นาริตะ
นาริตะ 成田市 | |||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| |||||||||||
 ธง  ตรา | |||||||||||
 ที่ตั้งของนาริตะ (เน้นสีชมพู) ในจังหวัดชิบะ | |||||||||||
 | |||||||||||
  นาริตะ ที่ตั้งในประเทศญี่ปุ่น | |||||||||||
| พิกัด: 35°46′36″N 140°19′6″E / 35.77667°N 140.31833°E | |||||||||||
| ประเทศ |  ญี่ปุ่น | ||||||||||
| ภูมิภาค | คันโต | ||||||||||
| จังหวัด |  ชิบะ | ||||||||||
| การปกครอง | |||||||||||
| • ประเภท | เทศบาลนคร | ||||||||||
| • นายกเทศมนตรี | คาซูนาริ โคอิซูมิ (小泉 一成) | ||||||||||
| พื้นที่ | |||||||||||
| • ทั้งหมด | 213.84 ตร.กม. (82.56 ตร.ไมล์) | ||||||||||
| ประชากร (1 ตุลาคม ค.ศ. 2024)[1] | |||||||||||
| • ทั้งหมด | 134,003 คน | ||||||||||
| • ความหนาแน่น | 627 คน/ตร.กม. (1,620 คน/ตร.ไมล์) | ||||||||||
| เขตเวลา | UTC+09:00 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น) | ||||||||||
| รหัสท้องถิ่น | 12211-4 | ||||||||||
| โทรศัพท์ | 0476-22-1111 | ||||||||||
| ที่อยู่ศาลาว่าการ | 760 ฮานาซากิโจ นครนาริตะ จังหวัดชิบะ 286-8585 | ||||||||||
| เว็บไซต์ | www | ||||||||||
| |||||||||||
นาริตะ (ญี่ปุ่น: 成田市; โรมาจิ: Narita-shi) เป็นนครที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองท่าอากาศยานนานาชาติหลักที่ให้บริการในภูมิภาคมหานครโตเกียวและปริมณฑล นาริตะมีขนาดพื้นที่ 213.84 ตารางกิโลเมตร (82.56 ตารางไมล์) มีจำนวนประชากร ณ วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ประมาณ 134,003 คน มีความหนาแน่นของประชากร 627 คนต่อตารางกิโลเมตร[1][2]
ภูมิศาสตร์
[แก้]นครนาริตะตั้งอยู่ทางตอนเหนือและตอนกลางระหว่างตะวันตก-ตะวันออกของจังหวัดชิบะ ห่างจากนครชิบะ เมืองหลวงของจังหวัดชิบะ ประมาณ 25 กิโลเมตร (16 ไมล์) และห่างจากใจกลางโตเกียว 50 ถึง 60 กิโลเมตร (31 ถึง 37 ไมล์) ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะอยู่ห่างจากศูนย์กลางของนครนาริตะ (ที่ตั้งของศาลาว่าการ) ประมาณ 5 กิโลเมตร (3.1 ไมล์) มีเมืองเก่า (มีศูนย์กลางอยู่ที่นาริตะซัง) และเมืองใหม่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงชิโมซะทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง และท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และมีพื้นที่เกษตรกรรมทางตอนเหนือของเมืองที่ใช้น้ำจากแม่น้ำโทเนะซึ่งไหลผ่านพรมแดนที่ติดกับจังหวัดอิบารากิทางทิศเหนือ พื้นที่ของเมืองส่วนใหญ่มีระดับความสูงระหว่าง 10 และ 40 เมตร (33 และ 131 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล
เทศบาลข้างเคียง
[แก้]- จังหวัดชิบะ
- จังหวัดอิบารากิ
- เมืองคาวาจิ
ภูมิอากาศ
[แก้]นาริตะมีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นกึ่งเขตร้อน (การแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพิน Cfa) มีลักษณะเด่นคือฤดูร้อนที่อบอุ่นและฤดูหนาวที่เย็นสบาย มีหิมะตกเล็กน้อยถึงไม่มีเลย อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีในนาริตะอยู่ที่ 14.8 °C (58.6 °F) ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1,498.4 มิลลิเมตร (58.99 นิ้ว) โดยเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกที่สุด อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยจะอยู่ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ประมาณ 26.0 °C (78.8 °F) และต่ำสุดในเดือนมกราคมอยู่ที่ประมาณ 3.9 °C (39.0 °F)[3]
