เปาบุ้นจิ้นหนุ่ม พิทักษ์ธรรม ภาค 2

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Young Justice Bao II)

เปาบุ้นจิ้นหนุ่ม พิทักษ์ธรรม ภาค 2  (อังกฤษ: Young Justice Bao 2) เป็นละครโทรทัศน์ที่ออกอากาศในประเทศจีนช่วงปี ค.ศ. 2001 กล่าวถึงประวัติของเปาบุ้นจิ้นในช่วงวัยหนุ่มที่เพิ่งเข้ารับราชการกับฮ่องเต้ใหม่ๆ ออกอากาศในประเทศไทยทางช่อง 3 แฟมิลี่ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560 ทุกวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 16:30 น. นำแสดงโดย ลู่ อี้, ซื่อ เสี่ยวหลง, จ้าว หยาง,ฉิน ลี่, หยาง หยง ต่อจากภาคแรก และมีภาคสามเป็นภาคจบ เรื่อง เปาบุ้นจิ้นหนุ่ม พิทักษ์ธรรม ภาค 3

ภาพละครภาค 2 ภาษาไทย

เนื้อเรื่อง[แก้]

คดีที่ 1 คุณสมบัติวีรบุรุษ[แก้]

เกิดคดีทุจริตงบสร้างเขื่อน ซึ่งเมื่อฝนตกหนักก็ทำให้เขื่อนพังผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ฮ่องเต้มีรับสั่งให้ตามตัวเปา เจิ่งเข้าเมืองหลวงเพื่อสืบคดีนี้ แต่คดีนี้ดูท่าจะเกี่ยวพันกับขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนฮ่องเต้จึงได้มอบป้ายทองเว้นตายแก่เปา เจิ่งเพื่อไว้ป้องกันตัวด้วย

ระหว่างสืบคดีเปา เจิ่งได้รู้จักกับ เสี่ยว ชิงถิง ซึ่งลักขโมยของในวังออกมาขายเอาเงินไปช่วยคนจนเปาเจิ่งพยายามดัดนิสัยนางให้เลิกขโมยของ

ต่อมากงซุน เช่อป่วยเป็นโรคประหลาดต้องตาบอดทั้ง 2 ข้าง เขาอยากเอาชนะเปาเจิ่งในการคลี่คลายคดีให้ได้จึงตกหลุมพลางของคนร้ายที่หลอกให้เขาเข้าใจว่าคนร้ายในคดีทุจริตก็คือผู้ควบคุมการคลังในสมัยที่มีการสร้างเขื่อน ซึ่งก็คือคนเลี้ยงม้าในตำหนักเหลียงอ๋อง เมื่อกงซุนเช่อหาตัวคนร้ายได้ ผู้บงการตัวจริงก็ชิงฆ่าปิดปากคนเลี้ยงม้าซะ ทุกคนเข้าใจว่าคดีนี้คลี่คลายแล้ว มีเพียงแต่เปาเจิ่งเท่านั้นที่พยายามสืบต่อไป

ในที่สุดเปาเจิ่งก็สืบจนรู้เบื้องหลังว่ายังมีคนร้ายที่ยังลอยนวลอยู่อีกถึง 3 คน เปาเจิ่งต่อว่ากงซุนเช่อที่รีบร้อนจนมองข้ามจุดเล็กน้อยของคดี ส่วนกงซุนเช่อเมื่อรู้ตัวมาตนเองตกหลุมพรางของคนร้ายก็หนีไปอยู่วัด ซึ่งเจ้าอาวาสได้สั่งสอนเขาให้เลิกแข่งขันกับเปาเจิ่งแต่ให้ทั้งสองร่วมมือช่วยเหลือประคับประคองซึ่งกันและกัน

