
| nickname =
| image_map =
| map_alt =
| map_caption =
| pushpin_map = India Uttar Pradesh
| pushpin_label_position = right
| pushpin_map_alt =
| pushpin_map_caption =
| latd = 25.338984
| latm =
| lats =
| latNS = N
| longd = 81.392899
| longm =
| longs =
| longEW = E
| coordinates_display = inline,title
| subdivision_type = ประเทศ
| subdivision_name = [[อินเดีย]]
| subdivision_type1 = รัฐ
| subdivision_name1 = [[รัฐอุตตรประเทศ]]
| established_title = <!-- Established -->
| established_date =
| founder =
| named_for =
| government_type =
| governing_body =
| unit_pref =
| area_footnotes =
| area_rank =
| area_total_km2 =
| elevation_footnotes =
| elevation_m =
| population_total = 1293154
| population_as_of = 2001
| population_rank =
| population_density_km2 =
| population_demonym =
| population_footnotes =
| demographics_type1 = ภาษา
| demographics1_title1 = ทางการ
| demographics1_info1 = [[ภาษาฮินดี]]
| timezone1 = เวลามาตรฐานอินเดีย
| utc_offset1 = +5:30
| postal_code_type = <!-- [[Postal Index Number|PIN]] -->
| postal_code =
| registration_plate =
| website =
| footnotes =
}}
{{สถานที่สำคัญในพุทธภูมิ}}
{{สถานที่สำคัญในพุทธภูมิ}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:03, 12 สิงหาคม 2556

โกสัมพี
นคร
โกสัมพีตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ
โกสัมพี
โกสัมพี
พิกัด: 25°20′20″N 81°23′34″E / 25.338984°N 81.392899°E / 25.338984; 81.392899
ประเทศอินเดีย
รัฐรัฐอุตตรประเทศ
ประชากร
 (2001)
 • ทั้งหมด1,293,154 คน
ภาษา
 • ทางการภาษาฮินดี
เขตเวลาUTC+5:30 (เวลามาตรฐานอินเดีย)

โกสัมพี (อังกฤษ: Kosambi) คือเมืองโบราณในสมัยพุทธกาล มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นวังสะ 1 ใน มหาชนบทในสมัยพุทธกาล เมืองนี้รุ่งเรืองจากการที่เป็นชุมนุมการค้าขายในสมัยโบราณ ปัจจุบันเมืองนี้เหลือเพียงซากโบราณสถาน รูปโค้งพระจันทร์เสี้ยวริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านโกสัม (Kosam) หรือหมู่บ้านหิสัมบาทตชนบท[1] จังหวัดอัลลฮาบาต รัฐอุตตรประเทศ ของอินเดีย ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 59 กิโลเมตร เมืองนี้ได้เริ่มต้นทำการขุดค้นทางโบราณคดีโดยศาสตรจารย์ จี.อาร์.ชาร์มา แห่งมหาวิทยาลัยอัลลาหบาต ในปี พ.ศ. 2492 และมีการสำรวจอีกครั้งในปี พ.ศ. 2494 - พ.ศ. 2499 ปัจจุบันปรากฏหลักฐานที่ได้จากการสำรวจขุดค้นเป็นที่แน่นอนแล้ว โดยยังคงมีซากกำแพงเมืองปรากฏให้เห็นอยู่ และได้ค้นพบวัดโบราณที่สันนิษฐานว่าเป็นวัดโฆสิตารามมหาวิหาร วัดที่สร้างขึ้นในสมัยพุทธกาล ซึ่งมีการค้นพบบาตรดินโบราณ พระพุทธรูป และโบราณวัตถุจำนวนมากภายในแหล่งขุดค้นเมืองโกสัมพีแห่งนี้ โบราณวัตถุส่วนใหญ่ทางการอินเดียได้นำไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์แห่งเมืองอัลลหบาต

ความสำคัญ-ความเกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัติ

เหรียญกษาปณ์ทองแดงโบราณพบที่เมืองโกสัมพี จารึกคำว่า "โกสัมพี" ปัจจุบันเหรียญนี้เก็บรักษาอยู่ที่บริติสมิวเซียม ประเทศอังกฤษ

โกสัมพีมีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากแคว้นหนึ่งในบรรดา 16 แคว้นของชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาลเมืองแห่งนี้มีพระเจ้าอุเทนราชาเป็นเจ้าผู้ครองแคว้น มีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าระหว่างแคว้นที่สำคัญแคว้นหนึ่ง ในทีฆนิกาย มหาวรรค ระบุว่าพระอานนท์เคยทูลขอให้พระพุทธองค์ควรมาปรินิพพานที่เมืองใหญ่โกสัมพีนี้ แทนที่จะเป็นเมืองกุสินารา ที่เป็นเมืองเล็ก[2] ในสมัยพุทธกาลเมืองแห่งนี้ปรากฏวัดในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา 4 วัด คือ โฆสิตารามมหาวิหาร, กุกกุฏารามมหาวิหาร, ปาวาริการามมหาวิหาร หรือปาวาริกัมพวัน และพัทริการามมหาวิหาร ซึ่งสร้างโดยมหาเศรษฐีแห่งโกสัมพี 3 คน คือ โฆสกเศรษฐี, กุกกุฏเศรษฐี และปาวาริกเศรษฐีตามลำดับ โดยสามวัดแรกเศรษฐีทั้งสามได้สร้างถวายพระพุทธเจ้าในคราวเดียวกัน[3]

ตามคัมภีร์พระพุทธศาสนาระบุว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับจำพรรษาที่ 9 ณ โกสัมพี และมีโอกาสเสด็จมาประทับ ณ เมืองโกสัมพีหลายครั้ง และบางครั้งได้ประทับอยู่นาน ได้ทรงแสดงพระสูตรต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งทรงบัญญัติสิกขาบทของพระภิกษุสงฆ์หลายสิกขาบท ซึ่งรวมถึงสิกขาบทในสุราปานวรรค ข้อที่ห้ามพระดื่มสุราด้วย[4] และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่พระธรรมธรและวินัยธรแห่งโฆสิตารามมหาวิหารทะเลาะกันด้วยเรื่องการคว่ำขันน้ำในห้องน้ำ เกิดเป็นสังฆเภท[5] (แม้พระพุทธเจ้าจะเสด็จมาตักเตือนก็ไม่ยอมกัน จึงทำให้พระพุทธองค์เสด็จไปจำพรรษาที่ 10 ที่รักขิตวัน ในป่าปาริไลยกะ ออกพรรษาแล้วจึงเสด็จไปเมืองสาวัตถี พระที่ทะเลาะกันสำนึกผิดและคืนดีกันได้ในระหว่างพรรษา เมื่ออกพรรษาพระเหล่านั้นจึงพร้อมใจกันไปเฝ้าพระพุทธองค์ที่ เชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี เพื่อกราบทูลขออภัยโทษ) และเรื่องพระฉันนะ (คนเดียวกับฉันนะอำมาตย์ที่พาเสด็จออกผนวช) ถูกพระพุทธเจ้าให้พระสงฆ์ลงพรหมทัณฑ์ จนสำนึกผิดและกลับใจปฏิบัติธรรมจนบรรลุพระอรหันต์[6]

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในเมืองโกสัมพีที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนา เช่น เรื่องโฆสกะเศรษฐี, พระพากุละ, พระปิณโฑละภารัทวาชะ, เรื่องพระเจ้าอุเทนราชากับพระนางสามาวดี พระนางมาคันทิยา พระนางวาสุลทัตตา เป็นต้น รวมทั้งเรื่องพระนางมาคันทิยาผูกอาฆาตพระพุทธเจ้า จ้างให้นักเลงและเดียรถีร์เหล่ามิจฉาทิฏฐิติดตามด่าพระพุทธองค์ตลอดเวลา ซึ่งเป็นต้นเหตุของพระพุทธภาษิตสำคัญที่ถือได้ว่าเป็นธรรมะสอนใจดียิ่ง[7]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต).พุทธสถานในอินเดีย - เวฬุวันมหาวิหาร เมืองราชคฤห์. กรุงเทพ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2541.
  2. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[1]>. เข้าถึงเมื่อ 4-6-52
  3. สุนนท์ ปัทมาคม, รศ. . สมุดภาพแดนพุทธภูมิ ฉลองชนมายุ 80 ปี พระสุเมธาธิบดี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2541.
  4. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๘ ปริวาร. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[2]>. เข้าถึงเมื่อ 4-6-52
  5. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ โกสัมพิยสูตร โปรดภิกษุชาวเมืองโกสัมพี. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[3]>. เข้าถึงเมื่อ 4-6-52
  6. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๖ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๖ จุลวรรค ภาค ๑ อุกเขปนียกรรมที่ ๕ เรื่องพระฉันนะ. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[4]>. เข้าถึงเมื่อ 4-6-52
  7. นางมาคันทิยาผูกอาฆาตพระศาสดา จ้างนักเลงด่าพระพุทธองค์. เว็บไซต์ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก <[5]>. เข้าถึงเมื่อ 4-6-52

แหล่งข้อมูลอื่น