ปอยเปต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปอยเปต

ប៉ោយប៉ែត
นคร
ปอยเปตตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา
ปอยเปต
ปอยเปต
ที่ตั้งของปอยเปต ประเทศกัมพูชา
พิกัด: 13°39′N 102°34′E / 13.650°N 102.567°E / 13.650; 102.567
ประเทศ กัมพูชา
จังหวัดบันทายมีชัย
อำเภอโอร์-จเริว
ประชากร
 (2562)[1]
 • ทั้งหมด98,934 คน
เขตเวลาUTC+7 (เวลาอินโดจีน)

ปอยเปต หรือ ปอยแปต (เขมร: ប៉ោយប៉ែត, Paôypêt [paojpaet]) เป็นเมืองชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งอยู่ที่เทศบาลปอยเปต อำเภอโอร์-จเริว จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา อยู่ติดกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย ตัวเมืองมีบ่อนกาสิโนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของกาสิโนที่มีขนาดใหญ่และใกล้ประเทศไทยที่สุด[2] มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นผู้ใช้บริการหลัก[3][4] ประชากรเมืองปอยเปตเพิ่มขึ้นจาก 43,366 คนในสำมะโน พ.ศ. 2541 ไปเป็น 89,549 คนในสำมะโน พ.ศ. 2551 ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ซึ่งมากกว่าเมืองพระสีหนุและศรีโสภณ[5]

ปัจจุบันได้มีการประกาศจากด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย ด้านอำเภออรัญประเทศ สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถเข้าถึงเขตกาสิโนปอยเปตโดยไม่ต้องใช้วีซ่าหรือประทับตราหนังสือเดินทางขาเข้าประเทศกัมพูชา เพราะรัฐบาลกัมพูชาถือว่าเป็น พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ[6] แต่หากออกนอกพื้นที่กาสิโนสู่เมืองอื่น ๆ ของกัมพูชา ต้องประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศให้เรียบร้อยเสียก่อน[7]

ประวัติ[แก้]

ในอดีตบริเวณที่ตั้งเมืองปอยเปตคือพื้นที่ป่ามาก่อน เรียกว่า ป่าปอยเปต[8] สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (2481) ทรงอธิบายเกี่ยวกับที่มาของชื่อปอยเปตไว้ว่า "...ที่ตั้งด่านในแดนเมืองบัดตัมบองของฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ติดต่อกันกับอรัญประเทศของเรา เราเรียกว่า ปอยเปต ตามฝรั่งเศส แต่ที่แท้ชื่อว่า บ้านปอดแปด..."[9] สอดคล้องกับเสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป (2484) อธิบายตรงกันว่ามีชุมชนดั้งเดิมเรียกว่า บ้านปอดแปด ซึ่งเป็นคำไทยแท้ เมื่อดินแดนเขมรส่วนในตกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศสแล้ว ทางการฝรั่งเศสจึงตั้งด่านศุลกากรที่หมู่บ้านดังกล่าว และเรียกเพี้ยนเป็น ปอยเปต[10]

ในช่วงที่ดินแดนเขมรส่วนในกลับมาสู่ในการปกครองของประเทศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณป่าปอยเปตมีอาณาบริเวณกว้างขวาง ครอบคลุมตำบลมรกฎ ตำบลบ้านจังหัน ตำบลสวายจิก ตำบลศรีโสภณ และตำบลทัพไทย อำเภอศรีโสภณ จังหวัดพิบูลสงคราม ใน ราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าคุ้มครอง เมื่อ พ.ศ. 2488[8] รวมทั้งมีการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายอรัญญประเทศ–มงคลบุรีตั้งแต่ พ.ศ. 2485-2487 โดยมีสถานีรถไฟตั้งอยู่เขตเมืองปอยเปตในปัจจุบัน ขณะนั้นใช้ชื่อว่า สถานีเสรีเริงฤทธิ์[11][12] กระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้คืนดินแดนกลับไปสู่การปกครองของอินโดจีนของฝรั่งเศส จนกระทั่งประเทศกัมพูชาประกาศเอกราช ปอยเปตจึงเป็นตำบลขึ้นกับอำเภอโอร์-จเริว จังหวัดบันทายมีชัย[6]

ประเทศกัมพูชามีการหารายได้จากกาสิโนมาช้านาน แต่รายได้นั้นยังไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ จึงริเริ่มโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่มีโรงแรม ศูนย์การค้า และกาสิโน มาดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งในปอยเปตมีกาสิโนแห่งแรกเปิดให้บริการใน พ.ศ. 2542 ก่อนที่จะมีกาสิโนอีกเป็นจำนวนมากผุดขึ้นในเมือง ส่วนใหญ่เจ้าของกาสิโนเหล่านี้มักเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และนายทหารของทั้งไทยและกัมพูชา อย่างไรก็ตามทั้งกาสิโนและการค้าตามชายแดนเป็นการสร้างรายได้มหาศาลแก่ปอยเปต ทำให้ปอยเปตเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว[4] ปอยเปตได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น กรุง หรือเป็นเทศบาล จากทั้งหมดสามแห่งที่ไม่ได้มีฐานะเป็นเมืองหลักของจังหวัด[13]

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

เทศบาลปอยเปต หรือ กรุงปอยเปต แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 3 แขวง (សង្កាត់ สงฺกาต่) ได้แก่[14]

เลข ชื่อแขวง รหัสไปรษณีย์
1 ปอยเปต (ប៉ោយប៉ែត) 10901
2 นิมิตต์ (និមិត្ត) 10902
3 พซาร์ก็อณฎาล (ផ្សារកណ្តាល) 10903

ประชากร[แก้]

ประชากรปอยเปตแบ่งตามปี
ปีประชากร±%
2541 43,366—    
2551 89,549+106.5%
2562 98,934+10.5%
[1][5]

ประชากรในปอยเปตมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการสำรวจสำมะโนครัวประชากรในปอยเปตเมื่อ พ.ศ. 2541 พบว่ามีประชากรจำนวน 43,366 คน ครั้นการสำรวจสำมะโนครัวประชากรใน พ.ศ. 2551 พบว่ามีประชากรจำนวน 89,549 คน[5] และการสำรวจสำมะโนครัวประชากรใน พ.ศ. 2562 พบว่ามีประชากรจำนวน 98,934 คน นับว่าเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับที่ห้าของประเทศกัมพูชา[1] ซึ่งเป็นการอพยพของประชากรจากแถบพื้นที่ข้างเคียง เพื่อมาหางานทำในปอยเปตที่มีรายได้มั่นคงกว่าเดิม[6][15][16] แรงงานจำนวนไม่น้อยในปอยเปตสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ อีกทั้งยังมีร้านอาหารไทยเปิดให้บริการอยู่มาก[17]

มีแรงงานจากปอยเปตราว 5,000 คน ข้ามไปทำงานในฝั่งไทยเป็นประจำทุกวัน[18] ทั้งยังมีเยาวชนชาวเขมรจากปอยเปตจำนวนไม่น้อยเดินทางข้ามพรมแดนไปเรียนโรงเรียนรัฐในประเทศไทย เพราะโรงเรียนไทยมีการสอนภาษาไทย และภาษาอังกฤษ[19] และเยาวชนเขมรอีกจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ซึ่งทำงานอยู่ในฝั่งไทย แต่เดินทางกลับเข้าไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนในฝั่งปอยเปต[20]

บางกอกโพสต์ อ้างรายงานของ เคียวโดนิวส์ ซึ่งประมาณการว่า ใน พ.ศ. 2562 มีชาวจีนอาศัยอยู่ในปอยเปตราว 8,000–10,000 คน[21] โดยมีแหล่งอาศัยสำคัญที่อาคารมิ้งจูใกล้ชุมชนแออัดย่านวัดสระตาด[22]

นอกจากนี้ยังมีชุมชนชาวไทยที่ปักหลักเล่นการพนันในปอยเปตจนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่กลับเข้าฝั่งไทยเพราะปัญหาหนี้สิน[23][24] จำต้องอาศัยใช้ชีวิตวนเวียนอยู่รอบ ๆ กาสิโน พักอาศัยในห้องเช่าขนาดเล็กที่มีราคาเยาแออัดกันหลายคน มีลักษณะคล้ายสลัม ภายในซอยเจ้าพระยาใกล้วงเวียนปอยเปต[25] มีคนไทยอาศัยอยู่อย่างแออัดในนั้นราว 20 คน[26] และที่พักอีกรูปแบบเรียกว่า "บ้านทรายทอง" ซึ่งเปรียบเปรยว่ามีเพียงกระเป๋าใบเดียวพร้อมเงินไม่ถึงหนึ่งร้อยบาทก็สามารถเข้าพักอาศัยได้ มีลักษณะเป็นห้องโถงนอนรวมแยกชายและหญิง[23][24] พวกยังคงหากินจากการเล่นพนันหรือเงินทิปเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พอเป็นค่าอาหารอยู่ไปวัน ๆ ด้วยความเต็มใจ จึงถูกเรียกว่า "ผีข้างบ่อน"[23][24][25] ใน พ.ศ. 2561 ไทยรัฐออนไลน์ ให้ข้อมูลว่า พบคนไทยที่ใช้ชีวิตเป็น "ผีข้างบ่อน" ไม่ถึง 100 คน ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่เจ้าของบ่อน และหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพราะไม่มีหนังสือเดินทาง[27] ต่อมา พ.ศ. 2567 ไทยพีบีเอส ให้ข้อมูลว่ามีผีข้างบ่อนจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 500 คน[23][24]

เศรษฐกิจ[แก้]

ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออก ใกล้กับกาสิโนและโรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ซิตี
แรงงานชาวเขมรบริเวณเขตแดนไทย-กัมพูชา

รัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีของไทย มีนโยบายเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า โดยมีการส่งเสริมการค้าชายแดนถาวรที่ด่านบ้านคลองลึก–ปอยเปต ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ถือเป็นจุดผ่านแดนที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุดราว 6,000 ล้านบาทต่อปี[3]

เมื่อมีการสร้างกาสิโนแห่งแรกขึ้นใน พ.ศ. 2542 ซึ่งเฟื่องฟูมาก ดึงดูดนักลงทุนร่วมกันของชาวอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย มาเก๊า และกัมพูชา รวมทั้งดึงดูดนักเสี่ยงโชคจากประเทศไทยไปเป็นจำนวนมาก[2] ปัจจุบันปอยเปตมีกาสิโน 15 แห่ง ประชิดชายแดนไทย[25] ประมาณการว่ามีนักพนันชาวไทยเข้าไปใช้บริการมากถึงร้อยละ 90[6] มีชาวเขมรราว 10,000 คน เป็นพนักงานในกาสิโน และแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในกาสิโนจำนวน 1,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยและจีน[21] ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนไทย ตั้งแต่พนักงานที่พูดภาษาไทย ร้านอาหารไทย มีบ่อนพนันกระจายอยู่ดาษดื่น มีการบริการไนต์คลับ อาบอบนวด และซ่องโสเภณีเขมร ที่ใช้เงินบาทเป็นหลัก[17] ใน พ.ศ. 2562 มีรายงานว่า คนไทยข้ามแดนไปเล่นพนันในปอยเปตประมาณวันละ 2,000–3,000 คน[21] อย่างไรก็ตามทางการกัมพูชาออกกฎหมายห้ามมิให้ชาวเขมรเล่นการพนันใด ๆ[4] จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปอยเปตพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงสามทศวรรษ[3][4] รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ประชากรหนาแน่นมากที่สุดของจังหวัดบันทายมีชัย[6] ในช่วงที่เกิดกรณีพิพาทคดีปราสาทพระวิหาร ระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อ พ.ศ. 2554 จนเกิดความตึงเครียดไปทั่ว แต่บริเวณปอยเปตกลับยังค้าขายกันอย่างฉันมิตร และเคยมีกรณีที่ชาวเขมรบางกลุ่มสร้างข่าวโคมลอยให้ชาวเขมรในปอยเปตเกลียดชังคนไทย ทำให้เกิดความวุ่นวายแก่เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนจำนวนมาก[28]

นอกจากการลงทุนด้านกาสิโนแล้ว นักธุรกิจไทยยังบุกเบิกตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ในปอยเปตด้วย เช่น บิ๊กซีสาขาปอยเปต[29] และเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาปอยเปต[30] รวมยังเป็นพื้นที่ของชาวจีนที่สร้างรายได้โดยเลี่ยงการเสียภาษีในกัมพูชา[31] โดยมากมักทำงานเกี่ยวกับการพนัน กาสิโน แก๊งคอลเซนเตอร์ และกิจการผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่เรียกว่า "จีนเทา" ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐของกัมพูชาปฏิเสธการรับรู้เรื่องราวนี้[32]

ชาวเขมรในปอยเปตส่วนใหญ่ทำอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว จำหน่ายสินค้าหนีภาษี และขอทาน ส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ มีฐานะยากจน และขาดสุขลักษณะที่ดี[18] แม้ปอยเปตจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่มหาศาล และมีประชากรอยู่มาก แต่ชาวเขมรในปอยเปตกลับว่างงานหรือไม่มีช่องทางหารายได้เสริม ทั้งยังประสบกับภัยแล้ง[15] ทำให้ปอยเปตกลายเป็นจุดศูนย์กลางของขอทานซึ่งมีอยู่จำนวนมาก พวกเขาก่อเหตุรำคาญหรือชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว ทั้งในปอยเปตหรือข้ามฝั่งไปก่อเหตุที่ตลาดโรงเกลือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี หรือเลยไปถึงนครสวรรค์[33][34] ขอทานชาวเขมรในประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากปอยเปตเป็นอันดับหนึ่ง จากการสำรวจเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2542 - 30 กันยายน พ.ศ. 2545 พบว่ามีขอทานชาวเขมรในกรุงเทพมหานครมากถึง 7,702 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 98.7 ของขอทานต่างด้าวทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร[16]

ปอยเปตเป็นเมืองที่แรงงานไทยเลือกไปทำงานมากที่สุดในกัมพูชา[2] แต่ก็พบปัญหาแรงงานไทยโดนหลอกลวงไปทำธุรกิจผิดกฎหมาย[35][36] ชาวไทยที่เข้าไปมีทั้งกลุ่มที่เต็มใจและไม่เต็มใจ ทำงานโทรศัพท์หลอกลวงคนไทยในฝั่งไทยให้เสียทรัพย์ หากคนไทยที่ทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์อาจถูกทำร้าย ทรมาน หรือถูกฆาตกรรม หากไม่ทำงานหรือทำงานไม่สำเร็จ[32] ประเด็นเด็ด 7 สี อ้างว่า ใน พ.ศ. 2564 มีชาวไทยถูกหลอกไปทำงานในปอยเปตราว 2,000 คน เพราะเห็นว่ามีรายได้ดี[37]

การขนส่ง[แก้]

ถนน[แก้]

เส้นทางระหว่างปอยเปตถึงศรีโสภณ พ.ศ. 2553

ปอยเปตมีทางหลวงหมายเลข 5 เชื่อมการเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 400 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ถนนสายนี้พาดผ่านพนมเปญ จังหวัดกันดาล จังหวัดโพธิสัตว์ จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดบันทายมีชัย อีกทั้งยังเชื่อมต่อการเดินทางไปยังประเทศไทยบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว[38]

ต่อมาใน พ.ศ. 2559 มีการก่อสร้างถนนและสะพานเชื่อมพรมแดนที่บ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กับบ้านสตึงบท เทศบาลปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย เพื่อลดความแออัดของด้านพรมแดนบ้านคลองลึก[39][40] สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562[41] โดยประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย และฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด[42]

มีการเดินรถประจำทางระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา จำนวนสองเส้นทาง ได้แก่[41]

  • กรุงเทพฯ–อรัญประเทศ–ปอยเปต–พระตะบอง–พนมเปญ
  • กรุงเทพฯ–อรัญประเทศ–ปอยเปต–เสียมราฐ

มกราคม พ.ศ. 2567 รัฐบาลกัมพูชามีแนวคิดที่จะสร้างทางด่วนจากพนมเปญ–ปอยเปต ระยะทาง 420 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้ากับชายแดนไทยเป็นสำคัญ[43]

ทางราง[แก้]

สถานีรถไฟปอยเปตก่อนการบูรณะ พ.ศ. 2555
สะพานคลองลึกข้ามคลองพรหมโหด พ.ศ. 2559 หลังการบูรณะ เมื่อมองจากฝั่งปอยเปต

