ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชุดไทยพระราชนิยม"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 5: | บรรทัด 5: | ||
=== เสื้อพระราชทาน === |
=== เสื้อพระราชทาน === |
||
เสื้อพระราชทาน เป็นเสื้อที่[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร|พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ช่างตัดฉลองพระองค์ ได้แก่ ชูพาสน์ ชูโต, พิชัย วาศนาส่ง และสมภพ หลุยลาภประเสริฐ ออกแบบให้เป็นเครื่องแบบประจำชาติในปี พ.ศ. 2522 จากนั้นโปรดให้[[พลเอก เปรม ติณสูลานนท์]] [[นายกรัฐมนตรีไทย|นายกรัฐมนตรี]]ในขณะนั้นแต่งเสื้อดังกล่าวเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สาธารณชน<ref>{{cite journal|last=หลุยลาภประเสริฐ|first=สมภพ|title=ช่างตัดฉลองพระองค์|journal=[[รีดเดอร์ส ไดเจสท์]] ฉบับภาษาไทย|date=ธันวาคม 2550|url=http://www.readersdigestthailand.co.th/article/2273|accessdate=10 June 2010 |
เสื้อพระราชทาน เป็นเสื้อที่[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร|พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ช่างตัดฉลองพระองค์ ได้แก่ ชูพาสน์ ชูโต, พิชัย วาศนาส่ง และสมภพ หลุยลาภประเสริฐ ออกแบบให้เป็นเครื่องแบบประจำชาติในปี พ.ศ. 2522 จากนั้นโปรดให้[[พลเอก เปรม ติณสูลานนท์]] [[นายกรัฐมนตรีไทย|นายกรัฐมนตรี]]ในขณะนั้นแต่งเสื้อดังกล่าวเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สาธารณชน<ref>{{cite journal|last=หลุยลาภประเสริฐ|first=สมภพ|title=ช่างตัดฉลองพระองค์|journal=[[รีดเดอร์ส ไดเจสท์]] ฉบับภาษาไทย|date=ธันวาคม 2550|url=http://www.readersdigestthailand.co.th/article/2273|accessdate=10 June 2010|url-status=dead|archiveurl=https://web.archive.org/web/20120308025848/http://www.readersdigestthailand.co.th/article/2273|archivedate=8 March 2012}}</ref><ref>{{cite news|title=วธ.เตรียมรื้อใส่เสื้อพระราชทาน|url=http://www.ryt9.com/s/bmnd/705066|accessdate=10 June 2010|newspaper=[[บ้านเมือง]]|date=13 มกราคม 2550|url-status=dead|archiveurl=https://web.archive.org/web/20110715223000/http://www.ryt9.com/s/bmnd/705066|archivedate=15 July 2011}}</ref> จนภาพจำของพลเอกเปรมมักคู่กับเสื้อพระราชทานนี้เสมอ ต่อมามีการประยุกต์และมีการแต่งกายด้วยเสื้อแบบนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ[[นักการเมือง]]และ[[ข้าราชการ]]ในวาระสำคัญต่าง ๆ บ้างก็แต่งในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส |
||
เสื้อพระราชทานนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับเสื้อ[[ราชปะแตน]]ซึ่งเป็นเสื้อที่มีมาก่อนโดยได้รับการประยุกต์จาก[[:en:Nehru jacket|เสื้อคลุมเนห์รู]]ของอินเดีย แต่มีความต่างที่วัสดุในการตัดเย็บที่มีความหลากหลายกว่า<ref>{{cite web|author=GQ Thailand|title=ชุดราชปะแตน เหตุใดคนไทยทึกทักเอาว่าเป็นของตน?|journal=GQ Thailand|date=17 มิถุนายน 2559|url=https://www.gqthailand.com/style/article/history-of-the-royal-pattern|accessdate=7 มิถุนายน 2563}}</ref> เสื้อพระราชทานมีลักษณะคอเสื้อตั้งอย่าง[[:en:Mandarin collar|แมนดาริน]]สูง 3.5 ถึง 4 เซนติเมตร และเรียวคอเสื้อเข้าสาบอก ขลิบรอบคอ สาบอก แขนเสื้อหรือรอยพับแขนเสื้อ กระดุมกลมแบน 5 เม็ดคลุมด้วยผ้าหรือวัสดุที่ใกล้เคียงกับสีและเนื้อผ้า มักเจาะกระเป๋าบนเสื้อที่แนวเหนือกระดุมเม็ดล่างสุดเล็กน้อย ข้างละ 1 กระเป๋า กระเป๋านอก 2 กระเป๋า กระเป๋าด้านบนตรงอกซ้าย 1 กระเป๋า หรืออาจมีมากกว่าหรือไม่มีเลยก็ได้ ตัวเสื้อมีทั้งแบบแขนสั้น แบบแขนยาว และแบบแขนยาวผูกเอว เสื้อแบบแขนยาวโดยมากจะเย็บแขนเสื้อทาบด้วยผ้าแบบและสีเดียวกันกับตัวเสื้อกว่างประมาณ 4 ถึง 5 เซ็นติเมตรเริ่มจากด้านในอ้อมด้านหน้าไปสุดเป็นปลายมนด้านหลังแขนเสื้อ และชายเสื้ออาจผ่ากันตึงหรือมีเส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ สวมกับกางเกงขายาว<ref name="MOC">{{cite web|title=ชุดไทยพระราชนิยม (Chut Thai Phra ratcha niyom)|url=http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=960|work=Ministry of Culture website|publisher=Ministry of Culture|accessdate=10 June 2010 |
เสื้อพระราชทานนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับเสื้อ[[ราชปะแตน]]ซึ่งเป็นเสื้อที่มีมาก่อนโดยได้รับการประยุกต์จาก[[:en:Nehru jacket|เสื้อคลุมเนห์รู]]ของอินเดีย แต่มีความต่างที่วัสดุในการตัดเย็บที่มีความหลากหลายกว่า<ref>{{cite web|author=GQ Thailand|title=ชุดราชปะแตน เหตุใดคนไทยทึกทักเอาว่าเป็นของตน?|journal=GQ Thailand|date=17 มิถุนายน 2559|url=https://www.gqthailand.com/style/article/history-of-the-royal-pattern|accessdate=7 มิถุนายน 2563}}</ref> เสื้อพระราชทานมีลักษณะคอเสื้อตั้งอย่าง[[:en:Mandarin collar|แมนดาริน]]สูง 3.5 ถึง 4 เซนติเมตร และเรียวคอเสื้อเข้าสาบอก ขลิบรอบคอ สาบอก แขนเสื้อหรือรอยพับแขนเสื้อ กระดุมกลมแบน 5 เม็ดคลุมด้วยผ้าหรือวัสดุที่ใกล้เคียงกับสีและเนื้อผ้า มักเจาะกระเป๋าบนเสื้อที่แนวเหนือกระดุมเม็ดล่างสุดเล็กน้อย ข้างละ 1 กระเป๋า กระเป๋านอก 2 กระเป๋า กระเป๋าด้านบนตรงอกซ้าย 1 กระเป๋า หรืออาจมีมากกว่าหรือไม่มีเลยก็ได้ ตัวเสื้อมีทั้งแบบแขนสั้น แบบแขนยาว และแบบแขนยาวผูกเอว เสื้อแบบแขนยาวโดยมากจะเย็บแขนเสื้อทาบด้วยผ้าแบบและสีเดียวกันกับตัวเสื้อกว่างประมาณ 4 ถึง 5 เซ็นติเมตรเริ่มจากด้านในอ้อมด้านหน้าไปสุดเป็นปลายมนด้านหลังแขนเสื้อ และชายเสื้ออาจผ่ากันตึงหรือมีเส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ สวมกับกางเกงขายาว<ref name="MOC">{{cite web|title=ชุดไทยพระราชนิยม (Chut Thai Phra ratcha niyom)|url=http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=960|work=Ministry of Culture website|publisher=Ministry of Culture|accessdate=10 June 2010|date=3 February 2010|url-status=dead|archiveurl=https://web.archive.org/web/20100127010447/http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=960|archivedate=27 January 2010}}</ref> |
||
<gallery> |
<gallery> |
||
บรรทัด 19: | บรรทัด 19: | ||
[[ไฟล์:Sirikit Queen of Thailand.jpg|100px|thumb|สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี]] |
[[ไฟล์:Sirikit Queen of Thailand.jpg|100px|thumb|สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี]] |
||
เมื่อครั้ง[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]] ได้โดยเสด็จ[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช]]เสด็จพระราชดำเนินเยือน[[สหรัฐ]]และหลายประเทศใน[[ทวีปยุโรป]]ในปี พ.ศ. 2503 พระองค์ทรงคำนึงและมีพระราชดำริว่าควรจะจัดให้สร้างสรรค์เครื่องแบบประจำชาติให้เป็นไปตามประเพณีอันดีงาม พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายของเจ้านายฝ่ายในในอดีต และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ จากนั้นทรงโปรดให้ปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย มีรูปแบบที่หลากหลายถึง 8 ชุด ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรพรรดิ์ และชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยพระราชนิยมเหล่านี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงใช้ในโอกาสต่าง ๆ และพระราชทานแบบให้แก่บุคคลใกล้ชิดได้สวมใส่ จนต่อมาเป็นที่รู้จักและใช้ในวงกว้าง<ref>{{cite web|title=สารคดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ตอนที่ 40|work=สำนักข่าว [[กรมประชาสัมพันธ์]]|accessdate=10 June 2010|archiveurl=https://web.archive.org/web/20080212075258/http://thainews.prd.go.th/rachinephp/queen40.html|archivedate=2008-02-12 |
เมื่อครั้ง[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]] ได้โดยเสด็จ[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช]]เสด็จพระราชดำเนินเยือน[[สหรัฐ]]และหลายประเทศใน[[ทวีปยุโรป]]ในปี พ.ศ. 2503 พระองค์ทรงคำนึงและมีพระราชดำริว่าควรจะจัดให้สร้างสรรค์เครื่องแบบประจำชาติให้เป็นไปตามประเพณีอันดีงาม พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายของเจ้านายฝ่ายในในอดีต และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ จากนั้นทรงโปรดให้ปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย มีรูปแบบที่หลากหลายถึง 8 ชุด ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรพรรดิ์ และชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยพระราชนิยมเหล่านี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงใช้ในโอกาสต่าง ๆ และพระราชทานแบบให้แก่บุคคลใกล้ชิดได้สวมใส่ จนต่อมาเป็นที่รู้จักและใช้ในวงกว้าง<ref>{{cite web|title=สารคดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ตอนที่ 40|work=สำนักข่าว [[กรมประชาสัมพันธ์]]|accessdate=10 June 2010|archiveurl=https://web.archive.org/web/20080212075258/http://thainews.prd.go.th/rachinephp/queen40.html|archivedate=2008-02-12|url=http://thainews.prd.go.th/rachinephp/queen40.html}}</ref><ref>{{cite web|title=ประวัติ ชุดไทยพระราชนิยม ชุดประจำชาติ การแต่งกาย ความภูมิใจในความเป็นไทย|work=ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ [[เลย]] [[กรมหม่อนไหม]]|accessdate=8 มิถุนายน 2563|url=https://qsds.go.th/newqssclei/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2/}}</ref> |
||
===ชุดไทยจักรี=== |
===ชุดไทยจักรี=== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:41, 22 พฤศจิกายน 2563
ชุดไทยพระราชนิยม เป็นชุดที่ประกอบด้วยเครื่องแต่งกายอย่างชุดไทย ออกแบบเพื่อใช้เป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติในงานพิธีทางการ
ชุดชาย
เสื้อพระราชทาน
เสื้อพระราชทาน เป็นเสื้อที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ช่างตัดฉลองพระองค์ ได้แก่ ชูพาสน์ ชูโต, พิชัย วาศนาส่ง และสมภพ หลุยลาภประเสริฐ ออกแบบให้เป็นเครื่องแบบประจำชาติในปี พ.ศ. 2522 จากนั้นโปรดให้พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นแต่งเสื้อดังกล่าวเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สาธารณชน[1][2] จนภาพจำของพลเอกเปรมมักคู่กับเสื้อพระราชทานนี้เสมอ ต่อมามีการประยุกต์และมีการแต่งกายด้วยเสื้อแบบนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักการเมืองและข้าราชการในวาระสำคัญต่าง ๆ บ้างก็แต่งในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส
เสื้อพระราชทานนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับเสื้อราชปะแตนซึ่งเป็นเสื้อที่มีมาก่อนโดยได้รับการประยุกต์จากเสื้อคลุมเนห์รูของอินเดีย แต่มีความต่างที่วัสดุในการตัดเย็บที่มีความหลากหลายกว่า[3] เสื้อพระราชทานมีลักษณะคอเสื้อตั้งอย่างแมนดารินสูง 3.5 ถึง 4 เซนติเมตร และเรียวคอเสื้อเข้าสาบอก ขลิบรอบคอ สาบอก แขนเสื้อหรือรอยพับแขนเสื้อ กระดุมกลมแบน 5 เม็ดคลุมด้วยผ้าหรือวัสดุที่ใกล้เคียงกับสีและเนื้อผ้า มักเจาะกระเป๋าบนเสื้อที่แนวเหนือกระดุมเม็ดล่างสุดเล็กน้อย ข้างละ 1 กระเป๋า กระเป๋านอก 2 กระเป๋า กระเป๋าด้านบนตรงอกซ้าย 1 กระเป๋า หรืออาจมีมากกว่าหรือไม่มีเลยก็ได้ ตัวเสื้อมีทั้งแบบแขนสั้น แบบแขนยาว และแบบแขนยาวผูกเอว เสื้อแบบแขนยาวโดยมากจะเย็บแขนเสื้อทาบด้วยผ้าแบบและสีเดียวกันกับตัวเสื้อกว่างประมาณ 4 ถึง 5 เซ็นติเมตรเริ่มจากด้านในอ้อมด้านหน้าไปสุดเป็นปลายมนด้านหลังแขนเสื้อ และชายเสื้ออาจผ่ากันตึงหรือมีเส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ สวมกับกางเกงขายาว[4]
-
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ (กลางภาพ) อดีตประธานองคมนตรีในเสื้อพระราชทาน
-
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีในเสื้อพระราชทาน
-
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีในเสื้อพระราชทาน
-
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ผู้ชาย ฝั่งขวา เสื้อสีเหลือง) นายกรัฐมนตรีในเสื้อพระราชทาน
ชุดหญิง
เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐและหลายประเทศในทวีปยุโรปในปี พ.ศ. 2503 พระองค์ทรงคำนึงและมีพระราชดำริว่าควรจะจัดให้สร้างสรรค์เครื่องแบบประจำชาติให้เป็นไปตามประเพณีอันดีงาม พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายของเจ้านายฝ่ายในในอดีต และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ จากนั้นทรงโปรดให้ปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย มีรูปแบบที่หลากหลายถึง 8 ชุด ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรพรรดิ์ และชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยพระราชนิยมเหล่านี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงใช้ในโอกาสต่าง ๆ และพระราชทานแบบให้แก่บุคคลใกล้ชิดได้สวมใส่ จนต่อมาเป็นที่รู้จักและใช้ในวงกว้าง[5][6]
ชุดไทยจักรี
ชุดไทยจักรี ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นชุดที่มีความเป็นทางการและมีความสง่างาม โดยปกติ ชุดนี้ทอด้วยวิธีการยกเพื่อให้ชุดมีความหนาโดยไม่ต้องเสริมด้าย มักจะเสริมด้วยด้ายสีทองหรือสีเงินเพื่อเสริมให้เนื้อผ้ามีความสง่างามยิ่งขึ้น ห่มสไบ และสวมกับซิ่นจีบหน้านาง
ชุดไทยบรมพิมาน
ชุดไทยบรมพิมาน ตั้งชื่อตามพระที่นั่งบรมพิมาน เป็นอีกชุดที่มีความเป็นทางการและมักใช้ในงานช่วงเย็นหรืองานพิธีสำคัญ ประกอบด้วยเสื้อแขนยาว อาจมีกระดุมกลัดติดเสื้อที่ด้านหน้าหรือหลังก็ได้ ตัวเสื้อจะสวมกับซิ่นผูกจีบหน้านาง ผ้าจะถักเพิ่มด้วยไหมทองเพื่อสร้างรูปลักษณ์และความรู้สึกที่มีความหรูหรา คอเสื้อมีลักษณะกลมแนบไปกับคอ นุ่งซิ่นยาวถึงข้อเท้า ตัวชุดตัดเย็บให้มีความกลมกลืนและทำให้ผู้สวมใส่แลดูสูงโปร่งและสมส่วน มักสวมใส่ในพิธีทางการหรือกึ่งทางการก็ได้ นอกจากนี้อาจประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย
ชุดไทยดุสิต
ชุดไทยดุสิต ตั้งชื่อตามพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตัวเสื้อไม่มีแขน คอหน้า-หลังคว้านกว้าง ผ่าหลัง ปักเป็นลวดลายด้วยไข่มุก ลูกปัดหรือเลื่อม มีลวดลายสวยงาม ทอจากผ้ายกไหมหรือยกทอง ใช้ในงานพระราชพิธีตอนค่ำที่กำหนดให้แต่งกายเต็มยศ
ชุดไทยศิวาลัย
ชุดไทยศิวาลัย ตั้งชื่อตามพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท เป็นอีกชุดที่มีความเป็นทางการและมักใช้ในงานช่วงเย็นหรืองานพิธีสำคัญ มีลักษณะคล้ายกับชุดไทยบรมพิมาน เพียงแต่จะมีการห่มสไบเฉียงเหนือไหล่ด้วย
ชุดไทยจักรพรรดิ
ชุดไทยจักรพรรดิ ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เป็นชุดไทยที่มีผ้าคลุมคล้ายชุดไทยจักรี แต่มีความอนุรักษนิยมสูงกว่า จึงมักใช้ในพิธีที่มีความเป็นทางการสูง ส่วนบนมีสไบปักที่มีคววามหนาคลุมทับไหล่ มักจะสวมในพระราชพิธีหรือรัฐพิธีที่สำคัญ
ชุดไทยอมรินทร์
ชุดไทยอมรินทร์ ตั้งชื่อตามพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย เป็นชุดเหมาะสำหรับงานช่วงเย็น ทอจากผ้าที่มีลักษณะเงางาม ผู้สวมใส่ชุดนี้ไม่ต้องสวมเข็มขัด ตัวเสื้อสร้างตัดให้ตัวเสื้อกว้างและรอบคอกลมรอบพอดีกับผู้สวมใส่ แขนเสื้อจะตัดให้แขนสั้นเพียงข้อศอกหรือยาวถึงข้อมือก็ได้ ชุดนี้มีความงามที่ตัวเนื้อผ้าและเครื่องประดับ โดยมักมักสวมในงานพิธีเลี้ยงอาหารเย็นหรือพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษา ทั้งนี้มักจะประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย
ชุดไทยจิตรลดา
ชุดไทยจิตรลดา ตั้งชื่อตามพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ใช้ในงานพิธีช่วงกลางวัน เสื้อทักด้วยไหม แขนยาว ผ่าอกตลอด มีกระดุมเงิน ทอง หรือกระดุมที่กลืนกับผืนผ้า 5 กระดุม ปลายเสื้อคลุมรอบท่อนต้นของซิ่นมักแต่งในงานพิธี เช่น งานพระราชพิธีต่างๆ รับประมุขจากต่างประเทศที่มาเยือนอย่างเป็นทางการ ไม่ต้องประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ชุดไทยเรือนต้น
ชุดไทยเรือนต้น ตั้งชื่อตามเรือนต้น เป็นชุดที่มีความลำลองที่สุดในบรรดาชุดไทยพระราชนิยม ใช้ผ้าไหมมีลายริ้ว ตามขวางหรือตามยาว หรือใช้ผ้าเกลี้ยงมีเชิงซิ่น ยาวจรดข้อเท้า ตัวเสื้อแขนยาวถึงข้อมือและผ่าอกตลอด เหมาะสำหรับงานที่ไม่เป็นพิธีการ หรือในโอกาสปกติและต้องการความเรียบง่าย เช่น งานบุญ
ดูเพิ่มเติม
วิดีโอจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
พิธีเปิดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ภาพจากเอ็นบีที พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ราชปะแตน ต้นแบบเสื้อพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีทรงฉลองพระองค์ชุดไทยดุสิต |
อ้างอิง
- ↑ หลุยลาภประเสริฐ, สมภพ (ธันวาคม 2550). "ช่างตัดฉลองพระองค์". รีดเดอร์ส ไดเจสท์ ฉบับภาษาไทย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 March 2012. สืบค้นเมื่อ 10 June 2010.
- ↑ "วธ.เตรียมรื้อใส่เสื้อพระราชทาน". บ้านเมือง. 13 มกราคม 2550. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 July 2011. สืบค้นเมื่อ 10 June 2010.
- ↑ GQ Thailand (17 มิถุนายน 2559). "ชุดราชปะแตน เหตุใดคนไทยทึกทักเอาว่าเป็นของตน?". GQ Thailand. สืบค้นเมื่อ 7 มิถุนายน 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ชุดไทยพระราชนิยม (Chut Thai Phra ratcha niyom)". Ministry of Culture website. Ministry of Culture. 3 February 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 January 2010. สืบค้นเมื่อ 10 June 2010.
- ↑ "สารคดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ตอนที่ 40". สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-12. สืบค้นเมื่อ 10 June 2010.
- ↑ "ประวัติ ชุดไทยพระราชนิยม ชุดประจำชาติ การแต่งกาย ความภูมิใจในความเป็นไทย". ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เลย กรมหม่อนไหม. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)