มหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์
คติพจน์ | ลาติน: Rerum cognoscere causas อังกฤษ: To discover the causes of things ไทย: เพื่อค้นพบสาเหตุของสิ่งต่าง ๆ | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คติพจน์อังกฤษ | To discover the causes of things | |||||||||||||
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาล | |||||||||||||
สถาปนา | พ.ศ. 2448 — ได้รับพระบรมราชโองการให้เป็นมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2440 — วิทยาลัยอุดมศึกษา พ.ศ. 2371 — วิทยาลัยแพทย์ | |||||||||||||
ที่ตั้ง | , , 53°22′53″N 1°29′18″W / 53.381389°N 1.488272°W | |||||||||||||
วิทยาเขต | ในเมือง | |||||||||||||
สี | ดำ และ ทอง | |||||||||||||
เครือข่าย | กลุ่มรัสเซล, WUN, ACU, กลุ่มเอ็มแปด, กลุ่มมหาวิทยาลัยจังหวัดยอร์กเชอร์, EQUIS, สมาคมบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต | |||||||||||||
เว็บไซต์ | www.sheffield.ac.uk |
มหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ (อังกฤษ: University of Sheffield) เป็นสถาบันอุดมศึกษาเน้นวิจัยในสหราชอาณาจักร ตั้งที่ใจกลางเมืองเชฟฟีลด์ อันมีฐานะเป็นอำเภอในจังหวัดเซาท์ยอร์กเชอร์ ถือกำเนิดจากการรวมกันระหว่างวิทยาลัยอุดมศึกษาเชฟฟีลด์ และวิทยาลัยแพทย์เชฟฟีลด์ มหาวิทยาลัยเป็นสมาชิกก่อตั้งของกลุ่มรัสเซล ซึ่งเป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยขนาดใหญ่ในสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาสองแห่งที่มีในเมือง โดยอีกแห่งที่มีจำนวนนักศึกษามากกว่า คือ มหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์แฮลลัม (Sheffield Hallam University) ซึ่งตั้งห่างออกไปทางตะวันออกราว 500 เมตร[1]
ประวัติ
[แก้]เมื่อ พ.ศ. 2371 ได้มีการก่อตั้งวิทยาลัยแพทย์ประจำอำเภอเชฟฟีลด์ เพื่อช่วยในการผลิตแพทย์เพิ่ม[2] ต่อมาในปี พ.ศ. 2422 มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ได้ขยายศูนย์วิทยบริการมา โดยเปิดเป็นวิทยาลัยเฟิร์ท (Firth College) ตามชื่อของมาร์ก เฟิร์ท นักอุตสาหกรรมชาวอังกฤษ เพื่อให้การเรียนการสอนในสาขาวิชาศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และตอบสนองการเป็นเมืองอุตสาหกรรมของเชฟฟีลด์[3] หลังจากนั้นห้าปี ได้มีการก่อตั้งโรงเรียนช่างฝีมือเชฟฟีลด์ (ระวังสับสนกับวิทยาลัยเทคนิคนครเชฟฟีลด์ ซึ่งต่อมาได้เป็นมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์แฮลลัม) โดยมีวิทยาลัยเฟิร์ทเป็นผู้สนับสนุน ในที่สุดเมื่อปี พ.ศ. 2440 สถาบันทั้งสามจึงรวมตัวกันเป็นวิทยาลัยอุดมศึกษาเชฟฟีลด์[3] ต่อมาวิทยาลัยอุดมศึกษาได้ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยโดยพระราชบัญญัติเมื่อ พ.ศ. 2448 แทนการนำไปรวมเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยวิกตอเรียซึ่งในเวลาต่อมาได้สลายตัวออกเป็นสถาบันอิสระ ได้แก่ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ มหาวิทยาลัยลีดส์ และมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล เมื่อแรกสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาเต็มเวลาเพียง 365 คน และคณาจารย์-เจ้าหน้าที่อีก 71 คน การเติบโตของมหาวิทยาลัยในช่วงต้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 มหาวิทยาลัยได้เติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีจำนวนนักศึกษามากกว่าเดิมมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนงาน
[แก้]มหาวิทยาลัยแบ่งออกเป็น 4 คณะวิชา ดังนี้[4]
- คณะอักษรศาสตร์และมนุษยศาสตร์
- ภาควิชาโบราณคดี
- ภาควิชาประวัติศาสตร์
- ภาควิชาปรัชญา
- ภาควิชาดุริยศาสตร์
- ภาควิชาภาษาอังกฤษ
- ภาควิชาภาษาและวัฒนธรรม
- สถาบันศึกษาพระคัมภีร์สหศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ (Sheffield Institute for Interdisciplinary Biblical Studies (SIIBS))
- คณะวิศวกรรมศาสตร์
- ภาควิชาวิศวกรรมอากาศยาน
- ภาควิชาวิศวกรรมควบคุมอัตโนมัติและวิศวกรรมระบบ
- ภาควิชาชีววิศวกรรม (bioengineering)
- ภาควิชาวิศวกรรมเคมีและสิ่งแวดล้อม
- ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและโครงสร้าง
- ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
- ภาควิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุ
- ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล
- คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และสุขศาสตร์
- ภาควิชาวิทยาศาสตร์ระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ภาควิชาทันตแพทย์คลินิก
- ภาควิชาการวิจัยสุขภาพ (ScHARR)
- ภาควิชาวิทยาศาสตร์การสื่อสารมนุษย์
- ภาควิชาเมทาบอลิซึมมนุษย์
- ภาควิชาการติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน
- ภาควิชาแพทยศาสตร์
- ภาควิชาประสาทศาสตร์
- ภาควิชาพยาบาลศาสตร์และการผดุงครรภ์
- ภาควิชาวิทยาเนื้องอก
- คณะวิทยาศาสตร์
- ภาควิชาพืชศาสตร์และสัตวศาสตร์
- ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ
- ภาควิชาชีวเวชศาสตร์
- ภาควิชาฟิสิกส์และดาราศาสตร์
- ภาควิชาเคมี
- ภาควิชาชีววิทยาโมเลกุลและชีวเทคโนโลยี
- ภาควิชาจิตวิทยา
ที่ตั้ง
[แก้]มหาวิทยาลัยมีที่ตั้งหลักอยู่ใจกลางเมืองเชฟฟีลด์ค่อนไปทางตะวันตก ประกอบด้วยอาคารสโมสรนักศึกษา, สำนักงานมหาวิทยาลัย, อาคารเดนตัน (Dainton Building),[5] อาคารออกทากอน (Octagon Centre), อาคารเฟิร์ท (Firth Court), อาคารภูมิศาสตร์, อาคารอัลเฟรด เดนนี (Alfred Denny Building), อาคารภาควิชาพืชศาสตร์ฯ, อาคารริชาร์ด รอเบิตส์, อาคารฮิกส์, อาคารหอสมุด ฯลฯ
อาคารออกทากอนเปิดใช้งานเมื่อปี พ.ศ. 2526 ใช้เป็นศูนย์ประชุมของมหาวิทยาลัย ใช้ในพิธีมอบปริญญาบัตร และเปิดให้บุคคลภายนอกใช้ได้ แผนการก่อสร้างเริ่มต้นตั้งแต่สภามหาวิทยาลัยอนุมัติเงินทุนจำนวน 175,000 ปอนด์ เมื่อ พ.ศ. 2501 โดยกำหนดให้ก่อสร้างข้าง ๆ สำนักงานอธิการบดี และกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2508 ถึงกระนั้น เมื่อ พ.ศ. 2506 แผนการก่อสร้างถูกระงับ เนื่องจากมหาวิทยาลัยประสบปัญหาการเงิน ทำให้แผนนี้ช้าออกไป จนกระทั่งสามารถดำเนินการได้เมื่อ พ.ศ. 2524[6]
อ้างอิง
[แก้]เชิงอรรถ
[แก้]- ↑ "Table 1 - UK/EU/non-EU students by HE provider". hesa.ac.uk. Higher Education Statistics Agency. 21 January 2014. สืบค้นเมื่อ 12 February 2015.
- ↑ "A Legacy of Excellence" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 22 November 2013.
- ↑ 3.0 3.1 "Historical note". Sheffield, United Kingdom: University of Sheffield.
- ↑ "University of Sheffield: Departments and services". สืบค้นเมื่อ 10 February 2015.
- ↑ "University of Sheffield: Dainton Building". สืบค้นเมื่อ 10 February 2015.
- ↑ Mathers, Helen (2005). Steel City Scholars. London: James & James. pp. 193–194. ISBN 1904022014.
หนังสือ
[แก้]- Arthur W. Chapman (1955) The Story of a Modern University: A History of the University of Sheffield, Oxford University Press.
- Helen Mathers (2005) Steel City Scholars: The Centenary History of the University of Sheffield, London: James & James.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]