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้รับดินแดนเขมรส่วนในกลับคืนมา ประกอบด้วย จังหวัดพระตะบอง จังหวัดพิบูลสงคราม และจังหวัดนครจัมปาศักดิ์ ทหารญี่ปุ่นมีส่วนช่วยในการบุกเบิกเส้นทางรถไฟจากสถานีรถไฟอรัญประเทศเชื่อมกับสถานีรถไฟสวายโดนแก้ว[44] นำไปสู่การเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทางรถไฟสายอรัญญประเทศ–มงคลบุรี ใน พ.ศ. 2485-2487[11][12] กรมรถไฟเคยเปิดการเดินรถโดยสารและรถสินค้าจากสถานีรถไฟกรุงเทพ ไปยังสถานีรถไฟพระตะบอง ใช้เวลาเดินรถนานถึง 15 ชั่วโมง[44] กระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้คืนดินแดนกลับไปสู่การปกครองของอินโดจีนของฝรั่งเศสใน พ.ศ. 2489[6] เส้นทางรถไฟเส้นนี้จึงตกเป็นของฝรั่งเศสไปโดยปริยาย[44] และกลายเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายตะวันตก (พนมเปญ–ปอยเปต) เชื่อมต่อกับกรุงพนมเปญ โดยพาดผ่านจังหวัดกันดาล จังหวัดโพธิสัตว์ จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดบันทายมีชัย มีระยะทาง 385 กิโลเมตร[38]

ใน พ.ศ. 2491 หัวรถจักรและตู้ใหญ่ของไทยไหลข้ามพรมแดนไปชนรถไฟฝรั่งเศสตกรางไปเสียหกตู้ จำต้องชำระเงินค่าเสียหายแก่ฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก ทางการไทยจึงรื้อรางที่เชื่อมระหว่างอรัญประเทศกับปอยเปตออกเสีย เพื่อมิให้เกิดเหตุซ้ำสอง[45] กระทั่งประเทศกัมพูชาได้รับเอกราชจึงกลับมาเปิดการเดินรถอีกครั้งใน พ.ศ. 2498 แต่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มักเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันอยู่เนือง ๆ จึงให้ยุติการเดินรถไฟระหว่างประเทศบ่อยครั้ง มีการเดินรถระหว่างกันครั้งสุดท้ายใน พ.ศ. 2517 เส้นทางรถไฟในฝั่งกัมพูชาก็ถูกทิ้งร้าง และมีประชาชนบุกรุก[44] รางรถไฟ หมอนไม้ รวมไปถึงน็อต ล้วนถูกรื้อออกไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น[46]

ในเวลาต่อมา รัฐบาลกัมพูชามีการบูรณะเส้นทางรถไฟระหว่างศรีโสภณ–ปอยเปตขึ้นใหม่ โดยได้เตรียมข้อตกลงให้บริษัทจากประเทศออสเตรเลียดำเนินการก่อสร้างใน พ.ศ. 2552[47] กระทั่งเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 กัมพูชาบูรณะเส้นทางรถไฟสำเร็จส่วนหนึ่งแล้ว คือเส้นทางระหว่างสถานีรถไฟปอยเปต ถึงสถานีรถไฟศรีโสภณ[46] โดยมีแผนว่าจะเปิดการเดินรถระหว่างสถานีรถไฟปอยเปต ถึงสถานีรถไฟพระตะบองในเดือนเมษายน และวางแผนจะเปิดการเดินรถระหว่างสถานีรถไฟพระตะบอง ถึงสถานีรถไฟพนมเปญในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน[48] โดยปัจจุบันรถไฟกัมพูชาวิ่งให้บริการด้วยความเร็วเพียง 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น[49]

ส่วนในฝั่งประเทศไทยเองก็เริ่มมีการบูรณะเส้นทางรถไฟระหว่างสองประเทศขึ้นใหม่ ขณะที่ฝั่งปอยเปต ทางรถไฟจากสะพานคลองลึกถึงสถานีรถไฟปอยเปตถูกบุกรุกด้วยกาสิโนและโรงแรมขนาดใหญ่ ต้องมีการสร้างทางรถไฟลงพื้นคอนกรีต สร้างรางวิ่งผ่านใต้อาคารกาสิโนและโรงแรมแทน สร้างทางรถไฟตัดผ่านวงเวียนรถไฟที่คราคร่ำด้วยวดยาน ทั้งยังต้องฟื้นฟูย่านสถานีรถไฟปอยเปตที่ถูกคนไร้บ้านบุกรุกขึ้นใหม่[44] จนกระทั่งเปิดการเดินรถข้ามพรมแดนครั้งแรกใน พ.ศ. 2562[50][51] อย่างไรก็ตามจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีการเดินรถไฟโดยสารข้ามประเทศแต่ประการใด[52]

ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่ารัฐบาลได้ทำการศึกษาเรื่องการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงพนมเปญกับจังหวัดพระสีหนุ และเชื่อมกับชายแดนของประเทศไทย[53]

ปัญหา[แก้]

เส้นเขตแดนและพื้นที่พิพาท[แก้]

คลองพรหมโหด แนวเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทยและกัมพูชา

ประเทศไทยและประเทศกัมพูชามีปัญหาเส้นเขตแดนที่ไม่ชัดเจน เพราะทั้งสองประเทศถือแผนที่แนบท้ายสัญญาปักปันเขตแดนคนละฉบับ เพราะประเทศไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ระวาง L7017 ขณะที่ประเทศกัมพูชาถือแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 และบางจุดใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ระวาง L7016 หากพื้นที่ใดไม่ชัดเจนทางกัมพูชาจะอ้างสิทธิเหนือดินแดน รวมทั้งมีการดัดแปลงสภาพแวดล้อมบริเวณแนวชายแดน เฉพาะจังหวัดสระแก้วซึ่งตรงกับพื้นที่ฉนวนไทย พบการอ้างสิทธิเหนือดินแดนโดยฝ่ายกัมพูชาถึง 8 พื้นที่ หรือประมาณ 13,337 ไร่[54] โดยมีการทำลายหรือย้ายหลักเขตแดน บ้างก็ส่งชาวเขมรไปจัดตั้งเป็นหมู่บ้านในพื้นที่ที่ชาวไทยในท้องถิ่นมีเอกสารสิทธิ์ถือครองอยู่ และรัฐบาลไทยก็ไม่มีการผลักดันชาวเขมรที่รุกล้ำออกไป[55]

