ข้ามไปเนื้อหา

วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร

พิกัด: 13°09′00″N 100°48′23″E / 13.1499153°N 100.8062788°E / 13.1499153; 100.8062788
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร
แผนที่
ที่ตั้งเลขที่ 29 หมู่ 6 ตำบลท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ประเภทพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
นิกายเถรวาท มหานิกาย
พระประธานพระพุทธรูปมารวิชัย
เจ้าอาวาสพระวชิราลังการ (สวัสดิ์ อุตฺตมวํโส)
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม เป็นพระอารามหลวง ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2435 และทรงประกาศพระบรมราชูทิศไว้ ณ วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2435 ทรงพระราชอุทิศเขตพระอุโบสถ กว้าง 5 วา ยาว 4 วา 2 ศอก เป็นวิสุงคามสีมา ดังประกาศพระราชทานที่อุปจารสีมาพระอารามให้ ที่เกาะสีชัง

วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 29 หมู่ 6 ตำบลท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2435

ประวัติ

[แก้]

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเกาะสีชังด้วยเรื่อพระที่นั่งสยามอรสุมพล ทรงปฏิสังขรณ์พระอารามซึ่งราษฎรร่วมกันสร้างไว้ ที่แหลมด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) สร้าง

  1. พระอุโบสถ กว้าง 3 วา ยาว 9 วา 2 ศอก สูง 3 วา
  2. ศาลาการเปรียญ 1 หลัง
  3. กุฏิฝากระดาน 7 หลัง

แต่ไม่ได้พระราชทานนามพระอาราม ชาวบ้านเรียนกันว่า "วัดเกาะสีชัง" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยกเป็นพระอารามหลวง และพระราชทานผ้าพระกฐินเป็นประจำทุกปี

พ.ศ. 2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธาโปรดให้สร้างพระอารามขึ้นใหม่ ที่ไหล่เขาด้านใต้ เปลี่ยนแทนพระอารามเดิมที่ศีรษะแหลมวังพระราชทานนามว่า "วัดอัษฎางคนิมิตร" โปรดให้กำหนดเขตพระอาราม และเขตพระอุโบสถ ซึ่งจะพระราชทานเป็นวิสุงคามสีมาตามธรรมเนียม วันที่ 12 พฤษภาคม รัตนโกสินทร์ศก 111 เวลาบ่าย 5 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับในพระอุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร พระสงฆ์ในกรุงเทพ ฯ ที่ออกไป มีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร เป็นต้น ประชุมอยู่พร้อมกัน ทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว ทรงปิดทองพระประธานในพระอุโบสถ ขณะนั้นพระสงฆ์สวดชัยมงคล เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ฆ้องชัย พิณพาทย์พร้อมกันเสร็จแล้ว เสด็จออกประทับ ณ ฐานที่ปลูกต้นมหาโพธิ์ ที่ข้างอัฒจันทร์พระอุโบสถ ทรงขุดตินปลูกตันมหาโพธิ์ ต้นมหาโพธิ์นี้ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ นำมาแต่เมืองคยา ทรงปลูกต้นมหาโพธิ์แล้ว เสด็จประทับในพระอุโบสถ ทรงถวายใบประกาศพระราชทานที่วิสุงคามสีมาแก่กรมหมี่นวชิรญาณวโรรส ผู้เป็นประธานสงฆ์ ณ ที่นี้ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทรงอ่านประกาศให้พระสงฆ์ทราบสาธุการพร้อมกันแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับสู่ค่ายหลวง

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริเห็นว่าพระภิกษุสามเณรวัดอัษฎางคนิมิตร ได้รับความลำบากในการแสวงหาอาหารบิณฑบาต จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาพระอารามขึ้นใหม่ ที่เชิงเขายอดพระจุลจอมเกล้าด้านทะเล และพระราชทานว่า "วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราไชย และทรงพระกรุณาโปรดให้ย้ายพระสงฆ์จากวัดอัษฎางคนิมิตร มาอยู่ในพระอารามใหม่นี้

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดให้พระราชาคณะผู้ใหญ่ คือพระมงคลทิพยมุนี (พระพุฒาจารย์ มา อินฺทสโร) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพมหานคร เป็นผู้กำกับการดูแลพระพุทธบาทแห่งนี้ และเป็นเจ้าคณะใหญ่แขวงเมืองสมุทรปราการด้วย

ในการก่อสร้างปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุต่าง ๆ ในวัดจุฑาทิศธรรมสภารามนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระมงคลทิพยมุนี (พระพุฒาจารย์ มา อินฺสโร) เป็นผู้กำกับการก่อสร้าง และพระครูศรีฉพังคสังวร (เทียน) วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม เป็นผู้ช่วย

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

13°09′00″N 100°48′23″E / 13.1499153°N 100.8062788°E / 13.1499153; 100.8062788