ระหว่างนี้มีคนร้ายมาลอบฆ่าเหลียงอ๋อง เปาเจิ่งกับจั่น เจาช่วยกันจับคนร้ายไว้ได้ แต่เหลียงอ๋องกลับบอกให้ปล่อยตัวคนร้ายไป ทำให้เปาเจิ่งกับจั่นเจาสงสัยในพฤติกรรมของเหลียงอ๋องมาก จึงได้วางแผนให้เสี่ยว ชิงถิงปลอมตัวเป็นมือสังหารไปลอบฆ่าเหลียงอ๋อง จนทำให้รู้ความจริงว่าที่เหลียงอ๋องให้ปล่อยคนร้ายไปก็เพราะเข้าใจว่าคนร้ายคือเสี่ยวชิงถิงซึ่งเป็นลูกนอกสมรสของเหลียงอ๋อง มาแก้แค้นให้แม่ที่เหลียงอ๋องทิ้งมา

ในที่สุดในวันที่ฮ่องเต้ทำพิธีบวงสรวง เปาเจิ่งได้คลี่คลายคดีทุจริตงบสร้างเขื่อน ซึ่งก็พัวพันไปถึงการทุจริตอาวุธทหารอีกด้วย

คดีที่ 2 คุณธรรมค้ำฟ้า[แก้]

หม่าฮั่น ถูกล่าวหาว่าข่มขืนและขโมยเงิน ส่วนหวังเฉาต้องการช่วยหม่าฮั่นเลยไปปล้นนักโทษแต่ไม่สำเร็จทั้งสองจึงต้องรับโทษประหาร แต่ก่อนจะถูกประหารเปา เจิ่งไปช่วยไว้ทัน เพราะเปาเจิ่งคลี่คลายคดีได้ความจริงแล้วว่าหม่าฮั่นถูกคนใส่ร้าย คนร้ายเป็นอีกคนหนึ่ง จากเหตุการณ์นี้ทำให้หวังเฉาและหม่าฮั่นขอติดตามเปาเจิ่งไปชั่วชีวิต

ฮ่องเต้มีคำสั่งแต่งตั้งเปาเจิ่งเป็นนายอำเภอ คดีแรกที่ต้องสะสางคือคดีฆ่าล้างหมู่บ้านแห่งหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฆาตกรเฉียวไถ้ถูกจับตัวได้แต่ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดอะไรเลยแม้แต่จะแก้ต่างให้ตัวเอง เปาเจิ่งจึงให้นำตัวพยาน 3 คนที่รอดชีวิตจากการสังหารโหดนั้นมาสอบปากคำ แต่แล้วทั้ง 3 คนก็ค่อย ๆ ทยอยกันหายตัวไปอย่างลึกลับ

ต่อมาก็มีคนชุดดำมาจับตัวเฉียวไถ้ไปจากในคุก แต่เสี่ยวชิงถิงแอบตามไปจนถูกทำร้าย เฉียวไถ้ช่วยเสี่ยวชิงถิงจนตัวเองถูกลูกดอกอาบยาพิษของคนร้ายจนตาย แต่ก่อนที่เฉียวไถ้จะตายได้เล่าเหตุการณ์ที่เขาฆ่าคนให้เสี่ยวชิงถิงฟังจนหมด

ที่เฉียวไถ้ฆ่าคนก็เพราะต้องการเงินไปซื้อดอกไม้ไฟมาจุดให้ภรรยาซึ่งป่วยใกล้ตายดู เขาได้รับการว่าจ้างจากชายพิการคนหนึ่งชื่อหลี่อี้

เปาเจิ่งจึงสืบเบาะแสจากหลี่อี้ และพบว่านี่เป็นคดีซ้อนคดี หลี่อี้มีพี่น้องร่วมสาบานอีก 3 คน ซึ่งก็คือผู้ที่รอดชีวิตจากการสังหารของเฉียวไถ้ พวกเขาได้ร่วมกันปล้นเงินหลวง ขณะจะแบ่งเงินกันภรรยาของหลี่อี้ซึ่งท้องแก่เข้ามาพบ 3 คนนี้กลัวความลับรั่วไหลบวกกับอยากได้เงินส่วนของหลี่อี้ด้วย ก็เลยจับหลี่อี้กับภรรยาใส่หลุมแล้วใช้หินขว้างกลบหลุม ทำให้ภรรยาหลี่อี้ตายทันที ส่วนหลี่อี้รอดแต่ก็ต้องพิการ