ในพื้นที่ของปอยเปต เคยมีการถมตลิ่งคลองพรหมโหดเพื่อสร้างกาสิโน ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติของสองประเทศ อันเป็นการละเมิดข้อตกลงว่าด้วยการห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรบริเวณชายแดนระยะ 30 เมตร จนกว่าการปักปันเขตแดนจะแล้วเสร็จ[56] ซึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา พบว่ามีกาสิโนไม่ต่ำกว่า 9 แห่ง มีการกระทำอันส่งผลกระทบต่อแนวคลอง จนทำให้แนวคลองอันเป็นเส้นเขตแดนของสองประเทศเปลี่ยนหลายครั้ง[57] มีเพียงกรณีกาสิโนปรินเซสคราวน์ ของกก อาน เศรษฐีชาวกัมพูชาและที่ปรึกษาของฮุน เซน ที่หน่วยงานของเทศบาลปอยเปต และทหารไทยประท้วงการก่อสร้างดังกล่าว เพราะเป็นการละเมิดข้อตกลง ที่สุดแล้ว กก อานจึงหยุดการก่อสร้าง และโกยดินที่ถมคลองกลับขึ้นมาดังเดิม[56]

ปัญหามลภาวะ[แก้]

ปอยเปตประสบปัญหามลพิษอันเกิดจากขยะซึ่งไม่ได้รับการจำกัดอย่างถูกต้อง ทำให้ปอยเปตเต็มไปด้วยขยะ และชาวเขมรบางส่วนนำขยะในชุมชนจำนวนมหาศาลมาทิ้งลงคลองพรหมโหด ซึ่งเป็นเส้นเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ทำให้คลองที่เคยอุดมสมบูรณ์เกิดมลพิษ และส่งกลิ่นเหม็น[58] ส่วนในฝั่งอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วเอง ก็มีบ่อขยะใกล้กับคลองพรหมโหดเช่นกัน และบ่อขยะแห่งนี้เคยเกิดเหตุไฟไหม้ จนส่งผลกระทบแก่ปอยเปต เพราะลมพัดพากลุ่มควันลอยเข้าไปยังฝั่งกัมพูชา[59]

อย่างไรก็ตาม มีชาวไทยเข้าไปทำธุรกิจรับซื้อขยะพลาสติกในปอยเปต โดยนำขยะที่ได้ไปทำความสะอาด ก่อนนำไปขายกับโรงงานรีไซเคิลพลาสติกในประเทศไทย สร้างรายได้ให้กับชาวไทยและชาวเขมร[60]

เหตุอัคคีภัยกาสิโนและโรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ซิตี[แก้]

เบื้องหน้าคือกาสิโนและโรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ซิตี ถูกเพลิงไหม้เมื่อ พ.ศ. 2565[61]

เมื่อเวลา 23.00-24.00 น. ของวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ภายในชั้นสี่ของกาสิโนและโรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ซิตี ซึ่งเป็นอาคารสูง 17 ชั้น ใกล้ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ภายในมีผู้ติดค้างอยู่จำนวนหนึ่ง[62][63] ซึ่งเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงของกัมพูชาไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ กระทั่งในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่กัมพูชาจึงขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยจากประเทศไทย โดยได้ช่วยเหลือพนักงานและนักพนันชาวไทยที่บาดเจ็บ นำส่งข้ามพรมแดนไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้ว โรงพยาบาลอรัญประเทศ โรงพยาบาลวัฒนานคร โรงพยาบาลโคกสูง และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อรัญประเทศ[64][65] จากนั้นเพลิงได้ลุกลามไปยังกาสิโนฮอลิเดย์ซึ่งอยู่ใกล้กัน[66] เวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และคาดว่าต้นเพลิงอยู่ภายในครัวประกอบอาหาร[67]

ไทยพีบีเอส และ ทีเอ็นเอ็น รายงานว่า วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565 พบผู้เสียชีวิต 27 ศพ บาดเจ็บ 112 ราย[68][69] ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย[70] ร่างของผู้เสียชีวิตบางส่วนนำไปตั้งไว้ที่วัดสระตาด แขวงพซาร์ก็อณฎาล เทศบาลปอยเปต เพื่อรอพิสูจน์อัตลักษณ์ หรือรอญาติมารับศพ[71]

ครั้นเมื่อมีการรื้อถอนตัวอาคารกาสิโนและโรงแรมดังกล่าว ทางการกัมพูชาได้ทำการรื้อถอน และขอคณะวิศวกรจากประเทศไทยช่วยประเมินโครงสร้างอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ว่ายังคงแข็งแรงหรือควรรื้อถอน[63][72]

ในวัฒนธรรมร่วมสมัย[แก้]