| ข้อมูลภูมิอากาศของนาริตะ (2003−2020 สภาวะปกติ, สภาวะสุดขั้ว 2003−ปัจจุบัน) | |||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
| อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 19.4 (66.9) |
24.4 (75.9) |
24.9 (76.8) |
29.6 (85.3) |
31.3 (88.3) |
33.8 (92.8) |
38.4 (101.1) |
36.9 (98.4) |
35.5 (95.9) |
32.0 (89.6) |
25.3 (77.5) |
24.2 (75.6) |
38.4 (101.1) |
| อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 9.4 (48.9) |
10.4 (50.7) |
13.7 (56.7) |
18.4 (65.1) |
22.7 (72.9) |
25.2 (77.4) |
28.9 (84) |
30.7 (87.3) |
27.1 (80.8) |
21.7 (71.1) |
16.9 (62.4) |
12.0 (53.6) |
19.76 (67.57) |
| อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 3.9 (39) |
5.0 (41) |
8.3 (46.9) |
13.0 (55.4) |
17.6 (63.7) |
20.9 (69.6) |
24.5 (76.1) |
26.0 (78.8) |
22.8 (73) |
17.4 (63.3) |
12.0 (53.6) |
6.5 (43.7) |
14.83 (58.69) |
| อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -2.2 (28) |
-0.6 (30.9) |
2.5 (36.5) |
7.4 (45.3) |
12.7 (54.9) |
17.1 (62.8) |
21.1 (70) |
22.4 (72.3) |
19.3 (66.7) |
13.3 (55.9) |
6.7 (44.1) |
0.6 (33.1) |
10.03 (50.05) |
| อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -8.9 (16) |
-8.9 (16) |
-5.2 (22.6) |
-2.1 (28.2) |
0.8 (33.4) |
7.1 (44.8) |
15.0 (59) |
15.0 (59) |
8.4 (47.1) |
3.0 (37.4) |
-2.8 (27) |
-8.4 (16.9) |
−8.9 (16) |
| หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 63.8 (2.512) |
69.7 (2.744) |
102.1 (4.02) |
125.1 (4.925) |
129.1 (5.083) |
144.1 (5.673) |
116.2 (4.575) |
121.8 (4.795) |
194.9 (7.673) |
257.6 (10.142) |
106.0 (4.173) |
68.1 (2.681) |
1,498.4 (58.992) |
| วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 1.0 mm) | 5.1 | 6.8 | 9.9 | 10.3 | 10.1 | 10.8 | 9.3 | 7.6 | 10.8 | 11.6 | 8.8 | 6.1 | 107.2 |
| แหล่งที่มา 1: สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น[4][3] | |||||||||||||
| แหล่งที่มา 2: ศูนย์บริการสภาพอากาศการบินนาริตะ (Narita Aviation Weather Service Center)[5] | |||||||||||||
สถิติประชากร
[แก้]ตามข้อมูลสำมะโนประชากรของญี่ปุ่น[6] จำนวนประชากรของนาริตะในปัจจุบันนี้มีแนวโน้มคงที่ หลังจากที่เติบโตมาหลายทศวรรษ
| ปี | ประชากร | ±% |
|---|---|---|
| 1950 | 64,370 | — |
| 1960 | 61,869 | −3.9% |
| 1970 | 59,365 | −4.0% |
| 1980 | 85,897 | +44.7% |
| 1990 | 105,855 | +23.2% |
| 2000 | 116,898 | +10.4% |
| 2010 | 128,933 | +10.3% |
| 2020 | 132,906 | +3.1% |
ประวัติศาสตร์