หลี่อี้แค้น 3 คนนี้มาก เมื่อมาพบกับเฉียวไถ้จึงเสนอเงินให้เพื่อแลกกับการที่เฉียวไถ้ต้องไปฆ่าล้างหมู่บ้าน 3 คนนี้ และ 3 คนนี้กลัวความลับเรื่องปล้นเงินหลวงจะรั่วไหล เมื่อเปาเจิ่งตามตัวมาให้ถ้อยคำจึงพยายามหาทางหลบหนีและขณะเดียวกันก็หาทางฆ่าเฉียวไถ้ปิดปากด้วย

คดีที่ 3 พยัคฆ์หมอบ มังกรซ่อน[แก้]

เปา เจิ่งได้รับคำสั่งลับจากฮ่องเต้ให้ทำงานชิ้นหนึ่งจึงพาหม่าฮั่นออกไปทำงาน ระหว่างนี้จั่น เจาได้ข่าวว่าจะมีคนมาลอบฆ่าเปาเจิ่งที่วัดซึ่งเปาเจิ่งต้องไปไหว้พระขอพรให้แม่ทุกปี กงซุน เช่อ จั่นเจา หวังเฉาและฮัวกงกง จึงได้ตัดสินใจไปยังวัดแห่งนี้เพื่อสืบหาตัวคนร้ายให้ได้ก่อนที่เปาเจิ่งจะเดินทางมาถึง ที่วัดนี้กงซุนเช่อได้พบกับหลู่เซียงเซียงอีกครั้ง นางตามมาเพื่อรักษาตาให้กงซุนเช่อ

คนเดินทางที่มาพักที่วัดนี้ทุกคนล้วนแต่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย แต่ต่อมาฐานะของคนบางกลุ่มก็ถูกเปิดเผยขึ้นว่าเป็นมือปราบที่มาดักจับคนร้ายขโมยเด็ก

เย็นวันหนึ่งขณะที่จั่นเจาประลองฝีมือกับเณรในวัด แต่เพราะขี้เกียจจะสู้แล้วก็เลยแว๊บหนีมาหลบอยู่ในห้องครัวที่เซียงเซียงใช้เป็นที่ต้มยาให้กงซุนเช่อ แต่พอเซียงเซียงกลับมาจะต้มยาก็พบว่าจั่นเจาถูกพิษตัดเจ็ดทวารเข้าไปแล้ว ทุกคนพยายามหายาแก้พิษ แต่กงซุนเช่อบอกว่าหาตัวคนร้ายให้ได้จะง่ายกว่าเพราะคนร้ายต้องกลัวว่าตัวเองจะโดนพิษด้วยจึงมักจะเก็บยาแก้พิษเอาไว้กับตัว แต่ยังไม่ทันสืบได้เรื่องอะไรไหลเอินเจ้าอาวาสก็โดนพิษไปอีกคนหนึ่ง

ต่อมาเซียงเซียงถูกคนร้ายจับเข้าไปปล่อยในป่าวงกต กงซุนเช่อเข้าไปตามหาจนพบแต่ทั้งสองก็หาทางออกมาจากป่าไม่ได้ แต่ที่ป่าแห่งนี้กลับทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น และกงซุนเช่อก็ได้พบเงื่อนงำสำคัญที่จะนำไปสู่ตัวคนร้าย

เมื่อทั้งคู่ออกจากป่าวงกตได้ กงซุนเช่อจึงได้เปิดเผยตัวคนร้ายว่าแท้จริงแล้วก็คือไหลเอิน การที่จั่นเจาถูกพิษเป็นเพราะอุบัติเหตุ ไหลเอินต้องการวางยาเซียงเซียงเพื่อชิงทรัพย์ ส่วนที่ไหลเอินถูกพิษก็เพราะเขาวางยาตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะจริง ๆ แล้วไหลเอินก็คือ ฉิวบ้าเทียน โจรปล้นสวาทที่หายตัวไปเมื่อ 10 ปีก่อน

เมื่อเปาเจิ่งจัดการงานที่ฮ่องเต้มอบหมายเสร็จแล้วก็เดินทางมายังวัดจินหลง ในที่สุดมือสังหารก็เปิดเผยตัว ที่แท้ก็คือครอบครัวสกุลหู ส่วนสาเหตุที่มาลอบฆ่าเปาเจิ่งก็เพราะคิดว่าเปาเจิ่งเป็นคนร้ายที่ฆ่าครอบครัวเศรษฐีเกานายของพ่อเฒ่าหู

เปาเจิ่งได้ใช้เวลา 3 วันในการล้างมลทินให้ตัวเอง และในที่สุดก็พบว่าเศรษฐีหูไม่ได้ตาย แต่แกล้งตายเพื่อหลบหนีการติดตามของทางการจากการที่ตนค้าเกลือเถื่อน

คดีที่ 4 สลับสับเปลี่ยน[แก้]

เปา เจิ่งกับเสี่ยวชิงถิงเข้าร่วมงานแสดงภาพปริศนาสาวน้อยกับดอกโบตั๋น เสี่ยวชิงถิงสามารถไขปริศนาของภาพวาดได้โดยต้องใช้น้ำสาดภาพเพื่อให้ปรากฏเป็นภาพสาวน้อยขึ้นมา ทุกคนสงสัยมากว่าทำไมเสี่ยวชิงถิงถึงรู้ความลับนี้ เสี่ยวชิงถิงจึงได้เปิดเผยว่าหญิงสาวในภาพวาดนี้ก็คือนาง ซึ่งเป็นลูกสาวของฝงจื่อสุ่ยที่ถูกน้ำพัดพาไปเมื่อหลายปีก่อน

ต่อมาเสี่ยวชิงถิงได้ใช้ให้จางหลงกับจ้าวหู่ปลอมตัวเป็นโจรจับตัวฝงจื่อสุ่ยที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านไปเรียกค่าไถ่ เพื่อยับยั้งไม่ให้ฝงจื่อสุ่ยเดินทางกลับมาถึงบ้านได้ เพราะเสี่ยวชิงถิงกลัวว่าฝงจื่อสุ่ยจะรู้ว่าตนแอบอ้างเป็นลูกของเขา ที่เสี่ยวชิงถิงทำเช่นนี้ก็เพื่อต้องการสืบหาความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของหลูโหย่งหยาพ่อบุญธรรมของเสี่ยวชิงถิงซึ่งเป็นคนที่วาดภาพปริศนาสาวน้อยกับดอกโบตั๋นขึ้น

เนื่องจากมีคดีเรียกค่าไถ่เกิดขึ้นเปาเจิ่งจึงได้เข้ามาสืบคดีในครั้งนี้ที่บ้านตระกูลฝง ซึ่งที่บ้านหลังนี้ได้ซ่อนความลับเอาไว้มากมายโดยทุกอย่างล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากเมื่อหกปีก่อน

เปาเจิ่งสืบจนได้ความจริงว่า ฝงจื่อสุ่ยหลอกหลูโหย่วหยาให้วาดภาพให้แก่ตนแล้วฝงจื่อสุ่ยก็เอาภาพเหล่านั้นออกขายโดยอ้างว่าเป็นผลงานของตัวเองจนมีชื่อเสียงโด่งดัง หลูโหย่วหยาจำเป็นต้องยอมทำตามก็เพราะแอบได้เสียกับคุณนาย 4 ภรรยาของฝงจื่อสุ่ย ฝงจื่อสุ่ยจึงใช้จุดนี้บังคับเขา

ต่อมาหลูโหย่วหยาทนความอึดอัดไม่ไหวจึงขอให้คุณนาย 4 วางยาพิษตนเสีย เมื่อวางยาแล้วคุณนาย 4 ก็ดื่มยาพิษตามแต่ฝงจื่อสุ่ยมาพบเสียก่อนจึงให้พ่อบ้านเอาน้ำขี้กรอกให้นางอาเจียนออกมา นับแต่นั้นคุณนาย 4 ก็กลายเป็นบ้าไป ขณะเดียวกันก็เป็นเวลาเดียวกับที่นายรองฝงแอบเข้ามาในห้องของหลูโหย่วหยาเพื่อขโมยภาพไปขายเขาใช้ขวานตีหลูโหย่วหยาจนสลบ ส่วยฝงจื่อสุ่ยเมื่อจัดการกับคุณนาย 4 แล้วก็กลับมาหาหลูโหย่วหยาแล้วก็เอายาพิษกรอกหลูโหย่วหยาอีกที

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทั้งคุณนาย 4 ฝงจื่อสุ่ยและนายรองฝง ล้วนเข้าใจว่าตนเองเป็นคนฆ่าหลูโหย่วหยา แต่ความจริงแล้วหลูโหย่วหยาไม่ได้ตายเพราะ 3 คนนี้ หลังจากที่คุณนาย 4 ให้ยาพิษแก่หลูโหย่วหยา นายรองฝงใช้ขวานตีหัวหลูโหย่วหยา และฝงจื่อสุ่ยเอายาพิษกรอกหลูโหย่วหยานั้น หลูโหย่วหยาแค่สลบไปเท่านั้น ฆาตกรตัวจริงก็คือ ฉางอัน คนงานในบ้านที่แอบเข้ามาขโมยภาพเขียนแล้วเขาก็อิจฉาหลูโหย่วหยาที่ได้กับคุณนาย 4 จึงฆ่าหลูโหย่วหยาโดยใช้แท่นหมึกตีหัวหลูโหย่วหยาจนตาย

ภาพละครภาค 2 ภาษาจีน

คดีที่ 5 หินศักดิ์สิทธิ์[แก้]

เปา เจิ่งกับกงซุน เช่อเดินทางกลับบ้านที่หลูโจว ทำให้จั่นเจาไม่มีอะไรจะทำก็เลยคิดจะเดินทางกลับไปวัดเซี่ยงกั๋ว ระหว่างทางจั่น เจาได้พบเด็กคนหนึ่งเข้าชื่อฟางฟาง

ฟางฟางขอร้องให้จั่นเจาช่วยคุ้มครองตนเพราะมีคนร้ายตามฆ่า แล้วก็เล่าให้จั่นเจาฟังว่าเมื่อคืนขณะที่ตนพักในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งก็มีคนร้ายลอบเข้ามาหมายเอาชีวิตตน ฟางฟางหนีออกมาได้แต่คนติดตามถูกฆ่าตายหมด จั่นเจาจึงพาฟางฟางไปแจ้งความแต่พอพาพวกมือปราบมาตรวจที่เกิดเหตุปรากฏว่าศพหายไปหมดแล้วสภาพของโรงเตี๊ยมก็ถูกตกแต่งใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

ฟางฟางกับจั่นเจาจึงออกเดินทางไปที่หมู่บ้านชาวประมงเพราะพ่อของฟางฟางเคยบอกไว้ว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นให้ไปหาพี่น้องเฉียวมู่ฟงกับเฉียวจูฟงที่นี่ แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีคนชื่อนี้อยู่เลย ในขณะที่จั่นเจากับฟางฟางกำลังจะออกจากหมู่บ้านก็มีชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวขึ้นอ้างว่าพวกเขาคือพี่น้องสกุลเฉียว ฟางฟางขอให้พวกเขาแสดงหลักฐาน ผู้ชายก็หยิบผ้าปักลายพระอาทิตย์ออกมา ส่วนผู้หญิงก็หยิบผ้าปักลายพระจันทร์ออกมา ฟางฟางกับจั่นเจาก็เลยตามพวกเขาไป ระหว่างทางพวกเขาได้พบกับคนปิดหน้าและถูกยาสลบ เมื่อจั่นเจากับฟางฟางฟื้นขึ้นมาอีกทีสองพี่น้องนั้นก็บอกว่าพาพวกเขาหนีมาจนถึงเกาะเซียวเหยาแล้ว

จากพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของสองพี่น้องทำให้จั่นเจาเกิดความสงสัย แต่เขาก็ถูกยาสลบพอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็พบตัวเองอยู่บนเรือแล้ว จั่นเจาเป็นห่วงฟางฟางจึงออกตามหา แล้วก็ไปพบฟางฟางอยู่บนเขาซึ่งอยู่ไม่ห่างไปจากหมู่บ้านชาวประมงนัก ฟางฟางบอกกับจั่นเจาว่ารู้ตัวนานแล้วว่าสองพี่น้องนั่นเป็นตัวปลอม แต่ที่ไม่พูดออกไปเพราะกลัวถูกสองคนนั่นทำร้าย จั่นเจากับฟางฟางจึงแอบสะกดรอยตามสองคนนั้นไปจนสามารถช่วยเหลือเฉียวมู่ฟงกับเฉียวจูฟงได้สำเร็จ ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับไท่หย่าคนสนิทของพ่อฟางฟาง ทั้งหมดจึงออกเดินทางมุ่งสู่เกาะเซียวเหยาเพื่อค้นหาหินศักดิ์สิทธิ์

ทางด้านเปาเจิ่งเมื่อกลับจากหลูโจวเห็นนานแล้วจั่นเจายังไม่กลับมาทำให้เป็นห่วงจึงพาหวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง จ้าวหู่ออกตามหา ระหว่างทางได้พบฮ่องเต้ซึ่งออกจากวังมาเพื่อทำพิธีไหว้อดีตหัวหน้าเผ่าฮาเวยลาพร้อมสืบเรื่องการก่อกบฏที่เกิดขึ้นภายในเผ่านี้ด้วย

ที่เกาะเซียวเหยาจั่นเจาถูกชายตาบอดลอบทำร้ายแล้วจับโยนลงน้ำ แต่เปาเจิ่งมาพบและช่วยไว้ได้ทัน ต่อมาก็มีคนร้ายตามมาเพื่อจะเอาของบางอย่างจากจั่นเจาอีก แต่ก็ถูกจั่นเจาสยบลงได้ ฮ่องเต้เห็นจั่นเจามีฝีมือจึงมอบป้ายทองสำหรับเรียกระดมกองทัพให้จั่นเจาพร้อมกับแต่งตั้งให้เป็นแมวหลวง

จั่นเจาเป็นห่วงฟางฟางจึงออกเรือไปเกาะเซียวเหยาเพียงลำพัง เมื่อไปถึงก็พบว่าชายตาบอด ไท่หย่า เฉียวมู่ฟงกับจูฟงตัวปลอมร่วมมือกันเพื่อจะชิงหินศักดิ์สิทธิ์และตามจับฟางฟาง จั่นเจารีบออกตามหาฟางฟางจนไปพบที่ช่องลับในโรงเก็บเหล้า

