ข้ามไปเนื้อหา

บิมสเทค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ

บิมสเทค
ธงชาติบิมสเทค
ธง
สำนักงานเลขาธิการธากา บังกลาเทศ[1]
ภาษาราชการอังกฤษ
สมาชิก
ผู้นำ
• ผู้นำ
 ศรีลังกา (ตั้งแต่กันยายน 2561)[2]
• เลขาธิการ
Tenzin Lekphell
 ภูฏาน[3]
สถาปนา6 มิถุนายน พ.ศ. 2540 (27 ปี)
เว็บไซต์
bimstec.org

ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (อังกฤษ: Bay of Bengal Initiative Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) หรือ บิมสเทค (อังกฤษ: BIMSTEC) เป็นองค์กรระหว่างประเทศของ 7 ประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากร 1.73 พันล้านคน และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรวมกัน 4.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (2565)[4][5] ประเทศสมาชิกบิมสเทค ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย พม่า เนปาล ศรีลังกา และไทย[6] อยู่ในกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวเบงกอล

ประวัติ

[แก้]

ความร่วมมือภายใต้กรอบ BIMSTEC ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2540 ภายใต้การริเริ่มและผลักดันของไทยโดยใช้ชื่อว่า Bangladesh-India-Sri Lanka-Thailand Economic Cooperation หรือ BIST-EC ซึ่งในช่วงเริ่มต้นนี้มีสมาชิกเพียง 4 ประเทศ คือ บังกลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย และไทย สำหรับ ประเทศพม่าได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในกรอบความร่วมมือนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ธันวาคม 2540 และเปลี่ยนชื่อกรอบความร่วมมือเป็น Bangladesh-India-Myanmar-Sri Lanka-Thailand Economic Cooperation หรือ BIMST-EC ต่อมาเมื่อเดือนธันวาคม 2546 ประเทศเนปาลและภูฏานได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกรอบความร่วมมือนี้ ทำให้ในปัจจุบัน ความร่วมมือภายใต้กรอบ BIMSTEC มีสมาชิกรวม 7 ประเทศ คือ บังกลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย ไทย พม่า เนปาล และภูฏาน ซึ่งภายหลังจากการประชุมระดับผู้นำกลุ่มประเทศ BIMSTEC หรือ BIMSTEC Summit ครั้งที่ 1 ได้มีมติเปลี่ยนแปลงชื่อกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจนี้ใหม่เป็น Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation หรือ BIMSTEC ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและสมาชิกของกลุ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีครั้งที่ 8 ที่ประชุมมีมติประกาศให้วันที่ 6 มิถุนายนของทุกปีเป็นวัน BIMSTEC โดยส่งเสริมให้สมาชิกจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ BIMSTEC ในช่วงเวลาดังกล่าวตามที่เห็นเหมาะสม

วัตถุประสงค์

[แก้]

ความร่วมมือภายใต้กรอบ BIMSTEC มีจุดเด่น คือ เป็นเวทีเชื่อมประสานนโยบาย Look East ของกลุ่มประเทศเอเชียใต้ กับนโยบาย Look West ของไทย และเป็นกลไกหนึ่งที่ส่งเสริมโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน และส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และความช่วยเหลือระหว่างประเทศสมาชิก ในรูปของการฝึกอบรม รวมถึงการค้นคว้าวิจัย และการกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อใช้ประโยชน์จากภาคกสิกรรมและอุตสาหกรรม การขยายการค้าและการลงทุน ตลอดจนปรับปรุงการสื่อสารและการคมนาคม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรในภูมิภาค และส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับองค์การระหว่างประเทศ

สาขาความร่วมมือ

[แก้]

ประเทศสมาชิก BIMSTEC ได้ตกลงทำความร่วมมือใน 14 สาขาหลัก ได้แก่

  1. การค้า ลงทุน คมนาคม สื่อสาร พลังงาน ท่องเที่ยว เทคโนโลยี ประมง เกษตร สาธารณสุข ยากจน ต่อต้าน ภัยพิบัติ วัฒนธรรม ปฏิสัมพันธ์ อากาศ

โดยในความร่วมมือในแต่ละสาขาได้แบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ระดับ คือ

  • ความร่วมมือสาขาหลัก (Sector) ซึ่งมีประเทศนำ (Lead Country) ในแต่ละสาขาเป็นผู้รับผิดชอบ
  • ความร่วมมือสาขาย่อย (Sub-Sector) ซึ่งมีประเทศประธาน (Chair Country) เป็นผู้รับผิดชอบ
  • โครงการ (Project) ซึ่งมีประเทศผู้ประสานงานโครงการ (Coordinating Country) เป็นผู้รับผิดชอบ

กลไกการทำงาน

[แก้]

โครงสร้างของกลไกการทำงานของ BIMSTEC สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ กลไกการทำงานของภาครัฐและภาคเอกชน โดยกลไกการทำงานของภาครัฐจะแบ่งการดำเนินการเป็น 5 ระดับได้แก่

