ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563"
ป้ายระบุ: ทำกลับ |
|||
บรรทัด 189: | บรรทัด 189: | ||
ไฟล์:Kamala_Harris_official_photo_(cropped).jpg|{{center|'''คามาลา แฮร์ริส'''<br/><small>สมาชิกวุฒิสภา<br/>รัฐแคลิฟอร์เนีย<br/>(พ.ศ. 2560–ปัจจุบัน)</small>}} |
ไฟล์:Kamala_Harris_official_photo_(cropped).jpg|{{center|'''คามาลา แฮร์ริส'''<br/><small>สมาชิกวุฒิสภา<br/>รัฐแคลิฟอร์เนีย<br/>(พ.ศ. 2560–ปัจจุบัน)</small>}} |
||
ไฟล์:Julián Castro's Official HUD Portrait (cropped).jpg|{{center|'''ฮูลีอาน กัสโตร'''<br/><small>อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐ<br/>(พ.ศ. 2557–2560)</small>}} |
ไฟล์:Julián Castro's Official HUD Portrait (cropped).jpg|{{center|'''ฮูลีอาน กัสโตร'''<br/><small>อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐ<br/>(พ.ศ. 2557–2560)</small>}} |
||
ไฟล์:Marianne Williamson November 2019.jpg|{{center|{{nowrap|'''แมริแอนน์ วิลเลียมสัน'''}}<br/><small>นักเขียน<br/>จากรัฐแคลิฟอร์เนีย</small>}} |
|||
</gallery> |
</gallery> |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:48, 13 มกราคม 2563
| |||
สมาชิกคณะผู้เลือกตั้ง 538 คน ต้องการ คะแนนเสียงของผู้เลือกตั้ง 270 เสียงจึงชนะ | |||
---|---|---|---|
| |||
แผนที่เลือกตั้งของการเลือกตั้งปี 2563 โดยยึดประชากรจากสำมะโนปี 2553 | |||
|
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563 ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 59 ซึ่งจัดทุกสี่ปี ผู้ออกเสียงเลือกตั้งจะเลือกผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธันวาคม 2563[1] หากไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งใดได้รับเสียงของคณะผู้เลือกตั้งขั้นต่ำ 270 เสียงในการชนะการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเลือกประธานาธิบดีจากผู้สมัครสามคนที่ได้รับเสียงของผู้เลือกตั้งมากที่สุด และวุฒิสภาสหรัฐจะเลือกรองประธานาธิบดีที่ได้รับคะแนนรวมสูงสุดสองอันดับ คาดว่าจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับในช่วงหกเดือนแรกของปี 2563 กระบวนการเสนอชื่อยังเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมด้วย โดยผู้ออกเสียงเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งในการประชุมเสนอชื่อของพรรคการเมือง ซึ่งจะเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีพรรคของตนและรองประธานาธิบดีที่ร่วมลงสมัครในลำดับถัดไป
ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 และคนปัจจุบัน เริ่มการรณรงค์รับเลือกตั้งใหม่สำหรับการเลือกตั้งขั้นต้นพรรครีพับลิกัน องค์การพรรครีพับลิกันระดับรัฐหลายองค์การยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อแสดงการสนับสนุนการลงสมัครรับเลือกตั้งของเขา ผู้สมัครหลัก 27 คนเริ่มการรณรงค์เพื่อรับการเสนอชื่อของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นจำนวนผู้สมัครมากที่สุดสำหรับพรรคการเมืองในการเมืองอเมริกันหลังยุคปฏิรูป ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2564
เบื้องหลัง
วิธีดำเนินการ