[แก้]มีสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับที่มาของชื่อเมืองนาริตะ บางคนกล่าวว่ามีที่มาจากตัวอักษรคำว่า "กลายเป็น" (นาริ) และ "นาข้าว" (ทะ) บางคนกล่าวว่าชื่อเมืองมีที่มาจากเสียงดังสนั่น (นาริ) ของฟ้าผ่าในบริเวณนี้ บางคนกล่าวว่า นาริ มีที่มาจากคำที่เลิกใช้ไปแล้วที่มีความหมายว่า "อุดมสมบูรณ์" หรือบางคนอาจกล่าวว่า นาริ มีที่มาจากคำว่า "วิถีการดำรงชีวิต" (นาริวาอิ)
เป็นที่ทราบว่า พื้นที่ของเมืองนาริตะมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบว่าเริ่มมีการเพาะปลูกข้าวมาตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นระยะทางเกือบเท่ากับที่ห่างจากอ่าวโตเกียว และมีแม่น้ำสั้นๆอยู่บริเวณใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการปกครองและการค้าขายของภูมิภาค
ในช่วงยุคสมัยนาระ เริ่มมีการสร้างเมืองขึ้นในบริเวณนี้ และในปี พ.ศ. 1483 ได้มีการสร้างวัดนาริตาซังขึ้นมา จนในปี พ.ศ. 2432 เริ่มมีการรวมชุมชนต่างๆในบริเวณนี้เข้าด้วยกัน และก่อตั้งเป็นเมืองนาริตะขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2497 เมืองนี้เริ่มมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อนายกรัฐมนตรีเอซากุ ซาโต เริ่มวางแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะในปี พ.ศ. 2509 การสร้างท่าอากาศยานและการเชื่อมต่อเส้นทางเข้าสู่ใจกลางกรุงโตเกียว ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านอาคารบ้านเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรมภายในเมืองนาริตะอย่างรวดเร็ว
นาริตะเคยเป็นส่วนหนึ่งของอำเภออิมบะ จนเมื่อประกาศก่อตั้งเป็นนครจึงได้แยกตัวออกมา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549 นาริตะได้ผนวกเอาเมืองไทเอและเมืองชิโมฟูซะจากอำเภอคาโตริเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนครนาริตะ และปัจจุบันนี้นครนาริตะก็กำลังขยายตัวเข้าไปถึงพื้นที่ของอำเภอคาโตริ
พื้นที่ของเมือง
[แก้]ใจกลางนาริตะ
[แก้]
พื้นที่ส่วนกลางของนาริตะเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างสถานีรถไฟนาริตะ สถานีรถไฟเคเซนาริตะ และวัดนาริตาซัง ถนนสายหลักของพื้นที่นี้คือถนนโอโมเตซันโดซึ่งมีร้านค้าเล็ก ๆ ราว 150 ร้านอยู่สองฝั่งถนน และเพิ่งมีการปรับปรุงถนนทั้งสายเมื่อไม่นานมานี้ ถนนสายนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในถนนที่แสดงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในดีที่สุดในญี่ปุ่น
เมืองใหม่นาริตะ
[แก้]ย่านเมืองใหม่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นใหม่ทางตะวันตกของสถานีรถไฟนาริตะ ในย่านนี้มีบ้านพักอาศัยราว 16,000 หลัง และมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 60,000 คน การก่อสร้างย่านนี้เริ่มมีการวางแผนเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยอิงจากเมืองใหม่ที่อยู่รอบกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ปัจจุบันนี้เป็นย่านที่คนส่วนใหญ่ของเมืองอาศัยอยู่ แรกเริ่มนั้นผู้อาศัยส่วนใหญ่ในย่านเมืองใหม่จะต้องเดินทางเข้าไปในกรุงโตเกียวหรือตัวเมืองชิบะเพื่อทำงาน แต่ปัจจุบันมีคนจำนวนมากเริ่มหันไปทำงานในเมืองต่างๆทางตะวันตกเฉียงเหนือของชิบะ ซึ่งอยู่ใกล้กับย่านเมืองใหม่มากกว่า และมีนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และพนักงานบริษัท ที่อยู่ในส่วนกลางของนาริตะเริ่มย้ายมาอาศัยอยู่ในย่านเมืองใหม่มากขึ้น