  1. การประชุมระดับผู้นำ (BIMSTEC Summit) เป็นกลไกสำคัญที่จะส่งเสริมให้กรอบความร่วมมือมีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการสร้างเจตนารมณ์ทางการเมืองและเป็นการสนับสนุนตามกระบวนการ Top-down เพื่อผลักดันกรอบความร่วมมือ BIMSTEC ในระดับนโยบายของประเทศ โดยการประชุมระดับผู้นำครั้งแรกเกิดขึ้นที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2547 ซึ่งการประชุมครั้งที่สองนั้น จะมีขึ้นในวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2551 ที่ประเทศอินเดีย
  2. การประชุมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Meeting) โดยที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า พิจารณากำกับดูแลความคืบหน้าของการดำเนินงานในสาขาการค้าและการลงทุน และนโยบายเขตการค้าเสรี ส่วนที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นกลไกด้านกำหนดนโยบายสูงสุดสำหรับการประชุมผู้นำ ทั้งนี้ ในอดีต การประชุมสูงสุดของ BIMSTEC อยู่ในระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น แต่ในการประชุม ครั้งที่ 5 ที่กรุงโคลัมโบ เมื่อเดือนธันวาคม 2545 ได้มีการยกระดับเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นครั้งแรก การประชุมระดับรัฐมาตรีครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 ที่ประเทศอินเดีย
  3. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านการค้าและเศรษฐกิจ (Senior Trade / Economic Official Meeting: STEOM) และด้านต่างประเทศ (Senior Official Meeting: SOM)โดยมีระดับปลัดกระทรวงเศรษฐกิจ/การค้าและกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทน ตามลำดับ ทำหน้าที่พิจารณากรอบการค้าเสรี การดำเนินงานสาขาการค้าและการลงทุน และ15 สาขาย่อย และรายงานต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า ส่วนระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านต่างประเทศ ทำหน้าที่พิจารณาการดำเนินการของสาขาต่างๆ ที่เหลือและของคณะทำงาน และรายงานต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรี
  4. การประชุมคณะทำงาน ที่กรุงเทพฯ (Bangkok Working Group: BWG) เป็นการประชุมร่วมระหว่างอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกประจำประเทศไทยประชุมทุกเดือน ที่กรุงเทพฯ เพื่อติดตามและผลักดันให้การดำเนินงานในสาขาความร่วมมือต่างๆ มีความก้าวหน้า นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาในเรื่องแนวทางและนโยบายของความร่วมมือก่อนเสนอต่อที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส
  5. การประชุมรายสาขาและสาขาย่อยความร่วมมือ 6 สาขา จะเป็นเจ้าภาพจัดให้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญสาขาปีละ 1 ครั้ง รายงานผลการประชุมให้คณะทำงานที่กรุงเทพฯทราบผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตประเทศนำนั้นๆประจำประเทศไทยนำเสนอต่อที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสพิจารณาต่อไปส่วนกลไกการทำงานของภาคเอกชนนั้นจะมีการจัดการประชุม BUSINESS FORUM 1 ครั้ง จะหมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพ นำเสนอผลการประชุมดังกล่าวที่ประชุม ECONOMIC FORUM ภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ภาคเอกชนยังจะต้องมีการจัดการประชุม BIMSTEC Chamber of Commerce & Industry ปีละ 1 ครั้ง

ศูนย์บิมสเทค

[แก้]

รัฐมนตรีต่างประเทศ BIMSTEC ครั้งที่ 6 เห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์สนับสนุนทางวิชาการ BIMSTEC(Technical Support Facility: BTSF)Center เวลา 2 ปี เพื่อเป็นกลไกประสานงานกลางการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือในภาพรวมถึงกิจกรรมกลุ่มทำงาน BIMSTEC Working Group BWG) สภาหอการค้า BIMSTEC(Chamber of Commerce)ไทยได้ให้การสนับสนุนจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเป็นโครงการนำร่องจะมีประเมินผลดำเนินการพิจารณารูปแบบการจัดตั้งสำนักเลขาธิการแบบถาวรต่อไป ศูนย์บิมสเทคตั้งอยู่ที่สถาบันยุทธศาสตร์การค้า อาคาร 20 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2547 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทย

ศูนย์บิมสเทค

สถาบันยุทธศาสตร์การค้า

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Nepal unlikely to host fourth 'Bimstec' summit this year". Business Standard India. 3 June 2016. สืบค้นเมื่อ 17 December 2016.
  2. "BIMSTEC summit ends with Oli presenting Kathmandu declaration". The Hindu. 31 August 2018. สืบค้นเมื่อ 31 August 2018.
  3. "Tenzin Lekphell begins journey as BIMSTEC Secretary General". UNB. 6 November 2020. สืบค้นเมื่อ 19 January 2021.
  4. BIMSTEC: Building bridges between South Asia & Southeast Asia เก็บถาวร 22 ธันวาคม 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, IndiaWrites, 2014.
  5. BIMSTEC
  6. "Regional economic integration in the Bay of Bengal". 25 February 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]