13 กันยายน พ.ศ. 2565 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอหญิงคนหนึ่งสั่งซื้อสินค้าผ่านแอพลิเคชัน แต่กลับไม่ชำระเงินแก่ไรเดอร์ ซ้ำยังสาปสรรไรเดอร์ไว้ว่า "คุกเข่าแล้วกราบค่ะ แล้วให้พิซซาเราฟรีเดี๋ยวนี้ ตกอเวจีปอยเปตแสนล้านภพแสนล้านชาติชั่วนิรันดร์เดี๋ยวนี้ค่ะ ห้ามแตะตัวผู้เป็นเจ้านะคะ สองแสนล้านภพสองแสนล้านชาติเดี๋ยวนี้ยืนนิ่ง ๆ พยายามเข้านะคะ สามแสนล้านภพสามแสนล้านชาติในนรกอเวจีปอยเปตเดี๋ยวนี้ค่ะ สี่แสนล้านภพสี่แสนล้านชาติในนรกอเวจีปอยเปตเดี๋ยวนี้ค่ะ ช่วยตัวเองหน่อยสิคะ เดินออกประตูไปค่ะ 760 บาท เสียไม่ได้เหรอคะ เหรอคะ เหรอคะ เหรอคะ เหรอคะ ห้าแสนล้านภพห้าแสนล้านชาติในนรกอเวจีปอยเปตเดี๋ยวนี้ค่ะ เดี๋ยวนี้ค่ะ"[73][74] หลังคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ วลี "ขอให้ตกอเวจีปอยเปต" กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว[75]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 "General Population Census of the Kingdom of Cambodia 2019 – Final Results" (PDF). National Institute of Statistics. Ministry of Planning. 26 January 2021. สืบค้นเมื่อ 4 February 2021.
  2. 2.0 2.1 2.2 ""ปอยเปต" แหล่งขายฝันของคนอยากรวย". ไทยพีบีเอส. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. 3.0 3.1 3.2 วัชรี พุ่มทอง และคณะ. "ชายแดนไทย–กัมพูชา จากสนามรบสู่สนามการค้า" (PDF). วารสารเศรษฐกิจและสังคม. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 เสมียนอารีย์ (1 มีนาคม 2566). ""ปอยเปต" กลายเป็นดินแดนการพนัน-คาสิโน ได้อย่างไร?". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. 5.0 5.1 5.2 "Cambodia: Provinces, Districts, Cities, Communes, City Districts - Population Statistics in Maps and Charts". www.citypopulation.de.
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 "พระตะบอง เสียมเรียบ ศรีโสภณ "รอยสยาม" และ "สามจังหวัด"กัมพูชา". สารคดี. 22 ตุลาคม 2553. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. Suzsuthichaa (17 มิถุนายน 2564). "นั่งรถไฟเตลิดไปอรัญประเทศ-ปอยเปต". Read Me. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. 8.0 8.1 "พระราชกฤษฎีกา กำหนดป่าสองข้างทางรถไฟสายอรัญญประเทศ–มงคลบุรี หรือป่าปอยเปตในท้องที่ตำบลมรกฏ ตำบลบ้านจังหัน ตำบลศรีโสภณ ตำบลสวายจิก และตำบลทัพไทย อำเภอศรีโสภณ จังหวัดพิบูลสงคราม ให้เป็นป่าคุ้มครอง พุทธศักราช 2488" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 62 (38 ก): 448. 17 กรกฎาคม 1945.
  9. นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา. "บันทึกเรื่องความรู้ต่าง ๆ เล่ม ๒". วชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. เสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป (2481). แม่ย่านาง วรรณคดี และราชาวดี. พระนคร: สยามพณิชยการ. p. 23-24.
  11. 11.0 11.1 "พระราชกริสดีกา กำหนดเขตที่ดินไนบริเวนที่ที่จะเวนคืน ไนท้องที่อำเพออรัญประเทส จังหวัดปราจีนบุรี อำเพอสรีโสภน จังหวัดพิบูลสงคราม และอำเพอมงคลบุรี อำเพอเมืองพระตะบอง อำเพออธึกเทวเดช จังหวัดพระตะบอง พุทธสักราช 2485" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 59 (73 ก): 2251. 24 พฤศจิกายน 1942.
  12. 12.0 12.1 "พระราชกริสดีกา กำหนดเขตที่ดินไนบริเวนที่ที่จะเวนคืน ไนท้องที่อำเพออรัญประเทส จังหวัดปราจีนบุรี อำเพอสรีโสภน จังหวัดพิบูลสงคราม และอำเพอมงคลบุรี อำเพอเมืองพระตะบอง อำเพอรนนภากาส จังหวัดพระตะบอง พุทธสักราช 2487" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 61 (72 ก): 1146. 24 พฤศจิกายน 1944.
  13. "ข้อมูลประเทศกัมพูชา". สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ. 30 พฤศจิกายน 2565. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  14. "បញ្ជីឃុំសង្កាត់ក្នុង ក្រុង ប៉ោយប៉ែត". Cambodia Postal Code (ภาษาเขมร). สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  15. 15.0 15.1 "สถานการณ์เด็กอาเซียนพบขอทาน ค้ามนุษย์ ล่วงละเมิดทางเพศ เกลื่อนตะเข็บชายแดน". อิศรา. 3 พฤษภาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  16. 16.0 16.1 เสาวลักษณ์ วรายุ (2548). "คนข้ามแดน : ชีวิตและชุมชนของขอทานเขมรในกรุงเทพมหานคร". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน). สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  17. 17.0 17.1 Simon Lewis and Phorn Bopha (28 ตุลาคม 2557). "Thais scratch gambling itch in Cambodia". Nikkei Asia (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  18. 18.0 18.1 "ดอนบอสโก ปอยเปต". คณะซาเลเซียนของคุณพ่อบอสโกแห่งประเทศไทย. 6 เมษายน 2562. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  19. "เด็กเขมร ฮิตเรียนโรงเรียนฝั่งไทยอ.อรัญประเทศ ทั้งรร.มีนร.ไทยแค่ 9 คน". รักครู. 17 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  20. "สระแก้ว- ผู้ปกครองนักเรียน กัมพูชาชุมนุม เพื่อเรียกร้องขอให้แก้ไขปัญหากรณีเด็กนักเรียนชาวกัมพูชาที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย เดินทางไปเรียนหนังสือที่ฝั่งปอยเปต". Thai Reference. 