ต่อมาเปาเจิ่งก็เดินทางมาที่เกาะเซียวเหยา ทั้งหมดจึงรีบเดินทางไปที่ “ หนึ่งเส้นฟ้า ” สถานที่ปริศนาที่จะบอกว่าหินศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่ที่ไหน แต่ยังไม่ทันที่จะไขปริศนาได้พวกตู้ปูถาซือ ( หัวหน้ากบฏ ) และพรรคพวกก็ตามมาจนพบเสียก่อนและจับพวกเปาเจิ่งไปขังไว้ที่โรงเก็บเหล้า ที่นี่เปาเจิ่งสามารถไขปริศนา “ หนึ่งเส้นฟ้า ” ได้ จนพบหินศักดิ์สิทธิ์ และมอบให้ฟางฟางนำกลับไปยังเผ่าฮาเวยลาเพื่อช่วยพ่อได้สำเร็จ

คดีที่ 6 ตาข่ายฟ้าดิน[แก้]

นักโทษจำนวน 32 คนตายหลังจากพ้นโทษออกจากคุก ฮ่องเต้เกิดความสงสัยจึงสั่งให้เปา เจิ่งสืบหาสาเหตุ เปา เจิ่งกับกงซุน เช่อจึงปลอมตัวเป็นนักโทษเข้าไปติดคุกเพื่อหาเงื่อนงำ ระหว่างที่กำลังสืบสวนฮ่องเต้ก็ถูกคนลอบทำร้าย แต่เซียงหยางอ๋องมาช่วยไว้ได้ทัน แล้วหลังจากนั้นฮ่องเต้ก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ฮ่องเต้คนเดิม

ทางด้านเปาเจิ่งกับกงซุนเช่อก็ได้พบกับนักโทษที่ลอบทำร้ายฮ่องเต้ที่เซียงหยางอ๋องจับมา ซึ่งหัวของนักโทษถูกสวมไว้ด้วยหน้ากากเหล็ก ทำให้มองไม่เห็นหน้าซ้ำพูดก็ไม่ได้ แต่เมื่อคนหัวเหล็กเห็นเปาเจิ่งกับกงซุนเช่อก็พยายามที่จะบอกอะไรบางอย่างกับพวกเขาแต่ถูกเซียงหยางอ๋องคุมตัวไปเสียก่อน

ต่อมาเปาเจิ่งกับกงซุนเช่อพบว่าในคุกมีห้องทรมานซึ่งเป็นห้องที่เก็บเสียงและภายในห้องก็มีการวางสิ่งของไว้ตามธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ไม้ น้ำ ไฟ เหล็ก และดิน ซึ่งตรงกับสภาพศพนักโทษทั้ง 32 คน คือ 8 คนศพถูกเผา ( ธาตุไฟ ) 8 คนศพจมอยู่ในน้ำ ( ธาตุน้ำ ) 8 คนศพถูกแขวนคอกับต้นไม้ ( ธาตุไม้ ) ส่วนอีก 8 คนศพถูกเชือดคอ ( ธาตุเหล็ก ) ซึ่งจะเหลือก็แต่ธาตุดินเท่านั้นที่ยังไม่มีการเลียนแบบ เปาเจิ่งจึงต้องรีบคลี่คลายคดีให้ได้ก่อนที่อีก 8 ชีวิตจะต้องตายไป

เปาเจิ่งให้พวกหวังเฉาไปสืบประวัติผู้คุมคุกทั้ง 4 คนจนได้ความจริงว่าพวกเขา 4 คนเป็นพี่น้องกันอ่าศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งในคืนหนึ่งระหว่างที่พวกเขาไปทำธุระก็มีนักโทษ 40 คนที่หนีคุกออกมาเข้ามาฆ่าคนในหมู่บ้านจนตายหมดและชิงทรัพย์สินไป 4 พี่น้องเจ็บแค้นบรรดานักโทษจึงเข้ามาเป็นผู้คุมและฆ่านักโทษที่พ้นโทษแล้วทุกคนเพื่อให้ครบ 40 คนเป็นการระบายความแค้นให้ตนและคนในหมู่บ้านที่ต้องตายไป

หลังจากคลี่คลายคดีเสร็จพวกเปาเจิ่งก็เดินทางเข้าเมืองหลวง ระหว่างทางหม่าฮั่นกับจ้าวหู่ถูกจับเพราะต้องสงสัยว่าเป็นคนร้ายลักทรัพย์ ส่วนหวังเฉากับจางหลงก็ถูกจับในข้อหาข่มขืนและพยายามฆ่า เปาเจิ่งกับกงซุนเช่อจึงต้องรีบคลี่คลายคดีให้ได้

ระหว่างนั้นเปาเจิ่งได้พบกับเหลียงอ๋องที่กลายเป็นคนสำมะเรเทเมาไป ส่วนฮ่องเต้ก็ดูสนิทสนมกับเซียงหยางอ๋องเกินเหตุทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนฮ่องเต้ไม่ไว้ใจเซียงหยางอ๋องเลย และภายในเมืองหลวงก็มีทหารออกมาเดินตรวจตรามากผิดปกติซ้ำยังเป็นทหารของเซียงหยางอ๋องอีกต่างหาก ต่อมาจั่นเจาถูกใส่ร้ายฮ่องเต้ให้เขาไปปราบโจรเพื่อเป็นการไถ่โทษ ดูเหมือนคนที่มีวรยุทธ์รอบ ๆ ตัวเปาเจิ่งจะถูกจัดการไปทีละคน ๆ

ต่อมาเปาเจิ่งจึงสืบจนทราบว่าเหลียงอ๋องแกล้งทำตัวเป็นคนสำมะเลเทเมาและคดีของพวกหวังเฉาก็เป็นฝีมือของเหลียงอ๋อง ที่เหลียงอ๋องทำเช่นนั้นก็เพราะสงสัยว่าฮ่องเต้คนนี้จะไม่ใช่ตัวจริงและเซียงหยางอ๋องคงมีแผนการร้ายที่จะกำจัดคนสนิทของเปาเจิ่งที่มีวรยุทธ์ เหลียงอ๋องก็เลยชิงตัดหน้าใส่ร้ายพวกหวังเฉาก่อนที่เซียงหยางอ๋องจะลงมือเพื่อรักษาความปลอดภัยให้พวกหวังเฉา

เปาเจิ่งจึงเริ่มสืบเรื่องที่ฮ่องเต้ถูกลอบทำร้ายจนได้พบกับคนหัวเหล็ก ซึ่งก็คือฮ่องเต้ตัวจริงที่ถูกเซียงหยางอ๋องจับมาขังไว้แล้วหาคนที่หน้าตาเหมือนฮ่องเต้ไปเป็นฮ่องเต้แทน เพื่อที่จะให้ฮ่องเต้ตัวปลอมสละบัลลังก์ให้ตนเป็นฮ่องเต้แทน เปาเจิ่งกับเหลียงอ๋องจึงซ้อนแผนเซียงหยางอ๋องโดยให้ฮ่องเต้สลับตัวกับฮ่องเต้ตัวปลอมอีกที และอาศัยป้ายทองระดมพลที่ฮ่องเต้เคยมอบให้จั่นเจาเรียกระดมพลเพื่อสะกัดทหารของเซียงหยางอ๋อง จนในที่สุดก็สามารถปราบกบฏครั้งนี้ลงได้สำเร็จ

นักแสดงนำ[แก้]

อ้างอิง[แก้]

ลำดับรายการโทรทัศน์[แก้]

สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3  : ซีรีส์กำลังภายใน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16:30 น. - 17:30 น.
ก่อนหน้า เปาบุ้นจิ้นหนุ่ม พิทักษ์ธรรม ภาค 2 ถัดไป
เปาบุ้นจิ้นหนุ่ม พิทักษ์ธรรม ภาค 1 เปาบุ้นจิ้นหนุ่ม พิทักษ์ธรรม ภาค 3