รัฐธรรมนูญสหรัฐ มาตรา 2 ระบุว่า บุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐต้องเป็นพลเมืองสหรัฐโดยกำเนิด มีอายุ 35 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้พำนักในสหรัฐอย่างน้อย 14 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีตรงแบบมองหาการเสนอชื่อของพรรคการเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐ โดยแต่ละพรรคมีวิธีการของตน (เช่น การเลือกตั้งขั้นต้น) เพื่อเลือกผู้สมัครที่พรรคเห็นว่าเหมาะสมลงรับสมัครเลือกตั้ง การเลือกตั้งขั้นต้นปกติเป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคลงคะแนนเลือกรายชื่อผู้แทนที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งที่จะเลือกผู้สมัครคนหนึ่ง ๆ จากนั้นผู้แทนของพรรคจะเสนอชื่อผู้สมัครให้ลงรับเลือกตั้งในนามของพรรคอย่างเป็นทางการ ผู้เสนอชื่อประธานาธิบดีตรงแบบเลือกผู้ร่วมสมัครรับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ซึ่งผู้แทนพรรคจะให้สัตยาบัน การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมเช่นกัน ซึ่งผู้ออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนให้สมาชิกคณะผู้เลือกตั้ง แล้วผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีโดยตรง[2]
ในเดือนพฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตออกเสียงไม่อนุญาตให้ซูเปอร์เดลีเกตออกเสียงเป็นลำดับแรกในกระบวนการเสนอชื่อ เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2563 ทำให้ผู้สมัครต้องชนะผู้แทนที่ให้สัญญาฝ่ายข้างมากจากการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อให้พรรคเสนอชื่อ[3]
คณะกรรมการระดับรัฐของพรรครีพับลิกันหลายคณะมีรายงานว่าพิจารณายกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมลับปี 2563 ส่วนอีกหลายคณะดำเนินการไปแล้ว[4] โดยอ้างข้อเท็จจริงว่ารีพับลิกันเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นหลายรัฐเมื่อจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช และจอร์จ ดับเบิลยู. บุชลงสมัครสมัยที่สองในปี 2535 และ 2547 ตามลำดับ ส่วนเดโมแครตเคยยกเลิกการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อบิล คลินตันและบารัค โอบามากำลังรับเลือกตั้งสมัยที่สองในปี 2539 และ 2555 ตามลำดับ[5][6]
วันที่ 26 สิงหาคม 2562 สภานิติบัญญัติรัฐเมนผ่านร่างกฎหมายใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับ (ranked-choice voting) สำหรับทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นต้นและการเลือกตั้งทั่วไป[7][8] วันที่ 6 กันยายน 2562 ผู้ว่าการรัฐเมน เจเน็ต มิลส์ อนุญาตให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวโดยไม่ลงนาม ซึ่งทำให้ชะลอเวลามีผลจนกระทั่งหลังเลือกตั้งขั้นต้นพรรคเดโมแครตปี 2563 ในเดือนมีนาคม ทำให้รัฐเมนจะเป็นรัฐแรกที่ใช้การออกเสียงลงคะแนนแบบตัวเลือกจัดอันดับสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปประธานาธิบดี[9] กฎหมายยังคงใช้วิธีการเขตเลือกตั้งรัฐสภาสำหรับการจัดสรรผู้เลือกตั้ง โดยรัฐเมนและรัฐเนแบรสกาใช้ในการเลือกตั้งล่าสุด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจชะลอการทำนายผู้ชนะเสียงผู้เลือกั้งขอรัฐเมนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังวันเลือกตั้ง และยังจะทำให้การตีความคะแนนของประชาชนทั่วประเทศยุ่งยากขึ้นด้วย
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 22 ระบุว่าบุคคลไม่สามารถได้ร้ับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกินสองครั้ง ทำให้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบารัค โอบามาไม่มีสิทธิ์รับเลือกตั้งอีกสมัย
แนวโน้มประชากรศาสตร์
กลุ่มอายุที่จะมีอายุอยู่ในช่วง 18 ถึง 45 ปีคาดว่าจะคิดเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งของสหรัฐน้อยกว่าร้อยละ 40 เล็กน้อยในปี 2563 คาดหมายว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งสหรัฐกว่าร้อยละ 30 ไม่ใช่ผิวขาว[10]
รายงานสองพรรคระบุว่าประชากรศาสตร์ผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปนับแต่การเลือกตั้งปี 2559 อาจมีผลต่อการเลือกตั้งปี 2563 แอฟริกันอเมริกัน ฮิสแปนิก เอเชียและชนกลุ่มน้อยอื่น ตลอดจน "ผิวขาวที่มีปริญญาวิทยาลัย" ล้วนคาดว่าจะมีสัดส่วนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกต้ังเพิ่มขึ้นทั่วประเทศภายในปี 2563 ส่วน "ผิขาวที่ไม่มีปริญญาวิทยาลัย" จะลดลง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้สมัครพรรคเดโมแครตได้เปรียบ แต่เนื่องจากความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ อาจทำให้ผู้สมัครพรรครีพับลิกันชนะคณะผู้เลือกตั้งได้แม้จะแพ้คะแนนเสียงของประชาชน โดยอาจทิ้งห่างมากยิ่งกว่าปี 2559[11]
การเลือกตั้งในปีเดียวกัน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หลายรัฐจัดการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและสภานิติบัญญัติของรัฐด้วย หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรจะมีการจัดสรรที่นั่งใหม่ให้กับ 50 รัฐตามผลของสำมะโนสหรัฐปี 2563 และรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ ในหลายรัฐ ผู้ว่าการและสภานิติบัญญัติของรัฐจะจัดเขตเลือกตั้งใหม่ และบ่อยครั้งที่พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีผลอาศัยบารมีช่วยทำให้ผู้สมัครอื่นจากพรรคเดียวกันชนะการเลือกตั้งตามไปด้วย[12] ฉะนั้น พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 อาจมีข้อได้เปรียบสำคัญในการร่างเขตรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐใหม่ซึ่งจะมีผลจนถึงการเลือกตั้งปี 2575[13]
การสรรหาตัวแทนพรรครีพับลิกัน
ผู้สมัครตัวแทนพรรค
ชื่อ | เกิด / รัฐเหย้า | ประสบการณ์ | การรณรงค์หาเสียง วันประกาศ |
จำนวนผู้แทนพรรค[14] | คะแนนเสียง[14] | รัฐที่ชนะ[a] |
---|---|---|---|---|---|---|
ดอนัลด์ ทรัมป์ |
14 มิถุนายน พ.ศ. 2489 (77 ปี) ควีนส์ รัฐนิวยอร์ก |
ประธานาธิบดีสหรัฐ (พ.ศ. 2560–ปัจจุบัน) นักธุรกิจ บุคคลในวงการโทรทัศน์ และนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ |
การรณรงค์หาเสียง การรณรงค์หาเสียง (อย่างไม่เป็นทางการ): 17 กุมภาพันธ์ 2560 (อย่างเป็นทางการ): 18 มิถุนายน 2562 คำแถลงการณ์ FEC[16] |
19 (0.78%) |
0 (0%) |
1 ฮาวาย[17] |
ฟลอริดา[18] | ||||||
โจ วอล์ช |
27 ธันวาคม พ.ศ. 2504 (62 ปี) นอร์ทแบร์ริงตัน รัฐอิลลินอยส์ |
ส.ส. รัฐอิลลินอยส์ เขต 8 (พ.ศ. 2554–2556) นักจัดรายการวิทยุอนุรักษ์นิยม |
การรณรงค์หาเสียง การรณรงค์หาเสียง: 25 สิงหาคม 2562 คำแถลงการณ์ FEC[19] |
0 (0%) |
0 (0%) |
0 |
อิลลินอยส์ | ||||||
บิล เวลด์ |
31 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 (78 ปี) สมิธทาวน์ รัฐนิวยอร์ก |
ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ (พ.ศ. 2534–2540) ตัวแทนพรรคลิเบอร์เทเรียนในการเสนอชื่อ รองประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2559 ตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ จากรัฐแมสซาชูเซตส์ พ.ศ. 2539 |
การรณรงค์หาเสียง จัดตั้งคณะกรรมการหยั่งเสียง: 15 กุมภาพันธ์ 2562 การรณรงค์หาเสียง: 15 เมษายน 2562 คำแถลงการณ์ FEC[20] |
0 (0%) |
0 (0%) |
0 |
แมสซาชูเซตส์ |
ผู้สมัครที่ถอนตัวก่อนการเลือกตั้ง
ชื่อ | เกิด | ประสบการณ์ | รัฐเหย้า | วันประกาศลงสมัคร | วันประกาศถอนตัว | บทความ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
มาร์ก แซนฟอร์ด |
28 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 (64 ปี) ฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา |
ส.ส. รัฐเซาท์แคโรไลนา เขต 1 (พ.ศ. 2538–2544, 2556–2562) ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา (พ.ศ. 2546–2554) |
เซาท์แคโรไลนา |
8 กันยายน 2562 | 12 พฤศจิกายน 2562 | การรณรงค์หาเสียง คำแถลงการณ์ FEC[21] |
[22][23] |
การสรรหาตัวแทนพรรคเดโมแครต
ผู้สมัครตัวแทนพรรค
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ชื่อ | เกิด | ประสบการณ์ | รัฐเหย้า | การรณรงค์หาเสียง วันประกาศ |
อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|
ไมเคิล เบนเนต |
28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 (59 ปี) นิวเดลี ประเทศอินเดีย |
สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐโคโลราโด (พ.ศ. 2552–ปัจจุบัน) | โคโลราโด |
การรณรงค์หาเสียง การรณรงค์หาเสียง: 2 พฤษภาคม 2562 คำแถลงการณ์ FEC[24] |
[25]
|
โจ ไบเดิน |
20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 (81 ปี) สแครนตัน รัฐเพนซิลเวเนีย |
รองประธานาธิบดีสหรัฐ (พ.ศ. 2552–2560) สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเดลาแวร์ (พ.ศ. 2516–2552) ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2531 และ พ.ศ. 2551 |
เดลาแวร์ |
การรณรงค์หาเสียง การรณรงค์หาเสียง: 25 เมษายน 2562 คำแถลงการณ์ FEC[26] |
[27]
|
ไมเคิล บลูมเบอร์ก |
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 (82 ปี) บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ |
นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก (พ.ศ. 2545–2556) กรรมการผู้จัดการบริษัทบลูมเบอร์ก แอลพี |
นิวยอร์ก |
การรณรงค์หาเสียง จัดตั้งคณะกรรมการหยั่งเสียง: 21 พฤศจิกายน 2562 การรณรงค์หาเสียง: 24 พฤศจิกายน 2562 คำแถลงการณ์ FEC[28] |
[29] |
คอรี บุกเกอร์ |
27 เมษายน พ.ศ. 2512 (55 ปี) วอชิงตัน ดี.ซี. |
สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ (พ.ศ. 2556–ปัจจุบัน) นายกเทศมนตรีเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ (พ.ศ. 2549–2556) |
นิวเจอร์ซีย์ |
การรณรงค์หาเสียง การรณรงค์หาเสียง: 1 กุมภาพันธ์ 2562 คำแถลงการณ์ FEC[30] |
[31]
|
พีต บูติเจิจ |
19 มกราคม พ.ศ. 2525 (42 ปี) เซาท์เบนด์ รัฐอินดีแอนา |
นายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินดีแอนา (พ.ศ. 2555–2563) | อินดีแอนา |
การรณรงค์หาเสียง จัดตั้งคณะกรรมการหยั่งเสียง: 23 มกราคม 2562 การรณรงค์หาเสียง: 14 เมษายน 2562 คำแถลงการณ์ FEC[32] |
[33] |
ผู้สมัครที่ถอนตัวก่อนการเลือกตั้ง
-
ริชาร์ด โอเจดา
สมาชิกสภานิติบัญญัติ
รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เขต 7
(พ.ศ. 2559–2562) -
เอริก สวอลเวลล์
ส.ส. สหรัฐ
รัฐแคลิฟอร์เนีย เขต 15
(พ.ศ. 2556–ปัจจุบัน) -
ไมก์ แกรเวล
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
รัฐอะแลสกา
(พ.ศ. 2512–2524) -
จอห์น ฮิคเกนลูเปอร์
อดีตผู้ว่าการรัฐโคโลราโด
(พ.ศ. 2554–2562) -
เจย์ อินซลี
ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน
(พ.ศ. 2556–ปัจจุบัน) -
เซธ โมลตัน
ส.ส. สหรัฐ
รัฐแมสซาชูเซตส์ เขต 6
(พ.ศ. 2558–ปัจจุบัน) -
เคียร์สเตน จิลิแบรนด์
สมาชิกวุฒิสภา
รัฐนิวยอร์ก
(พ.ศ. 2552–ปัจจุบัน) -
บิล ดิบลาซิโอ
นายกเทศมนตรี
นครนิวยอร์ก
(พ.ศ. 2557–ปัจจุบัน) -
ทิม ไรอัน
ส.ส. สหรัฐ
รัฐโอไฮโอ เขต 13
(พ.ศ. 2556–ปัจจุบัน) -
เบโต โอรอร์ค
อดีต ส.ส. สหรัฐ
รัฐเท็กซัส เขต 16
(พ.ศ. 2556–2562) -
เวย์น เมสซาม
นายกเทศมนตรี
เมืองมิรามาร์ รัฐฟลอริดา
(พ.ศ. 2558–ปัจจุบัน) -
โจ เซสตัก
อดีต ส.ส. สหรัฐ
รัฐเพนซิลเวเนีย เขต 7
(พ.ศ. 2550–2554) -
คามาลา แฮร์ริส
สมาชิกวุฒิสภา
รัฐแคลิฟอร์เนีย
(พ.ศ. 2560–ปัจจุบัน) -
ฮูลีอาน กัสโตร
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐ
(พ.ศ. 2557–2560) -
แมริแอนน์ วิลเลียมสัน
นักเขียน
จากรัฐแคลิฟอร์เนีย
การทำนายผลของรัฐต่าง ๆ
ผู้ทำนายผลการเลือกตั้งส่วนใหญ่ใช้ศัพท์ดังนี้
- "tossup": ไม่มีข้อได้เปรียบ
- "tilt" (ใช้น้อย): ได้เปรียบโดยไม่มากเท่ากับ "lean"
- "lean": ได้เปรียบเล็กน้อย
- "likely" หรือ "favored": ได้เปรียบมาก แต่ยังเอาชนะได้
- "safe" or "solid": โอกาสชนะเกือบแน่นอน
รัฐ | ดัชนี PVI[34] |
ผลครั้งก่อน | คุก 29 ต.ค. 2019[35] |
IE 19 ธ.ค. 2019[36] |
สะบาโต 7 พ.ย. 2019[37] |
โพลิติโก 19 พ.ย. 2019[38] |
---|---|---|---|---|---|---|
แอละแบมา | R+14 | 62.1% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
อะแลสกา | R+9 | 51.3% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
แอริโซนา | R+5 | 48.9% R | Tossup | Tilt R | Tossup | Tossup |
อาร์คันซอ | R+15 | 60.6% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
แคลิฟอร์เนีย | D+12 | 61.7% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
โคโลราโด | D+1 | 48.2% D | Likely D | Safe D | Lean D | Lean D |
คอนเนตทิคัต | D+6 | 54.6% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
เดลาแวร์ | D+6 | 53.1% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
เขตโคลัมเบีย | D+41 | 90.9% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
ฟลอริดา | R+2 | 49.0% R | Tossup | Tossup | Lean R | Tossup |
จอร์เจีย | R+5 | 50.8% R | Lean R | Likely R | Lean R | Lean R |
ฮาวาย | D+18 | 62.2% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
ไอดาโฮ | R+19 | 59.3% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
อิลลินอยส์ | D+7 | 55.8% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
อินดีแอนา | R+9 | 56.8% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
ไอโอวา | R+3 | 51.2% R | Lean R | Lean R | Lean R | Lean R |
แคนซัส | R+13 | 56.7% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
เคนทักกี | R+15 | 62.5% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
ลุยเซียนา | R+11 | 58.1% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
เมน | D+3 | 47.8% D | Lean D | Lean D (ประเมิน เฉพาะทั้งรัฐ) |
Lean D | Lean D |
เมน เขต 1 | D+8 | 54.0% D | Safe D | Safe D | Safe D | |
เมน เขต 2 | R+2 | 51.3% R | Lean R | Lean R | Lean R | |
แมริแลนด์ | D+12 | 60.3% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
แมสซาชูเซตส์ | D+12 | 60.1% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
มิชิแกน | D+1 | 47.5% R | Lean D (พลิกชนะ) | Tilt D (พลิกชนะ) | Lean D (พลิกชนะ) | Tossup |
มินนิโซตา | D+1 | 46.4% D | Lean D | Likely D | Lean D | Lean D |
มิสซิสซิปปี | R+9 | 57.9% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
มิสซูรี | R+9 | 56.8% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
มอนแทนา | R+11 | 56.2% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
เนแบรสกา | R+14 | 58.8% R | Safe R | Safe R (ประเมิน เฉพาะทั้งรัฐ) |
Safe R | Safe R |
เนแบรสกา เขต 1 | R+11 | 56.2% R | Safe R | Safe R | Safe R | |
เนแบรสกา เขต 2 | R+4 | 47.2% R | Lean R | Tossup | Tossup | |
เนแบรสกา เขต 3 | R+27 | 73.9% R | Safe R | Safe R | Safe R | |
เนวาดา | D+1 | 47.9% D | Likely D | Lean D | Lean D | Tossup |
นิวแฮมป์เชียร์ | EVEN | 47.0% D | Lean D | Lean D | Lean D | Tossup |
นิวเจอร์ซีย์ | D+7 | 55.0% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
นิวเม็กซิโก | D+3 | 48.4% D | Safe D | Safe D | Likely D | Likely D |
นิวยอร์ก | D+11 | 59.0% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
นอร์ทแคโรไลนา | R+3 | 49.8% R | Tossup | Tossup | Lean R | Tossup |
นอร์ทดาโคตา | R+16 | 63.0% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
โอไฮโอ | R+3 | 51.7% R | Lean R | Likely R | Lean R | Lean R |
โอคลาโฮมา | R+20 | 65.3% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
ออริกอน | D+5 | 50.1% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
เพนซิลเวเนีย | EVEN | 48.2% R | Tossup | Tilt D (พลิกชนะ) | Tossup | Tossup |
โรดไอแลนด์ | D+10 | 54.4% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
เซาท์แคโรไลนา | R+8 | 54.9% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
เซาท์ดาโคตา | R+14 | 61.5% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
เทนเนสซี | R+14 | 60.7% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
เท็กซัส | R+8 | 52.2% R | Likely R | Safe R | Lean R | Lean R |
ยูทาห์ | R+20 | 45.5% R | Safe R | Safe R | Safe R | Likely R |
เวอร์มอนต์ | D+15 | 56.7% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
เวอร์จิเนีย | D+1 | 49.7% D | Likely D | Safe D | Likely D | Lean D |
วอชิงตัน | D+7 | 52.5% D | Safe D | Safe D | Safe D | Safe D |
เวสต์เวอร์จิเนีย | R+19 | 68.5% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
วิสคอนซิน | EVEN | 47.2% R | Tossup | Tossup | Tossup | Tossup |
ไวโอมิง | R+25 | 67.4% R | Safe R | Safe R | Safe R | Safe R |
อ้างอิง
- ↑ "3 U.S.C. § 7 - U.S. Code - Unannotated Title 3. The President § 7. Meeting and vote of electors", FindLaw.com.
- ↑ "US Election guide: how does the election work?". เดอะเดลีเทลิกราฟ. 6 พฤศจิกายน 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2015. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2015.
- ↑ Levy, Adam (25 สิงหาคม 2018). "DNC changes superdelegate rules in presidential nomination process". ซีเอ็นเอ็น. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 สิงหาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2018.
- ↑ Isenstadt, Alex (6 กันยายน 2019). "Republicans to scrap primaries and caucuses as Trump challengers cry foul". โพลิติโก. สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2019.
- ↑ Karni, Annie (6 กันยายน 2019). "GOP plans to drop presidential primaries in 4 states to impede Trump challengers". เดอะบอสตันโกลบ. เอ็มเอสเอ็น. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2019.
- ↑ Steakin, Will; Karson, Kendall (6 กันยายน 2019). "GOP considers canceling at least 3 GOP primaries and caucuses, Trump challengers outraged". เอบีซีนิวส์. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2019.
- ↑ Miller, Kevin (26 สิงหาคม 2019). "Maine Senate passes ranked-choice voting for March presidential primaries". Portland Press Herald. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2019.
- ↑ Shepard, Michael (28 สิงหาคม 2019). "Maine might switch to a ranked-choice presidential election. Here's how it would look". ซีบีเอส 13. สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2019.
- ↑ Sherpard, Michael (6 กันยายน 2019). "Maine will use ranked-choice voting in next year's presidential election — but not the 2020 primaries". Portland Press Herald. สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2019.
- ↑ Weeks, Linton (25 มกราคม 2013). "Forget 2016. The Pivotal Year In Politics May Be 2020". เอ็นพีอาร์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2015.
- ↑ Chinni, Dante (22 เมษายน 2018). "Demographic shifts show 2020 presidential race could be close". เอ็นบีซีนิวส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 เมษายน 2018. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2018.
- ↑ Campbell, James E. (มีนาคม 1986). "Presidential Coattails and Midterm Losses in State Legislative Elections". The American Political Science Review. 80 (1): 45–63. doi:10.2307/1957083. JSTOR 1957083.
- ↑ Sarlin, Benjy (26 สิงหาคม 2014). "Forget 2016: Democrats already have a plan for 2020". เอ็มเอสเอ็นบีซี. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ 14.0 14.1 Berg-Andersson, Richard E. "Republican Convention". The Green Papers. สืบค้นเมื่อ 13 ธันวาคม 2019.
- ↑ "The rules of the Republican Party" (PDF). Republican National Convention. 8 สิงหาคม 2014. p. 20. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2016.
- ↑ "Statement of Candidacy" (PDF). docquery.fec.gov. 2019.
- ↑ "Hawaii GOP cancels caucus after Trump is only candidate". แอสโซซิเอทเต็ดเพรส. 13 ธันวาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 13 ธันวาคม 2019.
- ↑ "Trump, a symbol of New York, is officially a Floridian now". โพลิติโก. 31 ตุลาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 31 ตุลาคม 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy" (PDF). docquery.fec.gov. 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy" (PDF). docquery.fec.gov. 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy" (PDF). docquery.fec.gov. 2019.
- ↑ "Mark Sanford Will Challenge Trump in Republican Primary". เดอะนิวยอร์กไทมส์. 8 กันยายน 2019.
- ↑ Byrd, Caitlin (12 พฤศจิกายน 2019). "Former SC Gov. Mark Sanford has dropped out of presidential race". The Post and Courier. สืบค้นเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy by Michael F. Bennet" (PDF). คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ. 5 พฤษภาคม 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 พฤษภาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2019.
- ↑ Gregorian, Dareh. "Colorado Sen. Bennet enters presidential race after prostate cancer treatment". เอ็นบีซีนิวส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 พฤษภาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy by Joseph R Biden Jr" (PDF). คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ. 25 เมษายน 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 27 เมษายน 2019.
- ↑ Burns, Alexander (25 เมษายน 2019). "Joe Biden Is Running for President, After Months of Hesitation". เดอะนิวยอร์กไทมส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy by Michael R Bloomberg" (PDF). คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ. 21 พฤศจิกายน 2019. สืบค้นเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2019.
- ↑ Burns, Alexander (24 พฤศจิกายน 2019). "Michael Bloomberg Joins 2020 Democratic Field for President". เดอะนิวยอร์กไทมส์. ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy by Cory A Booker" (PDF). คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ. 1 กุมภาพันธ์ 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2019. สืบค้นเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2019.
- ↑ Korecki, Natasha (1 กุมภาพันธ์ 2019). "Cory Booker launches bid for president". โพลิติโก. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2019. สืบค้นเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2019.
- ↑ "Statement of Candidacy by Pete Buttigieg" (PDF). คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ. 13 เมษายน 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 14 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 14 เมษายน 2019.
- ↑ Karson, Kendall; Gomez, Justin (14 เมษายน 2019). "Pete Buttigieg, little-known mayor turned presidential contender, makes historic bid". เอบีซีนนิวส์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 14 เมษายน 2019.
- ↑ "2016 State PVI Changes – Decision Desk HQ". decisiondeskhq.com. 15 ธันวาคม 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2019.
- ↑ "2020 Electoral College Ratings" (PDF). Cook Political Report. 29 ตุลาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2019.
- ↑ "Presidential Ratings". Inside Elections. 19 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2019.
- ↑ "2020 President". Sabato's Crystal Ball. 7 พฤศจิกายน 2019. สืบค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2019.
- ↑ "2020 Election Forecast". โพลิติโก. 19 พฤศจิกายน 2019. สืบค้นเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2019.
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน