เครื่องชงกาแฟ
![]() | บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เครื่องชงกาแฟ เครื่องชงกาแฟ แบ่งออกเป็น 7ประเภท ดังนี้ เครื่องชงกาแฟแบบหยดหรือแบบดริป (Drip Coffee Maker), เครื่องชงกาแฟแบบเป็นกาหยดหรือแบบนีโอโพลิแทน ดริป พอต(Neopolitan Drip Pot), เครื่องชงกาแฟแบบฝรั่งเศสหรือเฟรนซ์เพรส (French Press), เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ (Espresso), เครื่องชงกาแฟแบบมอคคาพอต (Mocca pot), เครื่องชงกาแฟแบบเพอร์โคเลเตอร์ (Percolator), เครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ (Vacuum)
เครื่องชงกาแฟแบบหยดหรือแบบดริป[แก้]
เครื่องชงกาแฟประเภทนี้เป็นที่นิยมกันโดยทั่วไป เนื่องจาก ใช้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก หลักการทำงาน ใส่น้ำลงในส่วนที่ใช้ขังน้ำเมื่อน้ำเดือดจะถูกจ่ายไปยังด้านบนของผงกาแฟ ฟิลเตอร์ และหยดลงเป็นน้ำกาแฟ ลงบนกากาแฟที่รองรับอยู่ ข้อดี ระยะเวลาในการชงค่อนข้างสั้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้กาแฟที่ได้ไม่เข้มข้นเท่าใดนัก เนื่องจากไอน้ำจะผ่านเมล็ดกาแฟเพียงบางส่วน
เครื่องชงกาแฟแบบเป็นกาหยดหรือแบบนีโอโพลิแทน ดริป พอต[แก้]
หลักการทำงาน มีลักษณะการทำคล้ายกับเครื่องชงกาแฟแบบหยด ต่างกันตรงที่ เครื่องชงแบบนี้จะไม่มีพวยกา กาแฟบดจะถูกใส่ลงในถ้วยกรองซึ่งอยู่ภายในตะกร้าของหม้อ เครื่องชงชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง
เครื่องชงกาแฟแบบฝรั่งเศสหรือเฟรนซ์เพรส[แก้]
หลักการทำงาน ประเทศฝรั่งเศส เป็นผู้คิดค้นและปรับปรุงขั้นมา มีลักษณะเป็นแบบลูกสูบ ตัวเครื่องประกอบด้วย กระบอกแก้วและก้านโลหะตรงกลาง มีด้ามจับอยู่ตรงด้านนอกของกระบอก มีปากของกาไว้สำหรับริน ส่วนล่างของตัวเครื่องเป็นแบบฟิลเตอร์ เมื่อจะชงกาแฟ ให้ใส่ผงกาแฟลงในกระบอก รินน้ำร้อนใส่ให้ท่วมผงกาแฟ รอจนชุ่มน้ำจึงกดลูกสูบลงจึงได้น้ำกาแฟออกมา
เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ[แก้]
เป็นเครื่องชงกาแฟที่นิยมใช้กันมากในร้านกาแฟที่มีขนาดกลาง หลักการทำงาน ใช้หลักการจากความดันไอน้ำ เพื่อกลั่นเอารสชาติของกาแฟออกมา โดยที่ใช้น้ำน้อยที่สุด โดยรสชาติที่ได้ จะมีความหอมอย่างเต็มที่
โดยเครื่องชงกาแฟประเภทนี้จะมีการผลิตออกมาหลายแบบและหลายขนาด ซึ่งถ้าขนาดใหญ่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย
เครื่องชงกาแฟแบบมอคคาพอต[แก้]
เครื่องชงประเภทนี้มีหลักการเกี่ยวกับความดันไอน้ำคล้ายๆกับแบบเอสเปรสโซ โดยตัวเครื่องจะแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนล่างเป็นส่วนใส่น้ำ ส่วนบนมีฟิลเตอร์สำหรับใส่ผงกาแฟ เมื่อต่อสองส่วน เข้าด้วยกันจะมี หลักการทำงาน คือ เครื่องจะทำงานโดยต้มน้ำกลั่นไอผ่านผงกาแฟ เมื่อเครื่องหยุดเดือด จะได้น้ำกาแฟที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับการชงโดยใช้เครื่องเอสเปรสโซ
เครื่องชงกาแฟแบบเพอร์โคเลเตอร์[แก้]
เครื่องชงกาแฟประเภทนี้ จะมีลักษณะคล้ายกาต้ม รูปล่างคล้ายคูลเลอร์ โดยมากจะเห็นเครื่องชงประเภทนี้ตามสถานที่จัดเลี้ยงหรือตามโรงแรมต่างๆ หลักการทำงาน ตัวเครื่องจะต้มน้ำพอเดือด และจะไหลไปตามท่อปั๊มผ่านตะกร้าที่ใส่ผงกาแฟไว้ น้ำกาแฟที่ได้ จะหยดลงสู่ส่วนล่างสุดของเหยือก ซึ่งจะมีตัวเปิด ปิด อยู่ด้านนอก
เครื่องชงกาแฟประเภทนี้มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจาก มีปุ่มควบคุมความร้อนและอุณหภูมิของน้ำสม่ำเสมอ
เครื่องชงกาแฟแบบสุญญากาศ[แก้]
เครื่องชงประเภทนี้ตัวเครื่องจะเป็นแก้วใส หลักการทำงาน จะอาศัยหลักความดันไอน้ำ โดยผงกาแฟจะถูกบดใส่ไว้ในฟิลเตอร์ซึ่งอยู่ส่วนบนของตัวเครื่อง และมีกาน้ำซึ่งเป็นแก้วทรงกลม อยู่ด้านล่างของตัวฟิลเตอร์ น้ำจะถูกต้มด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์ด้านนอก เมื่อน้ำเดือดไอน้ำจะลอยขึ้นสู่ด้านบน ผ่านผงกาแฟและขังอยู่บนนั้น จนเมื่อมีการดับไฟน้ำกาแฟถึงจะไหลออกมา ผ่านกรองลงมายังการองรับด้านล่าง
โดยเครื่องกรองประเภทนี้จะทำให้ได้กาแฟที่มีกลิ่นและรสชาติดี แต่การชงจะได้ปริมาณกาแฟในปริมาณที่ไม่มาก[1]
เครื่องชงกาแฟแคปซูล[แก้]
วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ จริงๆมีเพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆเท่านั้น คือ เตรียมแคปซูลกาแฟในรสชาติที่ต้องการ แล้วเปิดฝาเครื่อง หยิบแคปซูลใส่ลงไปช่อง และปรับระดับน้ำตามที่ระบุของแต่ละแคปซูล เลือกน้ำร้อนหรือน้ำเย็น (ตามชนิดของแคปซูล) นำถ้วยออก เปิดและปิดฝาครอปเพื่อดีดแคปซูลใช้แล้วออกจากภาชนะบรรจุ Home Barista, Bio Life, Cafe Molinari, Home & Professional, Coffee Solutions.
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ยอดยิ่ง ถาวรไทย,2549,หน้า31-35
บรรณานุกรม[แก้]
- ยอดยิ่ง ถาวรไทย,ข้าพเจ้าได้อ่านมา,สำนักพิมพ์ไพลิน,2549
![]() |
บทความเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม และหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอื่น ๆ นี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |