จักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
จักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (อิตาลี: Federico II del Sacro Romano Impero; เยอรมัน: Friedrich II 26 ธันวาคม พ.ศ. 1737–13 ธันวาคม พ.ศ. 1793) เสด็จพระราชสมภพที่นครเจซี ประเทศอิตาลี เป็นพระราชนัดดาของจักรพรรดิฟรีดิชที่ 1 ขึ้นครองราชย์แทนจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อ พ.ศ. 1763 และทรงเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์โฮเฮนสเตาเฟ็น ทรงเป็นกษัตริย์แห่งซิชิลีเมื่อ พ.ศ. 1741 และกษัตริย์แห่งเยอรมนีเมื่อ พ.ศ. 1755
ฟรีดริชที่ 2 เป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคกลาง โดยปกครองดินแดนอันกว้างใหญ่ ตั้งแต่ซิซิลี ผ่านอิตาลี ไปจนถึงเยอรมนีตอนเหนือ ด้วยพระราชกรณียกิจที่หลากหลายและบุคลิกภาพอันกระตือรือร้น ฟรีดริชที่ 2 ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเยอรมัน และอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ปกครองที่โดดเด่นที่สุดในยุคกลางทั้งหมด ในอาณาจักรซิซิลีและส่วนใหญ่ของอิตาลี ฟรีดริชได้ต่อยอดจากผลงานของผู้ปกครองนอร์มันก่อนหน้า โดยสร้างรัฐแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มีระบบราชการทางโลกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการลดอิทธิพลของศาสนจักร พระองค์เป็นที่รู้จักในพระฉายานาม "Stupor mundi" (มหัศจรรย์แห่งโลก) และยังคงมีชื่อเสียงในฐานะบุรุษเรอเนซองส์ผู้ล้ำยุคและผู้รอบรู้ พระองค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการเมืองผู้มีวิสัยทัศน์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นักคณิตศาสตร์ สถาปนิก กวี และนักประพันธ์เพลง นอกจากนี้พระองค์ยังพูดได้ถึง 6 ภาษา ได้แก่ ละติน ซิซิลี เยอรมันตอนบนยุคกลาง ฝรั่งเศสยุคเก่า กรีก และอาหรับ ในฐานะผู้สนับสนุนวิทยาศาสตร์และศิลปะอย่างกระตือรือร้น ฟรีดริชที่ 2 มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวรรณกรรมผ่านสำนักกวีนิพนธ์ซิซิลี พระราชวังจักรวรรดิ-ราชวงศ์อันงดงามของพระองค์ที่ปาแลร์โมและฟอจจา ซึ่งเริ่มต้นประมาณปี ค.ศ. 1220 เป็นสถานที่ที่มีการใช้รูปแบบวรรณกรรมในภาษาอิตาโล-โรมานซ์ (Italo-Romance) เป็นครั้งแรก โดยเฉพาะในภาษาซิซิลี บทกวีนิพนธ์ที่เกิดจากสำนักกวีของพระองค์มีอิทธิพลอย่างมากต่อวรรณกรรมยุคหลังจนกลายเป็นภาษาอิตาเลียนสมัยใหม่ นอกจากนี้ พระองค์ยังเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ประกาศห้ามการไต่สวนโดยการทดสอบทรมาน (trial by ordeal) อย่างเป็นทางการ ซึ่งในยุคนั้นเริ่มถูกมองว่าเป็นความเชื่องมงาย
ฟรีดริชที่ 2 ได้รับราชาภิเษกเป็นจักรพรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ์โดยพระสันตะปาปา เมื่อ พ.ศ. 1743 พระองค์มีความปรารถนาสูงยิ่งใคร่ที่จะผนึกอำนาจจักรวรรดิในอิตาลีให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยอาศัยอิทธิพลของพระสันตะปาปา พระองค์ได้อุทิศพระวรกายเป็นอย่างมากในความพยายามขยายอาณาเขตอิตาลี แต่แผนของพระองค์ทำให้เมืองต่างๆ ที่ขึ้นอยู่กับแคว้นลอมบาร์ดต่อต้านไม่พอใจ รวมทั้งองค์พระสันตปาปาด้วย เมื่อทรงเป็นผู้นำทัพในสงครามครูเสดครั้งที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 1771 (ค.ศ. 1228) พระองค์ทรงยึดเมืองเยรูซาเลมและตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเยรูซาเลมเมื่อ พ.ศ. 1772 เมื่อเสด็จกลับถึงอิตาลีจากการสงคราม พระองค์กลับต้องมาต่อสู้ขัดแย้งกับองค์พระสันตะปาปาจนสิ้นพระชนม์
จักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 เสด็จสวรรคตลงเมื่อปี พ.ศ. 1793 ตรงกับรัชสมัยของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง (สถาปนาราชวงศ์ พ.ศ. 1792)
อ้างอิง
[แก้]- The Cambridge Biograhical Encyclopedia / Edited by David Cystal-2nd ed., Cambridge University Press, 2000
ดูเพิ่ม
[แก้]- ↑ The First Council of Lyon solemnly deposed and excommunicated the Emperor, absolving all his subjects from allegiance. This is the beginning of the Great Interregnum, which ended only with the coronation of Henry VII in 1312 (Henry failed to be crowned by the pope, the first emperor to be crowned by a pope after Frederick was Sigismund, in 1433).
- ↑ Catholic Encyclopedia - Frederick II