โคซูโนโมริ
[แก้]
โคซูโนโมริ (Kozunomori) เป็นพื้นที่ชานเมืองนาริตะ ตั้งอยู่ทางใต้ของย่านเมืองใหม่ ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟเคเซนาริตะ ประมาณ 4 นาที มีจำนวนประชากรประมาณ 12,000 คน สถานีรถไฟโคซูโนโมริอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าอิโตโยกาโดะซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่เป็นที่นิยมในบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่พักอาศัยอยู่ในเมืองนาริตะและพื้นที่โดยรอบ
ท่าอากาศยานและพื้นที่เกษตรกรรม
[แก้]ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองนาริตะ บนพื้นที่เกษตรกรรมเก่าแก่ที่มีชื่อว่าซันริซูกะ (Sanrizuka) การก่อสร้างและขยายท่าอากาศยานก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ซันริซูกะเป็นอย่างมาก และเนื่องจากมีการเวนคืนที่ดิน และรายได้จากการเกษตรกรรมลดลงอันเป็นผลมาจากการก่อสร้างท่าอากาศยาน ทำให้จำนวนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสามจากจำนวนก่อนมีการสร้างท่าอากาศยาน ปัจจุบันพื้นที่เกษตรกรรมที่ถูกทิ้งร้างบางพื้นที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นสนามกอล์ฟ ส่วนพื้นที่อื่นได้กลายเป็นที่ทิ้งขยะอย่างไม่เป็นทางการ
เมืองพี่น้อง
[แก้]นาริตะได้มีข้อตกลงเป็นเมืองพี่น้องกับเมืองดังต่อไปนี้:
เสียนหยาง ประเทศจีน ตั้งแต่ 1988
อินช็อน ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่ 1998- ช็องอึบ ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่ 2002
ซานบรูโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา[7] ตั้งแต่ 1990
เนสต์เวด ประเทศเดนมาร์ก ตั้งแต่ 2003
ฟ็อกซ์ตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ตั้งแต่ 1995
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "千葉県毎月常住人口調査" [การสำรวจประชากรอาศัยถาวรรายเดือนในจังหวัดชิบะ]. เว็บไซต์จังหวัดชิบะ (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2024.
- ↑ "สถิติทางการของนครนาริตะ" (ภาษาญี่ปุ่น). ประเทศญี่ปุ่น.
- ↑ 3.0 3.1 気象庁 / 平年値（年・月ごとの値）. JMA. สืบค้นเมื่อ April 1, 2022.
- ↑ 観測史上1～10位の値（年間を通じての値）. JMA. สืบค้นเมื่อ April 1, 2022.
- ↑ 成田空港 1981-2010年. 成田航空地方気象台. สืบค้นเมื่อ 2012-02-06.
- ↑ สถิติประชากรนาริตะ
- ↑ "Consolidation of Local Governments in Japan and Effects on Sister City Relationships" (Archive เก็บถาวร 2017-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน), Consulate General of Japan, San Francisco
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]
- เว็บไซต์ทางการของนครนาริตะ (ในภาษาญี่ปุ่น)
คู่มือการท่องเที่ยว Narita จากวิกิท่องเที่ยว (ในภาษาอังกฤษ)
ชิบะ (เมืองหลวง) | ||||
| นครใหญ่ที่รัฐกำหนด |
|  | ||
| นครศูนย์กลาง | ||||
| นคร | ||||
| เมืองและหมู่บ้าน แบ่งตามอำเภอ | ||||
| นานาชาติ | |
|---|---|
| ประจำชาติ | |
| ภูมิศาสตร์ | |
| วิชาการ | |