4 พฤศจิกายน 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  21. 21.0 21.1 21.2 "More Chinese punters flock to Poipet". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). 27 เมษายน 2562. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  22. "อัปเดต ไฟไหม้ปอยเปต ตึกมิ้งจูกลางเมืองใกล้จุดชุมชนแออัด บ่อนคาสิโน". กรุงเทพธุรกิจ. 16 กันยายน 2566. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  23. 23.0 23.1 23.2 23.3 ""ผีข้างบ่อน" คนไทยชายขอบกาสิโนปอยเปต". ไทยพีบีเอส. 22 กุมภาพันธ์ 2567. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  24. 24.0 24.1 24.2 24.3 "ชีวิต "ผีข้างบ่อน" นักพนันไทยในปอยเปต". ไทยพีบีเอส. 23 กุมภาพันธ์ 2567. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  25. 25.0 25.1 25.2 "ผีข้างบ่อน! แฉนักพนันไทยสุดอนาถ เป็นทาสกาสิโนเขมร". ไทยรัฐออนไลน์. 24 มิถุนายน 2558. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  26. "สลดสาวนักพนัน ผีข้างบ่อน กว่า 20 ราย เสียหมดตัวกลับไม่ได้". ไทยรัฐออนไลน์. 30 พฤษภาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  27. "จับ12ผีพนันมุดรั้วเข้าไทย โดนบ่อนเขมรหลอก 5 ธ.ค.อภัยโทษคนไร้พาสปอร์ต". ไทยรัฐออนไลน์. 5 ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  28. "เขมรคลั่งชาติ เกลียดไทย โหมข่าวใส่ร้าย". ไทยรัฐออนไลน์. 30 เมษายน 2554. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  29. "โอกาสที่ท้าทายหลังโควิด-19 ของธุรกิจค้าปลีกไทยในกัมพูชา". ไทยพาณิชย์. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  30. "เปิดแล้ว!'เซเว่น อีเลฟเว่น'ปอยเปต สาขาแรกนอกกรุงพนมเปญ". แนวหน้า. 12 มีนาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  31. "ท้องถิ่นกับธุรกิจสีเทาจีนที่พึงระวัง". สยามรัฐ. 25 พฤศจิกายน 2565. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  32. 32.0 32.1 "ซุบซิบกทม". แนวหน้า. 19 กุมภาพันธ์ 2567. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  33. "อย่างกับขอมดำดิน! เด็กกัมพูชาขุดดินมุดรั้วมาขอทานตลาดโรงเกลือ". ช่อง 7. 25 สิงหาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  34. "ตร.จับต่างด้าวกลุ่มใหญ่ตั้งแก๊งขอทานทั่วนครสวรรค์ รายได้คนละกว่า 500 บาท/วัน". ผู้จัดการออนไลน์. 15 มิถุนายน 2556. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  35. เยี่ยมยุทธ สุทธิฉายา และณัฐชลี สิงสาวแห (1 มีนาคม 2565). "เมื่อประตูปิด หน้าต่างก็เปิด: คนไทยเป็นทั้งเหยื่อและลูกค้าต้มตุ๋นออนไลน์ในกัมพูชา". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  36. "เปิดคลิปลับ หนุ่มไทยข้ามแดนทำงานปอยเปตดับปริศนา ญาติคาใจค้านเผาขอพิสูจน์ศพ". อมรินทร์. 26 พฤศจิกายน 2565. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  37. "เปิดตัวเลข คนไทยถูกหลอกทำงาน เว็บพนันออนไลน์ในกัมพูชา นับพันคน". ช่อง 7. 12 ตุลาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  38. 38.0 38.1 "ประเทศกัมพูชา ช่องทางติดต่อกับประเทศข้างเคียง". Thai-heritage.com. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  39. "ข้อมูลด้านความร่วมมือไทย-กัมพูชา" (PDF). กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม. ตุลาคม 2564. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  40. "ทล.ผุดถนนสายใหม่เชื่อมขนส่งชายแดนไทย-กัมพูชา รองรับอีอีซีคาดแล้วเสร็จก.พ.65". ไทยโพสต์. 14 พฤษภาคม 2564. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  41. 41.0 41.1 "ข้อมูลด้านความร่วมมือไทย-กัมพูชา" (PDF). กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม. ตุลาคม 2564. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  42. "ฉลองความสำเร็จ! สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา "บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท" เชื่อมการค้า-ท่องเที่ยวชายแดนแบบไร้รอยต่อ". ประชาชาติธุรกิจ. 22 เมษายน 2562. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  43. "กัมพูชาเล็งสร้างทางด่วนจากพนมเปญถึงปอยเปต เชื่อมการค้า-การเดินทาง". ผู้จัดการออนไลน์. 30 มกราคม 2567. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  44. 44.0 44.1 44.2 44.3 44.4 วันวิสข์ เนียมปาน (22 เมษายน 2562). "ไทยจับมือกัมพูชาเชื่อมทางรถไฟ เตรียมนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปถึงพนมเปญ". The Cloud. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  45. อาทิตย์ ทรงกลด. เรื่องลับเขมร ที่คนไทยควรรู้. กรุงเทพฯ : สยามบันทึก, 2552, หน้า 140–143 ISBN 9786117180033.
  46. 46.0 46.1 ชนัดดา ชินะโยธิน (17 กรกฎาคม 2561). "คุยกับทูต 'ลง วิซาโล' ว่าด้วยทางรถไฟเชื่อมไทย-กัมพูชา และ คำพิพากษาศาลโลก". มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  47. Ailing railway set for upgrade. The Phnom Penh Post, Wednesday, 29 October 2008.
  48. "เปิดหวูดจากปอยเปต เม.ย.นี้ เตรียมตัวขึ้นรถไฟฟรีไปเล่นสงกรานต์พระตะบอง". ผู้จัดการออนไลน์. 4 มีนาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  49. "กัมพูชาลุยแล้ว จ่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง สายแรก 'พนมเปญ-ปอยเปต'". ไทยรัฐออนไลน์. 24 มกราคม 2566. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  50. "ร.ฟ.ท.ทดลองเดินรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-กัมพูชาเที่ยวปฐมฤกษ์ เสมือนจริง". ผู้จัดการออนไลน์. 21 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2019.
  51. "'ประยุทธ์ - ฮุน เซน' เตรียมฉลองสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา นั่งรถไฟขบวนพิเศษ". วอยซ์ทีวี. 21 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2019.
  52. เทียนหยด (28 มกราคม 2563). "next station 'ปอยเปต' นั่งฟินยาว ๆ ไม่ต้องต่อรถให้เสียเวลา". เดลินิวส์. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  53. Chea Vanyuth (23 December 2022). "Cambodia on track for high-speed railway". Khmer Times.
  54. สาธนี แก้วสืบ, พันเอกหญิง. "รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เหมาะสมกับความมั่นคง : กรณีศึกษาจังหวัดสระแก้ว" (PDF). วิทยาลัยการทัพบก. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-07-12. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  55. "เขมรรุกดินแดนไทย สระแก้วถูกฮุบเกือบหมื่นไร่". ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  56. 56.0 56.1 "ยอมแล้ว! เขมรยุติสร้างบ่อนชิดชายแดนไทย หลังโดนบี้หนัก". ไทยรัฐออนไลน์. 10 กุมภาพันธ์ 2558. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  57. "บ่อนชายแดนไทย-กัมพูชา หม้อข้าวใบใหญ่ฮุนเซนและพวก". ผู้จัดการออนไลน์. 28 มกราคม 2554. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  58. "ชาวบ้านผวาขยะกองเป็นภูเขาชาวกัมพูชาทิ้งลงคลองพรหมโหด ชายแดนสระแก้ว". ผู้จัดการออนไลน์. 6 มิถุนายน 2558. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  59. "เขมรโวย! บ่อขยะไทยไฟไหม้ ควันฟุ้งเข้าปอยเปต". ไทยรัฐออนไลน์. 20 มีนาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  60. "เปลี่ยนขยะ เป็นเงินเป็นทอง". เดลินิวส์. 21 มกราคม 2558. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  61. "ระทึก ไฟไหม้โรงแรมแกรนด์ ไดมอนด์ ปอยเปต คนโดดอาคารหนีตาย". ไทยรัฐออนไลน์. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  62. "เพลิงไหม้ โรงแรมแกรนด์ ไดมอนด์ ซิตี้ แอนด์ กาสิโน ในประเทศกัมพูชา". ช่อง 7. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  63. 63.0 63.1 "อัปเดต กู้ 7 ตู้เซฟ "แกรนด์ไดมอนด์" ไฟไหม้ปอยเปต พบเงินไทยเต็มเอี้ยด". กรุงเทพธุรกิจ. 4 มกราคม 2566. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  64. "ยังคุมเพลิงไม่ได้ ไฟไหม้ บ่อนปอยเปต "แกรนด์ ไดมอนด์" เซียนพนันหนีตายวุ่น". ไทยรัฐออนไลน์. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  65. "กาสิโนที่ 'ปอยเปต' ไฟไหม้นานกว่า 5 ชม. เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย ส่วนใหญ่คนไทย". ประชาไท. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  66. "เปิดภาพ เพลิงพิโรธเผา "กาสิโนแกรนด์ไดมอนด์" ปอยเปตนานเกือบ 9 ชม. ยังไม่ดับ". คมชัดลึก. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  67. "BRIEF 165 ไฟไหม้คาสิโนในปอยเปต ใช้เวลาคุมเพลิงราว 10 ชม. พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย โดยมากเป็นคนไทย". The Matter. 29 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: line feed character ใน |title= ที่ตำแหน่ง 10 (help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  68. "อัปเดตคนไทยเสียชีวิต 27 คน จากเหตุไฟไหม้กาสิโนปอยเปต". ไทยพีบีเอส. 30 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  69. "จบภารกิจค้นหาเหยื่อไฟไหม้กาสิโนปอยเปต สรุปเสียชีวิต 27 คน". TNN Thailand. 31 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  70. "ไหม้วอดกาสิโน ดับ 22 ศพ แกรนด์ไดมอนด์ เป็นพนักงานและนักเล่นคนไทย". ไทยรัฐออนไลน์. 30 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  71. "เจออีก 20 ศพ เหยื่อไฟไหม้กาสิโนปอยเปต พบตึกเริ่มเอียง เร่งหาตามห้องพัก". ข่าวสด. 30 ธันวาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  72. "รื้อสะพานเชื่อมอาคาร "กาสิโนแกรนด์ไดมอนด์" หลังไฟไหม้". ไทยพีบีเอส. 3 มกราคม 2566. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  73. "ไรเดอร์แฉลูกค้าสยองสาปลงอเวจีปอยเปต เจอนิติแก้มนตร์ชะงักชิงพิซซ่าคืนจากมือพระนาง". อมรินทร์. 14 กันยายน 2565. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  74. "อาการหนัก! สาวสั่งพิซซาแล้วชิ่งไม่จ่าย ฉุนไรเดอร์จับได้แช่งให้ตกอเวจีปอยเปต". ผู้จัดการออนไลน์. 14 กันยายน 2565. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  75. "หัวจะปวด! ไรเดอร์เจอลูกค้า สั่งพิซซ่าแต่ไม่ยอมจ่ายตังค์ แถมสาปแช่งให้ ตกนรกอเวจีปอยเปต". มติชนออนไลน์. 14 กันยายน 2565. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2566. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

  • วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ปอยเปต

พิกัดภูมิศาสตร์: 13°39′N 102°34′E / 13.650°N 102.567°E / 13.650; 102.567